บ้านในปัจจุบันส่วนใหญ่มักมีพื้นที่จำกัด บรรดาผู้รักต้นไม้ทั้งหลายจึงนิยมใช้ เลือกซื้อไม้กระถาง กันมาก เพราะใช้พื้นที่ไม่มาก ทั้งยังสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก
ร้านขายไม้กระถางจึงมีให้เห็นกันมาก เราเองซึ่งเป็นผู้ซื้อก็ควรจะสังเกตและ เลือกซื้อไม้กระถาง ให้เป็น เพื่อให้ได้ต้นไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดสำหรับบ้านเรา ซึ่งเทคนิคการเลือกก็ไม่ได้ยากหากคุณลองปฏิบัติตามดังนี้
ตรวจสอบพรรณไม้
1.ถ้าเป็นประเภทไม้ใบควรเลือกที่ใบแข็งแรงสดใส มีใบดก และมีทรงพุ่มสวยงาม หลีกเลี่ยงต้นไม้ที่มีใบเหลือง ใบแห้งเป็นจุด ๆ หรือขอบไหม้เกรียม เพราะต้นไม้อาจได้รับน้ำไม่เพียงพอ มีน้ำขังในกระถาง หรือมีโรคแมลง
2.ไม้กระถางที่ดีต้องมีขนาดทรงพุ่มเหมาะสมกับกระถาง หากต้นและพุ่มใบเล็กแต่ปลูกในกระถางใหญ่ จะทำให้ระบบรากไม่เจริญเติบโตสมกับเนื้อที่ ทำให้ดินในส่วนที่รากยังชอนไชไปไม่ถึงอัดตัวกันแน่น จนน้ำไม่สามารถซึมผ่านได้ ในที่สุดรากจะเน่า ต้นไม้ก็จะเหี่ยวตาย หรือหากต้นและพุ่มใบมีขนาดใหญ่แต่ปลูกในกระถางเล็ก จะทำให้พืชได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
3.เลือกต้นไม้ที่มีผิวใบและกิ่งก้านสดใส ไร้คราบปุ๋ยหรือยาฆ่าแมลง เพราะถ้ายังมีคราบต่างๆแสดงว่า ไม้ต้นนั้นอาจได้รับสารเคมีเกินขนาด หรือเคยมีโรคแมลงรุนแรง ต่อไปต้นอาจแคระแกร็น เลี้ยงไม่โต หรือตาย
4.อย่าซื้อไม้กระถางที่มีรากงอกโผล่พ้นรูระบายน้ำด้านล่าง เพราะแสดงว่าปลูกไว้นานเกินควร และไม่มีการเปลี่ยนกระถางใหม่ให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของต้นไม้ รากจึงแผ่กระจายไปทั่วเพื่อเสาะหาอาหาร
5.สำหรับไม้ดอกไม่ควรเลือกต้นที่มีดอกกำลังบานสะพรั่ง หรือเริ่มมีดอกเหี่ยวเฉาปะปน เพราะดอกจะร่วงหมดในไม่ช้า ควรเลือกต้นที่มีดอกตูมมาก ๆ จะชมดอกไม้ได้นานกว่า
ตรวจสอบวัสดุปลูก
1.วัสดุปลูกจะต้องดูใหม่และสะอาด
2.ควรเลือกดูวัสดุปลูกที่ความแน่นพอเหมาะพอดี ไม่ร่วนหรือทึบเกินไป น้ำสามารถผ่านได้สะดวก ไม่ควรเลือกเครื่องปลูกที่แฉะและแน่นจนเกินไป เพราะรากต้นไม้จะเน่าได้
3.ตรวจดูดินที่โคนต้น ไม่ควรให้มีคราบสีขาวหรือคราบตะไคร่จับผิวดิน หรือเนื้อดินหลุดไปจนเห็นรากต้นไม้แผ่ขึ้นมา หรือดินที่แตกระแหง ก็แสดงว่าดินปลูกมีปุ๋ยผสมมากเกินไป การระบายน้ำจึงไม่ดี สารอาหารไม่เพียงพอ และขาดน้ำ
ตรวจสอบกระถาง
1.เลือกดูที่กระถางใหม่ ไม่มีรอยแตกร้าว
2.ที่กระถางไม่ควรมีตะไคร่จับ เพราะแสดงว่าต้นไม้อาจปลูกในกระถางนานแล้ว เป็นไม้แก่ซึ่งถูกบังคับการเจริญเติบโต
Tips หลังจากเลือกไม้กระถางที่ถูกใจแล้ว เมื่อกลับมาถึงบ้านควรปฏิบัติดังนี้
1.รีบนำต้นไม้มาวางไว้ในที่ร่ม มีแดดรำไร ระวังอย่าให้ต้องลม หรือเคลื่อนย้ายบ่อยๆ เพราะ ตา ดอกตูม หน่ออ่อนอาจหลุดร่วง (แต่ถ้ามีร่วงบ้างเพียงเล็กน้อยก็อย่าตกใจ เพราะต้นไม้กำลังปรับสภาพให้เหมาะสมกับที่อยู่ใหม่)
2.ก่อนลงมือปลูก 5-7 วัน ควรงดให้น้ำ เพื่อฝึกต้นไม้ให้อดทน แต่ถ้าหากต้นเหี่ยวมากก็ให้รดน้ำเพียงเล็กน้อยพอไม่ตายเท่านั้น
ติดตาม บ้านและสวน