/ บ้านสีขาวของ ธาดา วาริช เรียบง่าย มั่นคง
และหลอมรวมทุกอย่างที่เป็นตัวเขาในปัจจุบัน /
ในทศวรรษที่ผ่านมา จอร์จ – ธาดา วาริช คือช่างภาพหนุ่มไฟแรงที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่ง จากผลงานแจ้งเกิดที่สะท้อนอารมณ์ธรรมชาติของหญิงสาวในสไตล์ดิบ ๆ ดุเดือด และเด็ดขาดซึ่งเคยเปิดมุมมองใหม่ให้กับวงการนิตยสารแฟชั่นเมืองไทยมาแล้ว ถึงวันนี้แม้จะยังคงเป็นธาดา วาริช ช่างภาพเนื้อหอมคนเดิม แต่ผลงานภาพถ่ายของเขากลับกลมกล่อมและละมุนละไมขึ้นด้วยทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงไป คุณจอร์จ บอกกับเราว่าเขาเติบโตขึ้น และได้ก้าวข้ามมาถึงอีกยุคหนึ่งของชีวิต และบ้านหลังนี้ก็คือตัวแทนที่จะบอกเล่าถึงการใช้ชีวิตบทใหม่ของเขาได้เป็นอย่างดี
“บ้านหลังแรกของผมต่างจากหลังนี้มาก ตอนนั้นผมอยู่แบบวัยรุ่น เลยแต่งแบบแนว ๆ แรง ๆ มีหนังสือเยอะมากมีแมกกาซีนเต็มผนัง พอล้มลงมาเราแทบไม่มีทางเดินเลย ช่วงนั้นทำงานเยอะ เที่ยวเยอะ ใช้ชีวิตหนักมาก ต่างจากตอนนี้ ซึ่งผมก็ดีใจนะที่สร้างบ้านในจังหวะนี้ของชีวิต เพราะถ้าสร้างบ้านตอนโน้นแล้วแก่มาเป็นผมในตอนนี้ ผมก็คงไม่ชอบ ทนอยู่ไม่ได้ ต้องทำใหม่อยู่ดี”
เมื่อชีวิตเริ่มลงตัว คุณจอร์จตัดสินใจสร้างบ้านหลังนี้ในทำเลสงบย่านชานเมืองสำหรับพักอาศัยอยู่กับคุณแม่ทุกรายละเอียดในบ้านจึงเกิดขึ้นจากการผสมผสานระหว่างความต้องการของคนต่างเจเนอเรชั่น ตัวบ้านทรงตึกสีขาวแบบยุโรปแซมด้วยผนังอิฐสไตล์วินเทจดูหนักแน่นมั่นคง ทว่าภายในกลับโปร่งสบาย อบอุ่นด้วยพื้นไม้สักแผ่นใหญ่กลิ่นอายไทย ๆ แบบที่คุณแม่ชอบ
“จริง ๆ คุณแม่ผมชอบบ้านสไตล์ไทยมาก แต่ผมอาจจะไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ ผมชอบอะไรที่เป็นวินเทจมากกว่า เพราะคิดว่าผมคงอยู่บ้านนี้ไปอีกนาน เลยไม่อยากทำบ้านที่อินเทรนด์จัด ๆ แล้วอีก 5 ปี 10 ปีก็เอ๊าต์ไป สู้เราทำบ้านที่เอ๊าต์เทรนด์ไปเลยดีกว่า อีกอย่างคือผมรู้สึกว่าผมไม่เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์นที่เนี้ยบมาก ๆ แบบนั้น มันต้องเนี้ยบให้สุดตลอดเวลาถึงจะสวย ผมกลับชอบบ้านที่มอมแมมนิดนึง แต่ให้ความรู้สึกโฮมมี่”
แม้บ้านจะเกิดจากการหลอมรวมของความต้องการที่แตกต่าง แต่กลิ่นอายของบ้านสเปนแบบดั้งเดิมก็ชัดเจนจนดึงดูดความสนใจของเราได้ในแทบทุกมุมของบ้าน องค์ประกอบสถาปัตยกรรมได้รับการลดทอนและหยิบยกมาใช้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นสีสันอบอุ่นนุ่มนวลที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างวัสดุไม้กับปูน หรือโถงเพดานสูงโชว์โครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งเราไม่แปลกใจเลยเมื่อคุณจอร์จบอกว่า การออกแบบทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เขาเพิ่งกลับจากการทำงานที่กรุงบาร์เซโลนา ประเทศสเปน แม้แรงบันดาลใจจะมาไกลจากยุโรป แต่ทุกรายละเอียดกลับถ่ายทอดออกมาผ่านวัสดุท้องถิ่นเรียบง่ายธรรมดา ที่นำมาปรับใช้จนลงตัวทั้งในด้านรูปแบบและฟังก์ชัน
“เราไม่ได้ตั้งใจทำบ้านเพื่อโชว์ใคร เราทำเพื่ออยู่อาศัยจริง ๆ ผมเลยเน้นความชอบส่วนตัวเป็นหลัก แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือบ้านต้องแข็งแรง โปร่งสบาย สามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องเปิดแอร์ทั้งวัน ดีไซน์ต้องไม่เยอะจนคุณแม่รู้สึกอึดอัด จริง ๆ ตอนสร้างผมก็คิดสร้างสรรค์อะไรไว้มากมาย แต่กลัวว่าถ้าเราใส่ทั้งหมดลงไปทีเดียว แม้แต่ตัวเราเองก็อาจจะอยู่ไม่สบายเหมือนกัน”
คุณจอร์จยกชั้นล่างของบ้านให้คุณแม่ ส่วนตัวเขาใช้ชีวิตอยู่ชั้นบน ซึ่งประกอบด้วยห้องนอนและห้องทำงาน มีระเบียงเปิดโล่งออกสู่วิวสวนด้านนอก ตัวตึกด้านหน้าออกแบบให้เป็นอีกหนึ่งพื้นที่หลักของบ้าน โดยเป็นทั้งโรงรถและสตูดิโอถ่ายภาพ ด้านบนเขาวางแผนจะให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับทำงานศิลปะทุกแขนงในระยะยาว
หลังจากจับกล้องทำงานถ่ายภาพมาเกือบครึ่งชีวิตขับรถวินเทจคันโปรดมาสิบกว่าปี เมื่อก้าวเข้าสู่อีกช่วงของชีวิต “ธรรมชาติ” กลายเป็นงานอดิเรกล่าสุดที่คุณจอร์จให้ความสนใจ สวนสวยหน้าบ้านที่เต็มไปด้วยพรรณไม้น้อยใหญ่ทั้งไทยและเทศเป็นสิ่งยืนยันได้อย่างดี
“แต่ก่อนบ้านอยู่ตึกแถวไม่ค่อยได้อยู่กับต้นไม้เท่าไหร่ แล้วช่วงหลังคุณแม่พาไปวัดป่าบ่อย เราก็ไปนั่งสมาธิบ้าง พอไปอยู่ในป่า เราเริ่มเห็นทางเลือกใหม่ เห็นชีวิตที่แตกต่าง จากที่เราเคยทำงานยุ่งมาก ๆ อยู่แต่ในเมือง ยิ่งพอมีบ้านแล้วมีพื้นที่สวน ผมก็เริ่มออกไปตามหาต้นไม้กับคุณแม่ ซึ่งทำให้เราได้มีความรู้เพิ่มขึ้น เรียกว่าดูจนรู้เรื่องต้นไม้เยอะมาก ต้นไหนมาจากไหน ชอบอยู่แบบไหน เราเริ่มสนุกที่จะศึกษาไปเรื่อย ๆ”
แม้ภายในบ้านจะเต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจ ของตกแต่ง และคอลเล็คชั่นของสะสมที่สาวกกล้องต้องตื่นตาตื่นใจ แต่ของทุกชิ้นคุณจอร์จตัดสินใจซื้อโดยอ้างอิงจากเหตุผลการใช้งานและความชื่นชอบส่วนตัวเป็นหลัก ดังนั้นการสะสมในที่นี้จึงไม่ใช่เรื่องของความท้าทายหรือการแข่งขัน หากแต่คือการเข้าใจความต้องการของตัวเอง แล้วเติมเต็มตัวตนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับบ้านหลังนี้ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับและเติมเต็มอีกช่วงหนึ่งของชีวิต
“ผมชอบทุกอย่างที่อยู่ในบ้าน แต่ก็ไม่ได้เครซี่อะไรมาก ไม่เคยขวนขวายตามหาของที่ใคร ๆ บอกว่าดีเพื่อมาสะสมทุกอย่างผมมีไว้เพื่อใช้งาน แม้แต่ละอย่างจะมาจากคนละที่ แต่ยังไงก็ลงตัวอยู่ด้วยกันได้ เพราะทั้งหมดคือสิ่งที่เราชอบจริง ๆ”
เรื่อง : Monosoda
ภาพ : ดำรง, นันทิยา
สไตล์ : ประไพวดี
วีดีโอ : Thanayuth Sroisuwan