BETTERISM
เตรียมพบกับ Sustainability Expo (SX2023) มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน
แถลงข่าวการจัดงาน Sustainability Expo (SX2023) มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 4 ตอกย้ำแนวคิดหลักของการจัดงาน “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” (Sufficiency for Sustainability) ที่จะชวนให้คุณได้ร่วม “ลงมือทำจริง” และร่วมกันสร้างอนาคตให้โลกใบนี้น่าอยู่อย่างยั่งยืนไปด้วยกัน ระหว่างวันที่ 29 กันยายน – 8 ตุลาคม 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ SX2023 ประกอบด้วยนิทรรศการ 8 โซน ได้แก่ โซน SEP Inspiration โซน Better World โซน Better Me โซน Better Living โซน Better Community โซน SX Food Festival โซน SX Marketplace และ โซน […]
SWEEPER แม้ E-Sports ก็ควรต้องเท่าเทียม เมาส์ ใช้เท้าสำหรับผู้พิการทุพพลภาพ โดย LOGA x Dots design studio
เพราะทุกคนต้องเท่าเทียม แม้ใช้เท้า ก็ลากหัวคมๆได้! และนี่คือเมาส์ที่เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจที่ได้เห็นเกมเมอร์ท่านหนึ่งเล่นเกม VALORANT ด้วยเท้า เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ใช้แขนขวาไม่ได้ “เราอยากทำเมาส์สำหรับคนที่ใช้เท้าเล่นเกม” คือสิ่งที่ทีม LOGA ได้ยกหูโทรศัพท์หา Dots design studio และโปรเจ็กต์ดี ๆ จนกระทั่งเกิดการพัฒนาเมาส์ตัวนี้จึงเกิดขึ้นเมื่อครึ่งปีก่อน หัวใจสำคัญของการออกแบบเมาส์ตัวนี้คือ “ต้องไม่ให้ความรู้สึกของความเป็นผู้พิการ” แต่จะต้องรู้สึกเหมือนได้ใช้สิ่งที่เข้ามาเสริมการเล่นเกม เป็นอุปกรณ์ของบุคคลนั้นๆ ที่ไม่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกด้อยค่า ส่วนตัวของเมาส์นั้นได้ใช้ต้นแบบมาจากรุ่น Garuda PRO+ ที่ได้เพิ่มแท่นแม่เหล็ก และสายรัดเพื่อปรับการใช้งานให้เหมาะกับบุคคลได้เหมาะสม และหลากหลายยิ่งขึ้น การเลือกใช้โมเดล Garuda PRO+ นั้นไม่เพียงแค่เรื่องของประสิทธิภาพความละเอียดของเซนเซอร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงคุณลักษณะที่สามารถเปลี่ยนแบตได้ง่ายอีกด้วย ปัจจุบัน เมาส์รุ่นนี้ได้ไปชนะรางวัล DEmark,Design Award มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและดิจิทัล และกำลังเตรียมการที่จะวางจำหน่ายโดยทั่วไปในเร็ววัน ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่มีปัญหากับการใช้มือจับเมาส์ หรือเพียงแค่อยากลองเปลี่ยนการทำงานไปสู่การใช้เท้า Sweeper จาก Loga ก็น่าจะเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เปิดประตูสู่การใช้งานใหม่ ๆ ได้ไม่มากก็น้อย หรืออย่างน้อยก็สำหรับผู้พิการทุพลภาพให้ได้มีสิทธิ์ในการเล่นเกม(หรือทำงาน)เทียบเท่า หรืออาจจะเก่งกว่าคนทั่วไปก็เป็นได้ #เกร็ดน่ารู้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) […]
“Strata Wall Panel” วัสดุตกแต่งผนังผลิตจากพลาสติกรีไซเคิลผสมกากกาแฟ
Strata Wall Panel ผสมกากกาแฟเกิดจากการเล็งเห็นโอกาสและอยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปริมาณ ‘ขยะ’ จำนวนมหาศาลนี้จากคาเฟ่ ร้านกาแฟมากมาย
“Enviro Board” วัสดุทดแทนไม้จากขยะกล่องนม
ทางเลือกวัสดุทดแทนไม้ ที่ได้จากการรีไซเคิลกล่องนมจากการคัดกรอง ทำความสะอาด และป่นกล่องเครื่องดื่มเพื่อนำไปบีบอัดเป็น “Enviro Board”
Unburnt Circular Brick อิฐสีพาสเทล จากวัสดุเหลือทิ้ง
อิฐสีพาสเทล กระเบื้องและอิฐจากเศษเซรามิกของอุตสาหกรรมต่าง ๆ กว่า 80 – 90% ที่ผ่านการขึ้นรูปทางพันธะเคมี (Non-toxic Chemical)
Loqa แบรนด์วัสดุที่ตั้งใจสร้างการหมุนเวียนของเศษวัสดุก่อสร้าง และเฟอร์นิเจอร์
วัสดุเหล่านี้อาจดูเหมือนวัสดุก่อสร้างโดยทั่วไป แต่แท้จริงแล้วนี่คือวัสดุที่ตั้งใจสร้างการหมุนเวียนของเศษเหลือวัสดุ เพื่อเกิดเป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และวัสดุก่อสร้างแนว Circular Design ในนาม loqa Loqa เป็นแบรนด์ไทยที่ก่อตั้งโดย คุณนนท์-นรฤทธิ์ วิสิฐนรภัทร และ คุณมาย-มนัสลิล มนุญพร ด้วยความหวังในการเริ่มต้น “ทำ” ในสิ่งที่ทำได้ เพื่อความยั่งยืนของโลกอย่างเป็นรูปธรรม วัสดุก่อสร้าง และเฟอร์นิเจอร์ คือสิ่งที่ทั้งสองให้ความสนใจ และด้วยพื้นฐานธุรกิจทางบ้านของคุณนนท์ที่เป็นผู้ผลิตอิฐทนไฟ การเริ่มต้นกับวัสดุประเภทอิฐจึงไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินกำลัง Loqa เริ่มต้นจากการทดลองใช้เศษวัสดุเหลือทิ้งหลากหลาย เช่น เซรามิก แก้วจากขวดเก่า หรือวัสดุอื่นๆ เช่น บรรจุภัณฑ์ หรือขยะทางการเกษตร ณ ปัจจุบัน Loqa แบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 2 รูปแบบ นั่นคือ กลุ่มประเภท Surface เช่น วัสดุก่อผนัง ปูพื้น และอิฐช่องลม และกลุ่มประเภทงาน Casted หรือการหล่อขึ้นรูปเป็นชิ้นงาน เช่น แจกัน ประติมากรรม เชิงเทียง และกระถาง จุดเด่นของ Loqa […]
บ้านพอดี พอดี บ้านเรียบง่าย ที่ใครๆ ก็สร้างได้
โครงการ แบบบ้านพอดี พอดี มีจุดเริ่มต้นในช่วงเหตุการณ์มหาอุทกภัยเมื่อปี พ.ศ. 2554 ซึ่งทำให้ใครหลายคนต้องจากที่อยู่อาศัย ไปพักพิงตามศูนย์อพยพ
INFINITUDE ด้วยวัฏจักรอันไม่มีที่สิ้นสุด
PIPATCHARA แบรนด์แฟชั่นไทยในเวทีโลกที่บอกเลยว่าไม่ธรรมดา โดย คุณเพชร-ภิพัชรา แก้วจินดา และ คุณทับทิม-จิตริณี แก้วจินดา ด้วยแนวคิดการใช้แรงขับเคลื่อนของโลกแฟชั่นเพื่อสร้างการมีส่วนรวมย้อนกลับไปช่วยเหลือชุมชน จนเกิดเป็นคอลเลคชั่น Infinitude ที่ไม่เพียงเลือกช่างฝีมือไทยในการผลิตเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุหลักของคอลเลคชั่นเป็น “พลาสติกกำพร้า” อีกด้วย Fashion for Community หรืองานออกแบบที่สร้างการมีส่วนร่วมกลับคืนสู่สังคม คือแนวทางการทำงานของ PIPATCHARA ตลอดมา เมื่อมาถึงคอลเลคชั่น Infinitude นี้ จึงเริ่มมองหามิติของความยั่งยืนที่หลากหลายออกไป ความไม่มีที่สิ้นสุดในความหมายของ Infinitude นั้นสามารถแปลออกมาได้ทั้งมิติของการสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน โดยเลือกทำงานกับครูที่แม่ฮ่องสอนเพื่อเป็นการสร้างอาชีพเสริมให้กับเหล่าครู ออกแบบชิ้นส่วนต่างๆโดยคำนึงถึงการทำงานกับคนในชุมชน ตลอดจนวัตถุดิบที่เหลือใช้ก็มาจากการรวมรวบขยะพลาสติกที่ไม่สามารถนำกลับเข้าระบบได้ หรือที่เรียกว่า ‘พลาสติกกำพร้า’ มาใช้เป็นวัสดุหลัก จึงเป็นที่มาของคำว่า Infinitude เราต้องการต่อยอดความเป็นไปได้เหล่านี้ให้ต่อเนื่องไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากตัวชิ้นงานเองแล้ว ก็หวังว่าคอลเลคชั่นนี้จะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆคนเห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆของ Circular Economy ที่จับต้องได้เช่นกัน พลาสติกกำพร้า เหมือนไร้ค่า แต่สร้างสรรค์ได้ด้วยงานออกแบบ พลาสติกที่เลือกใช้ในคอลเลคชั่นนี้ทั้งหมดคือ ‘พลาสติกกำพร้า’ ซึ่งเป็นขยะที่ไม่มีมูลค่าในตลาด ไม่ถูกนำไปใช้ซ้ำ รีไซเคิลก็ให้กลับมาเป็นตัวมันเองก็ไม่ได้ เราใช้พลาสติกที่มาจาก Post-Consumer Waste ซึ่งคือพลาสติกที่ผ่านการใช้มาจากในครัวเรือนมาแล้ว […]
นิทรรศการเสียงจากกลุ่มชาติพันธุ์ Sound of the Soul เสียงจากที่ไกล เสียงจากหัวใจที่ต้องการเพียง “สื่อสารกัน” ณ BACC
ฉับพลันที่เดินเข้ามาในห้องจัดแสดงของหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร(BACC) ความวุ่นวายของแยกปทุมวันก็มลายหายไปทันใดที่ปิดประตู คงเหลือแต่สรรพเสียงที่เราไม่คุ้นชิน เสียงของธรรมชาติที่คล้ายแว่วมาจากที่ไกล เสียงของ “ชีวิต” ที่กำลังถูกใช้ในบริบทที่ไม่ใช่เมือง อาจจะเป็นป่าในภูเขาสักที่ เสียงที่กำลัง “พูด” ด้วยภาษาที่เราไม่คุ้นเคย “เสียง” ที่รับรู้ได้ แม้ไม่เข้าใจความหมาย แต่กลับสื่อสารกันเข้าใจ นี่คือ นิทรรศการที่กำลังจัดแสดงอยู่ที่ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ในชื่อว่า “นิทรรศการเสียงจากกลุ่มชาติพันธุ์ Sound of the Soul” โดยความร่วมมือระหว่าง หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ร่วมด้วยกลุ่มศิลปิน Hear&Found, ศุภชัย เกศการุณกุล และ DuckUnit ซึ่งในวันนี้ เราได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณ ฟ้า กัณหรัตน์ เลี่ยมทอง หัวหน้าฝ่ายกิจกรรม และ ภัณฑารักษ์ (Curator) ของนิทรรศการในครั้งนี้ รวมทั้งศิลปินที่มาร่วมจัดแสดงทั้งสามกลุ่ม ถึงแนวคิดเบื้องหลัง และสิ่งที่แฝงอยู่ใน “เสียง” ที่พวกเขาเลือกนำมาจัดแสดง นำเสนอประเด็นปัญหาผ่านภาษาศิลปะ “ประเด็นด้านความเหลื่อมล้ำ เป็นความสนใจของตัวฟ้าเองอยู่แล้ว นั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ตั้งใจสร้างให้เกิดเป็นนิทรรศการนี้ขึ้น แต่ในนิทรรศการนี้จะเลือกใช้ “เสียง” เป็นสิ่งแทนของผู้คนที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ มันเป็นสิ่งที่เรานึกถึงเมื่อต้องนำมาผูกโยงกับคำว่า […]
Bugar Collection นำพาวัสดุยั่งยืนพื้นถิ่นในวิถีชาวบ้านอย่าง ไม้ไผ่ และไม้ตาล มาสร้างสรรค์เป็นงานออกแบบร่วมสมัย
Bugar Collection นำพาวัสดุยั่งยืนพื้นถิ่นในวิถีชาวบ้านอย่าง ไม้ไผ่ และไม้ตาล มาสร้างสรรค์เป็นงานออกแบบร่วมสมัย
ดื่มกาแฟแบบรักษ์โลก ด้วยแคปซูลกาแฟอะลูมิเนียม รีไซเคิลได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
#รู้หรือไม่ วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้โดยไม่ด้อยคุณสมบัติลง ไม่ว่าจะรีไซเคิลซ้ำ ๆ กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง และสามารถรีไซเคิลได้ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ นั่นก็คือ “อะลูมิเนียม” เพื่อเป็นมิตรกับโลกมากขึ้น Nespresso จึงได้เปลี่ยนแปลงบรรจุภัณฑ์กาแฟแคปซูลให้กลายเป็น “วัสดุอะลูมิเนียม” ทั้งหมด แทนที่แคปซูลพลาสติกอย่างแต่ก่อน ชงกาแฟแคปซูลกินทุกวัน วันละหลายๆแก้ว แล้วจะเอาแคปซูลไปทิ้งอย่างไรให้ไม่เสียเปล่า? โพสต์นี้มีคำตอบ!! ด้วยแนวคิดของการรีไซเคิลวัสดุนี้เอง จึงทำให้ในปัจจุบัน Nespresso ได้เปิดรับแคปซูลเก่าที่ทำจากวัสดุอะลูมิเนียม เพื่อนำไปแปรรูปกลับมาเป็นผลิตภัณฑ์อีกครั้ง โดยสามารถขอถุงสำหรับใส่แคปซูล เพื่อเตรียมนำกลับไปรีไซเคิลได้ตามจุดรับคืนแคปซูล หรือส่งคืนทางไปรษณีย์ก็ได้ ที่ไปรษณีย์ไทยกว่า 1,200 สาขา ทั่วประเทศ เมื่อ Nespresso ได้รับแคปซูลกลับไปแล้ว ขั้นตอนแรกเขาจะนำกากกาแฟออกมาย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ย และดินปลูกต้นไม้ จากนั้นจึงทำการย่อยแคปซูลให้กลายเป็นผงอะลูมิเนียม ก่อนจะนำไปหลอมกลับมาใช้อีกครั้ง อย่างไม่น่าเชื่อ กว่า 70% ของแคปซูลที่ Nespresso ใช้ในปัจจุบันนั้น ถูกผลิตขึ้นจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล และมากกว่านั้น Nespresso Global ยังนำอะลูมิเนียมเหล่านี้ ไปออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ร่วมกับแบรนด์ชั้นนำ เช่น Caran d’Ache ที่ผลิตปากกาจากแคปซูล 24 […]
Microlino รถ 2 ที่นั่ง พลังไฟฟ้า สุดปุ๊กปิ๊ก
รถยนต์ก็ไม่น่าใช่! มอเตอร์ไซค์ก็ไม่เชิง!เพราะนี่คือรถไฟฟ้าขนาด 2 ที่นั่ง ที่กลับมาใหม่ในสไตล์ที่สปอร์ตกว่าเดิม MICROLINO 2.0 ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจโดยตรงมาจาก BMW Isetta ในอดีต ซึ่งในรุ่น 2.0 นี้ ไม่ได้มีเพียงที่นั่งที่เพิ่มเข้ามาเท่านั้น แต่แทบจะเรียกว่ายกเครื่องใหม่หมดทั้งคันเลยก็ว่าได้ โดดเด่นด้วยประตูเปิดด้านหน้าบานใหญ่ ซึ่งเป็นผลดีช่วยให้การออกแบบโครงสร้างของรถคันนี้ สามารถใช้โครงรถ Aluminum Monocoque Chassis แบบ Space Frame ที่เบา แต่แข็งแรง ตกแต่งภายในลุคสปอร์ต มาพร้อมกับพวงมาลัยหนังสามก้านแบบเรโทร ชวนให้นึกถึง Mini Cooper Gran Prix จากยุคก่อนปี 2000 ขึ้นมาทันที เส้นสายภายนอกเน้นความเรียบง่าย สื่อถึงความปราดเปรียวทันสมัย ทำสีเงินด้านให้ความรู้สึกล้ำยุคแบบสัจวัสดุ มาพร้อมหลังคา Sunroof กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ส่งแรงบิดได้ถึง 89 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ใน 5 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพียงพอต่อการใช้งานในเมืองใหญ่อย่างเหลือเฟือ […]
STALLIONS “TANYA” มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ไทยที่ไปไกลถึงมิลาน
น้ำมันแพงไป! ใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคือทางออก!! STALLIONS แบรนด์ไทย จึงร่วมกับ DOTS ออกแบบมอเตอร์ไซค์ที่จะเข้ามาเป็นอวัยวะใหม่ของคนเมือง TANYA by DOTS X STALLIONS EV MOTORCYCLE คือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เตรียมจะวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน หลายคนคงคุ้นเคยกับ STALLIONS แบรนด์มอเตอร์ไซค์ลุคเรโทรสุดเท่กันมาบ้าง และนี่ก็คืออีกหนึ่งก้าวถัดไปของแบรนด์ STALLIONS ก็ว่าได้ TANYA คือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่ออกแบบสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม DOTS EV สามารถทำความเร็วได้ถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมทั้งระยะการขับขี่ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง อยู่ที่ 150 กิโลเมตร เรียกว่าชาร์จครั้งเดียวขับไปพัทยาได้เลยทีเดียว และด้วยแพลตฟอร์ม DOTS EV จึงทำให้ในอนาคตหลังจากวางจำหน่าย การปรับเปลี่ยนต่าง ๆ เพื่อปรับลุค หรือการใช้งานของตัวมอเตอร์ไซค์จะเป็นไปได้ง่ายขึ้น เพราะแพสชั่นคือสิ่งที่ทำให้คนตัดสินใจเลือกพาหนะในการขับขี่ที่เด่นชัดที่สุด ยิ่งสำหรับกรุงเทพฯ แล้ว มอเตอร์ไซค์เปรียบได้กับพาหนะที่กลายมาเป็นอีกหนึ่งอวัยวะของเจ้าของเสียด้วยซ้ำ และแน่นอนว่าการออกแบบรูปลักษณ์ของ TANYA จึงถูกคิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของคนเมือง สื่อถึงความโฉบเฉี่ยวล้ำสมัยอย่างเด่นชัด แต่คงไว้ซึ่งเส้นสายที่สื่อออกมาจากฟังก์ชัน ไม่ใช่เพียงการประดับตกแต่ง […]
Common Neglect Material เก้าอี้จากลังปลาเหลือทิ้ง
ชุดเฟอร์นิเจอร์สาธารณะจากขยะอุตสาหกรรมประมง ที่สะท้อนภาพเมืองชายฝั่งของญี่ปุ่นที่ถูกทิ้งร้าง ท่ามกลางความหวังจะชุบชีวิตย่านนี้ขึ้นมาใหม่ผ่านงานศิลปะที่สร้างการรับรู้ในวงกว้าง เมื่อทศวรรษก่อน ย่านคิชู (Kishu) ในจังหวัดมิเอะ (Mie) เมืองชายฝั่งทางภาคใต้ของญี่ปุ่น เคยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางอุตสาหกรรมประมงของชายฝั่งทางใต้ของญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันประสบภาวะจำนวนประชากรที่ลดลง เช่นเดียวกับหลายพื้นที่ห่างไกลของญี่ปุ่น ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมๆ กับการขยายตัวของสังคมผู้สูงอายุ เห็นได้จากหมู่บ้านชายขอบเล็กๆ มากมายที่ถูกทิ้งร้าง ผู้คนโยกย้ายเข้าไปสู่เมืองใหญ่ที่กระจุกตัวของความเจริญ ปล่อยบ้านเรือนให้ว่างเปล่า ประชากรที่ยังอยู่ก็ล้วนมีรายได้ต่ำ พื้นที่ตรงนี้จึงเหลือทิ้งไว้เพียงขยะจากอุตสาหกรรมประมง เมื่อ Takuto Ohta นักออกแบบชาวญี่ปุ่น ได้ลงพื้นที่สำรวจแถบ Kii, Miyama และ Owase ซึ่งเคยเป็นฐานอุตสาหกรรมประมงในย่านนี้ เขาได้พบกับตู้แช่ปลาจำนวนนับไม่ถ้วนบริเวณท่าเรือ ลังใส่ปลา แห อวน ทุ่น รวมถึงท่อพีวีซีที่ใช้ในฟาร์มปลากระเบนตลอดแนวชายฝั่ง ทั้งหมดนี้ถูกทิ้งร้างไร้เจ้าของมานานกว่า 12 ปี Common Neglect Material (CNM) จึงคอลเล็กชั่นเฟอร์นิเจอร์สาธารณะของ Ohta ที่ตั้งใจสร้างประโยชน์ใช้สอยใหม่ให้กับขยะอุตสาหกรรม วัสดุ และสิ่งของเหลือทิ้ง ที่พบในเมืองที่ถูกทิ้งร้างแห่งนี้ เพื่อสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ พร้อมฉายสปอตไลต์ให้กับพื้นที่ว่างเปล่าไร้ชีวิตชีวาแห่งนี้อีกครั้ง ลังใส่ปลาสีเหลืองสดใสได้รับการแปลงโฉมใหม่ให้กลายเป็นชุดเฟอร์นิเจอร์ขี้เล่น ที่มีทั้งเก้าอี้ ม้านั่ง สตูล […]
PERMANENT CAMPING2 บ้านตากอากาศกึ่งแคมปิ้งสร้างจากเหล็กรีไซเคิล
Permanent Camping 2 บ้านตากอากาศ กึ่งแคมปิ้งกลางทุ่งหญ้า ให้โมเมนต์ของการพักผ่อนที่ได้ใกล้ชิดและเป็นมิตรกับธรรมชาติในประเทศออสเตรเลีย บ้านตากอากาศ ท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวขจี แถมยังมองเห็นมหาสมุทรแปซิฟิกได้แห่งนี้ ตั้งอยู่ใน Berry หมู่บ้านเล็ก ๆ ในประเทศออสเตรเลีย โดดเด่นด้วยหน้าตาของอาคารที่มีลักษณะเป็นหอคอยสีทองแดงสองหลังต่างขนาดกันสองฝั่ง ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองกับความต้องการที่จำเป็นสำหรับการพักอาศัย อาทิ เตียงนอน ดาดฟ้า เตาผิง และห้องน้ำ ความน่าสนใจของที่นี่ คือโครงสร้างของเปลือกอาคารทำมาจากเหล็กรีไซเคิล ซึ่งเคยเป็นทุ่นลอยน้ำที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ภายในกรุไม้เนื้อแข็ง และทำช่องเปิดแบบบานเกล็ดเต็มผืนผนังด้านหนึ่ง โดยมีรอกแบบแมนนวลสามตัว คอยทำหน้าที่ยกและลดระดับผนังด้านข้างของอาคารขึ้นลง เพื่อสร้างส่วนยื่นสำหรับช่วยป้องกันแสงแดดในฤดูร้อน มีพื้นที่ใช้สอย 3×3 เมตร ชั้นล่างมีสิ่งอำนวยความสะดวกพรั่งพร้อม ทั้งพื้นที่ปรุงอาหาร จัดเก็บสิ่งของ และเตาผิง ขณะที่เตียงนอนสามารถเข้าถึงได้โดยใช้บันไดบนชั้นลอย ส่วนห้องน้ำถูกแยกส่วนให้อยู่ที่อาคารหลังเล็ก เชื่อมต่อกันด้วยดาดฟ้าที่ขึ้นได้จากบันไดด้านข้างอาคาร สำหรับอาคารหลังเล็กได้ออกแบบให้มีถังเก็บน้ำฝน แถมมีถังเก็บสิ่งปฏิกูลสำหรับใช้ทำปุ๋ยหมัก เป็นการออกแบบที่นอบน้อม โดยพยายามลดผลกระทบที่อาจมีต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุด ส่วนพลังงานที่ใช้ในการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นส่วนของเตาผิง เตาประกอบอาหาร หรือไฟฟ้าที่ให้ส่องแสงยามค่ำคืน ก็มาจากแผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งอยู่บนหลังคา ที่นี่จึงเปรียบเสมือนสถานที่หลบภัยทางจิตวิญญาณ ให้เจ้าของบ้านได้ปลีกวิเวก เพื่อมาสัมผัสกับการพักผ่อน เพลิดเพลินไปกับธรรมชาติ และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย มองเห็นทัศนียภาพของชายฝั่งทางใต้ของออสเตรเลียได้แบบพานอรามาจากภูเขาสู่ท้องทะเล ออกแบบ […]
IKEA ชวนทุกคน เปลี่ยนชีวิตประจำวันสู่ความยั่งยืน
IKEA ได้เชิญชวน room ไปเยี่ยมชมพื้นที่ใหม่ๆ ณ IKEA BANGNA ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งเสริมถึงความยั่งยืนต่อโลกของเรา ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ Circular Shop พื้นที่โซนต้นไม้จริงใหม่ และ Sustainable Weekend Market โดย room Magazine ได้รับเกียรติจาก คุณวรันธร เตชะคุณากรผู้จัดการแผนก Inspiration & Communication อิเกียประเทศไทย มาเล่าให้ฟังถึงแนวคิดเบื้องหลัง และพาชมพื้นที่ของ IKEA จะเป็นอย่างไรนั้น ไปชมพร้อมๆกันได้เลย ในสายตาของ IKEA แล้ว ความยั่งยืนคืออะไร? “ที่ IKEA เรามองถึงความยั่งยืนตลอดมา เป็นหัวข้อสำคัญในใจอยู่แล้ว และในวันนี้เราก็อยากจะส่งผ่านความคิดเหล่านี้ออกไปให้กว้างยิ่งขึ้น เมื่อกล่าวถึงความยั่งยืนแล้ว หลายคนจะนึกไปถึงสิ่งที่เห็นได้ชัดเจน อย่างเรื่องมลภาวะ เรื่องการจัดการขยะ หรือแม้แต่เรื่องของนวัตกรรมต่างๆ แต่แท้จริงแล้ว ความยั่งยืนนั้นสามารถเริ่มต้นได้ที่ตัวเรา ในชีวิตประจำวันหรือกิจวัตรของทุกๆคน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการใช้ชีวิต เรื่องของอาหาร หรือแม้แต่การอยู่อาศัยภายในบ้าน ซึ่ง “เราและโลกของเรา” ก็จะเป็นหนังสือที่จะมาเล่าเรื่องการสร้าง “ชีวิตที่ยั่งยืน” ในหลากรูปแบบมากกว่านั้น เริ่มต้นจากเรื่องเล็กๆในชีวิตของเราเอง เพราะอิเกียนั้นเชื่อว่าเมื่อทุกๆคนมีชีวิตที่ยั่งยืนได้แล้ว […]
MAGMA FLOW PUBLIC SPACE ปะทุความสดใสด้วยสวนแมกมา กระตุ้นย่านให้คึกคักมีชีวิตชีวา
Magma Flow Public Space ขยายภาพลาวาปะทุ สู่ไอเดียการออกแบบสวนสาธารณะสีสันสดใส กระตุ้นให้ย่านถนนคนเดินในหนิงป่อ มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ซึ่งเป็นย่านการค้าและที่อยู่อาศัยแห่งใหม่อันสำคัญให้คึกคัก ลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของโปรเจ็กต์นี้ คือการมีบันไดขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นทางเดินไปยังชั้น 2 ของอาคารที่พักอาศัยใกล้เคียง ก่อนจะถ่ายเททางเดินลงสู่พื้นที่ทางเท้าด้านล่าง ซึ่งกลายเป็นพื้นที่สาธารณะที่เต็มไปด้วยองค์ประกอบและสีสันสะดุดตา จุดไฮไลต์ของพื้นที่ คงหนีไม่พ้นภาพขั้นบันไดที่ทอดตัวจากอาคารสู่พื้นชั้นล่าง สีเหลือง สีส้ม และสีแดง สีสันโทนร้อนที่เห็นนี้ ถูกนำมาใช้เป็นธีมสีหลัก อันเป็นตัวแทนของภาพแมกมาที่ไหลปะทุลงมาจากยอดภูเขาไฟ เป็นภาพดึงดูดสายตาให้ผู้คนอยากมาใช้เวลาพักผ่อนในพื้นที่ใช้สาธารณะ แทนการเล่าเรื่องภาพภูเขาไฟและแมกมาที่ไหลนอง ด้วยเหล่าสเตชั่นสำหรับทำกิจกรรมสาธารณะต่าง ๆ ที่สามารถใช้งานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จุดพักผ่อนในแต่ละสเตชั่นออกแบบโดยเลียนแบบการปะทุของภูเขาไฟ แม้แต่สไลด์เดอร์สำหรับเด็ก ๆ บางอันที่คล้ายกับแมกมาไหลลงไปตามเนินเขา นอกจากนี้ยังมีชิงช้า กระดานหก เนินเขาจำลอง ทางลาด อุโมงค์ ฯลฯ เป็นอีกพื้นที่สาธารณะที่ทำหน้าที่เป็นจุดไฮไลต์ของเมือง และเป็นจุดรวมความบันเทิงภายในการพัฒนาเชิงพาณิชย์ ออกแบบ : 100 Architects (https://100architects.com/) ภาพ : Rex Zhou เรียบเรียง : Phattaraphon
ENVELOPE HOUSE บ้านโมเดิร์น ของครอบครัวใหญ่ ที่เผื่อพื้นที่ให้ต้นไม้ได้เติบโตและมีสายลมพัดผ่าน
บ้านโมเดิร์น ของครอบครัวขนาดใหญ่ในสิงคโปร์ กับการเนรมิตพื้นที่ให้เต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ พร้อมการมอบนิยามใหม่ให้การสร้างบ้านในเขตร้อนชื้น ช่วยให้บ้านมีเอกลักษณ์ไปพร้อมกับการอยู่อาศัยที่ดี เพราะ สิงคโปร์ เป็นประเทศที่ได้ชื่อว่าทุกตารางนิ้วบนเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้มีคุณค่าและราคาสูง การสร้างบ้านสักหนึ่งหลังจึงต้องคำนึงถึงฟังก์ชันและการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด บ้านโมเดิร์น หลังนี้ ก็เช่นกัน กับการรวบรวมสมาชิกของครอบครัวไว้ถึง 3 ครอบครัว และหลายเจเนอเรชั่น บ้างหลังนี้จึงต้องตอบสนองคนทุกช่วงวัย โดยไม่ละทิ้งสเปซที่เป็นส่วนตัว ควบคู่ไปกับการสร้างพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัว เพิ่มเติมคือพื้นที่สีเขียว ที่ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนก็สัมผัสได้ถึงธรรมชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนโหยหา และเชื่อว่าจะช่วยเยียวยาใจทุกครั้งเมื่อกลับถึงบ้าน เอกลักษณ์ของบ้านหลังนี้ เด่นด้วยบ้านรูปทรงกล่องโมเดิร์นดีไซน์เรียบง่าย ออกแบบโดยสถาปนิกจาก Asolidplan สะดุดตาเป็พิเศษกับช่องเปิดสี่เหลี่ยมหลากหลายขนาดที่กระจายอยู่ทั่วอาคาร จนเปรียบเสมือนเป็นลวดลายให้แก่เปลือกอาคาร หรือฟาซาดไปในตัว ทำหน้าที่ช่วยนำแสงและลมให้พัดผ่านเข้ามาสู่พื้นที่พักอาศัยด้านใน ทำให้บ้านเย็นตลอดเวลา แม้หน้าบ้านจะหันไปทางทิศตะวันตกก็ตาม เมื่อเข้ามาภายในบ้าน มุมมองของสวนสีเขียวด้านนอกยังตามเข้ามาสู่พื้นที่ส่วนกลางของบ้านเกือบทุกอณู เพื่อให้เกิดความรู้สึกสดชื่นท่ามกลางบรรยากาศสวนสีเขียวในร่ม ปลูกต้นไม้อยู่ใต้บันไดของคอร์ตกลางบ้าน ให้แทงยอดสูงชะลูดขึ้นไปจนถึงชั้นสอง คล้ายยกธรรมชาติมาไว้ใกล้ตัว เสริมด้วยบ่อน้ำเล็ก ๆ ที่มีแผ่นทางเดิน สำหรับเดินเชื่อมต่อไปยังมุมนั่งเล่น และมุมนั่งเล่นเล็ก ๆ ริมหน้าต่าง รับรู้ถึงความผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ สวนพักอาศัยชั้นสอง เป็นชั้นพักผ่อนของผู้สูงอายุของครอบครัว ส่วนชั้นสามเป็นส่วนพักอาศัยของครอบครัวรุ่นใหม่ โดยระหว่างขึ้นบันไดยังจะสัมผัสได้ถึงความเขียวชอุ่มของยอดไม้ แถมมีที่นั่งเล็ก […]