เปลี่ยนพื้นที่ข้างบ้านเป็นสวนจัดเองของคนรักไม้ใบ และ ไม้ด่าง

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้มีเหตุผลเสมอ แน่นอนว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงในหลายด้าน แต่ก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนเส้นทางการดําเนินชีวิตของใครหลายคน หนึ่งในนั้นคือ คุณตั้ว – ยุทธวีร์ รอดแสงสินธ์ุและคุณโบว์-อิศราภา ซื่อตรง สองสามีภรรยาที่เคยเป็นมนุษย์เงินเดือน แต่ปัจจุบันผันตัวเองมาเป็นคนขยายพันธุ์ไม้ใบและไม้ด่างเพื่อการจําหน่าย รวมถึงจัดสวนแห่งนี้ขึ้น

เจ้าของ- จัดสวน : คุณยุทธวีร์ รอดแสงสินธุ์ และคุณอิศราภา ซื่อตรง

ไม้ใหญ่และไม้พุ่มขนาดกลางทํา หน้าที่ให้ร่มเงาที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของเหล่าไม้ใบและไม้สะสมที่นํา มาปลูกเป็นไม้ระดับล่าง ซึ่งส่วนใหญ่ชอบแสงแดดรํา ไรและแสงแดดยามเช้าทํา ให้ไม้ใบส่วนใหญ่ยังดูสมบูรณ์ มีสีสันและลวดลายสวยงามใบไม่ไหม้จากความร้อน
คุณโบว์กับเจ้าจัมโบ้ สุนัขพันธุ์ชิวาวาสุดรักที่อยู่ด้วยกันมานานกําลังนั่งเล่นอยู่บนม้านั่งสีขาวในสวนตัดกับสีเขียวของพรรณไม้รอบๆ โดยมีฟิโลเดนดรอน พาสตาซานัม (Philodendron pastazanum) ชูใบเด่นอยู่ด้านหลัง
ทั้งคู่ช่วยกันจัดสวนในช่วงล็อกดาวน์เมื่อปีที่แล้ว โดยเฉพาะบ่อปลาเล็กๆนี้ คุณตั้วลงมือทํา และวางระบบกรองนํ้าด้วยตัวเอง ซึ่งมาจากความชอบเลี้ยงปลาและจัดไม้นํ้าก่อนที่จะมาเข้าสู่วงการไม้ใบ

ทั้งคู่ตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านจัดสรรย่านชานเมืองเมื่อประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา ในช่วงที่ทุกคนต้องล็อกดาวน์อยู่กับบ้าน สองสามีภรรยาได้
เปลี่ยนพื้นที่รอบบ้านให้ด้านหนึ่งเป็นโรงเรือนเก็บสะสมไม้ใบ งานอดิเรกใหม่ที่เริ่มขึ้นด้วยใจรักและต่อยอดเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ ส่วนอีกฝั่งของบ้านจัดเป็นสวนขนาดเล็กที่นํา ไม้ใบและไม้สะสมที่ไม่ต้องดูแลมากมาปลูกรวมไว้ หรือบางชนิดก็เป็นต้นไม้ราคาสูง

“เสน่ห์ของไม้ด่างคือเราจะสนุกตอนลุ้นต้นที่กําลังจะแตกใบใหม่ว่าจะได้ใบด่างไหม และได้ใบด่างที่มีสีสันหรือลวดลายแบบไหน ไม้ใบบางต้น
มีการกลายร่างเป็นร่างหนึ่ง ร่างสอง ร่างสาม เราก็อยากชมวิวัฒนาการของต้นไปเรื่อย เหมือนได้เรียนรู้และเติบโตไปกับต้นไม้ ซึ่งถ้าเราไม่ได้
ปลูกมานานพอหรือรู้จักกับร้านที่ปลูกมานาน บางต้นจะไม่รู้เลยว่าตอนโตหน้าตาจะเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นทุกวันที่เราลงมาที่สวนมันคือการ
ค้นพบใหม่ๆ ที่คาดเดาไม่ได้เสมอ” คุณโบว์เล่า

ประติมากรรมรูปสัตว์อย่างไก่และเป็ดวางแทรกไปกับไม้ใบตามจุดต่างๆ ทํา ให้สวนขนาดเล็กดูมีรายละเอียดและความน่ารักซ่อนอยู่อย่างลงตัวชวนให้ผู้พบเห็นต้องอมยิ้มออกมา
หลังจากถมทรายเพื่อปรับระดับพื้นที่เสร็จก็ปูแผ่นหินธรรมชาติเป็นทางเดินสลับกับกรวดแม่นํ้า โดยปลูกเฟินกนกนารีเลื้อยขนาบทางเดินเพื่อให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและดูกลมกลืน
ทิศตะวันตกของบ้านทํา โครงสร้างเหล็กสูงเท่าชั้น 2 เพื่อขึงซาแรนกรองแสงสํา หรับปลูกและอนุบาลไม้ใบสะสม อีกทั้งยังเป็นบริเวณที่ใช้ขยายพันธุ์ต้นไม้สํา หรับการจําหน่ายอีกด้วย

จากสนามหญ้าเดิมที่โครงการหมู่บ้านให้มาทั้งคู่ค่อยๆ นํา ไม้ใบซึ่งเป็นไม้ยืนต้นมาลงปลูกก่อนอย่างไทรใบสัก ยางอินเดีย และกะตังใบ
จากนั้นก็ใช้เวลาหนึ่งปีเพื่อสังเกตทิศทางแดดให้แน่ใจ โดยระหว่างนั้นก็ปลูกผักสวนครัวไปพลางในช่วงที่ต้องล็อกดาวน์รอบแรก ก่อนตัดสินใจ
ทํา โรงเรือนสํา หรับปลูกไม้ใบและไม้สะสมทางด้านทิศตะวันตกของบ้าน ส่วนอีกฝั่งที่ได้รับแสงแดดในช่วงเช้าและสายก็จัดเป็นสวนสวยงามที่เน้นความรู้สึกโปร่งสบาย สามารถออกมาใช้พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจได้ โดยไม่ต้องปลูกต้นไม้อยู่ใต้หลังคาเหมือนฝั่งโรงเรือน

คุณตั้วและคุณโบว์ลงมือจัดสวนเองในช่วงที่ต้องทํา งานที่บ้านเมื่อปีที่แล้ว โดยหลังจากกํา หนดผังเรียบร้อยว่าตั้งใจให้อะไรอยู่บริเวณไหนบ้าง
ก็เริ่มถมทรายหยาบรอบบ้าน ปรับระดับให้เรียบเสมอกันและทิ้งไว้จนแน่น จากนั้นจึงโรยหินทํา ทางเดิน และปลูกไม้ใบโดยใช้เครื่องปลูกเป็น
กาบมะพร้าวสับและเครื่องปลูกเดิมที่มากับกระถางต้นไม้ ซึ่งไม่มีเชื้อราหรือโรคที่ติดมากับเครื่องปลูก นอกจากนี้ยังเพิ่มบ่อปลา ซึ่งเป็นส่วนที่คุณตั้วทําและวางระบบกรองบําบัดนํ้าเองทั้งหมด

ที่วางกระถางทํา จากเสาคอนกรีตยึดติดกับตะแกรงแฟลกพลาสติกเพื่อยกระดับกระถางให้สูงขึ้นสํา หรับระบายนํ้า ความชื้น และให้อากาศถ่ายเท ง่ายต่อการดูแลและตรวจดูศัตรูพืชไม่ให้มารบกวนบางจุดเสริมด้วยกระถางหรือลังพลาสติกเพื่อวางต้นไม้ได้มากขึ้น
นอกจากไม้ยืนต้นและไม้ใบระดับล่างแล้ว ยังเสริมด้วยไม้แขวนอย่างเฟินสไบนางเพื่อให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาทดแทนไม้ยืนต้นหลายต้นที่ยังมีขนาดเล็กอยู่
อีกทั้งยังเป็นการปลูกเล่นระดับพรรณไม้ในพื้นที่จํากัดได้ดีอีกด้วย
สวนบริเวณด้านหลังจัดเป็นมุมรับประทานอาหารและจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวกันในบางโอกาส ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทั้งคู่ทํา อยู่บ่อยครั้ง โดยสามารถมองออกไปชมวิวของสวนได้ในขณะเดียวกัน ส่วนของหลังคาทํา เป็นระแนงไม้เลื้อยโดยปลูกหมากผู้หมากเมียเป็นแนวฉากหลังริมกําแพงรั้ว
ระเบียงหน้าบ้านวางเก้าอี้สํา หรับนั่งพักผ่อนด้านข้างยังมีชั้นวางกระถางต้นไม้สําหรับเป็นมุมสวนกระถางเล็กๆเพื่อเป็นมุมพักผ่อน เพราะทั้งคู่มักใช้เวลาอยู่ในสวน
มากกว่าอยู่ในบ้าน

“เทคนิคการดูแลไม้ใบที่เรามักบอกคนอื่นเสมอคือ นิสัยต้นไม้ขึ้นอยู่กับนิสัยของเจ้าของด้วย อย่างพวกเราอยู่บ้านตลอด ชอบรดนํ้าต้นไม้เป็น
ประจํา ทุกวัน ดังนั้นเครื่องปลูกต้องโปร่ง ไม่อุ้มนํ้ามาก ส่วนผสมก็มีเม็ดดินเผา เปลือกสน เวอร์มิคูไลท์ กาบมะพร้าวสับ และหินภูเขาไฟ ผสมในอัตราส่วนเท่าๆ กัน และเพอร์ไลท์ที่จะผสมมากกว่าตัวอื่นๆ โดยใช้ปุ๋ยละลายช้าเป็นตัวเพิ่มสารอาหารเป็นหลัก และพยายามใช้เคมีกํา จัดศัตรูพืชเท่าที่จํา เป็นเท่านั้น จะไม่ฉีดทั้งหมดเพราะไม้ใบบางต้นไม่ชอบสารเคมีเลย นอกจากนี้เรายังแบ่งต้นไม้ให้มีฝั่งที่ปล่อยให้แมลงอยู่ได้และฝั่งที่เราใช้สารเคมีไล่แมลงในช่วงแรก แมลงก็เหมือนจะรู้ว่าตัวเองอยู่ได้แค่ไหน ก็จะไม่มารบกวนต้นไม้ที่เราต้องดูแลพิเศษในโรงเรือนฝั่งนี้”คุณโบว์เล่า

ผมอยู่พูดคุยกับคุณตั้วและคุณโบว์สักพักใหญ่ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องไม้ใบและชมไม้สะสมของทั้งคู่ไปเรื่อยๆ นํา ไปสู่การตั้งคํา ถามว่าทํา ไมผู้คนมากมายถึงหลงเสน่ห์ของต้นไม้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น แล้วสิ่งหนึ่งที่ผมสัมผัสได้คือ ต้นไม้อาจสะท้อนตัวตนของเราก็ได้ ตัวตนที่ค่อยๆเติบโต เรียนรู้ และทํา ความเข้าใจสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงต่อสู้ดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตรอดเพราะการมีชีวิตอยู่นั้นสวยงามเสมอ

ต้นไม้ต่างชนิดกันจะมีเสน่ห์และความสวยงามจากสีสันและลวดลายของใบต่างกันเมื่อนํา มาปลูกรวมกันก็ทําให้สวนดูมีรายละเอียดน่าชมเต็มไปหมด อย่างมุมนี้มีทั้งซันโตโซมา เฟินข้าหลวงญี่ปุ่นด่าง และปีกแมลงสาบ
ฟิโลเดนดรอน สปิริทัส-แซงติ(P. spiritus-sancti G.S.Bunting) ต้นไม้ที่ราคาแพงที่สุดในสวนและเป็นต้นไม้ที่ทั้งคู่อยากได้มานานแล้ว จนกระทั่งเก็บเงิน
จากการขายต้นไม้และสามารถซื้อมาได้ในที่สุด

ต้นไม้บางต้นอย่างฟิโลเดนดรอนก้านส้มเป็นต้นด่าง ที่พอนํา มาขยายพันธุ์ไปเรื่อยๆจะเจอต้นที่ไม่ด่างจึงนํา ออกมาปลูกในสวน เพื่อรอวันที่ต้นจะกลับมาด่างใหม่อีกรอบ
ไฟสนามสํา เร็จรูปแบบใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เหมาะกับสวนจัดเองที่ไม่ได้วางระบบเดินสายไฟในสวน สามารถนํา ไปปักตามจุดที่ต้องการได้เลย
คุณโบว์และคุณตั้วบอกกับเราว่า การผสมสัดส่วนของเครื่องปลูกขึ้นอยู่กับนิสัยของเจ้าของสวน ใครชอบรดนํ้า ก็ควรมีส่วนผสมของวัสดุปลูกที่โปร่งเยอะหน่อย หากไม่ค่อยมีเวลารดนํ้าบ่อยๆ อาจเลือกเครื่องปลูกที่สะสมความชื้นได้ดีขึ้นมาหน่อย โดยนิสัยทั่วไปของไม้ใบจะชื่นชอบความชื้นอยู่แล้วบางชนิดยังทนต่อนํ้าท่วมขัง แต่หากเครื่องปลูกชื้นเกินไปก็เป็นที่มาของโรคและเชื้อราได้ วัสดุปลูกที่นิยมนํามาผสมสําหรับปลูกไม้ใบ ได้แก่ เม็ดดินเผา เพอร์ไลท์ เปลือกสน กาบมะพร้าวสับ เวอร์มิคูไลท์ และหินภูเขาไฟ

เรื่อง : ปัญชัช

ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข

อ่านเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่นี่