Royal Canin
“เตรียมพร้อมรับมือปัญหาที่พบบ่อยในลูกแมว”
การเลี้ยงลูกแมวตั้งแต่วัยเบบี๋เป็นช่วงเวลาสำคัญที่เจ้าของต้องดูแลลูกแมวเป็นพิเศษ นอกจากการดูแลด้านพัฒนาการให้เจริญเติบโตสมวัยแล้ว ยังต้องเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะในช่วงปีแรกลูกแมวมีโอกาสที่จะเกิดภาวะผิดปกติต่างๆ อาการเจ็บป่วย หรือได้รับบาดเจ็บได้มากกว่าแมวโต เจ้าของควรเตรียมพร้อมไว้ เมื่อลูกแมวเกิดปัญหาเหล่านี้จะได้พร้อมรับมือและแก้ไขได้ทันที 1. ภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ โดยปกติแล้วลูกแมวแรกเกิดอุณหภูมิร่างกายจะอยู่ที่ประมาณ 33-36 องศาเซลเซียส และเมื่ออายุประมาณ 1 เดือนอุณหภูมิร่างกายจะอยู่ที่ 33.5-37.5 องศาเซลเซียส ภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติจะเกิดขึ้นกับลูกแมวช่วงหลังคลอด เพราะร่างกายจะยังปรับอุณหภูมิเองไม่ได้ ซึ่งอาจจะพบได้ในลูกแมวแรกเกิดที่มีขนาดตัวที่เล็กมากและไวต่อสภาพอากาศแม้จะอยู่ในอุณหภูมิปกติ เมื่อร่างกายไม่สามารถควบคุมให้อุณหภูมิอยู่ในเกณฑ์ปกติ อุณหภูมิร่างกายจะเริ่มลดลง ซึ่งความรุนแรงของอาการจะแบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้ ระดับอ่อน อุณหภูมิร่างกายจะอยู่ที่ประมาณ 32 – 35 องศาเซลเซียส อาการ ที่พบคือร่างกายจะอ่อนแรง หนาวสั่น และไม่ค่อยเคลื่อนไหวขยับตัว เซื่องซึม ระดับปานกลาง อุณหภูมิร่างกายจะอยู่ที่ประมาณ 28 – 32 องศาเซลเซียส อาการที่พบคือจะมีอาการกล้ามเนื้อชักกระตุก หัวใจเริ่มเต้นผิดจังหวะ หายใจลึกและช้า ความดันเลือดต่ำ ระดับรุนแรง จะมีอุณหภูมิต่ำกว่า 28 องศาเซลเซียส อาการที่พบคือลูกแมวอ่อนแรง […]
วิธีดูแลสุขภาพสุนัขตามช่วงวัย
สุนัขในแต่ละช่วงวัยจะมีความต้องการการดูแลด้านสุขภาพและคุณค่าทางโภชนาการสารอาหารนั้นแตกต่างกันไปตามอายุ ขนาดตัว สายพันธุ์และกิจวัตป
ทำไมน้องหมาถึงไม่ควรกิน “อาหารคน”
เคยคิดไหมว่าเรากำลังทำร้ายสุขภาพของสุนัขที่เรารักโดยไม่รู้ตัวอยู่ ด้วยการตามใจให้อาหารหรือขนมของคนกับสุนัข และหลายๆคนก็เคยมีความคิดที่ว่า “อาหารที่คนกินได้ สุนัขก็ต้องกินได้เหมือนกัน” แต่จริงๆแล้วเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเพราะคนและสุนัขมีร่างกายและระบบการทำงานต่างๆ ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการย่อยอาหาร การกำจัดสารพิษ และการขับของเสีย จึงทำให้ความต้องการสารอาหารที่ควรได้รับไม่เหมือนกัน การเลี้ยงสุนัขด้วยอาหารคนอาจจะไม่ได้ส่งผลเสียให้เห็นในทันที แต่จะส่งผลกระทบในระยะยาวต่อสุขภาพของสุนัข เพราะจะทำให้สุนัขขาดสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือได้รับสารอาหารบางชนิดมากจนเกินไป มักจะมีสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าสุนัขได้รับสารอาหารไม่เหมาะสม เช่น เจ็บป่วยง่าย เป็นโรคผิวหนัง ผิวหนังแห้ง ขนหลุดร่วงผิดปกติ มีอาการคัน ผอมหรืออ้วนเกินไป รวมถึงปัญหาท้องเสีย อึไม่เป็นก้อน หรือท้องอืด และอาหารบางชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของมนุษย์ แต่อาจไม่จำเป็นสำหรับสุนัขและบางครั้งอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นเราควรหลีกเลี่ยงไม่ให้อาหารเหล่านี้กับสุนัข 1. อาหารคน ของทอด อาหารที่มีรสเค็ม และอาหารที่มีไขมัน เจ้าของสุนัขหลายคนมักให้สุนัขกินอาหารที่ปรุงเอง เช่น ตับย่าง หมูย่าง ไก่ย่าง อาหารของคนจะถูกปรุงรสชาติด้วยเครื่องปรุงต่างๆมากมาย ทั้งโซเดียมจากเกลือและน้ำปลา ไขมันจากน้ำมันในของทอด ความหวานจากน้ำตาล และในอาหารคนยังมีส่วนผสมของวัตถุดิบที่สุนัขไม่ควรกิน เช่น หอม กระเทียม ซึ่งการปรุงรสเหล่านี้ไม่ได้มีผลต่อความอยากอาหารของสุนัข เนื่องจากสุนัขถูกกระตุ้นจากกลิ่นอาหารมากกว่ารสชาติ และอาหารคนยังมีสารอาหารไม่สมดุลสำหรับสุนัข หากให้กินอาหารคนเป็นประจำจะทำให้ขาดสารอาหาร ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่นโรคผิวหนัง ขนร่วง เจ็บป่วยง่ายขึ้น […]
เลี้ยงน้องแมวในบ้านอย่างไรให้น้องแมวมีความสุข
ในอดีตคนส่วนใหญ่จะเลี้ยงแมวแบบปล่อยอิสระไม่จำกัดบริเวณ หรือที่เรียกว่าเลี้ยงแบบระบบเปิด (outdoor) เพื่อไว้ใช้จับหนู หรือไว้ให้คอยไล่พวกแมลงสัตว์ต่างๆ ทำให้แมวมีอิสระที่จะไปไหนมาไหนได้เต็มที่ แต่การเลี้ยงแบบปล่อย ก็นำมาซึ่งความเสี่ยงหลายอย่าง เลี้ยงแมวในบ้าน เสี่ยงเป็นโรคที่ติดมาจากเห็บหมัดนอกบ้าน เช่น โรคพยาธิเม็ดเลือด การติดเชื้อจากพยาธิตัวตืด หรือปัญหาโรคผิวหนังจากการแพ้น้ำลายหมัด โรคติดต่ออื่นๆ เช่น โรคลิวคีเมีย โรคเอดส์แมว หรือ โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (feline infectious peritonitis; FIP) ซึ่งโรคเหล่านี้เป็นโรคร้ายแรงที่อาจนำไปสู่การจากไปก่อนวัยอันควร การบาดเจ็บหรืออาจจะถูกทำร้าย จากการต่อสู้ของแมวด้วยกัน การถูกทำร้ายจากสัตว์อื่น เช่น ถูกหมากัน ถูกสัตว์มีพิษกัดต่อย หรือแม้กระทั่งถูกทำร้ายจากมนุษย์ ยังไม่รวมถึงการสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้านจากการที่แมวขับถ่ายไม่เป็นที่ หรือในช่วงที่แมวติดสัดแมวจะส่งเสียงร้องดังรบกวนซึ่งอาจสร้างความรำคาญได้ และการเลี้ยงแบบปล่อย แมวสามารถออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านได้ไกลถึง 3 กิโลเมตร ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสที่จะสูญหายมากยิ่งขึ้น จากความเสี่ยงต่างๆ และเทรนด์การเลี้ยงสัตว์ที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน เป็น(เทรนด์ Pet Humanization คือการดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของตัวเองเปรียบเสมือนคนในครอบครัว) รวมถึงการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย (Aging Society) ที่ผู้สูงอายุเลี้ยงสัตว์เพื่อคลายเหงา และเป็นช่วงที่ผู้คนทำงานอยู่กับบ้าน (Work From Home) มากขึ้น ล้วนก็เป็นปัจจัยที่ทำให้คนนิยมเลี้ยงแมวในบ้านหรือในคอนโดกันมากขึ้น […]
วิธีคลายเหงาให้น้องหมาเวลาที่เจ้าของไม่อยู่บ้าน
การได้อยู่บ้านกับน้องหมาที่เรารักเป็นความสุขที่หลายๆคนเฝ้ารอ แต่ในความเป็นจริง เจ้าของต้องออกไปทำงาน ไปทำธุระจำเป็นนอกบ้าน หรือช่วงเทศกาลวันหยุดยาวที่ต้องออกจากบ้านไปนานหลายๆวัน การให้น้องหมาอยู่เฝ้าบ้านเพียงลำพัง โดยเฉพาะน้องหมาที่ผูกพันกับเจ้าของมากๆ อาจทำให้น้องหมาเกิดความเครียด เกิดความรู้สึกวิตกกังวลขึ้นมาได้ อาจมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิม เช่น การเลียเท้าเยอะขึ้นจากความเครียด หรือมีนิสัยดุร้ายมากขึ้น กัดแทะทำลายข้าวของในบ้าน หรือขับถ่ายเรี่ยราด ดังนั้นเจ้าของควรจะต้องเตรียมความพร้อมไว้ หาวิธีคลายเหงาเวลาที่เจ้าของไม่อยู่บ้าน หรือเวลาที่ต้องปล่อยให้น้องหมาอยู่ตามลำพัง วิธีคลายเหงาให้น้องหมา เจ้าของต้องค่อยๆฝึกน้องหมาให้อยู่ตามลำพัง เพื่อให้เกิดความเคยชินเวลาที่เจ้าของออกไปข้างนอก อาจจะเริ่มให้อยู่ห่างกันคนละพื้นที่ คนละห้อง หรือคนละชั้น แต่ยังอยู่ในบ้านเดียวกัน เริ่มจากระยะเวลาสั้น ๆ 1- 2 ชั่วโมง ในการฝึกช่วงแรกน้องหมาอาจจะร้องเรียกแต่เจ้าของห้ามใจอ่อนเด็ดขาด เมื่อน้องหมาเริ่มคุ้นเคยแล้วค่อยขยับระยะเวลาออกไปให้นานขึ้น ออกไปข้างนอกครั้งละ 2-3 ชั่วโมง แล้วค่อยๆขยายเวลามากขึ้น เวลาที่เจ้าของกลับเข้าบ้านให้ใช้น้ำเสียงเรียกด้วยโทนปกติ ลูบหัวลูบตัวทักทายน้องหมาให้เขาเรียนรู้ว่าเจ้าของไม่ได้ทิ้งหนีหายไปไหน การฝึกแบบนี้น้องหมาจะค่อยๆเรียนรู้และเข้าใจว่าการที่เจ้าของไม่อยู่บ้านนั้นเป็นเรื่องปกติ วิธีคลายเหงาให้น้องหมา หากน้องหมามีนิสัยชอบกัดแทะ หรือทำลายข้าวของในบ้านเวลาที่เจ้าของไม่อยู่ ให้ลองใช้วิธีพาออกไปเดินเล่น หรือชวนเล่นด้วยกันภายในบ้านอย่างน้อย 30 นาที ก่อนที่เจ้าของจะออกนอกบ้านแล้วต้องปล่อยให้อยู่ตัวเดียว วิธีนี้ช่วยให้น้องหมาได้ใช้พลังงาน และถือเป็นการช่วยให้ได้ออกกำลังกายอีกด้วย หลังจากน้องได้ออกแรงไปแล้ว เขาก็จะนอนหลับพักผ่อนในช่วงที่เจ้าของออกไปข้างนอก และเมื่อตื่นขึ้นมาก็จะผ่อนคลายมากขึ้น นอกจากนี้ควรเตรียมของเล่นชิ้นโปรดเพื่อช่วยคลายเหงา ให้น้องหมาได้มีกิจกรรมทำในเวลาที่ต้องอยู่ตัวเดียวแทนที่จะไปกัดแทะข้าวของในบ้าน เตรียมของเล่นชิ้นโปรดเอาไว้ให้น้องหมา […]
อย่ามองข้ามเมื่อแมวขย้อนก้อนขน
ภาพที่คนเลี้ยงแมวมักจะเห็นเป็นประจำก็คือน้องแมวกำลังนั่งเลียขนตัวเอง ซึ่งบางตัวก็ชอบเลียตัวเองมากๆแบบที่เห็นทีไรก็กำลังนั่งเลียขนอยู่ทุกที แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าการที่แมวเลียขนตัวเองไม่ใช่แค่เป็นการทำความสะอาดร่างกายเท่านั้นแต่ยังเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเลียขนหลังจากที่แมวไปนอนอาบแดดเป็นการรับวิตามินดี (Vitamin D) เข้าร่างกาย การเลียขนเป็นการผ่อนคลายอารมณ์ของน้องแมว การเลียขนเป็นการช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกาย เนื่องจากแมวไม่มีต่อมเหงื่อเหมือนกับมนุษย์ แมวจึงใช้วิธีการเลียขนให้เปียกแล้วปล่อยให้แห้งเอง เมื่อแมวกำลังรู้สึกเครียดสับสนหรือเกิดความรู้สึกไม่สบายใจ แมวจะเลียขนตัวเอง ช่วงผลัดขนตามธรรมชาติแมวจะใช้วิธีเลียตัวเพื่อให้ขนหลุดออกไปจากร่างกาย หากเป็นโรคผิวหนัง เช่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือโรคที่เกิดจากตัวหมัดตัวไรทำให้แมวมีอาการคันผิวหนังแมวจะเลียขนตัวเองซ้ำๆในบริเวณที่คัน จากสาเหตุต่างๆ ข้างต้นการขย้อนก้อนขน (Hairball) จึงสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในแมวสายพันธุ์ขนสั้นและในแมวสายพันธุ์ขนยาว แมวแต่ละตัวจะมีความถี่ในการขย้อนก้อนขนที่แตกต่างกัน ในบางตัวอาจขย้อนก้อนขนออกมาทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน บางตัวก็ขย้อนก้อนขนเพียงปีละ 1-2 ครั้งเท่านั้น แต่ถ้าเทียบกันในแมวสายพันธุ์ขนยาวและสายพันธุ์ขนสั้น แมวสายพันธุ์ขนยาวจะมีอัตราการขย้อนก้อนขนมากกว่าแมวสายพันธุ์ขนสั้นถึง 2 เท่า เวลาที่แมวเลียตัวเองลิ้นของแมวจะลักษณะเป็นหนามแหลมทำหน้าที่คล้ายหวี ตุ่มหนามถี่ ๆ ที่ลิ้นจะช่วยดักจับสิ่งสกปรกที่ติดตามตัวรวมถึงเซลล์ขนที่ตายแล้วสางออกจากตัว ขนที่หลุดออกมาจากการเลียตัวของแมว แมวจะกลืนขนเหล่านั้นเข้าไปในทางเดินอาหาร ยิ่งในช่วงผลัดขนแมวจะกลืนขนเข้าไปมากกว่าปกติถึง 3 เท่า วิธีที่แมวใช้ในการขับก้อนขนออกจากร่างกายก็คือการอาเจียนหรือคำที่เราคุ้นเคยพูดกันว่า “การขย้อนก้อนขน” ก้อนขนที่ถูกขย้อนออกมาพบได้ทั้งแบบเป็นแท่งยาวๆรีๆหรือเป็นก้อนกลมๆ และอีกวิธีคือการขับออกมาทางทวารหนัก ขนจะปนออกมาเวลาที่แมวถ่ายหนัก แต่ถ้าแมวเลียขนมากเกินไป หรือมีการสะสมของเส้นขนจำนวนมากจนไม่สามารถขับก้อนขนออกมาจากร่างกายได้ จะทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น ถ้าก้อนขนหลุดเข้าไปในช่องคอหอยร่วมกับจมูกจะเกิดภาวะหลอดอาหารอักเสบหรือหลอดอาหารตีบ วิธีสังเกตอาการคือ แมวมีอาการจาม […]