รวมไอเดียจัดสวนแบบประหยัดและใช้งบน้อยลงกว่าที่ต้องจ่าย

ช่วงนี้จะจับจ่ายใช้สอยเงินก็อาจต้องคิดแล้วคิดอีก อะไรประหยัดได้ต้องประหยัด แต่ครั้นจะปล่อยให้สวนรกไม่สวยงามก็ดูใช่เรื่อง อย่างไรเสียคนเราก็ยังต้องการพื้นที่สวนสำหรับพักผ่อนหย่อนใจได้ออกไปสัมผัสธรรมชาติกันบ้าง เราจึงขอรวบรวมไอเดียทั้งการจัดสวนและดูแลสวนแบบที่ไม่ต้องเสียเงินหรือประหยัดเงินในกระเป๋าคุณไปได้มากทีเดียว จะมีไอเดียจัดสวนแบบประหยัดอะไรบ้าง มาดูกัน

แทนที่จะถมดินให้มีระดับเรียบเสมอกันจนเต็มพื้นที่ เราสามารถขุดดินในพื้นที่เพื่อไปถมในส่วนที่ต้องการได้ และใช้ประโยชน์จากระดับที่สูงต่ำไม่เท่ากันให้เกิดเป็นภูมิทัศน์ทีสวยงามอย่างสระนํ้าธรรมชาติ ทั้งยังช่วยด้านการระบายนํ้าอีกด้วย
บริเวณภูเขาที่มีความชันเหมาะกับการปรับระดับพื้นที่ให้ลาดเป็นช่วงๆแบบขั้นบันได โดยกำหนดระดับที่ต้องการ ส่วนมากคือตรงกลางระหว่างระดับพื้นลาดด้านบนกับด้านล่าง แล้วขุดด้านบนไปถมระดับที่ต่ำกว่าจนเป็นที่ลาดที่กว้างตามต้องการ
ปรับระดับที่ดินด้วยดินลูกรังที่ราคาไม่แพงให้มีระดับเท่ากับพื้นถนนจนราบเสมอกันก็เพียงพอ ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์จากที่ดินได้เต็มที่และทำให้สวนดูกว้างขึ้น

ดินเราเองก็มีไม่ต้องซื้อ

เงินก้อนใหญ่สําหรับการจัดสวนส่วนหนึ่งหมดไปกับการซื้อดินจากที่อื่นมาถมปรับระดับพื้นที่ หากสวนมีขนาดเล็กหรือเป็นพื้นที่ที่จัดสรรเอาไว้แล้วก็อาจเสียเงินในส่วนนี้ไม่มาก เพราะส่วนใหญ่จะได้ระดับอยู่แล้วและไม่มีความจําเป็นต้องปรับระดับเพิ่ม แต่หากคุณมีพื้นที่ขนาดใหญ่ รับรองว่างบบานปลายแน่นอน ดังนั้นจึงควรสํารวจพื้นที่แล้วใช้วิธีวางผังสวนให้มีระดับสูงตํ่าตามการใช้งานจริง แล้วตักดินในพื้นที่ไปถมในส่วนที่ต้องการ โดยกําหนดระยะความสูงของพื้นที่สวน ส่วนมากจะอ้างอิงจากระดับถนนและพื้นที่สาธารณะด้านข้าง ซึ่งมักออกแบบให้พื้นที่ของเรามีระดับสูงกว่าพื้นที่สาธารณะอีกเล็กน้อยตั้งแต่ 0.15-1 เมตร จากนั้นขุดดินในบริเวณที่สูงกว่าระดับที่เราต้องการเพื่อมาถมให้สูงขึ้นจากเดิม หากพื้นที่มีความชันมากอาจต้องปรับระดับให้มีลักษณะเป็นขั้นบันได คือมีพื้นที่ที่ได้ระดับแบบสมํ่าเสมอเป็นช่วงๆ เพื่อไม่ให้ระดับความสูงต่าของพื้นที่ชันเกินไปจนอาจมีปัญหา ํ เรื่องการกัดเซาะ ดินไม่อยู่ตัวและถล่มได้ แต่หากระดับพื้นที่ของเราไม่มีบริเวณที่สูงกว่า อาจเลือกใช้การขุดบ่อและนําดินมาถมในบริเวณที่ต้องการใช้งาน ก็จะช่วยประหยัดค่าดินที่ต้องถมเพิ่มไปได้มาก อีกทั้งยังทําให้มีทิศทางระบายนํ้าที่ชัดเจนและมีบ่อนํ้าสําหรับใช้ประโยชน์ได้

ลังไม้สำหรับเก็บเศษใบไม้ขนาดเล็กในสวนวางซ่อนอยู่ใต้โต๊ะวางกระถางต้นไม้ได้อย่างลงตัว ไม่เสียพื้นที่ในการใช้งาน
ปุ๋ยหมักจากเศษใบไม้ที่มีสภาพพร้อมใช้งานสามารถนำไปรองก้นหลุมหรือโรยรอบโคนต้นแล้วพรวนดินให้คลุกเคล้ากัน สามารถใช้ได้ไม่จำกัดช่วยปรับโครงสร้างของดินให้ร่วนซุย
สามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับสูตรการทำปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์ด้วยวิธีง่ายๆจากขยะในชีวิตประจำาวันได้ใน หนังสือปุ๋ยอินทรีย์ ฉบับปรับปรุง) โดยสำนักพิมพ์บ้านและสวน สั่งซื้อคลิกที่นี่

ทําปุ๋ยใช้เอง

อย่าเพิ่งมองข้ามข้อนี้ไป เพราะทุกวันเราสามารถทำปุ๋ยหมักที่ช่วยบำรุงดินและเพิ่มสารอาหารให้ต้นไม้ในสวนได้แบบคนขี้เกียจที่ไม่ต้องทำอะไรเลย โดยขอยกตัวอย่างสูตรและวิธีการทำปุ๋ยหมักมา2 แบบ

คือปุ๋ยหมักจากเศษอาหารที่เหลือจากการกินในทุกวันทําได้โดยเตรียมถังพลาสติกเจาะรูรอบถังเพื่อระบายอากาศ จากนั้นก็นําเศษอาหารที่เหลือจากการบริโภคมาใส่ถังทุกวัน แล้วใช้ไม้คลุกเคล้าส่วนผสมวันละ 1-2 ครั้ง หากแห้งเกินไปให้พรมนํ้าไปด้วยแล้วปิดฝา หนึ่งเดือนต่อมาให้ลดการพรมนํ้าจนปุ๋ยแห้งสนิท ทิ้งไว้จนปุ๋ยหมักภายในกลายเป็นสีดําคลํ้าและเปื่อยยุ่ยจนมีขนาดเล็กลง นํ้าหนักเบา และไม่มีกลิ่นเหม็นเป็นอันใช้ได้

ปุ๋ยหมักจากเศษใบไม้หรือกิ่งไม้ที่ร่วงหรือทิ้งจากการตัดแต่งทําได้โดยเตรียมตะกร้าพลาสติกสําหรับทิ้งเศษใบไม้หรือกิ่งไม้ขนาดเล็ก ทุก 10 วัน นําสายยางมาเสียบลงไปในกองเศษใบไม้แนวดิ่งให้ลึกลงไปประมาณ 2 ใน 3 ของขนาดความสูงตะกร้าเพื่อเติมนํ้าด้านใน 2 เดือนต่อมาเทตะกร้า นําปุ๋ยออกมาใส่ถุงและแยกใบไม้ที่มีขนาดใหญ่บางส่วนที่ยังไม่ย่อยสลายเก็บไว้ใช้หมักในรอบถัดไป เท่านี้เราก็ได้ปุ๋ยสําหรับดูแลสวนและดินแบบที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อ

เมล็ดฝักแก่ของปอเทืองที่ปลูกไม่หมดให้ผึ่งแดดไว้สัก 3-4 แดด นํามาแขวนไว้ในที่ร่ม อากาศถ่ายเทสะดวก เก็บไว้ได้มากกว่า 1 ปี
ถาดสำหรับเพาะกล้าจากเมล็ดปลูกที่มีขนาดเล็กจะได้ปริมาณต้นที่แม่นยำกว่าการหว่านไปในสวนโดยตรง และใช้เมล็ดในการปลูกน้อยกว่ามากแต่อัตราการเจริญเติบโตเป็นต้นกล้าสูงขึ้น ซึ่งอาจเสียเวลาในการเตรียมและนำกล้าไปปลูกในสวนอีกทีหนึ่ง
บานไม่รู้โรย ไม้ล้มลุกโตเร็ว มีดอกหลายสี เช่น ขาว ชมพู แดง และม่วง ที่ดอกแก่หรือกลีบด้านล่างจะมีผลแห้งเป็นกระเปาะรูปไข่ สามารถเก็บเพื่อนำมาปลูกเป็นต้นใหม่ได้

เพาะเมล็ดจนเป็นกล้าก่อนปลูก

ในทุกที่ที่คุณเดินทางผ่าน อาจแวะเก็บเมล็ดพันธุ์ต้นไม้ที่ชื่นชอบเพื่อนํามาขยายพันธุ์ได้เสมอ โดยไม่ต้องไปหาซื้อต้นไม้ชนิดนั้นมาปลูกซึ่งเมล็ดพันธุ์ที่เราเก็บมาสามารถนําไปใส่ในภาชนะที่แห้งไม่ให้ถูกแดดหรือฝน หรือหากไม่มีที่เก็บก็สามารถเก็บได้ในตู้เย็นนานไม่เกิน 4 เดือน เพื่อรอวันที่จะนํามาปลูกได้

การเพาะกล้าแทนการหว่านเมล็ดลงไปในดินช่วยเพิ่มอัตราส่วนของการงอกของเมล็ดได้มากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังช่วยให้สามารถปลูกต้นไม้ในตําแหน่งที่ต้องการได้โดยตรงหรือมีระยะห่างที่เหมาะสมในการเติบโตของแต่ละต้น ต่างจากการหว่านที่ต้นไม้จะขึ้นได้น้อยและเติบโตแบบสะเปะสะปะ ดังนั้นก่อนปลูกเราควรนําเมล็ดมาเพาะเป็นกล้าในถาดเพาะเมล็ดหรือภาชนะมีรู สูงประมาณ 8-10 เซนติเมตร ใช้วัสดุปลูกตามสะดวก ได้แก่ ขุยมะพร้าว พีทมอส และปุ๋ยหมัก (ที่ผ่านการกรองเป็นผงขนาดเล็ก) จากนั้นใช้ไม้ขีดเป็นร่องๆให้ห่างประมาณ 3 – 5 เซนติเมตร ความลึกของร่องอยู่ที่ 0.3-0.5 เซนติเมตร หรือลึกประมาณ 3 เท่าของขนาดเมล็ด จากนั้นใส่เมล็ดลงไปในร่องแล้วกลบดินบางๆ อาจนํากระดาษหนังสือพิมพ์มาปิดทับ พร้อมรดนํ้าให้ชุ่มในระยะแรกก่อนก็ได้ หมั่นรดนํ้าและอย่าให้วัสดุเพาะกล้าแห้ง วางไว้ในที่ร่ม พอต้นกล้าอายุได้ประมาณ 20 วันจึงย้ายปลูกลงแปลงหรือกระถางที่เตรียมไว้ต่อไป

ไผ่ฟิลิปปินส์เมื่อเติบโตเต็มที่จะออกกิ่งก้านและแตกหน่อจนเต็มกระถาง เราสามารถตัดบางกิ่งที่อาจไม่สวยหรือดูรกเกินไปมาใส่แจกันใสบรรจุนํ้าตั้งประดับในบ้านได้ ไม่นานก็จะแตกรากออกมาและสามารถปลูกใหม่ได้
หากต้นไม้ที่ต้องการปักชําเป็นไม้ที่เนื้อค่อนข้างแข็ง (สังเกตว่าสามารถลอกเปลือกได้)ให้กรีดเป็นรอยแผลตรงๆ ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร สัก 3-4 รอย เพื่อเพิ่มพื้นที่การแตกรากให้มากขึ้น

ตัดแล้วปักชํา

การขยายพันธุ์ต้นไม้ด้วยการปักชําเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเพิ่มจํานวนไม้ประดับของคุณและประหยัดเงินด้วย โดยเฉพาะพรรณไม้ที่มีลําต้นหรือกิ่งอ่อนอวบนํ้ามักแตกรากตามข้อได้ง่าย หลังจากตัดแต่งต้นไม้ในสวนที่เราต้องทําเป็นประจําอยู่แล้ว โดยตัดกิ่งใต้ข้อที่มีลักษณะกึ่งแก่กึ่งอ่อนที่แข็งแรงไม่มีโรคและแมลงให้มีความยาว 8-20 เซนติเมตร และตัดใต้ข้อให้เฉียงประมาณ 45 องศา เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการแตกราก จากนั้นรูดใบด้านล่างออกให้เหลือใบที่ปลายยอดประมาณ 3 – 4 ใบเพื่อลดการคายนํ้า ไม่ควรใช้กิ่งที่อ่อนเกินไปเพราะเน่าได้ง่าย ส่วนกิ่งที่แก่เกินไปมักออกรากได้ยาก

หากต้องการปักชําในนํ้าต้องใช้นํ้าสะอาดที่ไม่มีตะไคร่นํ้า ไม่ขุ่นหรือมีสิ่งเจือปน ปริมาณนํ้าที่ใช้ไม่ควรสูงกว่าปลายกิ่งประมาณ 3-5 เซนติเมตร สําหรับนํ้าประปาควรพักนํ้าไว้อย่างน้อย 1 คืนเพื่อให้คลอรีนในนํ้าระเหยไปให้หมดเสียก่อน หลังจากนั้นหาภาชนะใสที่สะอาดมาใส่นํ้าและกิ่งที่ปักชํา หากปักชําลงในวัสดุควรให้ลึกประมาณ 1 – 3 ของความยาวกิ่ง วัสดุปักชําที่นิยมใช้ ได้แก่ ขี้เถ้าแกลบ (ควรแช่นํ้าก่อนประมาณ 3 วัน เพื่อลดความเป็นด่าง ยกเว้นขี้เถ้าแกลบที่เก่าแล้ว) ข้อดีคือมีความร่วนซุยสูง พืชจึงแตกรากได้ดีทั้งยังไม่เกาะตัวกับรากต้นไม้ จึงทาให้ย้ายปลูกง่ายโดยที่รากไม่ขาดหากไม่มีอาจใช้ดินร่วนทั่วไปผสมกับขุยมะพร้าวและทรายหยาบ หลังจากนํากิ่งปักลงไปให้รดนํ้าทันที จากนั้นนําไปวางไว้ในบริเวณที่แสงแดดส่องถึง

ก่อนจะปรับพื้นที่เป็นแปลงผัก สามารถนําใบไม้แห้งมาห่มดินเพื่อรักษาปริมาณนํ้าในดินและเพิ่มกิจกรรมของจุลินทรีย์ดินซึ่งอยู่ใกล้ผิวดิน รวมถึงลดการสูญเสียธาตุอาหารของพืชด้วย

คลุมดินช่วยได้

หากคุณไม่ใช่มือใหม่ในการทําสวนก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าวัสดุคลุมอย่างฟาง เศษใบไม้ หรือหญ้าแห้งสามารถทําสิ่งมหัศจรรย์ในสวนได้ เช่นเดียวกับการปลูกไม้คลุมดินขนาดเล็กไว้บริเวณผิวดินประการแรก ช่วยประหยัดนํ้ารดต้นไม้ เนื่องจากทั้งเศษหญ้า เศษใบไม้ หรือแม้แต่ไม้คลุมดินช่วยรักษาความชื้นไม่ให้นํ้าในดินระเหยไปในอากาศได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับผิวดินปกติหรือสนามหญ้า นอกจากนี้ยังป้องกันไม่ให้วัชพืชโผล่มาสร้างความรําคาญใจ ซึ่งหมายถึงการกําจัดวัชพืชด้วยเครื่องตัดหญ้าหรือแรงงานของเราก็จะน้อยลงและไม่ต้องใช้สารเคมีกําจัดวัชพืช การคลุมดินยังช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินและปรับโครงสร้างของดิน โดยเราสามารถคลุมดินด้วยหญ้าแห้งหรือเศษใบไม้ที่เหลือจากการตัดหญ้าสนาม หรือกวาดใบไม้คลุมไว้ที่บริเวณรอบโคนต้นไม้หนาสัก 5 – 8 เซนติเมตร เพื่อเป็นฉนวนป้องกันและช่วยให้รากรอบโคนต้นใต้ดินได้รับความชุ่มชื้นเพียงพอในหนึ่งวัน

ต้นไม้ในแปลงปลูกไล่ระดับกันจากไม้พุ่มไปจนถึงไม้คลุมดินดูแน่นเป็นระเบียบนอกจากความสวยงามแล้ว ต้นไม้ระดับล่างเหล่านี้และพื้นโรยกรวดแม่นํ้ายังช่วยรักษาความชื้นในดิน ทำให้สวนประหยัดนํ้าขึ้นอีกด้วย
นํ้าฝนที่เก็บได้จากรางนํ้าฝนเหมาะกับการนำไปใช้ปลูกต้นไม้หรือรดนํ้าต้นไม้เพราะเป็นนํ้าที่ปราศจากคลอรีนและที่สำคัญได้มาฟรีๆ

ใช้นํ้าที่เหลือจากการทําอาหารและกิจกรรมอื่น ๆ

เมื่อคุณต้มหรือนึ่งผักบนเตา อย่าเพิ่งเทนํ้าทิ้งลงในท่อระบายนํ้า เมื่อนํ้าเย็นลงแล้วให้เทนํ้าผักหรือนํ้าต้มลงใต้ต้นไม้เพื่อรดนํ้าและเป็นการให้ปุ๋ยกับต้นไม้ได้ เช่นเดียวกับนํ้าไข่ต้มที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและโปรตีนที่ล้วนมีประโยชน์ต่อต้นไม้แบบเน้นๆ ทั้งสิ้น

นอกจากนี้น้าที่เหลือใช้จากกิจกรรมทั้งการ ํ อาบน้าํ ซักผ้า ล้างจาน ล้างรถ สามารถนํามาใช้รดน้าต้นไม้ต่อได้หมด โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่หรือไม้ยืนต้นขนาดต่างๆ จะมีก็แต่ต้นไม้บางชนิดอาจเปราะบางต่อความเป็นกรดเป็นด่าง เช่น เฟิน บีโกเนีย หรือคล้า ควรพักน้าทิ้งไว้อย่างน้อยหนึ่งคืน หรือเติมน้าให้เจือจางก่อนน้ำไปรดต้นไม้ บางครั้งเราสามารถทํากิจกรรมดังกล่าวที่ต้องใช้น้าในบริเวณสวนได้เลย เช่น การล้างรถบนสนามหญ้าก็เป็นการใช้นํ้าครั้งเดียวที่ได้ประโยชน์สองทาง

สวนที่ตกแต่งโดยใช้เฟอร์นิเจอร์เก่ามาวางประดับร่วมกับตู้เย็นเก่าที่ใช้งานไม่ได้แล้ว นำมาดัดแปลงง่ายๆเป็นตู้วางไม้กระถางได้อย่างสร้างสรรค์โดยใส่กระถางแล้วนำด้านต้นไม้หันออกมารับแดด
กระถางต้นไม้จากเหล่ากระป๋องเครื่องดื่มยังคงเก็บสีสันดั้งเดิมของตัวกระป๋องเอาไว้ เมื่อมาวางร่วมกันก็ดูเข้ากันและสวยงามไปอีกแบบ
ยางรถยนต์เก่าเป็นวัสดุเหลือใช้แบบสุดๆ แค่นำมาวางซ้อนให้ระดับลดหลั่นกันไปจากนั้นนำกระถางต้นไม้มาใส่ไว้ในวงให้พอดีก็กลายเป็นมุมที่ดูเก๋ไก๋ได้

นําของเก่าที่ไม่ได้ใช้และกําลังลงถังขยะมาจัดสวน

ของเก่าและของเหลือใช้บางชนิดเสื่อมสภาพเกินการใช้งาน สามารถนํามาเปลี่ยนบทบาทให้กลายเป็นสิ่งที่สร้างความมีชีวิตชีวาให้สวนได้ เหมือนได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งผ่านไอเดียในการสร้างสรรค์ของเราเอง ขั้นแรกคือการสํารวจสวนว่ามีความต้องการอะไรเพิ่มเติมบ้าง เพื่อกําหนดหน้าที่สําหรับให้สิ่งของนั้นมาช่วยในการใช้งานหรือตกแต่ง จากนั้นลองนําสิ่งของนั้นมาดัดแปลงให้เหมาะสมกับการใช้งานที่สุด และลองนําไปจัดวางในพื้นที่ใช้งาน เพื่อพิจารณาว่าจะเพิ่มเติมหรือตกแต่งอะไรเพิ่มลงไปบ้าง

สีสันที่มีร่องรอยเดิมสามารถเก็บเอาไว้ได้เพื่อสร้างจุดเด่นและคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของวันวานได้อยู่ หลังจากที่ทําความสะอาดของชิ้นนั้นให้ปราศจากคราบฝุ่น โคลน รอยสกปรก หรือแม้แต่สารเคมีที่อาจเป็นอันตราย เราสามารถใช้พรรณไม้มาปลูกแทรกเพื่อบดบังร่องรอยหรือตําหนิที่ไม่สวยของสิ่งของชิ้นนั้นได้ด้วย


เรื่อง : ปัญชัช

ภาพ : คลังภาพบ้านและสวน

อ่านเพิ่มเติมและสั่งซื้อนิตยสารได้ที่นี่