ไร่วันยังขำ สวนจามาคารู กระบองเพชรยักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

เกษตรกรสาวรุ่นใหญ่ที่มีคาเรกเตอร์ร่าเริงอารมณ์ดีและยิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งจะเห็นเธอได้ผ่านทางคลิป Reels จนทำให้ผู้คนที่ได้ชมคลิปต้องสนุกไปกับกิจกรรมภายในสวนระหว่างเธอกับ จามาคารู กระบองเพชรขนาดใหญ่ที่เธอได้ปลูกไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ที่ ไร่วันยังขำ One young kham farm จังหวัดศรีสะเกษ

จามาคารู เป็นกระบองเพชรขนาดใหญ่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cereus hildmannianus นิยมนำมาปลูกเพื่อตกแต่งสวน และผลก็สามารถนำมารับประทานได้ มีรสชาติหวานอร่อย โดยตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา คุณภา – สุภาวดี นิยมวงศ์ เป็นผู้ที่ปลูกต้นจามาคารูในสวนแห่งนี้

คุณภา – สุภาวดี นิยมวงศ์ เป็นผู้ที่ปลูกต้นจามาคารูในสวนแห่งนี้

คุณภา เล่าว่า “ปกติเราก็เลี้ยงแคคตัสเป็นกระถางเล็กๆ อยู่ในโรงเรือนก่อน แล้วลูกเขยก็ซื้อต้นจามาคารูมา เราก็ลองเอามาปลูกแบบกลางแจ้งในร่องผลไม้ เพราะมีพื้นที่ว่างอยู่เยอะมาก แล้วปรากฏว่ามันก็โตงาม มีสีบลูๆ ตัดกับสีของดินภูเขาไฟที่มีสีแดงๆ ทำให้รู้สึกถูกชะตากับต้นไม้ต้นนี้มาก ก็เลยขยายพันธุ์มาเรื่อยๆ”

จากความชอบสู่การสร้างรายได้ หลังจากนั้นเธอได้ลองนำต้นจามาคารูที่ปลูกและขยายพันธุ์เอาไว้เป็นระยะเวลา 1 ปี มาลองจำหน่ายผ่านกลุ่มเฟสบุ๊กสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกระบองเพชร ก็พบว่าสามารถจำหน่ายได้ พร้อมกับสมาชิกภายในครอบครัวเห็นตรงกันว่า เธอชอบถ่ายรูปเล่นกับต้นจามาคารู จึงได้เปิดเพจเฟสบุ๊กให้เธอได้ลองจำหน่าย“

“แม่ภาเป็นคนที่ชอบเล่นชอบถ่ายรูปลงในเฟสบุ๊กอยู่แล้ว เด็กๆ ก็เลยเพิ่มสนามเล่นให้แม่ ทำเป็นเพจเฟสบุ๊กเอาไว้ แม่ภาก็เลยถ่ายรูปเล่น ถ่ายรูปโชว์ สักพักมีคนสนใจอยากซื้อ ก็เลยลองไลฟ์ขาย ทีนี้มันก็ขายจริงๆ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นธุรกิจที่โตมาได้ขนาดนี้”

ซึ่งการที่จะจำหน่ายต้นจามาคารูได้ต้องมีวิธีการดูแลให้ต้นแข็งแรง การขยายพันธุ์ให้พร้อมสำหรับจำหน่าย รวมถึงการผสมเกสร ดังนั้นเรามาเรียนรู้เรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับต้นจามาคารูผ่านการเล่าเรื่องของคุณภากันดีกว่า

จามาคารู

ความหลงใหลใน จามาคารู

“แม่ภาเริ่มต้นจากความชอบ พอชอบก็ปลูกไปเรื่อยๆ มันรู้สึกมีความสุขมากที่ได้ดูมันทุกวัน อยากกอดมันทุกวันจริงๆ นะ มันมีความสุขที่เราได้ปลูกได้ชื่นชม ตื่นขึ้นมาทุกเช้าแม่ภาก็จะต้องถือโทรศัพท์ออกไปถ่ายรูป ลัลล้าอยู่คนเดียว ใครจะไปไหนก็ไป ขอไปเก็บภาพจามาคารูก่อน แล้วค่อยกลับมาทำกับข้าวอะไรพวกนี้”

“ยิ่งพอปลูกกับดินภูเขาไฟสีมันสวยมาก มันดูผ่องและสีออกบลูๆ ตัดกับสีของดินที่แดงๆ สวยจนเราหลงใหล ทำไมมันงามผิดปกติ เราไม่เคยเห็นต้นไม้ต้นนี้กันมาก่อน ทีนี้ก็ชอบกันทั้งบ้านเลย ปลูกเต็มไปหมดเลย”

จามาคารู

ไร่วันยังขำ สวน จามาคารู

“ไร่วันยังขำ เริ่มต้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว แบ่งเป็น พื้นที่บ้าน 2 ไร่ ทุเรียน 30 ไร่ มังคุด 2 ไร่ เงาะ 2 ไร่ ลำไย 2 ไร่ ส่วนจามาคารูก็นำไปปลูกในร่องของทุเรียนและมังคุดอีกประมาณ 5-6 ไร่ ส่วนตอนที่เริ่มทำเพจ เด็กๆ เขาบอกว่าแม่จะต้องตั้งชื่อไร่นะ ซึ่งจริงๆ แล้วเจ้าของไร่ตัวจริงคือ คุณย่าวัน แล้วทีนี้แม่ภาทำสวนของย่าตอนที่ย่ายังมีความสุขมีเสียงหัวเราะ ก็เลยตั้งชื่อว่า ไร่วันยังขำ นี่แหละเพราะย่าวันยังมีความสุขยังหัวเราะได้แบบนี้”

จามาคารู

ลักษณะหนามของต้น จามาคารู

จามาคารูมี 2 แบบ แบบแรกคือจามาคารูทั่วไปซึ่งจะมีหนาม มีชื่อวิทยาศาสสตร์ว่า Cereus jamacaru แต่จามาคารูที่ปลูกที่ไร่วันยังขำจะเป็นจามาคารูหนามกุด มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cereus hildmannianus แต่ด้วยลักษณะภาพนอกที่คล้ายกันคนเลยเรียกวันว่า จามาคารูหนามกุด ซึ่งยังมีหนามอยู่แต่หนามสั้นมากๆ เหมือนแทบจะไม่มีหนามเลย 

จามาคารู

ประโยชน์ของ จามาคารู

ต้นจามาคารูนิยมนำไปจัดสวนเป็นหลัก มีหลากหลายรูปแบบทั้งลำต้นเดี่ยวหรือลำต้นแบบเป็นกอก็มีเช่นกัน ที่สำคัญยังสามารถเจริญเติบโตได้ไว จากหน่อที่ตัดมาขยายพันธุ์ใช้เวลาปลูก 1 ปี สามารถเจริญเติบโตสูงได้ถึง 2 เมตร ซึ่งจะให้เจริญเติบได้เร็วแบบนี้ต้องปลูกลงดิน รวมถึงสามารถเป็นต้นตอสำหรับเสียบยอดกระบองเพชรได้ และไม่มีปัญหาเพลี้ยหอยศัตรูพืชคู่ปรับของกระบองเพชรในกลุ่มของไม้ลำอีกด้วย 

จามาคารู

การดูแลต้นจามาคารู

“ในช่วงแรกที่ปลูกสัปดาห์แรกยังไม่ต้องรดน้ำ ปลูกไปทั้งที่ดินยังแห้งๆ แบบนั้นเลย หลังจากนั้นก็ให้น้ำน้อยๆ ไม่ถึงขั้นเปียก ก็ให้สังเกตบริเวณยอดจะสังเกตเห็นการเจริญเติบโตแสดงว่ารากเดินดีแล้ว ก็ให้รดน้ำเพิ่มได้ โดยจะรดน้ำทุกครั้งที่ดินแห้งเท่านั้น ที่ต้องระวังคือให้สังเกตบริเวณโคนถ้าเป็นดำๆ ช้ำๆ แสดงว่าเน่าให้รีบถอนขึ้นมาแล้วใช้มีดตัดส่วนที่เน่าออกจนหมด แล้วทาปูน ผึ่งไว้จนแผลแห้ง”

ส่วนเรื่องแสงแดดจามาคารูชอบแสงแดดเต็มวัน หรืออย่างน้อยต้องโดนแสงแดดครึ่งวัน การบำรุงใช้มูลไส้เดือนคู่กับปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 ใส่เป็นประจำทุกเดือน ให้ห่างจากต้นประมาณ 1 ศอก เคล็ดลับความงาม คือต้องทำแปลงให้สะอาดอย่าปล่อยให้หญ้าขึ้น เพราะจะมีพวกหอยและหนอนที่อาศัยในหญ้ามาแทะกัดกินยอดอ่อนทำให้ผิวเสียมีตำหนิไม่สวย โดยเฉพาะในหน้าฝน

จามาคารู
ที่ไร่วันยังขำจะให้น้ำกับต้นจามาคารูผ่านระบบน้ำสปริงเกลอร์เพื่อช่วยประหยัดเวลาในการให้น้ำ
จามาคารู

การขยายพันธุ์ต้นจามาคารู

การเลือกหน่อที่จะนำไปปลูกต่อ ให้เลือกหน่อที่แข็งแรงมีขนาดประมาณ 30 ซม. แล้วใช้มีดตัดมาขยายพันธุ์ได้ ส่วนต้นที่มีขนาดเล็กกว่านั้นจะโตช้าในช่วงแรก “เริ่มจากตัดหน่อแล้วใช้มีดตัดทาปูนวางไว้ในที่ร่ม 3-4 วัน พอไปถึงลูกค้าก็จะประมาณ 1 สัปดาห์แผลก็แห้งพอดี ให้ปลูกลงในดินที่ร่วนซุยระบายน้ำระบายอากาศได้ดี”

จามาคารูมีราคาขายเริ่มต้นที่ 50 บาท ขนาดประมาณ 10-12 ซม. ไปจนถึงขนาด 1.5 เมตร เป็นลำต้นเดี่ยว ราคาประมาณ 1,500 บาท มีค่าส่งเหมาๆ 50 บาท เพื่อความสะดวกของลูกค้า

จามาคารู

“ถ้าจะให้โตแล้วงามแม่ภาก็จะแนะนำให้เขาใช้สูตรดินตามนี้ ส่วนผสมดินได้แก่ ดินภูเขาไฟ 1 ส่วน ดินมูลไส้เดือน 1 ส่วน ขุยมะพร้าว 1 ส่วน ทราย 0.5 ส่วน แม่ภาก็จะใช้แบบนี้ทุกกระถาง หรือถ้าจะปลูกลงดินบริเวณนั้นน้ำต้องไม่ท่วมขัง น้ำไม่แฉะในฤดูฝน หรือจะยกโคกด้วยก็ได้”

ลักษณะของดินภูเขาไฟมีความร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี และมีสีแดง เหมาะสำหรับปลูกต้นจามาคารูได้เป็นอย่างดี

ผสมเกสรดอกจามาคารู

ช่วงเวลาผสมเกสรจะเป็นช่วงเช้า โดยใช้ดอกจากต้นจามาคารูเขียวในการผสมเกสร เนื่องจากจามาคารูในสวนคุณภาเป็นต้นที่เกิดจากหน่อเดียวกันทำให้ผสมไม่ติด จึงต้องมีอีกต้นหนึ่งเข้ามาช่วยในการผสมเกสรเพื่อให้ติดผล โดยใช้เกสรตัวผู้ของจามาคารูเขียวมาผสมกับจามาคารูหนามกุดที่มีอยู่

“การผสมเกสรเริ่มจากใช้มีดปาดกลีบดอกและเกสรตัวผู้ของจามาคารูหนามกุดทิ้งออกให้เหลือแค่เกสรตัวเมีย แล้วนำดอกเกสรตัวผู้ของจามาคารูเขียวมาผสม หลังจากผสมเกสรแล้วใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ผลจะสุกพร้อมเก็บเกี่ยว”

ดอกของต้นจามาคารูบานสะพรั่งสวยงามเลยทีเดียว
ผลที่ผสมเกสรติดบริเวณโคนดอกจะเริ่มขยายใหญ่ขึ้นและกลีบดอกจะเหี่ยวร่วงหล่นไป จนระยะเวลาผ่านไป 2 เดือน
ผลจามาคารูที่สุกจะมีสีแดงอมส้ม เพียงเท่านี้ก็พร้อมนำไปรับประทานแล้ว
เนื้อด้านในของผลจามาคารู มีเนื้อสัมผัสร่วนซุย สีขาวขุ่น รสชาติหวานช่ำ

ผลจามาคารู

นอกจากที่ต้นจะสามารถนำมาตกแต่งเพื่อความสวยงามได้แล้ว ผลของต้นจามาคารูก็สามารถนำไปรับประทานได้ด้วย เวลาที่ลูกค้ามาชมที่สวน คุณภาก็จะให้ลูกค้าได้เก็บทานเอง บางครั้งลูกค้าอยากซื้อแต่ไม่พร้อมจำหน่ายเพราะมีจำนวนจำกัด เนื่องจากต้นจามาคารูจะออกดอกช่วงเดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายนทำให้ผลมีจำนวนจำกัด โดยผลจามาคารูน้ำหนัก 1 กิโลกรัมจะได้ประมาณ 7-8 ผล

“รสชาติของผลจามาคารู มีเนื้อสัมผัสร่วนซุย สีขาวขุ่นเล็กน้อย พอทานเข้าไปแล้วจะละลายในปาก มีรสชาติหวานช่ำ จะให้อร่อยต้องเก็บตอนเช้าและเก็บลูกที่แตกจะอร่อยที่สุด ส่วนเมล็ดที่ได้จากผลที่ผสมเองในสวน แม่ภาเคยลองเพาะแล้วปีที่แล้ว แต่มันกลายพันธุ์แล้วมีหนามแม่ภาว่ามันไม่โอเค แม่ภาไม่ค่อยชอบก็เลยจะไม่ค่อยเพาะเมล็ด แล้วมันก็โตช้า” 

ทุ่งของต้นเขากวางออสเตเรียที่คุณภาปลูกเอาไว้

“ตอนแรกเราก็มีจามาคารูอย่างเดียว แต่พอเราเห็นต้นสวยๆ เราก็อยากได้ ทีนี้พอแม่ภาขายต้นไม้ได้แม่ก็จะแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปซื้อสายพันธุ์ใหม่ๆ เข้าสวน แล้วก็จะมาขยายพันธุ์ ตอนนี้ก็เริ่มมีเขากวางออสเตเรีย อากาเว่ โอพันเทียคอนโซเล่ ยุคคา ตอเกลียวสว่าน”

“นอกจากลูกค้าที่มาจะได้เก็บผลจามาคารูทานเองแล้ว เวลามีเงาะ ลำไย ก็ให้เข้าไปเก็บทานเองไม่คิดเงิน เพราะอยากให้คนที่มาได้กินสดๆ จากต้น เขาก็จะได้ความสุขกลับไป แม่ภาก็มีความสุขที่ได้แบ่งให้เพื่อนๆ สนุกอะ” 

“แม่ภาไม่ได้แสดงนะ มันสนุกจริงๆ เวลาไม่มีใครมา ก็สนุกกับย่าวัน 2 คน แม่ภาชอบทำอะไรที่มันสนุก ชีวิตเรามันสั้นนิดเดียว อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะถ้ามันไม่เดือนร้อน แล้วก็มีความสุขมากที่ชีวิตเราสามารถส่งความสุขไปหาคนอื่นได้ แม่ภารู้สึกแบบนั้นจริงๆ ดีใจจริงๆ อยากทำอะไรก็ทำไปเลย ไม่ต้องกลัวว่าความฝันเรามันจะใหญ่เกินไปหรือว่ามันจะเป็นไปได้หรอ แค่เราลงมือทำ แล้วเราก็จะรู้ว่าความฝันที่เราฝันเป็นจริงได้สักวันหนึ่ง”

เรื่อง : กิตตินัย อัศวเลิศลักษณ์

ภาพ : สมควร บุญขาว