เลือกซื้ออาหารแมว

ฉลาดอ่านฉลาก ก่อนเลือกซื้ออาหารแมว

เลือกซื้ออาหารแมว
เลือกซื้ออาหารแมว

ทาสแมวทั้งหลาย เคยไปซื้ออาหารแมว แล้วประสบปัญหายืนงงอยู่ในโซนอาหารแมวตั้งนานสองนานกันมั้ย อาหารยี่ห้อไหน ถุงแบบไหนก็หน้าตาเหมือนกันไปหมด ไม่รู้ว่าจะเลือกอาหารแมวยี่ห้อไหนดี ที่จะเหมาะสมกับน้องแมวของเรา หรือที่ได้มาตรฐานปลอดภัยกับน้องแมว แต่ปัญหานี้จะหมดไปถ้าเรา “ฉลาดอ่านฉลาก”

การเลือกอาหารที่เหมาะสมสำหรับน้องแมวของคุณอาจเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ และเป็นการตัดสินใจที่หนักใจสำหรับเจ้าของน้องแมวหลายๆคน ซึ่งในปัจจุบันก็มีตัวเลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อาหารเม็ด , อาหารเปียก , บาร์ฟ , อาหารแบบ Grain free , อาหารเกรดพรีเมี่ยม ซึ่งมีมากมายหลากหลายรูปแบบไปหมด และการอ่านฉลากจะเป็นสิ่งที่ช่วยเราเลือกซื้ออาหารให้น้องแมวได้อย่างเหมาะสม

การอ่านฉลาก สำคัญอย่างไร

การอ่านฉลาก จะเป็นตัวช่วยที่ดีเยี่ยม ในการที่จะช่วยเราพิจารณาได้ว่าอาหารยี่ห้อใด สูตรใด ถึงจะเหมาะสมกับน้องแมวของเรา หรือเป็นอาหารที่ได้คุณภาพ ปลอดภัยกับน้องแมวของเรา เพราะที่ฉลากบนถุงอาหารนั้น จะบ่งบอกถึงข้อมูลที่สำคัญของอาหารยี่ห้อนั้น ๆ เช่น วัตถุดิบ สารปรุงแต่งต่าง ๆ คุณภาพของอาหาร วันผลิต-หมดอายุ การรับรองมาตรฐานของอาหารสัตว์ ชื่อผู้ผลิต ปริมาณน้ำหนักของอาหาร เป็นต้น

สิ่งที่ควรสังเกตบนฉลากอาหาร

  1. วัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมอาหารสัตว์

ส่วนผสมของอาหารสัตว์เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในฉลากที่จะต้องอ่าน ส่วนผสมที่ใช้จะต้องเรียงลำดับตามน้ำหนักจากปริมาณมากไปน้อย และจะต้องระบุส่วนผสมที่ใช้ทั้งหมดอย่างละเอียด โดยส่วนผสมหลักของอาหารสัตว์จะมาจากพืช สัตว์ ครอบคลุมสัตว์บก สัตว์ปีก สัตว์น้ำ ซึ่งจะอยู่ในอันดับต้น ๆ ส่วนผสมรองจะเป็นแร่ธาตุ วิตามิน และสารอาหารอื่น ๆ   

รวมไปถึง สารแต่งสีหรือแต่งกลิ่นรส และสารกันบูด (BHA , BHT , Ethoxyquin , Sodium Nitrate) เป็นสารปรุงแต่งที่ถูกเติมลงในอาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อรักษาคุณภาพ ความน่ารับประทาน และอายุการเก็บรักษา ซึ่งจริงๆแล้วไม่ควรมีอยู่ในอาหารน้องแมว หรือถ้ามีก็ควรมีอยู่ในปริมาณที่น้อยที่สุด

  1. คุณภาพของอาหารทางเคมี  (โปรตีน , ไขมัน , กากใย , ความชื้น)

เพื่อเป็นการแสดงข้อมูลคุณภาพของอาหารสัตว์เลี้ยง ผู้ผลิตจะต้องระบุข้อมูลนี้ไว้บนฉลากของอาหารน้องแมว ต้องมีรายการคุณภาพทางเคมีของอาหารสัตว์เลี้ยงที่ระบุตามที่ขึ้นทะเบียนไว้ หรือตามมาตรฐานของอาหารสัตว์ที่กำหนดขึ้น

  1. วันผลิต-หมดอายุ

ก่อนจะทำการซื้อ ควรตรวจดูทั้งวันที่ผลิต และวันหมดอายุ เพื่อช่วยให้เราได้ทราบถึงอายุของอาหารถุงนั้น ๆ และป้องกันการซื้ออาหารที่หมดอายุไปให้น้องแมวกิน เพื่อให้น้องแมวของเราได้กินอาหารทีมีคุณภาพ และปลอดภัย

  1. เลขทะเบียนอาหารสัตว์

เลขทะเบียนอาหารสัตว์จะคล้าย ๆ กับ อย.ในอาหารคน ซึ่งหมายความว่า อาหารนั้นได้รับการตรวจสอบ และผ่านการรับรองแล้วจากกรมปศุสัตว์แล้ว ว่าเป็นสินค้าที่มีขั้นตอนการผลิตที่ได้มาตรฐาน สะอาด และปลอดภัย

  1. มาตรฐาน AAFCO

อาหารน้องแมวจะต้องได้รับการตรวจสอบจาก “AAFCO” (Association of American Feed Control Officials) คือองค์กรที่ก่อตั้งในอเมริกาทำหน้าที่คล้าย ๆ กับ อย.ของบ้านเรา ทำหน้าที่กำหนดมาตรฐานทางโภชนาการสำหรับอาหารสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ

  1. ปริมาณการให้ต่อวัน

ปริมาณการให้ต่อวันที่สัตว์ควรได้รับจะแบ่งตามน้ำหนักตัว และอายุของน้องแมว เพื่อให้ทาสแมวอย่างเราสะดวกในการตวงอาหารในแต่ละวันให้กับน้อง น้องจะได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อตัวเอง ไม่มากไป และไม่น้อยจนเกินไป

รู้อย่างนี้แล้วทาสแมวทั้งหลายก็ไม่ต้องไปยืนงง ๆ อยู่ในโซนอาหารน้องแมวเป็นนานสองนานอีกแล้ว เพราะการอ่านฉลากอาหารน้องแมวจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเราไปเลย น้องแมวของเราก็จะได้กินอาหารที่มีคุณภาพ ถูกต้องตามหลักโภชนาการ

และเหมาะสมกับตัวเองและเรายังมีอีก 1 ทางเลือกสำหรับทาสแมวทั้งหลายที่อยากมั่นใจว่าน้อง ๆ จะได้รับอาหารที่ดีมีคุณภาพ นั่นก็คือ ‘อาหารแมว Mew me’ เพราะว่า อาหารแมว Mew me เป็นอาหารที่มีข้อมูลบนฉลากอย่างครบถ้วน ตรงตามที่เรากล่าวมาแล้วข้างต้น โดยอาหารแมว Mew me ได้ผ่านการตรวจสอบจากกรมปศุสัตว์แล้วว่าเป็นอาหารที่ได้มาตรฐานถูกต้องตามกฎหมาย และมีสารอาหารครบถ้วนและสมดุลสำหรับน้องแมวตามเกณฑ์มาตรฐานขององค์กร AAFCO อีกทั้งยังผ่านมาตรฐานการรับรอง GMP และ HACCP อีกด้วย


หากสนใจสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ Mew Me ได้ที่ร้าน PET SHOP ทั่วไป หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

สายด่วน Mew Me : 080-3071288

ติดต่อรับจำหน่ายสินค้าตัวแทน :

Tel. : 085-5479645

https://lin.ee/G0EHwVE

ติดต่อรับราคาเรทสำหรับฟาร์มน้องแมว :

Tel. : 085-5479645

https://lin.ee/AUhhRYe

ติดต่อรับจำหน่ายสินค้า Pet shops :

Tel. : 086-2833889

ติดต่อฝ่ายการตลาด

Tel. 094-8939333