สวนโชว์ Garden Show
เส้นทางธรรมชาติจากทะเลสู่ภูเขา
ธรรมชาติมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ใครหลายคนหลงรักจนอยากพาตัวเข้าไปสัมผัสหรือได้เห็นสิ่งต่างๆ ด้วยตาของตัวเอง สวนโชว์ในงานนี้จึงออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “เส้นทางธรรมชาติจากทะเลสู่ภูเขา” โดยแบ่งเส้นทางออกเป็น 4 โซน เริ่มที่ สวนริมทะเล นำเสนอไอเดียการเลือกใช้พรรณไม้ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ชายทะเล มีการแนะนำวิธีดูแลไม้ทนแล้งด้วย ถัดมาเป็นโซน รอยต่อของผืนป่า ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่โอบล้อมรอบเส้นทางที่คดเคี้ยวไปมา ระหว่างสองข้างทางเต็มไปด้วยเฟินและมอสส์ที่ขึ้นสลับกันบนเนินหิน ทางเดินจะค่อยๆยกระดับไต่ความสูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อพาทุกคนไปสู่โซนที่สาม พิชิตเขา กับบรรยากาศภาพมุมสูงที่คุณจะได้ยินเสียงน้ำตกที่ไหลลงมาจากสันเขาลงไปสู่ผืนป่าที่อยู่ด้านล่าง ไฮไลต์สุดท้ายที่พลาดไม่ได้คือ ต้นไม้แห่งชีวิต ซึ่งแผ่กิ่งก้านสาขาขนาดใหญ่ให้ร่มเงาและมีหมอกควันลอยฟุ้งอยู่รอบๆ ให้ความรู้สึกเหมือนได้ขึ้นมายืนอยู่บนยอดเขาจริงๆ ปิดท้ายด้วยเวทีที่มีการจัดแสงให้เกิดเงาตกกระทบกับน้ำ กลายเป็นแสงเงาสะท้อนไปบนพุ่มไม้รอบๆ เป็นอีกหนึ่งภาพความงามของธรรมชาติ ที่เราตั้งใจให้ผู้มาชมงานบ้านและสวนแฟร์ได้รับความรู้สึกประทับใจกลับไป
เลือกไม้ทนแล้ง เหมือนจัดสวนริมทะเล
![]()
การสร้างบรรยากาศจำลองให้เหมือนสวนริมหาดด้วยต้นไม้ทนแล้ง รดน้ำน้อย อย่างไม้ทะเลทราย (Desert Plant) ซึ่งเป็นไม้อวบน้ำที่เก็บสะสมน้ำไว้ที่ลำต้น มีหนามเพื่อลดการคายน้ำทางปากใบ อาทิ แคคตัส อากาเว่ พญาไร้ใบ ปรง ลิ้นมังกร เป็นต้น ซึ่งพรรณไม้เหล่านี้สามารถจัดแต่งให้สวนดูโดดเด่นได้หลากหลายสไตล์ ทั้งสวนแนวเมดิเตอร์เรเนียน สวนสไตล์แม็กซีกัน ซึ่งพรรณไม้แนะนำน่าปลูกสร้างบรรยากาศให้เหมือนริมหาดทรายนั้น มีดังนี้
![]()
แคคตัสถังทอง (Echinocactus grusonii)
เป็นไม้ประดับที่ปลูกในบ้านเรามานานกว่า 40 ปี เมื่อต้นโตเต็มที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 50 เซนติเมตร
![]()
อากาเว่ปากนกแก้ว (Agave attenuata)
เป็นอากาเว่ที่ไม่มีหนามที่ปลายใบและเลี้ยงง่าย แต่ไม่ควรปลูกในที่ที่มีแสงน้อยจะทำให้ใบยืดเสียทรง
![]()
แคคตัสสกุลโอพันเทีย (Opuntia sp.)
หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ใบเสมา” ปลูกเลี้ยงกันมาแต่อดีต ทนดินเค็มได้ดี
![]()
แคคตัสสกุลซีเรียส (Cereus sp.)
ชอบแสงแดดจัด ดอกขนาดใหญ่และมีกลิ่นหอม
![]()
เข็มกุดั่น (Yucca aloifolia)
ช่อดอกออกที่ปลายยอด ชูสูงกว่า 1 เมตร หลังออกดอกต้นแม่จะหยุดเติบโตและตาย
![]()
พญาไร้ใบ (Euphorbia tirucalli)
ควรปลูกในที่ที่มีแสงแดดจัด ถ้าได้รับแสงแดดไม่เพียงพอต้นจะยืดยาว ทรงพุ่มเก้งก้าง
รวมแบบสวนทรอปิคัล ร่มรื่นเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
หากต้องการหยิบยกธรรมชาติเข้ามาไว้รอบบ้าน สวนสไตล์ทรอปิคัล คือรูปแบบสวนที่จะพาให้สัมผัสกับความร่มรื่นผ่อนคลาย เป็นเหมือนอยู่ท่ามกลางป่าในเขตร้อนชื้น ซึ่งชุ่มฉ่ำด้วยพรรณไม้ ลำธาร น้ำตก รูปแบบของสวนทรอปิคัลจึงเป็นการจำลองธรรมชาติมาไว้ในสวน ซึ่งมีการดัดแปลงตัดทอนรายละเอียดให้สอดรับกับสภาพแวดล้อมที่เมือง ดูเป็นระเบียบ ดูแลง่าย ในสไตล์โมเดิร์นทรอปิคัล (Modern Tropical) แต่ก็มีการจำลองธรรมชาติแบบดั้งเดิมไว้ในสไตล์สวนทรอปิคัลเรนฟอเรส (Tropical Rain Forest) หรือสวนป่าร้อนชื้น ด้วยเช่นกัน อยากจัดสวนสไตล์ทรอปิคัลแต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกแบบสวนอย่างไรให้ถูกใจ ลองดูแบบสวนเหล่านี้เป็นไอเดียได้เลย
ตามหานักจัดสวน ไปรู้จักกับ 100 นักจัดสวนเหล่านี้
>>คลิกที่ภาพเพื่อชมแบบสวนทรอปิคัล
![]()
รู้จักระบบพ่นหมอกในสวน
![]()
ระบบหมอกเป็นระบบที่ใช้ปั๊มแรงดันให้น้ำผ่านท่อและออกทางหัวพ่นที่มีรูขนาดเล็กมาก ๆ ให้น้ำออกเป็นฝอยละเอียด ดูไปคล้ายกับไอหมอกในธรรมชาติ หากแบ่งตามลักษณะแรงดันที่ใช้ในระบบจะแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
ระบบหมอกแรงดันต่ำ (Low Pressure Fogging System) เป็นระบบหมอกที่ใช้แรงดัน 4 – 15 บาร์ ติดตั้งได้ง่าย ราคาอุปกรณ์ไม่สูง
ระบบหมอกแรงดันสงู (High Pressure Fogging System) ระบบนี้ต้องใช้แรงดันสูงประมาณ 50 – 70 บาร์หรือมากกว่า มีจำนวนหัวพ่นหมอกมาก ครอบคลุมพื้นที่กว้าง ระบบนี้ต้องใช้ท่อน้ำอุปกรณ์ข้อต่อ และหัวพ่นหมอกที่ทนต่อแรงดันน้ำ มีระบบควบคุมการทำงานให้มีประสิทธิภาพและเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้
ระบบหมอกทั้งสองระบบเหมาะกับสวนน้ำตก สวนแนวทรอปิคัล เรือนกล้วยไม้ เรือนไม้ประดับ เรือนปลูกผัก เรือนเพาะเห็ด หรือฟาร์มปศุสัตว์ การออกแบบติดตั้งหัวพ่นหมอกควรคำนึงว่าการวางหัวจำนวนมากหรือชิดกันมากไปจะเกิดหมอกที่หนาเกิน มองดูแล้วไม่สวยงาม หลักการที่ดีควรให้มีปริมาณหมอกบาง ครอบคลุมพื้นที่ที่เราต้องการ และหมอกคงตัวอยู่ได้นาน อีกประการหนึ่งคือ การเดินท่อหรือสายน้ำไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ในสวนนั้น ต้องรู้จักซ่อนท่อให้มิดชิด หากเดินไปบนต้นไม้ก็ควรวางท่อน้ำให้แนบกับลำต้นและมีสายรัดให้แน่น ดูเรียบร้อย ดังนั้นการติดตั้งระบบพ่นหมอกแรงดันต่ำและระบบแรงดันสูงจะเป็นไปในลักษณะเดียวกัน โดยเฉพาะในเรื่องการกำหนดตำแหน่งหัวพ่น แนวการเดินท่อน้ำและการยึดท่อ จะแตกต่างกันบ้างก็เฉพาะในส่วนของการใช้อุปกรณ์และการต่อเชื่อมที่มีความแน่นหนาต่างกัน
ติดตั้งระบบพ่นหมอกแรงดันต่ำ ทำง่าย ใช้งบน้อย
![]()
ระบบนี้มีชุดสำเร็จที่จำหน่ายตามร้านตัวแทนและตามเว็บไซต์ต่าง ๆ หรือจะสั่งซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ มาประกอบเองก็ได้ เพราะเป็นระบบที่ผู้ติดตั้งนำอุปกรณ์มาประกอบเองได้ง่าย อุปกรณ์ที่ต้องใช้มีดังนี้คือ
- ปั๊มน้ำแบบแรงดันต่ำ เลือกใช้ได้ทั้งแบบที่ใช้ไฟฟ้า 220V และแบบใช้ไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ซึ่งต้องมีอุปกรณ์แปลงไฟด้วย
- วาล์วไฟฟ้า (โซลินอยด์วาล์ว) สำหรับระบบนี้มีทั้งที่ใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ 220 VAC และไฟกระแสตรง 12 VDC และ 24 VDC ต้องเลือกให้ตรงกับปั๊มน้ำที่ใช้
- ชุดกรองน้ำ ถ้าน้ำมีหินปูนมาก ต้องใช้ไส้กรองเรซิ่นเข้ามาช่วยด้วย ถ้าเป็นน้ำประปาก็จะใช้ไส้กรอง PP (Polypropylene) เป็นไส้กรองหยาบสำหรับกรองตะกอนทั่วไป และแบบกรองที่เป็นตุ้มถ่วงติดไว้ที่ปลายท่อทางดูด
- ชุดโปรแกรมตั้งเวลา ควรใช้เป็นแบบดิจิทัล แต่ทั้งนี้ก็เลือกใช้ให้เหมาะกับจุดประสงค์ของเรา
- ท่อน้ำหรือสายยางแรงดันต่ำ ซึ่งเป็นท่อพีอี มีขนาด 6 มิลลิเมตร หรือ 1-4 นิ้ว
- ประตูน้ำ และอุปกรณ์ข้อต่อต่าง ๆ การจะคำนวณจำนวนที่ต้องใช้ได้ถูกต้องและสะดวก ก็ต้องออกแบบระบบหมอกก่อนว่าจะติดตั้งกี่หัว ติดตั้งในลักษณะใด โดยเขียนเป็นแผนผัง แล้วนับจำนวนอุปกรณ์ที่ต้องการใช้เพื่อให้ตรงกับความเป็นจริง
- หัวพ่นหมอกแรงดันต่ำ จะเป็นหัวแบบก้านเสียบแล้วสวมอัดกับข้อต่อ
ข้อมูลจากหนังสือ ระบบให้น้ำในสวน เขียนโดย ขวัญชัย จิตสำรวย
ต้นไม้ใหญ่ ใบร่วงน้อย
![]()
การปลูกไม้ยืนต้นเพื่อบังแดดให้ตัวบ้านควรมีระยะห่างออกมาประมาณ 5 เมตรหรือน้อยกว่านั้น สำหรับต้นที่มีทรงพุ่ม ขนาดเล็ก ถ้าปลูกชิดมากเกินไปจะทำให้ต้นเอนเอียงหนีตัวอาคารเพื่อหาแสงสว่างตามธรรมชาติ รวมทั้งกิ่งก้านอาจทำอันตรายต่อรางน้ำ เชิงชาย และหลังคาบ้านได้ ต้นไม้บริเวณริมรั้วควรปลูกห่างจากแนวรั้วออกมาประมาณ 2 เมตร ถ้าปลูกชิดรั้วมากเกินไป รากอาจดันคานหรือเสารั้วจนเสียหายได้ รวมทั้งกิ่งก้านที่ยื่นออกไปนอกรั้วก็อาจจะเป็นช่องทางให้คนร้ายไต่ข้ามรั้วเข้ามาในบริเวณบ้านได้ง่ายต้นไม้ที่มีระบบรากรุนแรงควรปลูกให้ห่างจากตัวอาคารมากกว่า 5 เมตรขึ้นไป หากต้องการร่มเงามากๆ เช่น ริมทางเดินหรือถนนในบ้าน ควรปลูกให้พุ่มใบชิดติดกัน แต่โดยปกติแล้วเรามักเลือกปลูกต้นไม้ตามความชอบและความพอใจเป็นอันดับแรก บ้างก็หวังผลได้เก็บรับประทาน บ้างก็ชอบเพราะมีกลิ่นหอมถูกใจ ดอกสวยต้องตา ซึ่งอาจแบ่งประเภทให้นำไปใช้ง่ายๆ
เลือกปลูกไม้ต้นในสวนแบบไหนดี
1 | ให้ดอกสวย มองเพลินตา : ส่วนใหญ่มักออกตามฤดูกาล ไม้ต้นบางชนิดจะผลัดใบจนเหลือแต่กิ่งก้านและดอกเต็มต้น ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ ได้แก่ ราชพฤกษ์ กัลปพฤกษ์ ศรีตรัง ตะแบก สุพรรณิการ์ ชงโค เสี้ยวดอกขาว แคแสด โสกพวง เป็นต้น
2 | ให้ดอกหอม ชวนดอมดม : ช่วยสร้างสุนทรีย์ในการเข้าไปใช้สวน ควรเลือกไม้ดอกหอมกลิ่นอ่อนๆ ปลูกไว้ใกล้บ้านได้แก่ ปีบ พะยอม บุหงาส่าหรี กรรณิการ์ พิกุล ลำดวน จำปี จำปา เป็นต้น
3 | ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สวนพื้นที่แคบ : บ้านที่มีพื้นที่จำกัดต้องระมัดระวังการเลือกใช้ต้นไม้ ไม่ควรเลือกที่มีขนาดทรงพุ่มใหญ่จนเกินไป ควรเลือกไม้ยืนต้นขนาดกลางและขนาดเล็ก เช่น ตะแบก เสลา ชงโค ปีบ ตีนเป็ดน้ำ กระดุมไม้ใบเงิน ซิลเวอร์โอ๊ก เป็นต้น
4 | ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ให้ร่มเงา : เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่กว้างๆ หรือบ้านที่มีบริเวณมากสักหน่อย ได้แก่ กระดังงาไทย กระทิง จามจุรี จิกทะเล ตาล มะตาด องุ่นทะเล หูกระจง หูกวาง มะม่วงหิมพานต์ เป็นต้น
5 | ต้นไม้ใหญ่ ไม่ผลัดใบ ใบไม่ร่วง : สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการกวาดใบไม้ตลอด ทั้งยังได้ความรู้สึกเขียวสวยตลอดปีเราแนะนำ 15 ไม้ต้นใบร่วงน้อย ได้แก่ กระทิง กันเกรา ขี้เหล็ก คอร์เดีย แคแสด จำปี จำปา ชงโค จิกน้ำ ตีนเป็ดน้ำ นนทรี น้ำเต้าต้น พิกุล มะฮอกกานี โสกพวง เป็นต้น
ร่วมสนุกรับปุ๋ยออสโมโค้ทฟรี!!
![]()
กติการับปุ๋ยโซตัส ฟรี ในโซนสวนโชว์ จำกัด 100 ชุด/วัน
1 | สแกน QR Code ในจุด สวนโชว์
2 | แชร์บทความนี้บนเฟซบุ๊คส่วนตัว ตั้งค่าสาธารณะ และติดแฮชแท็ก #บ้านและสวนแฟร์2020 #ปุ๋ยออสโมโค้ท
3 | แสดงหลังฐานการโพสต่อเจ้าหน้าที่ภายในโซน รับปุ๋ยโซตัส ไปเลย
Books Recommend
![]()
สั่งซื้อออนไลน์
![]()
สั่งซื้อออนไลน์
![]()
สั่งซื้อออนไลน์
![]()
สั่งซื้อออนไลน์