ในอดีตคนส่วนใหญ่จะเลี้ยงแมวแบบปล่อยอิสระไม่จำกัดบริเวณ หรือที่เรียกว่าเลี้ยงแบบระบบเปิด (outdoor) เพื่อไว้ใช้จับหนู หรือไว้ให้คอยไล่พวกแมลงสัตว์ต่างๆ ทำให้แมวมีอิสระที่จะไปไหนมาไหนได้เต็มที่ แต่การเลี้ยงแบบปล่อย ก็นำมาซึ่งความเสี่ยงหลายอย่าง เลี้ยงแมวในบ้าน
- เสี่ยงเป็นโรคที่ติดมาจากเห็บหมัดนอกบ้าน เช่น โรคพยาธิเม็ดเลือด การติดเชื้อจากพยาธิตัวตืด หรือปัญหาโรคผิวหนังจากการแพ้น้ำลายหมัด
- โรคติดต่ออื่นๆ เช่น โรคลิวคีเมีย โรคเอดส์แมว หรือ โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (feline infectious peritonitis; FIP) ซึ่งโรคเหล่านี้เป็นโรคร้ายแรงที่อาจนำไปสู่การจากไปก่อนวัยอันควร
- การบาดเจ็บหรืออาจจะถูกทำร้าย จากการต่อสู้ของแมวด้วยกัน การถูกทำร้ายจากสัตว์อื่น เช่น ถูกหมากัน ถูกสัตว์มีพิษกัดต่อย หรือแม้กระทั่งถูกทำร้ายจากมนุษย์
ยังไม่รวมถึงการสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้านจากการที่แมวขับถ่ายไม่เป็นที่ หรือในช่วงที่แมวติดสัดแมวจะส่งเสียงร้องดังรบกวนซึ่งอาจสร้างความรำคาญได้ และการเลี้ยงแบบปล่อย แมวสามารถออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านได้ไกลถึง 3 กิโลเมตร ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสที่จะสูญหายมากยิ่งขึ้น
จากความเสี่ยงต่างๆ และเทรนด์การเลี้ยงสัตว์ที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน เป็น(เทรนด์ Pet Humanization คือการดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของตัวเองเปรียบเสมือนคนในครอบครัว) รวมถึงการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย (Aging Society) ที่ผู้สูงอายุเลี้ยงสัตว์เพื่อคลายเหงา และเป็นช่วงที่ผู้คนทำงานอยู่กับบ้าน (Work From Home) มากขึ้น ล้วนก็เป็นปัจจัยที่ทำให้คนนิยมเลี้ยงแมวในบ้านหรือในคอนโดกันมากขึ้น
ซึ่งการเลี้ยงแมวในบ้าน (Indoor) ช่วยลดโอกาสติดโรคติดต่อร้ายแรงในแมว ลดโอกาสสูญหาย ดูแลแมวให้ปลอดภัยจากอันตรายต่าง ๆ แมวที่เลี้ยงในบ้านมักจะมีอายุขัยเฉลี่ยที่ยืนยาวกว่าแมวที่เลี้ยงแบบปล่อยอิสระ ด้วยพื้นฐานนิสัยของแมวจะชอบอยู่ในพื้นที่ที่เป็นส่วนตัว การเลี้ยงให้อยู่ในบ้านจะทำให้แมวรู้สึกปลอดภัยในพื้นที่ของตัวเอง เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเริ่มเลี้ยงแมวในบ้าน เราควรเตรียมความพร้อมสำหรับต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัวดังนี้
สิ่งที่ต้องเตรียมอย่างแรก คืออุปกรณ์จำเป็นพื้นฐานสำหรับแมว เช่น ชามอาหาร อุปกรณ์ใส่น้ำแมว กะบะทราย ทรายแมว ที่ตักทราย ถุงขยะสำหรับใส่มูลสัตว์แยกทิ้ง ที่นอน ปลอกคอควรมีป้ายชื่อและเบอร์ติดต่อเจ้าของในกรณีแมวหลุดออกนอกบ้าน หากมีผู้พบเจอจะได้ติดต่อกลับเจ้าของได้ และควรเป็นปลอกคอแบบนิรภัยเผื่อในกรณีที่แมวกระโดดไปเกี่ยวต้นไม้ หรือรั้วปลอกคอนิรภัยจะหลุดออกไม่ดึงรั้งคอแมวให้ห้อยติด กระเป๋าหรือตะกร้า ใช้ใส่แมวเวลาพาน้องออกนอกบ้านหรือเวลาพาไปโรงพยาบาลสัตว์ กระเป๋าสำหรับใส่แมวควรเป็นกระเป๋าที่มีฝาปิดไม่หลุดออกง่าย เพราะเวลาแมวตกใจจะดีดตัวออก อุปกรณ์สำหรับทำความสะอาด เช่น แชมพูสำหรับแมว แปรงหวีขนแมวช่วยกำจัดขนที่ตายแล้วออก กรรไกรตัดเล็บแมว และสิ่งสำคัญก็ควรเลือกอาหารที่เหมาะกับแมวเลี้ยงในบ้าน
นอกจากของจำเป็นพื้นฐานแล้วของเล่นก็สำคัญไม่แพ้กัน ของเล่นควรมีความหลากหลาย คอนโดแมวไว้ให้ปีนป่าย หรือไว้นอนเล่นพักผ่อน ที่ฝนเล็บแมว ถ้าไม่มีที่ฝนเล็บแมวจะไปฝนเล็บกับเฟอร์นิเจอร์ในบ้านแทน ของเล่น เช่นไม้ตกแมว ตุ๊กตาหนู ของเล่นที่ชวนให้แมวไล่ตามหรือเคลื่อนไหวตัว ช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสต่าง ๆ ช่วยกระตุ้นให้แมวได้ออกกำลังกายมากขึ้นเป็นการช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ กระดูก และข้อต่อ ของแมวให้แข็งแรง แมวที่เลี้ยงในบ้านจะขยับตัวน้อยกว่าแมวที่เลี้ยงแบบปล่อย หากเราลองสังเกตแมวจะใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการนอน มากถึง18 ชั่วโมง ทำให้ไม่ค่อยขยับตัวเสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้ง่าย
การจัดมุมต่างๆในบ้านเพื่อแมว มุมกินอาหาร มุมพักผ่อน และมุมขับถ่ายควรวางให้ห่างกัน แมวเป็นสัตว์ที่มีความตื่นตัวกับสิ่งที่เคลื่อนไหวได้ ควรมีมุมให้แมวได้ชมวิวส่องนกมองเห็นภายนอก หรือมุมสงบพื้นที่ปลอดภัยไว้ให้แมวได้พักผ่อนนอนหลับผ่อนคลายได้เต็มที่
การให้เวลาเอาใจใส่ คอยสังเกตพฤติกรรมหรือนิสัยของแมวเรา หากแมวมีท่าทีหรือพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เจ้าของจะสังเกตได้ทันทีช่วยให้มองเห็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วจะช่วยให้แก้ไขปัญหาได้ไวขึ้น และแมวเป็นสัตว์สังคม การเล่นกับแมวเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะช่วยให้แมวไม่เบื่อ แก้เครียดแล้วยังเป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนเลี้ยงกับแมวให้ผูกพันธุ์กันมากขึ้น เมื่อสัตว์เลี้ยงเหล่านี้เป็นเหมือนคนในครอบครัวแล้ว แน่นอนว่านอกจากความรัก ความอบอุ่นที่เรามอบให้แก่แมวแล้ว
สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้แมวเราสุขภาพดีมีอายุอยู่กับเราไปได้ยืนยาวคือ การใส่ใจในการเลือกอาหารให้เหมาะสมกับอายุและการใช้ชีวิตกิจวัตรประจำวัน แมวจัดอยู่ในประเภทสัตว์กินเนื้อ อาหารที่เหมาะสมควรมีสัดส่วนของโปรตีนและมีสารอาหารที่ครบถ้วน โดยทั่วไปแมวจะลุกขึ้นมาเล่นวันละ 1-2 ชั่วโมงนอกนั้นแมวจะนอนหลับเป็นส่วนใหญ่ก็จะทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วนได้ง่าย และการที่แมวขยับตัวน้อยส่งผลให้ลำไส้เคลื่อนตัวน้อยลง ทำให้เกิดการหมักหมมของเสียในลำไส้นานขึ้น ทำให้เวลาแมวถ่าย กลิ่นมูลค่อนข้างแรงกว่าปกติ และน้องแมวที่เลี้ยงในบ้านส่วนใหญ่จะอยู่นิ่ง ๆ ทำให้มีเวลาแต่งตัวเลียขนทำความสะอาดต่อวันมากถึง 3-4 ชั่วโมง ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาก้อนขนอุดตันทางเดินอาหารตามมาอีกด้วย
Royal Canin สูตร INDOOR เหมาะกับแมวอายุตั้งแต่ 1- 7 ปี เป็นสูตรที่คิดค้นขึ้นมาสำหรับแมวที่เลี้ยงในบ้านโดยเฉพาะ เพราะแมวที่เลี้ยงในบ้านมีกิจกรรมน้อย ซึ่งในอาหารจะมีส่วนประกอบสำคัญต่างๆ
- โปรตีนย่อยง่าย (L.I.P) ช่วย ลดกลิ่นมูลและปรับให้เป็นก้อนดี
- มีส่วนประกอบของไฟเบอร์จากหัวบีท จะช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ และไฟเบอร์จากไซเลี่ยมจะช่วยขับเส้นขนที่ตกค้างในลำไส้ออกมาง่ายขึ้น
- มีแอลคาร์นิทิน ช่วยการเผาผลาญไขมัน ควบคุมพลังงานให้เหมาะสมกับแมวที่มีกิจกรรมน้อย
- มีปริมาณแร่ธาตุในอาหารที่เหมาะสม จึงช่วยลดปัญหาทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง
เพียงเท่านี้ก็มั่นใจได้เลยว่าแมวของเราจะมีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีและมีอายุยืนยาวอยู่กับเราไปได้นาน
สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ Royal Canin ได้ตามร้าน pet shop ทั่วไปและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
website : www.royalcanin.com/th
facebook : @RoyalCaninThailand
Application : Royal Canin Club (https://bit.ly/AppRoyalCaninClub)
line : Royal Canin Thailand
Tel : 02 026 2456
โพสต์หน้ายังมีเรื่องราวที่ทาสหมาทาสแมวไม่ควรพลาดอย่าลืมกดติดตามเพจบ้านและสวน pets : https://www.facebook.com/BaanlaesuanPets
