บ้านที่อยู่ดีมีสุข นอกจากจะขึ้นอยู่กับการจัดการภายในบ้านแล้ว สภาพแวดล้อมและเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงก็มีส่วนสำคัญไม่น้อย มีปัญหากระทบกระทั่งมากมายที่เกิดขึ้นระหว่างเพื่อนบ้าน ซึ่งทำให้ชีวิตในบ้านขาดความสุขไปเลย มาดูกันว่าปัญหาเหล่านั้นคืออะไร และมีวิธีจะรับมือกับเรื่องเหล่านั้นอย่างไรบ้าง ปัญหาเพื่อนบ้าน
ต่อเติมตามใจ เพราะบ้านใครบ้านมัน “ข้างบ้านต่อเติมจนบ้านเราอ ึดอัด ดูแล้วต้องผิดกฎหมายแน่ อยากทราบว่าการต่อเติมที่ถู กต้องเป็นอย่างไร”
ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น เลยหากแต่ละบ้านศึกษาและปฏิ บัติตามกฎหมายในการก่อสร้าง อย่างถูกต้อง นอกจากจะต่อเติมได้อย่างสบา ยใจแล้วก็จะไม่รบกวนเพื่อนบ ้านของเราด้วย ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างหรื อดัดแปลง เราต้องขออนุญาตในการกระทำด ังกล่าวก่อน โดยต้องขออนุญาตเมื่อ 1. สร้างอาคารใหม่ทั้งหมด 2. ต่อเติมหรือดัดแปลงอาคารที่ มีอยู่แล้วเกินกว่า 5 ตารางเมตร 3. ก่อสร้าง ดัดแปลงอาคาร ผิดไปจากแบบแปลนที่ได้รับอน ุญาต 4. รื้อถอน เคลื่อนย้าย หรือเปลี่ยนการใช้งานอาคาร เช่น เปลี่ยนจากบ้านเป็นหอพัก
จริงๆแล้วต่อเติมห้องต่างๆ ออกมาจากอาคารเดิม ต้องมีระยะถอยร่นจากรั้วด้ว ยนะ – ชั้น 1 ผนังด้านติดรั้วเป็นผนังทึบ ต้องห่างจากรั้วอย่างน้อย 0.50 เมตร – ชั้น 1 ผนังด้านติดรั้วมีหน้าต่าง ประตู หรือช่องเปิดต้องห่างจากรั้ วอย่างน้อย 2 เมตร – ชั้น 2 ผนังด้านติดรั้วมีหน้าต่าง ประตู หรือช่องเปิดต้องห่างจากรั้ วอย่างน้อย 2 เมตร
ต่อครัว เติมปัญหา “ข้างบ้านต่อห้องครัวภายนอก แบบโปร่งๆ ไม่มีผนัง มีแต่เสาเพื่อรับหลังคามาจน ชิดรั้ว ทั้งกลิ่นอาหารและน้ำฝนที่ไ หลมาทางบ้านเรา ทำอย่างไรดี” ในทางกฎหมายเขาไม่สามารถทำแ บบนั้นได้ เพราะถือว่าพื้นและเสาของคร ัวนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของอา คารเช่นกัน การต่อเติมดังกล่าวอาจทำได้ โดยการก่อผนังทึบให้ห่างจาก รั้ว 0.50 เมตรเป็นอย่างน้อย แล้วค่อยทำเป็นส่วนของครัว หลังคาก็ไม่ควรให้ยื่นยาวเก ินเขตรั้ว และต้องมีรางน้ำไม่ให้น้ำไห ลหรือกระเด็นไปยังบ้านข้างเ คียงด้วย ส่วนเรื่องของกลิ่นอาหารนั้ น คงต้องใช้หลักการ “ใจเขาใจเรา” วันไหนที่ข้างบ้านมีการใช้ค รัว เราอาจยอมปิดหน้าต่างสักพัก หากเห็นว่าไม่มีกลิ่นรบกวนแ ล้วค่อยเปิดตามปกติ หรืออาจพูดคุยกับบ้านข้างเค ียงนั้นๆเลย เพราะคนไทยด้วยกันน่าจะเห็น ใจกันอยู่แล้วครับ
ต้นไม้ข้า ใบของใคร “ข้างบ้านปลูกต้นไม้ใหญ่ติด รั้ว ใบไม้ร่วงลงมาที่บ้านของเรา เยอะมาก ต้องเก็บกวาดอยู่เป็นประจำ จะแก้ ปัญหาได้บ้างไหม”
จริงๆแล้ว หากลองมองในอีกแง่มุมหนึ่งค ือ มองว่าต้นไม้นั้นคือธรรมชาต ิ ธรรมชาติของต้นไม้ก็ต้องมีใบร่วง แต่สิ่งที่เราจะได้รับมากกว ่านั้นคือร่มเงาและความร่มร ื่น อาจเป็นการดีด้วยซ้ำที่ข้าง บ้านปลูกต้นไม้ใหญ่ แล้วเราได้ร่มเงาและความร่ม รื่นไปด้วย อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้แก้ไขได้ด้วยการพูด คุยกันครับ ถ้าต้นไม้มันใหญ่จนทั้งคุณแ ละเจ้าของต้นไม้ไม่สามารถจะ ขึ้นไปตัดได้ ก็ให้ใช้บริการจากเจ้าหน้าท ี่ท้องถิ่น เช่น พนักงานของกรุงเทพมหานคร เขาจะคิดราคาตามขนาดของต้น และเมื่อตัดจนได้ความสูงที่ ดูแลง่ายแล้ว ก็คอยเตือนกัน ต้องตัดแต่งไม่ให้มันโตจนเก ินดูแลด้วยนะครับ
ขยะหน้าบ้าน “ขยะหน้าบ้าน แม้จะมาจากหลายบ้าน แต่สุดท้ายก็มากองรวมกัน ดูไม่น่ามองเอาเสียเลย” การกำจัดขยะเป็นหน้าที่ของห น่วยปกครองท้องถิ่นอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานคร เทศบาลตำบล เทศบาลเมือง เทศบาลนคร องค์การบริหารส่วนตำบล ตามพระราชบัญญัติการสาธารณส ุข ไม่ว่าจะเป็นการเก็บ ขน ขยะ ซึ่งจะกำหนดพื้นที่ให้หมู่บ ้านนำมาทิ้งให้เป็นที่เป็นท าง แล้วทางเทศบาลจะเก็บไปกำจัด อีกครั้ง โดยผู้อาศัยอาจต้องเสียค่าเก็บขยะ หรือที่เรียกว่าค่าส่วนกลาง ในการเก็บขยะ หากหมู่บ้านใดไม่มีการจัดเก ็บจากทางเทศบาลก็สามารถแจ้ง ให้เทศบาลทราบเพื่อให้ดำเนิ นการตามอำนาจหน้าที่ต่อไปได ้ครับ
ขอเสนอที่เก็บขยะของแต่ละบ้ าน พนักงานที่เก็บขยะสามารถเก็ บไปได้จากภายนอกรั้วบ้าน ถ้าแต่ละบ้านมีพื้นที่นี้ก็ จะช่วยให้หน้าบ้านของแต่ละบ ้านไม่มีขยะมากองอีกต่อไป – ทำประตูปิดไม่ให้ดูรกตา แล้วใครก็แอบมาฝากไม่ได้ – ทำหลังคาปิดไม่ให้โดนฝนหรือ แมวมาคุ้ยเละเทะ
ความเป็นส่วนตัวและความงามท างสายตา “ตำแหน่งระเบียงพักผ่อนหลัง บ้านตรงกับระเบียงชั้นสองขอ งบ้านข้างๆพอดี แต่ข้างบ้านมีการตากผ้าและว างของไม่เป็นระเบียง เวลามานั่งที่ระเบียงหลังบ้ านก็จะเห็นภาพที่ไม่สวยงาม แก้ไขได้ไหม”
เราคงไปห้ามข้างบ้านไม่ให้ต ากเสื้อและบอกให้เขาจัดของใ ห้เป็นระเบียบไม่ได้ แต่เราสามารถสร้างมุมมองที่ ดีและหาสิ่งปิดบังได้ ขณะที่ข้างบ้านก็ยังสามารถต ากผ้าได้อยู่ โดยการทำแผงระแนงไม้ ปลูกไม้เลื้อยเป็นธรรมชาติ หรือปลูกต้นไม้เพิ่มเติมบริ เวณนี้ ทั้งบังสายตาและได้ความร่มร ื่นด้วย
จอดได้จอดดีที่หน้าบ้าน (คนอื่น) “เข้าบ้านลำบากมาก เพราะมีรถคนอื่นมาจอดขวางปร ะตู จะจัดการอย่างไรดี”
หากถนนหน้าบ้านเป็นถนนสาธาร ณะที่ทุกคนใช้ร่วมกัน ในแง่ของกฎหมายนั้นไม่ผิดคร ับ เพราะที่สาธารณะคือที่ที่ทุกคนสามาร ถใช้ได้ ผู้ใดจะโอนหรือยึดมาเป็นของ ตนเองไม่ได้ ยกเว้นส่วนที่ขวางทางเข้าออ กบ้านที่ห้ามจอด แต่ในแง่ของการอยู่ร่วมกันใ นสังคมก็ต้องนึกถึงใจเขาใจเ ราเป็นเรื่องสำคัญ อาจมีการอะลุ่มอล่วยกันบ้าง ตามความเหมาะสม เช่น เวลาบ้านไหนมีแขกมาก็เดินไป บอกเพื่อนบ้านเสียหน่อย แต่ถ้าบังเอิญว่าบ้านของคุณ อยู่ติดกับบริษัทที่มีรถเข้ า-ออกตลอดเวลา (จนเกินจะทนแล้ว) ลองหากรวยจราจรเล็กๆ สีส้มๆ มาวางกั้นไว้แทน หรือถ้าอยากจะติดป้าย ลองคิดประโยคฮาๆ สัก 2- 3 ประโยคเล่นๆ ดูก่อน น่าจะช่วยให้บรรยากาศระหว่า งเรากับเพื่อนบ้านดูน่ารักน ่าเอ็นดูยิ่งขึ้น…ไม่ต้อง ถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลหรอกค รับ สุดท้ายจะเสียหายทั้งคู่ แถมยังมองหน้ากันไม่ติดอีกต ่างหาก
อย่างไรก็ดี ปัญหาเพื่อนบ้าน กระทบกระทั่งกัน ไม่สามารถป้องกันหรือยุติกันด้วยเรื่องทางกฎหมายหรือกฎเกณฑ์เพียงอย่างเดียว แต่สามารถป้องกันหรือแก้ไขได้ด้วยสามัญสำนึกของคนดีๆ นั่นคือเอาใจเขามาใส่ใจเรา คิดว่าถ้าเป็นเราถูกเพื่อนบ้านกระทำอย่างนั้นจะมีความสุขหรือไม่ ทางที่ดีพยายามผูกมิตรกันเอาไว้ ถ้าทำความรู้จักกัน มีอะไรบอกกล่าวกัน เช่น จะมีงาน จะมีรถมาจอด จะมีปาร์ตี้เสียงดัง จะต่อเติมบ้าน ขอโทษหากจะมีการรบกวนซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัย การบอกกล่าวกันอย่างเกรงใจจะลดความโมโหโทโสในเหตุการณ์สุดวิสัยที่เกิดขึ้นได้มาก ข้อสำคัญต้องอยู่บนพื้นฐานของจิตสำนึกแห่งความเกรงอกเกรงใจ
มีคำกล่าวที่ว่า “รั้วที่ดีที่สุดคือเพื่อนบ้านที่ดี” ขอให้ทุกท่านมีเพื่อนบ้านที่ดีและเป็นเพื่อนบ้านที่ดีของเพื่อนบ้านด้วยครับ
เรื่อง : เอกราช ลักษณสัมฤทธิ์
ภาพประกอบ : เอกราช , ปันปัน