ADAM ร้านอาหารญี่ปุ่น ชื่อฝรั่ง จับความต่างมาเจอกันอย่างลงตัว

ADAM ร้านอาหารญี่ปุ่น สไตล์ฟิวชั่นที่เชียงใหม่ กับไอเดียไอส์แลนด์คิตเช่นรูปเกลียวคลื่น บอกความร่วมสมัยผ่านชื่อ และการออกแบบสไตล์โมเดิร์น

ท่องกรุงเก่าเคล้าดีไซน์ เที่ยวอยุธยาแบบไม่ได้ไปแค่วัดเก่าและกินกุ้งเผาตัวโต

กุ้งเผาก็ต้องกิน วัดเก่าก็ต้องไป สถาปัตยกรรมใหม่ก็ห้ามพลาด ความต้องการหลากหลายของชาวก๊วนจะถูกตอบโจทย์ในทริปนี้! นี่คือไกด์ ที่เที่ยวอยุธยา ที่คุณจะได้แวะเติมบุญไหว้พระ สลับกับเติมใจด้วยงานออกแบบสวย ๆ พ่วงด้วยร้านเด็ดที่บอกเลยว่า ไม่ได้ทานเหมือนมาไม่ถึง จะมีที่ไหนบ้างนั้น ลองกดไปดูต่อได้เลย

BAAN POMPHET ร้านกุ้งเผาและโรงแรมริมเกาะเมืองกรุงเก่า ที่ละเอียดลออตั้งแต่การเลือกขนาดก้อนอิฐ

onion ผู้ออกแบบร้านกุ้งเผาและโรงแรมบ้านป้อมเพชร เล่าถึงเหตุผลว่าทำไม สถาปัตยกรรมแห่งที่สองของพวกเขาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงละเอียดลออเป็นพิเศษ

FILO ร้านอาหารสไตล์เมมฟิส บรรยากาศพาย้อนยุค 90

FILO ร้านอาหารในเมือง Torreón ประเทศเม็กซิโก โดดเด่นด้วยการตกแต่งสไตล์เมมฟิส มีแรงบันดาลใจความสดใสมาจากยุค 90’s ผลงานการออกแบบร้านอาหาร สไตล์เมมฟิส เป็นการจับมือกันของ 2 สตูดิโอออกแบบ Andrés Mier y Terán และ Regina Galvanduque (MYT+GLVDK) กับการออกแบบร้านอาหารตะวันออกกลางในบรรยากาศย้อนยุค ผสมผสานเส้นสายเรขาคณิตและกราฟิกสีสันสดใส หรือที่รู้จักกันในชื่อ Memphis Style เนื่องจากเจ้าของร้านเป็นสตรีชาวเม็กซิโกเชื้อสายเลบานอน เธอจึงอยากให้ที่นี่ช่วยเล่าเรื่องราวที่สะท้อนรากวัฒนธรรมอาหารแบบตะวันออกกลาง ด้วยการนำเฉดสีในอาหารโดยเฉพาะขนมฟีโล ขนมทานเล่นสไตล์ตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อร้าน มาใช้เป็นธีมสีในการออกแบบตกแต่ง โดยขนมชนิดนี้มีส่วนผสมหลายอย่าง อาทิ น้ำมันมะกอก ถั่วพิสตาชิโอ น้ำกุหลาบของดามัสกัส มะเดื่อ ซูแมค พริกไทย และเครื่องเทศต่าง ๆ บรรยากาศของร้านจึงเต็มไปด้วยเฉดสีที่หลากหลาย ภายในพื้นที่ 210 ตารางเมตร มีอิทธิพลงานออกแบบมาจากสไตล์เมมฟิส (Memphis Style) อีกหนึ่งแนวทางการออกแบบที่เกิดขึ้นในช่วงต้นของยุค 90’s โดยสไตล์เมมฟิสนี้ มีความโดดเด่นด้วยการผสมผสานรูปทรงเรขาคณิต และการใช้สีสันสดใสที่ตัดกัน ฉีกกฎการออกแบบด้วยการให้ความสำคัญกับรูปทรง ผลงานของงานดีไซน์สไตล์เมมฟิสส่วนใหญ่ […]

CAMIN CUISINE & CAFE ชิมรสอาหารใต้โอบบรรยากาศอบอุ่นในสวนกุหลาบที่ ขมิ้น สาขาอารีย์

ขมิ้น Camin Cuisine & Cafe สาขาอารีย์ คาเฟ่และร้านอาหารใต้ต้นตำรับฝีมือแม่สาขาที่ 6 ที่ขอยกความอร่อยมายังย่านซอยอารีย์-พหลโยธิน ด้วยคอนเซ็ปต์ที่เน้นความรู้สึกอบอุ่น และมีสีสันที่มากกว่าสาขาอื่น ท่ามกลางสวนกุหลาบแสนหวานที่กำลังผลิบานต้อนรับลมหนาว Camin Cuisine & Cafe สาขาอารีย์ เกิดจากการรีโนเวตอาคารคาเฟ่เก่าที่เลิกกิจการไปแล้ว โดยที่ด้านบนยังมีร้าน Boutique Salon เปิดกิจการอยู่ แต่เนื่องจากแต่ละอาคารเดิมมีการแยกสัดส่วนกัน ทีมสถาปนิกจาก Charrette Studio ผู้ทำหน้าที่รีโนเวตจึงพยายามเชื่อมร้อยการใช้งานทั้งโซนร้านอาหารและคาเฟ่ให้เป็นพื้นที่เดียวกัน ในลักษณะแปลนรูปตัวยู (U) โอบล้อมรอบสวนกุหลาบสายพันธุ์ญี่ปุ่นที่ปลูกอยู่ในกระบะปูนรูปทรงฟรีฟอร์มหลากสี ตามคอนเซ็ปต์ “โอบอ้อมอารีย์” ซึ่งมีที่มาจากบริบทที่ตั้งอย่างย่านซอยอารีย์ บรรยากาศของร้านขมิ้นสาขานี้ ผู้ออกแบบเล่าว่า ที่นี่ค่อนข้างแตกต่างจากสาขาอื่น เพราะเน้นบรรยากาศให้มีความน่ารัก อบอุ่น และมีความทันสมัยมากขึ้น ทั้งยังคงเก็บรายละเอียดเดิมของอาคารและต้นไม้เดิมในพื้นที่เอาไว้ นับเป็นงานรีโนเวตที่ให้ความสำคัญกับบริบทที่ตั้ง ซึ่งมีส่วนผสมของโครงสร้างเก่าและใหม่ที่ลงตัว จากลานจอดรถเมื่อเดินเข้ามายังพื้นที่ร้าน จะพบกับพื้นที่คอร์ตสวนกุหลาบในกระบะปูนขอบสูงสีพาสเทล ที่ออกแบบมาให้สามารถนั่งพักได้ ตรงกลางกระบะเลือกปลูกต้นมะขามเทศด่าง มีเอกลักษณ์ด้วยยอดใบสีขาวแต้มชมพูดูละมุน เข้ากับสีของดอกกุหลาบให้ฟีลเหมือนสวนต่างประเทศผสมกับพรรณไม้ไทย พื้นที่ภายในโซนร้านอาหารมีกลิ่นบรรยากาศโทนสีเหลืองทองอบอุ่น ซึ่งเป็นธีมมาจากสีทองของฟ้อนต์ซึ่งเป็นโลโก้ร้าน สถาปนิกเลือกใช้วัสดุหลากหลายมาช่วยในการออกแบบ มีไฮไลท์เด่น ๆ อย่าง ผนังกรุแผ่นหินโปร่งแสง […]

THAN / LAB บาร์ลับคอนเซ็ปต์สนุก ชวนนึกถึงห้องหลบภัยใต้ดิน

Than / lab โปรเจ็กต์รีโนเวตตึกธนาคารเก่าขนาด 3 ชั้น ใกล้ชายแดนอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย สู่ร้านอาหารและบาร์ลับบรรยากาศเหมือนห้องหลบภัยชั้นใต้ดิน ที่สลับอารมณ์ผ่านบรรยากาศ 3 สไตล์แบบไม่ซ้ำ Charrette Studio ได้ใส่ไอเดียสนุกๆ ลงไปใน Than / lab คอมมูนิตี้ที่รวบรวมทั้งร้านอาหารและบาร์บรรยากาศแปลกใหม่ สำหรับให้ผู้คนได้เข้ามาหลบลี้หนีความวุ่นวายอยู่ภายใน เสมือนที่หลบภัยลับที่ซ่อนตัวอยู่กลางเมือง ตัดขาดจากภายนอก โชว์ความดิบผ่านร่องรอยการทุบรื้อ หลังจากได้รับโจทย์ สถาปนิกได้ใส่ไอเดียจากซีรีส์เรื่องโปรดของสถาปนิกอย่าง Money Heist เริ่มตั้งแต่เมื่อเดินจากริมถนนเข้ามาถึงพื้นที่ด้านหน้า ซึ่งจะยังคงเห็นบานโรลลิ่งชัตเตอร์เดิม แล้วเปลี่ยนผนังด้านหน้าให้ปิดทึบ ชวนสงสัยว่าภายในคืออะไร และมีความน่าสนใจอย่างไร ขณะที่คนด้านในก็จะรู้สึกถึงการตัดขาดจากภายนอก โซนชั้น 1 เปิดเป็นร้านอาหารตกแต่งด้วยใต้ธีม Underground จัดเสิร์ฟเมนูประเภทสเต็ก อาหารตะวันตกรับประทานง่าย และอาหารประเภทเทปันยากิ ออกแบบให้มีบาร์ทำอาหารขนาดยาว บรรยากาศให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องหลบภัยลับชั้นใต้ดิน รอบ ๆ เป็นผนังผิวขรุขระไร้การปรุงแต่ง เสมือนห้องที่ผ่านการบุกทลาย โชว์ความดิบและร่องรอยที่เกิดจากการทุบรื้อสเปซออกไปบางส่วน ตกแต่งไลท์ติ้งให้บรรยากาศดูสลัวราง แสงไฟที่สาดไปกระทบกับผนังจะช่วยขับเน้นเท็กซ์เจอร์ให้เห็นมิติสูงต่ำที่เกิดจากรอยปูนปุปะ ด้านหลังมี Smoking Area เป็นพื้นที่เปิดโล่งเดียวที่ยอมให้แสงสาดเข้ามา ช่วยให้พื้นที่ภายในชั้น […]

IM EN VILLE “อิ่มในเมือง” บิสโทร คาเฟ่ บรรยากาศคลาสสิก บนถนนเฟื่องนคร

“อิ่มในเมือง” ปลุกชีวิตตึกเก่าย่านถนนเฟื่องนครอายุกว่า 150 ปี สู่ร้านอาหารและคาเฟ่บรรยากาศคลาสสิกสไตล์คอนเทมโพรารีอินดัสเทรียล ให้ทั้งความอิ่มเอมไปกับรสชาติอาหาร และสัมผัสวิววิจิตรสวยงามของวัดราชบพิธฯ อาคารที่ตั้งของร้าน “อิ่มในเมือง” ช่วงหนึ่งเคยใช้เป็นโรงพิมพ์ลมูลจิตต์ ก่อนถูกทิ้งร้างมานานกว่า 20 ปี จนกระทั่งได้รับการรีโนเวตใหม่ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ กลายเป็น IM En Ville (อิ่ม-ออง-วิล) บิสโทร คาเฟ่ ชื่อฝรั่งเศสสุดเก๋ ซึ่งแปลว่า “ฉันอยู่ตรงนี้” เหมือนฉันอยู่ในเมือง และยังอ่านออกเสียงคล้ายคำว่า “อิ่ม” ในภาษาไทย สื่อได้ถึงความอิ่มอร่อย อิ่มสุข อิ่มใจ อิ่มบรรยากาศ ภายในคาเฟ่บรรยากาศสไตล์คอนเทมโพรารีอินดัสเทรียล ที่ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมถนนราชบพิธตัดกับถนนเฟื่องนคร รับกับวิววัดราชบพิธฯ ที่สวยงามได้อย่างพอดิบพอดี คาเฟ่ในย่านเก่าเล่ายุคการพิมพ์เฟื่องฟู จากเรื่องราวของอาคารที่สร้างขึ้นในช่วงหลังการสร้างถนนเฟื่องนครไม่นาน (เฟื่องนคร เป็นถนนที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 หรือราวปี พ.ศ.2407 เป็นถนนที่สร้างตามแบบตะวันตก เป็นถนนสายเริ่มแรกของกรุงเทพฯ นอกจากถนนเจริญกรุง และถนนบำรุงเมือง) โดยสันนิษฐานว่าอาคารนี้ น่าจะสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2410 หลังจากนั้นก็ถูกเปลี่ยนมือมาเรื่อย ๆ ก่อนจะมาถึงกิจการโรงพิมพ์ที่กินเวลายาวนานกว่ากิจการอื่น ซึ่งตรงกับยุคที่การพิมพ์เฟื่องฟู โดยเฉพาะถนนเฟื่องนครที่ได้ชื่อว่าเป็นย่านโรงพิมพ์และสำนักพิมพ์ […]

WH CAFE รุ่งอรุณแห่งวังหิ่งห้อย ในบรรยากาศของร้านอาหารกลางสวนทรอปิคัล

WH cafe วังหิ่งห้อย ในพาร์ทบรรยากาศยามเช้า ต้อนรับวันใหม่ด้วยอาหารแบบ All Day Breakfast ทั้งอิ่มท้องและสดชื่นกลางสวนสไตล์ทรอปิคัล หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ วังหิ่งห้อย (Wanghinghoi) บาร์และร้านอาหารสไตล์ไฟน์ไดนิ่งที่สร้างสรรค์ประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ครบถ้วนทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และแสง ผ่านแนวคิดธาตุทั้ง 4 ท่ามกลางบรรยากาศสลัวรางดูลึกลับในยามค่ำคืน โดยครั้งนี้วังหิ่งห้อยขอเพิ่มทางเลือกใหม่เพื่อจัดเสิร์ฟอาหารสไตล์ All Day Breakfast เปิดบริการในช่วงเวลากลางวัน ท่ามกลางบรรยากาศป่าเขตร้อน โดยใช้ชื่อว่า WH Cafe ย่อมาจาก Wang Hinghoi นั่นเอง WH cafe วังหิ่งห้ จากความพลุกพล่านของย่านอาร์ซีเอ พระราม 9 ที่นี่จะพาทุกคนหลบเข้ามาสู่บรรยากาศของสวนป่ากลางเมือง เริ่มต้นตั้งแต่สองข้างทางเดินด้านนอกที่ต้อนรับผู้มาเยือนด้วยสวนสีเขียว ก่อนบังคับให้เดินผ่านกำแพงดินสูงตระหง่านราว 5 เมตร ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของโครงการ เดินตามป้ายบอกทางไปเรื่อย ๆ แล้วจะพบกับประตูเหล็กสีขาวขนาดใหญ่เพื่อผลักเข้าสู่พื้นที่ของ WH Cafe ซึ่งเคยเป็นอีกส่วนหนึ่งของวังหิ่งห้อย โดยได้รับการออกแบบต่อเติมใหม่ให้กลายเป็นคาเฟ่บรรยากาศสว่างปลอดโปร่ง สเปซกับบรรยากาศได้รับการออกแบบให้เป็นเหมือนสวนหลังบ้าน ภายใต้แนวคิด Into […]

INKA ชิลไปกับร้านอาหารสไตล์บีชคลับกลางกรุงเทพฯ

INKA – อิงคฺ ร้านอาหารซึ่งมีชื่อแปลว่า แสงสว่าง กับมุมมองที่เห็นวิวตึกสูงของกรุงเทพฯ ได้จากชั้น 5 ของห้างสรรพสินค้า Central Embassy เสิร์ฟอาหารไทยที่รังสรรค์ขึ้นใหม่ให้มีความทันสมัย ภายใต้บรรยากาศสุดชิลเหมือนอยู่ในรีสอร์ตริมทะเล Inka มาพร้อมความพิเศษกับรูปแบบร้านอาหารที่เรียกว่า Progressive Thai Restaurant เชิญชวนทุกคนให้มาลิ้มรสอาหารไทยอร่อย ๆ ที่รังสรรค์โดยเชฟมืออาชีพมากประสบการณ์ กับแนวคิดเพื่อยกระดับคุณค่าอาหารไทย ด้วยการนำอาหารพื้นถิ่นมาทำให้มีมูลค่ามากขึ้น โดยใช้เทคนิคการปรุงอาหารแบบฝรั่งมาผสมผสาน จัดเสิร์ฟให้คนเมืองได้สัมผัสประสบการณ์รสชาติอาหารไทยในรูปลักษณ์และดีไซน์ทันสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติกลมกล่อมและจัดจ้านอยู่เช่นเดิม จากคอนเซ็ปต์หลักของเมนูอาหาร ได้ส่งต่อมาถึงธีมการออกแบบตกแต่งร้าน ที่เน้นให้เกิดความรู้สึกถึงความเป็นพื้นถิ่น รุ่มรวยไปด้วยเสน่ห์แห่งวัฒนธรรม หรือที่เรียกว่า Ethnic Vibe ในบรรยากาศสบาย ๆ ผสมสไตล์รัสติก เสมือนกำลังพักผ่อนอยู่ภายในรีสอร์ต หรือ Beach Club ริมทะเล อบอุ่นอ่อนโยนด้วยของตกแต่งแฮนด์เมดหลากหลายรูปแบบ เช่น งานไม้ งานปั้น และงานจักสาน ซึ่งมีรูปทรงสวยงาม ไม่ต่างจากงานศิลปะจัดวางก็ว่าได้ ภายในแบ่งที่นั่งหลากหลายโซนให้เลือก เช่น มุมที่นั่งแบบซุ้มโค้ง ที่ให้ความรู้สึกกึ่งเป็นส่วนตัว กับบรรยากาศน่ารัก ๆ สไตล์กรีซ […]

BUDDHA-BAR ด้วยแรงบันดาลใจงานออกแบบจากสังสารวัฏในทัศนะพุทธปรัชญา

ที่นี่คือ Buddha-Bar New York ร้านอาหารที่เลื่อมใสในคติพุทธปรัชญา และหยิบยกเอาแนวคิดคำว่า “การเกิดใหม่” มาใช้เป็นคอนเซ็ปต์หลักของบร้าน ดังจะเห็นได้ชัดจาก ณ กึ่งกลางของร้านที่มีประติมากรรมอีกชิ้นที่เกิดจากไม้ยืนต้นตาย รวมทั้งบรรดาผนัง และท็อปโต๊ะก็เลือกใช้ไม้ที่มีอายุกว่า 800-4,000 ปี มาประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อสื่อถึงวัฏจักรที่เวียนว่ายเกิดสู่สังสารวัฏที่แตกต่างไปในแต่ละชาติ “อานนท์เอ๋ย จงพึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่าธรรมวินัยอันใดที่เราได้แสดงแล้ว บัญญัติแล้วขอให้ธรรมวินัยอันนั้นจงเป็นศาสดาของพวกเธอแทนเราต่อไป หาใช่รูปแทนทั้งปวง” พระตถาคตได้กล่าวไว้ก่อนปรินิพพาน และร้านอาหารแห่งนี้ก็ได้จัดวางประติมากรรมรูปพระตถาคตเอาไว้อย่างแม่นเหมาะ ประติมากรรมนี้สร้างขึ้นจากกระจก 1,000 แผ่น เรียงต่อกันเป็นรูปร่างขึ้น โดยมีเครื่องฉายภาพอยู่ภายในที่จะสร้างภาพสามมิติประกอบอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งประติมากรรมนี้สื่อถึงภาชนะที่ว่างเปล่าคล้ายกายหยาบที่เรากำลังห่มคลุมอยู่ในทุกเมื่อเชื่อวัน โดยมีแก่นสารแห่งชีวิตอยู่ภายในนั่นเอง และจุดเด่นอีกส่วนที่สำคัญ ก็คือโคมไฟระย้าโลหะรูปทรงโมเดิร์นที่สื่อถึงบรรยากาศแบบเอเชี่ยนออกแบบโดย Kateryna Sokolova ห่มคลุมพื้นที่คล้ายดอกไม้บานสื่อถึงการตื่นรับความคิดใหม่ ๆ สู่จิตตน ก็เป็นอีกหนึ่งงานออกแบบที่น่าสนใจซึ่งอาจจะไม่ได้เห็นได้ในประเทศไทย แต่ด้วยการตีความทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม ร้านอาหารแห่งนี้ก็กล่าวถึงวัฏจักรแห่งชีวิตแฝงไว้ตามวัสดุและรูปแบบการใช้งานได้อย่างน่าสนใจ เพราะสุดท้ายแล้วพุทธที่แท้ล้วนคือคำสอนดังที่พระตถาคตได้กล่าวเอาไว้จนหมดสิ้นนั่นเอง ออกแบบ : YOD design lab ภาพ : Andriy Bezuglovเรื่อง : Wuthikorn Sut

PHILTRATION บาร์ลับในอดีตห้องปรุงยาเก่าชั้นใต้ดินของบ้านหมอมี

ใครจะคิดว่าใต้ถุนของเรือนโบราณอายุกว่า 100 ปี ที่ตั้งของร้านอาหารบ้านหมอมี สถานที่อันเป็นตำนานของยาแผนโบราณไทย จะซ่อนบาร์ลับ Philtration บาร์ค็อกเทลบรรยากาศ Old  English ที่เกิดจากรีโนเวตอดีตห้องปรุงยาชั้นใต้ดินเก่า ให้กลายเป็นสถานที่แฮ้งเอ๊าต์กลางกรุง ที่มาของ Philtration บาร์ลับแห่งนี้ มาจากเจ้าของโครงการทายาทหมอมีรุ่นที่ 4 กับความต้องการอยากทำ Speakeasy Bar ภายในพื้นที่ห้องใต้ดินของบ้านที่ไม่ได้ใช้งานมานาน ประกอบกับต้องการสนับสนุนวัฒนธรรมการสังสรรค์ในบาร์ลับของไทยที่ตั้งอยู่กลางเมือง ซึ่งน่าจะสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นกับครอบครัวได้ จากประตูทางเข้าที่แอบอยู่ในมุมหนึ่งภายนอกบ้าน เมื่อเข้ามาจะพบห้องและอุโมงค์ซึ่งมีชั้นหนังสือสูงใหญ่จากพื้นจรดเพดาน ซึ่งเป็นที่ซ่อนบาร์สไตล์ Old English ไว้หลังตู้ ภายในตกแต่งด้วยสีโทนคลาสสิก จัดวางเฟอร์นิเจอร์เรียบแต่หรูหรา สีสันขับกับผนังและพื้นกระเบื้องโบราณ ออกแบบบาร์ตามโครงสร้างใต้ถุนเดิมของอาคารโบราณที่มีคานต่ำ ซึ่งกลายเป็นจุดเด่นไปโดยปริยาย นอกจากนี้ ยังได้ใส่ลูกเล่นด้วยผนังโค้ง แล้วต่อไฟเส้นเเอลอีดีทำให้เกิดเส้นสายที่สวยงาม โดยเส้นโค้งเว้าที่ว่านี้จะทำหน้าที่ช่วยลดความแข็งกระด้างและหนักของโครงสร้างทั้งหมดลงได้ การตกแต่งพยายามเก็บความเก่าไว้ให้ได้มากที่สุด ด้วยการใช้วัสดุที่แตกต่างกัน แต่เข้ากันได้ดี เช่น ไม้ ปูน สีสนิม เเละเหล็กดัดโลหะสีเขียวแบบโบราณ ตัดกับโลหะแวววาวอย่าง ทองแดงขณะที่โซนวีไอพีตั้งใจใช้แผ่นอะลูมิเนียมกรุบนเพดาน เพื่อให้เกิดภาพคล้ายเงาสะท้อนจากน้ำ ส่วนหนึ่งเพื่อทำให้เพดานรู้สึกสูง และอีกส่วนตั้งใจให้เกิดเงาสะท้อน เป็นการสื่อความหมายของการเปลี่ยนแปลงระหว่างความเก่าไปสู่ความใหม่ได้อย่างน่าสนใจ IDEA […]

VYTA ร้านอาหารอิตาลี กลางกรุงลอนดอน สวยหรูด้วยสไตล์การตกแต่งยุค60’s

VyTA Covent Garden ร้านอาหารอิตาลี ชื่อดังจากประเทศอิตาลี ที่ยกทัพความอร่อยมาตั้งอยู่ในย่าน Covent Garden ซึ่งมีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรม และเป็นหัวใจของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มานานกว่า 300 ปี ด้วยชื่อเสียงของสถานที่ตั้ง แน่นอนการออกแบบตกแต่งบรรยากาศ ร้านอาหารอิตาลี ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการเสิร์ฟอาหารสไตล์อิตาลีกูร์เมต์เคล้ากับไวน์คุณภาพดี จึงย่อมไม่ธรรมดา กับคอนเซ็ปต์การสร้างร้านอาหารให้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยปรับโฉมหน้าของย่านที่ตั้งให้กลายเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยว โดยสาขาใหม่ล่าสุดของ VyTA ที่ยกทัพมาเปิดที่ประเทศอังกฤษ ในย่านตลาด Covent Garden มีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรม และเป็นหัวใจของเมืองลอนดอน มานานกว่า 300 ปี  นี้ เพื่อความโดดเด่นผู้ออกแบบจึงดึงงานสถาปัตยกรรมสไตล์อิตาลีในยุค60’s ซึ่งมีหัวใจอยู่ที่ดีเทลการตกแต่ง ด้วยการผสานทั้งสีสัน และรูปทรงต่าง ๆ มาช่วยสร้างความตื่นตาให้แก่ผู้พบเห็น โดยดึงเส้นสายของงานเหล็ก และพื้นผิวโลหะสีทอง เข้ามาสร้างบรรยากาศท่ามกลางอาคารโบราณที่อยู่รายรอบ ความโดดเด่นของที่นี่คือการเล่นกับคู่สี และรูปทรงอย่างไร้ขีดจำกัด เช่น การใช้หินอ่อนรูปสามเหลี่ยมและสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด จับคู่สีตรงข้ามมาทำเป็นพื้นผิวของผนังและพื้น เชื่อมโยงสีเหล่านี้มาสู่ผืนผนังแล็กเกอร์สีเขียวเข้ม กับเฟอร์นิเจอร์กำมะหยี่สีแดง-ส้ม ใช้ความแวววาวของงานเมแทลลิกทั้งกับผืนผนัง ฝ้าเพดาน และโคมไฟ เป็นตัวเชื่อมประสานให้สีคู่ตรงข้ามเหล่านั้น ดูสนุกสนานแบบกลมกล่อม ตอบความเป็นสีสันของความเป็นลอนดอนได้ทั้งทางสายตาและความรู้สึก  Idea […]

MIA รีโนเวตบ้านเก่าหลังใหญ่ย่านสุขุมวิท ให้กลายเป็นร้านอาหารสไตล์ยุโรปธีมตกแต่งไม่ซ้ำ

MIA ร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นยูโรเปียนในซอยอรรถกวี 1 ถนนสุขุมวิท 26 เกิดจากการรีโนเวตบ้านเก่าหลังใหญ่ออกมาเป็นร้านอาหารในธีมแฟนตาซี ร้านอาหารแห่งนี้ ได้รับการออกแบบโดย PHTAA living design ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีสันอันสดใสของเมืองและทะเลในแถบเมดิเตอร์เรเนียน แต่ละห้องของ MIA ลูกค้าสามารถเลือกนั่งในห้องรับรองที่มีรูปแบบการตกแต่งแตกต่างกันได้อย่างไม่ซ้ำ ทั้งธีมหวาน หรูหรา และน่าพิศวงมีมนต์เสน่ห์ พื้นที่ใช้สอยของร้านอาหารแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้น 1 เป็นส่วนของบาร์เครื่องดื่มและขนม ขณะที่ชั้น 2 เป็นส่วนของห้องอาหารทั้งหมด ที่นี่มีแนวคิดการออกแบบหลัก ๆ คือการสร้างลำดับของประสบการณ์ในการเข้ามาใช้บริการให้น่าประทับใจ จากทางเข้าหน้าร้านแขกจะพบกับพื้นที่บาร์ที่สว่างสดใสเป็นส่วนแรก ทำหน้าที่เป็นส่วนพักคอยระหว่างรอเข้าสู่ห้องอาหาร หรือจะเป็นที่นั่งดื่มต่อหลังจากผ่านมื้ออาหารหากยังไม่อยากกลับก็ได้ เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 2 จะพบกับห้องอาหาร 3 ห้อง ออกเเบบเป็น 3 ธีม ซึ่งแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ได้แก่ ห้อง “Flower Room” ห้องสีชมพูสดใส ประดับประติมากรรมดอกไม้ห้อยระย้ามาจากฝ้าเพดาน และเป็นห้องที่ติดกับหน้าบ้านจึงสามารถมองออกไปชมวิวสวนนอกหน้าต่างได้ ต่อมาคือห้อง “Color Room” เน้นการใช้สีสันสดใสโดยเฉพาะสีเหลือง และใช้องค์ประกอบที่สร้างความแตกต่างอย่าง วอลล์เปเปอร์ […]

SAFFRON CRUISE ร้านอาหารบนเรือสุดหรู อิ่มเอมกับวิวสองฝั่งลำน้ำเจ้าพระยา

สัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารมื้อค่ำบนเรือสำราญขนาดใหญ่ยาวถึง 38 เมตร ในเครือโรงแรม Banyan Tree Hotels & Resorts โดย Banyan Tree Bangkok กับบริการและบรรยากาศสุดหรูหรา เพื่อพาคุณและแขกคนพิเศษไปดื่มด่ำกับดินเนอร์แห่งความสุข พร้อมเปิดมุมมองสู่วิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบสุดสายตา SAFFRON CRUISE บนพื้นที่บริการของเรือขนาด 2 ชั้น ชั้นดาดฟ้าออกแบบให้เป็นบาร์ค็อกเทลรูปทรงวงรี ส่วนชั้นล่างเป็นพื้นที่นั่งรับประทานอาหาร พร้อมหน้าต่างโค้งบานใหญ่ เปิดมุมมองสู่วิวแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนอันสวยงาม SAFFRON CRUISE โดยชั้นบนดาดฟ้าโดดเด่นด้วยพื้นเรืองแสงรอบบาร์เครื่องดื่มทำจากวัสดุอะคริลิกใส แทรกด้วยลายกราฟิกรูปแม่น้ำกลิ่นอายไทย ฉาบด้วยจังหวะแสงสีของไฟ RGB สำหรับเป็นพื้นที่ดื่มด่ำประสบการณ์แสนโรแมนติกยามค่ำคืน รวมไปถึงเหมาะสำหรับการจัดงานอีเว้นต์ ช่วยให้พื้นที่ดาดฟ้าเป็นไฮไลต์ที่แตกต่างจากร้านอาหารบนเรือล่องแม่น้ำอื่น ๆ เนื่องจากเรือจะเริ่มออกจากท่าเพื่อล่องไปในลำน้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ภายในห้องรับประทานอาหารชั้นล่างจึงออกแบบให้มีแสงค่อนข้างสลัว มีแสงสว่างหลักเฉพาะจุดใช้งาน เพื่อสร้างบรรยากาศและส่งเสริมให้มุมมองทิวทัศน์ภายนอกชัดเจนขึ้น การตกแต่งภายในให้ความรู้สึกร่วมสมัย มีการประดับลวดลายไทยที่ได้รับการลดทอนให้เรียบง่ายในองค์ประกอบการตกแต่งในจุดต่าง ๆ อาทิ การสร้างแพตเทิร์นกระเบื้องไวนิลบนพื้น และผนังกรุไม้แกะสลักลวดลาย ที่พัฒนาจากลายประจำยาม ฝ้าเพดานติดตั้งแผ่นไม้พลาสวู้ดสีทองเหลืองฉลุลาย และเสากรุด้วยไม้รูปเชิงบัวที่ปลายยอด ในส่วนของบริการด้านอาหาร บนเรือมีเชฟประจำเพื่อปรุงอาหารทุกเมนูแบบสดใหม่ การออกแบบห้องครัวที่มีฟังก์ชันการใช้งานครบถ้วนในพื้นที่จำกัด จึงเป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำหรับร้านอาหารบนเรือ เช่นเดียวกับการจัดสรรพื้นที่สำหรับการเก็บเสื้อชูชีพ นอกจากนี้ระดับน้ำสูงสุดและความสูงของเรือขณะลอดใต้สะพานก็เป็นอีกข้อจำกัดที่ต้องคำนึงถึง เนื่องจากส่งผลต่อความสูงของฝ้าเพดานและการออกแบบตำแหน่งงานระบบทั้งหมด […]

TO MORE BAR เปลี่ยนบ้านเก่าในย่านตลาดน้อย ให้เป็นบาร์บรรยากาศบรอดเวย์

To More Bar จากบ้านไม้เก่าอายุร่วมร้อยปีในย่านตลาดน้อย ย่านที่อยู่อาศัยเก่าแก่ใจกลางกรุงเทพฯ สู่คอนเซ็ปต์ Performance Broadway หรือบาร์ในโรงละครที่เปิดโอกาสให้ศาสตร์ของศิลปะทุกแขนงได้แสดงความเป็นตัวเองสู่สายตาของสาธารณชน ภายนอกยังคงรักษาเนื้อแท้ของอาคารหลังเดิมไว้ ก่อนนำมาสู่งานออกแบบภายในบาร์ขนาดเล็กบนพื้นที่ 50 ตารางเมตร ถึงจะมีข้อจำกัดด้านพื้นที่แต่กลับสามารถแสดงความโดดเด่นเรื่องการใช้งานวัสดุได้อย่างน่าสนใจ เริ่มต้นจากองค์ประกอบแบบบรอดเวย์ที่นำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่ง ปลุกเร้าบรรยากาศของสีสันและแสงสีได้อย่างน่าตื่นตา บาร์ไม้สีเข้มสอดคล้องไปกับวัสดุของอาคารจริง ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมประสานระหว่างสถานที่เดิมกับบรรยากาศสร้างใหม่ เติมสีสันเอกซอติกแบบ Moulin Rouge ด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดงเลือดหมู ผสมกับดีเทลเล็กน้อยอย่างเเพตเทิร์นการปูกระเบื้องเป็นลวดลายที่ดูย้อนยุค หรือการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ขากลึงอย่างที่นิยมตกแต่งในโรงละครบรอดเวย์และช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 บรรยากาศของการแสดง แสงไฟ และเสียงดนตรี เคล้ากับเครื่องดื่มค็อกเทลชื่อเหมือนกับละครบรอดเวย์ที่มีชื่อเสียงหลายเรื่อง อาทิ  Miss Saigon หรือ Chicago หันมองซ้ายขวาก็เจอเพื่อนร่วมดื่มท่ามกลางมู้ดแอนด์โทนที่พาไปสู่อารมณ์ร่วมแบบเดียวกัน ทำให้บาร์กึ่งโรงละครแห่งนี้ กลายเป็นพื้นที่ทุกคนมาชิลและพบเพื่อนใหม่ที่พร้อมจะส่งพลังงานบวกให้แก่กันไปตลอดคืน ที่ตั้ง 945 ถนนเจริญกรุง เเขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ โทร.08-0616-4676 www.facebook.com/tomorebar เจ้าของ : คุณชวลิต รัตนวงศาโรจน์, คุณณัฐดนัย ลิขิตกิจบวร เเละคุณปรัชญา ไชยเมือง ออกแบบ : […]

ALICE & FIFTH รุ่มรวยและหรูหราราวกับอยู่ในคาบาเรต์คลับของกรุงนิวยอร์ก

บรรยากาศสวยราวกับถูกต้องมนต์แห่งนี้ คือร้านอาหารสไตล์ลักชัวรี่ “Alice and Fifth” ที่อยู่ชั้นใต้ดินของโรงแรมสุดหรู Sandton Sun Hotel ในกรุงโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ Alice and Fifth ชื่อนี้มีที่มาจากที่ตั้งซึ่งอยู่ตรงหัวมุมถนน Alice Lane และ Fifth Streets ใจกลางย่าน Sandton ศูนย์กลางธุรกิจอันทันสมัยและร่ำรวยที่สุดในเมือง แน่นอนว่าบรรยากาศและการตกแต่งย่อมต้องหรูหราอลังการ ราวกับกำลังอยู่ในคาบาเรต์คลับกลางกรุงนิวยอร์กที่เต็มไปด้วยความฟู่ฟ่าอย่างไรอย่างนั้น บรรยากาศชวนต้องมนต์เริ่มต้นตั้งแต่ที่โถงทางเข้า จากโถงทางเดินอันมืดมิดกับผนังกรุคิ้วไม้สีดำดูขลังเชิญชวนให้เดินลงไปสู่ร้านที่ชั้นใต้ดิน หลังจากเปิดประตูเข้าสู่ภายในร้าน ก็จะพบกับองค์ประกอบของแสงไฟสุดตระการตาที่รายล้อม พร้อมลวดลายน่าทึ่งของหินอ่อน Gabbana Marble พู่อินเดียสีแดงกว่าสองร้อยชิ้นที่พลิ้วไหว งานฟิตติ้งทองเหลืองสุดโกลว์ละมุนตา และวอลล์เปเปอร์ลายแปลกตา ภายใต้บรรยากาศฟุ้งชวนให้รู้สึกคิดถึงช่วงเวลาและความทรงจำในอดีตบนพื้นที่มากถึง 1,400 ตารางเมตร ภายใต้คอนเซ็ปต์การสร้างคู่ขัดแย้งระหว่างพื้นผิวของผ้า หินอ่อนหายาก และการเผยผิวคอนกรีตภายในอินทีเรียร์ รวมถึงการได้แรงบันดาลใจจากคาบาเร่ต์คลับอย่างในปารีสและนิวยอร์ก ผสานกับความร่วมสมัยของ African Luxury ที่แทรกตัวอยู่ในทุกตารางเมตรภายในร้าน ทำให้ที่นี่เปรียบได้กับเพชรเม็ดงามแห่งแอฟริกาใต้ที่ได้รางวัล Best Overall Winner สาขา Restaurant & Bar Design […]

THE EMPEROR’S SECRET บาร์ลึกลับตกแต่งบรรยากาศเหมือนอยู่ในตำหนักของจักรพรรดิจีน

The Empereror’s Secret บาร์ลึกลับที่มีบรรยากาศยังกับกำลังอยู่ในดินแดนสมมติที่เล่าขานตำนานจักรพรรดินาม Jing Li กับการสร้างสถานที่ลับไว้ใช้หลบหนีจากป้าผู้ประสงค์ร้าย แต่หลังจากที่องค์จักรพรรดิถูกจับและตัดสินโทษประหารชีวิต สถานที่แห่งนั้นก็ถูกปิดตาย โดยไม่มีใครได้ล่วงรู้ถึงมันอีกเลย ราวกับตำนานจักรพรรดิจีน Jing Li นั้นมีอยู่จริง และตำหนักลึกลับได้ถูกเปิดเผยขึ้นมาอีกครั้ง นั่นจึงกลายเป็นที่มาของ The Empereror’s Secret ที่ซ่อนตัวอยู่ในตึกแถวของซอยสุขุมวิท 31 จากตำนานเพื่อฉายภาพให้เห็นจริง งานออกแบบทั้งหมดจึงใช้องค์ประกอบที่สื่อถึงวัฒนธรรมจีน และสร้างสรรค์แต่ละมุมให้มืดสลัว ดูลึกลับน่าค้นหา โดยใช้การออกแบบแสง ร่วมกับสีสัน วัสดุ และเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างน่าสนใจ ตั้งแต่ทางเข้าร้าน ที่นี่มีกิมมิกของการสร้างประตูหลอกไว้ด้านหนึ่ง แต่แขกจะต้องผลักผนังทึบตันที่อยู่ตรงหน้าอันเป็นทางเข้าที่แท้จริงเข้าไปเพื่อจะเจอกับตัวบาร์ 2 ชั้น ภายในโดดเด่นที่การออกแบบแสงที่จะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ตามช่วงเวลาและบรรยากาศของเพลงที่ถูกออกแบบไว้ รวมถึงวัสดุ ที่เลือกใช้วัสดุที่สื่อถึงวัฒนธรรมจีนได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไม้ไผ่ ผนังไม้ กระเบื้อง รวมถึงองค์ประกอบตกแต่งต่างๆ ที่จำลองมาจากองค์ประกอบจากสถาปัตยกรรมจีนอีกจุดเด่นหนึ่งของร้านยังอยู่ที่การจัดพื้นที่ใช้สอย ให้มีส่วนโถงแบบ Double Space อยู่ตรงกลางทำให้ไม่ทึบตันหรือคับแคบเหมือนบาร์ในนิยามทั่วไป ในส่วนนี้ยังสามารถใช้ฉายภาพยนตร์หรือสไลด์ภาพสร้างบรรยากาศ เมื่อประกอบกับเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นของชิ้นใหญ่ จึงทำให้ที่นี่โอ่โถงหรูหราราวกับบาร์แห่งนี้นั้นเป็นที่ซ่อนลับที่แท้ของจักรพรรดิผู้นี้จริงๆ ที่ตั้ง 29 ซอยสุขุมวิท 31 แขวงคลองตันเหนือ […]

CAMINE CUISINE & CAFÉ รีโนเวตบ้านยุค70’s ให้กลายเป็นร้านอาหารปักษ์ใต้ในเรือนกระจกกลางสวนสวย

Camin Cuisine & Café  เปลี่ยนบ้านเก่าในอดีตให้กลับมามีตัวตนใหม่ในฐานะร้านอาหารใต้มีดีไซน์ ใช้สีสันและองค์ประกอบกลิ่นอายที่ชวนให้นึกถึงวิถีชีวิตคนใต้ ร่มรื่นด้วยแมกไม้สีเขียว ไม่ต่างจากโอเอซิสที่แสนสดชื่นกลางย่านเกษตร-นวมินทร์ จากบ้านเก่า 2 หลังบนที่ดินโล่งกว้างขนาด 1 ไร่ ในใจกลางเมืองกรุงเทพฯ สู่ร้านอาหารและคาเฟ่ Camin Cuisine & Café กลางสวนเขียวแสนชุ่มฉ่ำ ตามคอนเซ็ปต์การรีโนเวตบ้านให้กลายเป็นร้านอาหารใต้แบบถึงเครื่อง และสถานที่แฮงค์เอาท์แห่งใหม่ ที่เอื้อให้คนมาพักผ่อนหย่อนใจในสวนอันร่มรื่นได้ทั้งวัน займы на карту без отказа срочно ในด้านการออกแบบ ผู้ออกแบบต้องการแสดงภาพลักษณ์ของความเป็นบ้านเก่าอายุมากกว่า 30 ปี ที่มีเสน่ห์ ไว้ควบคู่กับการสร้างสวนป่าที่ชุ่มชื้นเพื่อจำลองสภาพสวนป่าจากภาคใต้มาไว้ในใจกลางเมืองหลวง เพื่อเติมเต็มบรรยากาศความเป็นร้านอาหารใต้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น บ้านทั้ง 2 หลัง ได้รับการรีโนเวตภายใต้คอนเซ็ปต์ที่คล้ายกัน นั่นคือการรักษากรอบอาคารภายนอกไว้ให้มากที่สุด แล้วรื้อการใช้งานภายในออกเพื่อปรับเปลี่ยนฟังก์ชันไปสู่ร้านอาหารและคาเฟ่ได้อย่างยืดหยุ่น นอกจากการรื้อพื้นชั้น 2 ออกเพื่อสร้างสเปซแบบฝ้าสูง ด้านของบ้านทั้ง 2 หลัง ที่หันไปทางสวน ก็ได้ต่อเติมส่วนใช้งานเป็นห้องกระจกยื่นออกไป ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กว้างขวางขึ้น ได้รับแสงและบรรยากาศ และลดความปิดทึบของตัวบ้านเดิม การตกแต่งภายในทั้งหมดใช้ธีม Mid-Century […]