เปิดเส้นทางไม้ดอกไม้ประดับไทยสู่เวทีโลก โดย มาลัยวิทยสถาน

“ไม้ดอกไม้ประดับ” เป็นสิ่งสวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้นเพื่อดึงดูดสิ่งมีชีวิตต่างๆ ให้มาใกล้ชิดรวมถึงผู้คนที่ชื่นชอบในสีสัน กลิ่น รูปร่าง เพียงได้มองก็ทำให้รู้สึกดี

ไม้ดอกไม้ประดับ จึงนิยมใช้อย่างแพร่หลายทั้งใช้ตกแต่งสถานที่ เป็นของขวัญในโอกาสพิเศษ ใช้เป็นสื่อกลางในการสื่อความหมาย ซึ่งแหล่งผลิตไม้ดอกไม้ประดับที่สำคัญในไทย ส่วนหนึ่งถูกปลูกโดยกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกไม้ดอกไม้ประดับในจังหวัดเลย

มาลัยวิทยสถาน
พี่อ๋อง พิเชษฐ์ อุทธังชายา เกษตรกรผู้ปลูกลิเซียนทัส
แม่อ้อน เสถียร ธัญญารักษ์ เกษตรกรผู้ปลูกต้นคริสต์มาส

พี่อ๋อง พิเชษฐ์ อุทธังชายา สวนอุทยานไม้ดอก อ.ภูเรือ จ.เลย หนึ่งในเกษตรกรผู้ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ
ลิเซียนทัส เบญจมาศ เก๊กฮวย ที่ได้รับการส่งเสริมในการนำสายพันธุ์ใหม่ๆ ซึ่งตรงต่อความต้องการของตลาดมาทดลองปลูกในพื้นที่ อ.ภูเรือ จังหวัดเลย เช่นเดียวกับ แม่อ้อน เสถียร ธัญญารักษ์ แปลงใหญ่ไม้ดอกไม้ประดับ เกษตรกรผู้ปลูกต้นคริสต์มาส ที่ได้รับการส่งเสริมพัฒนากระบวนการปรับปรุงวัสดุเพาะชำปลอดโรคสำหรับต้นคริสต์มาส ช่วยให้ต้นกล้าคริสต์มาสมีอัตราการรอดสูง เจริญเติบโตดี และเพิ่มปริมาณต้นพันธุ์ได้มากกว่าอดีต เกษตรกรทั้ง 2 รายได้ล้วนรับการสนับสนุนจาก โครงการมาลัยวิทยสถาน  

ดร.อนันต์ พิริยะภัทรกิจ จากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) หัวหน้าโครงการ มาลัยวิทยสถาน

โครงการ มาลัยวิทยสถาน เป็นโครงการฯ เพื่อพัฒนาการผลิตไม้ดอกไม้ประดับกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดเลยและจังหวัดลำปาง ให้เป็นพื้นที่ต้นแบบโดยนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงสร้างเครือข่ายกับภาครัฐ เอกชนและนานาชาติ เพื่อขยายผลไปที่อื่นๆ ทั่วประเทศ โดยมี ดร.อนันต์ พิริยะภัทรกิจ จากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เป็นหัวหน้าโครงการฯ ซึ่งได้รับงบประมาณการสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

ปัจจุบันแบ่งกิจกรรมในการส่งเสริมการปลูกไม้ดอกไม้ประดับออกเป็น 4 กิจกรรมย่อย ได้ดังนี้ 

  1. เว็บไซต์จัดเก็บข้อมูลเกษตรกรเพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์เป็นแพลตฟอร์มที่ให้ผู้บริโภคสามารถซื้อออนไลน์ได้โดยตรง การคัดเลือกสายพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับที่ตรงต่อความต้องการของตลาด พัฒนาองค์ความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่เกษตรกร
  2. ผลิตและขยายพันธุ์พันธุ์ปลอดโรคจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อสำหรับให้เกษตรกรผลิตเป็นแม่พันธุ์ พัฒนาวัสดุปลูกโดยใช้เครื่องอบไอน้ำกำจัดโรค พัฒนาภาชนะปลูกควบคุมการปลดปล่อยธาตุอาหารพืชและกระถางเพาะชำย่อยสลายได้จากเศษวัสดุจากธรรมชาติที่มาจากการปลูกไม้ดอกไม้ประดับ
  3. คู่มือการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืช การติดตั้งอุปกรณ์ Smart Farming
  4. การพัฒนาเทคโนโลยีการเก็บเกี่ยว ฮอร์โมนพืชสำหรับการยืดอายุไม้ดอกไม้ประดับเพื่อใช้ในการขนส่ง
    การพัฒนาบรรจุภัณฑ์สำหรับการขนส่งให้ผู้บริโภค
ดอกลิเซียนทัส

จากการส่งเสริมกิจกรรมย่อยของโครงการฯ ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ ซึ่ง พี่อ๋อง เกษตรกรรุ่นใหญ่ที่ได้รับการส่งเสริมปลูกลิเซีนยทัสกับโครงการฯ เล่าว่า “ทางโครงการได้เข้ามาส่งเสริมตั้งแต่ปีที่แล้ว (พ.ศ. 2564) ซึ่งตอนนั้นต้องใช้เวลาในการปรับตัวสักพัก แต่พอมาปีนี้อะไรต่างๆ เริ่มเข้าที่เข้าทางผลตอบรับจากลูกค้าดีขึ้น ลูกค้าเห็นว่า อ.ภูเรือ ของเรามีไม้ดอกสายพันธุ์ใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ลูกค้าก็ให้ความสนใจมากขึ้นเลยติดต่อผ่านเพจเข้ามาอยากซื้อ อยากเดินทางมาเยี่ยมที่สวน”

ต้นคริสต์มาส

แม่อ้อน เกษตรกรที่ใช้วัสดุปลอดโรคในการปักชำต้นคริสต์มาส กับโครงการ ฯ เล่าว่า “แต่ก่อนการปักชำต้นคริสต์มาสกิ่งชำมักเน่าตาย แต่ปีนี้เมื่อนำกระบวนการพัฒนาวัสดุเพาะกล้าแบบปลอดโรค กับโครงการ
มาลัยวิทยสถานมาใช้ทำให้เปอร์เซ็นต์การรอดชีวิตของต้นกล้ามากขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง มีต้นกล้ามาปลูกเลี้ยงเพื่อส่งจำหน่ายมากขึ้น นอกจากนี้ต้นกล้ายังเจริญเติบโตดี และแข็งแรง ช่วยสร้างรายได้ให้กับกลุ่มและชุมชนมากขึ้น สิ่งเหล่านี้นับว่าเป็นผลสำเร็จที่ได้จากการเข้าร่วมงานโครงการ มาลัยวิทยสถานเป็นอย่างยิ่ง”

ดร.อนันต์ กับเครือข่ายนานาชาติเยี่ยมชมแปลงเกษตรในโครงการ มาลัยวิทยสถาน

นอกจากที่ได้ส่งเสริมความรู้และเทคนิคต่างๆ ให้กับเกษตรกร ทางโครงการฯเห็นว่าในธุรกิจไม้ดอกไม้ประดับนั้นมีการนำเข้าส่งออกปัจจัยการผลิตกับต่างประเทศอยู่เป็นประจำ ทั้งวัสดุอุปกรณ์ แม่พันธุ์จากต่างประเทศ ทำให้มีความตั้งใจที่จะสร้างเครือข่ายนานาชาติเพื่อเป็นประโยชน์แก่เกษตรกร ดังนั้น จึงได้มีการจัดอบรมในการพัฒนาไม้ดอกไม้ประดับกับเครือข่ายนานาชาติ โดยมีหัวข้อในการบรรยายที่น่าสนใจทั้งจากเนเธอแลนด์และญี่ปุ่น เช่น ภาพรวมไม้ดอกไม้ประดับในประเทศเนเธอร์แลนด์ , แนวทางการพัฒนาไม้ดอกไม้ประดับในเมืองไทย, ธุรกิจไม้ดอกไม้ประดับในตลาดโลก และการรักษาคุณภาพไม้ดอกไม้ประดับหลังการเก็บเกี่ยว

พี่บุญคอง สายคำตั้ง (ขวา) เกษตรกรผู้ปลูกกุหลาบตัดดอก

พี่บุญคอง สายคำตั้ง เกษตรกรผู้เข้าร่วมสัมนาและเป็นผู้ผลิตกุหลาบตัดดอก ได้รับการส่งเสริมการพัฒนาบรรจุภัณฑ์และน้ำยายืดอายุของดอกกุหลาบเพื่อให้คงทนต่อการขนส่ง พี่บุญคองเล่าว่า “จากการทดสอบส่งกุหลาบตัดดอกไปให้ลูกค้า ปรากฏว่าหลังจากที่ลูกค้าได้รับดอกกุหลาบสามารถอยู่ได้ประมาณ 7 วัน ลูกค้าชื่นชอบเป็นอย่างมากและปีหน้าในเทศกาลวาเลนไทน์ก็จะส่งดอกกุหลาบตัดสดให้ลูกค้า ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกซื้อกุหลาบจากเราได้โดยตรง”

การจัดอบรม โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัย
และนวัตกรรมเพื่อกลุ่มไม้ดอกไม้ประดับและเครือข่ายนานาชาติ ตามแนวทาง มาลัยวิทยสถาน

การจัดอบรมช่วยให้เกษตรกรมองเห็นภาพรวมของตลาดไม้ดอกไม้ประดับมากขึ้น ได้เรียนรู้เทคนิคและนวัตกรรมจากประเทศต้นแบบเพื่อนำมาต่อยอดในการผลิตนอกจากนี้มีการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการกับเกษตรกรกลุ่มไม้ดอกไม้ประดับจากทั่วประเทศเพื่อให้เกิดการซื้อขายระหว่างกันโดยตรง

ทั้งนี้ทางโครงการ มาลัยวิทยาสถาน ผลักดันและสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับที่ตลาดต้องการ ส่งเสริมความรู้และเทคนิคการปลูกพืชให้มีประสิทธิภาพเพื่อลดการสูญเสียจากโรคศัตรูพืช พัฒนาบรรจุภัณฑ์และน้ำยายืดอายุสามารถจัดส่งถึงผู้บริโภคได้โดยตรงเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงสร้างเครือข่ายเกษตรกรกับผู้ประกอบการเพื่อสร้างตลาดรองรับผลผลิต พร้อมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

เกษตรกรผู้ที่ปลูกไม้ดอกไม้ประดับสามารถเข้าร่วมโครงการ มาลัยวิทยสถาน เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ สินค้า และวิธีการ หรือกลุ่มผู้ประกอบการที่ใช้ไม้ดอกไม้ประดับในการตกแต่งภูมิทัศน์ สามารถติดต่อผ่านเบอร์โทร 0-2577-9018 อีเมลล์ [email protected] หรือ เว็บไซต์มาลัยวิทยสถาน

เรื่อง : กิตตินัย อัศวเลิศลักษณ์

ภาพ : อภิรักษ์ สุขสัย


10 ดอกไม้กินได้ เพิ่มสีสันให้กับจานอาหารของคุณ

ใส่ปุ๋ยต้นไม้อย่างไรให้ถูกวิธี ไม้ดอกไม้ประดับเติบโตงามดีและไม่ทำร้ายดิน