คุณชอบบ้านที่มีต้นไม้สูงใหญ่พอๆ กับระดับของหลังคาหรือเปล่า คุณเคยฝันอยากมีบ้านที่หน้าบ้านไม่มีสายไฟรบกวนสายตาบ้างหรือไม่ ถ้าคำตอบทั้งสองข้อของคุณคือ “ใช่” คุณคิดว่ามีโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยวที่ไหนในกรุงเทพฯ ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้พร้อมกันทั้งสองสิ่งนี้บ้าง
BARANEE PARK SRINAKARIN-ROMKLAO ที่เรากำลังพูดถึงเป็นหนึ่งในโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยวเพียงไม่กี่แห่ง ที่กล้าลงทุนนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินทั้งหมดเพื่อให้ภาพรวมของโครงการดูสะอาดสะอ้าน พร้อมกับเลือกปลูกต้นไม้สายพันธุ์ต่างๆ ที่สามารถเติบใหญ่ให้ร่มเงากับผู้อาศัย เข้ามาช่วยสร้างความร่มรื่นควบคู่ไปกับตัวบ้าน ทั้งยังเป็นการช่วยลดความแข็งกระด้างของตัวอาคารคอนกรีตลงให้มากที่สุดด้วยอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ผนังบ้านที่เรียบและเลือกใช้โทนสีพื้นเป็นหลักยังตอบรับกับเงาไม้ที่เคลื่อนไหว และเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลที่ทอดมาอย่างไม่ซ้ำ
- ต้นไม้เติบใหญ่เพราะไร้เสาไฟเป็นศัตรู
จากแนวคิดการเชื่อมโยงคำว่า บ้าน, ดีไซน์, ธรรมชาติ และชีวิตเข้าด้วยกันอย่างแนบสนิท จากด้านหน้าประตูทางเข้าโครงการจึงมีต้นจามจุรีต้นยักษ์แผ่กิ่งก้านสาขา เด่นตระหง่านสะท้อนเจตนารมย์ของโครงการ BARANEE PARK SRINAKARIN-ROMKLAO ในการใช้ต้นไม้เข้ามายกระดับคุณภาพชีวิตให้กับลูกบ้านอย่างเด่นชัดจนสัมผัสได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่มาถึง
ดังนั้นต่อคำถามที่ว่า แท้จริงแล้วพื้นที่สีเขียวช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนเมืองได้จริงหรือไม่ หากไม่แน่ใจในคำตอบให้ลองหันไปมองเพื่อนบ้านอาเซียนอย่างสิงคโปร์ หรือมาเลเซียในเวลานี้ดูได้
เกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก หรือ World Health Organization (WHO) ระบุไว้ว่าในเมืองใหญ่ของแต่ละประเทศควรจะต้องมีอัตราส่วนของพื้นที่สีเขียวในเมืองเฉลี่ยอย่างน้อย 9 ตารางเมตรต่อประชากรหนึ่งคน ซึ่งจากฐานข้อมูลล่าสุดของสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร ระบุว่าอัตราส่วนพื้นที่สีเขียวในปัจจุบันของสิงคโปร์อยู่ในระดับ 66.2 ตารางเมตรต่อประชากรหนึ่งคน รองลงมาคือกัวลาลัมเปอร์อยู่ที่ 43.9 ตารางเมตรต่อประชากรหนึ่งคน
เชื่อไหมในขณะเดียวกัน ที่กรุงเทพมหานครกลับมีเพียง 3.3 ตารางเมตรต่อประชากรหนึ่งคนเท่านั้น นับว่าอยู่ต่ำกว่าระดับมาตรฐานของ WHO มากทีเดียว และนั่นจึงเป็นที่มาของการเร่งโครงการจัดทำผังแม่บทโครงข่ายพื้นที่สีเขียวในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อปฏิรูปและพัฒนาเมืองให้มีระดับค่าเฉลี่ยพื้นที่สีเขียวตามเกณฑ์มาตรฐานอยู่ในขณะนี้
หากเรากลับมามองที่โครงการ BARANEE PARK SRINAKARIN-ROMKLAO ข้อดีของการเอาสายไฟลงดิน ก็ทำให้เจ้าหน้าที่ดูแลโครงการไม่ต้องคอยบั่นยอดไม้เพื่อไม่ให้สายไฟเข้าไปเกี่ยวโยงกับกิ่งก้าน ซึ่งต้นไม้เหล่านี้ก็สามารถเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามวัฏจักรของมัน
นอกจากความเขียวชอุ่มของต้นไม้ที่แตกกิ่งก้านสาขาจนได้ที่ ในส่วนการออกแบบตัวอาคารพักอาศัยในแต่ละรูปแบบยังคงเอื้อให้ลูกบ้านของโครงการได้เสพกับทัศนียภาพอันร่มรื่นชื่นใจอย่างเต็มที่เช่นกัน
- บ้านเดี่ยวดีไซน์โมเดิร์นที่มองเห็นต้นไม้จากหน้าต่างและประตูทุกบาน
บ้านเดี่ยว 2 ชั้นของโครงการ BARANEE PARK SRINAKARIN-ROMKLAO ออกแบบในแนวคิด Inside to Outside หรือเปิดมุมมองจากภายในสู่ภายนอกทั้ง 3 รูปแบบ ประตูและหน้าต่างทุกบานเผยมุมมองที่เปิดโปร่ง สบายตา กอปรกับการออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้มีฟังก์ชันเชื่อมต่อทุกส่วนในบ้านเชื่อมเข้าด้วยกันเป็นหนึ่ง สังเกตได้ว่ามุมพักผ่อนในห้องนั่งเล่นที่เชื่อมถึงกับมุมพักผ่อนกลางแจ้งหรือในบริเวณ courtyard อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นบ้านรูปแบบ FESPA, DENFE และ LIWA ก็ตาม
เริ่มจากบ้าน FESPA (มาจากคำว่า Life + Space) แบบบ้านหลังเล็กที่สุดของโครงการมีขนาดพื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร ผู้ออกแบบวางผังอาคารโดยเว้น courtyard ในลักษณะตัว C พื้นที่ใช้งานหลักของบ้านประกอบด้วย ห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัวจำนวน 3 ห้อง ห้องน้ำ จำนวน 4 ห้อง พร้อมมุมนั่งเล่น 2 ส่วน ห้องครัว มุมรับประทานอาหาร และที่จอดรถด้านหน้าที่รองรับจำนวนรถยนต์ได้ 2 คัน
ถัดมาเป็นแบบบ้านขนาดกลางอย่าง DENFE (Garden + Life) มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 215 ตารางเมตร ผู้ออกแบบวางผังอาคารในลักษณะตัว h (พิมพ์เล็ก) ทำให้บ้านหลังนี้มี courtyard ถึงสองฝั่ง โดยพื้นที่ใช้งานหลัก ๆ ของบ้านประกอบด้วย ห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัว จำนวน 3 ห้อง ห้องน้ำ จำนวน 4 ห้อง พร้อมมุมนั่งเล่น 3 ส่วน ห้องครัว มุมรับประทานอาหาร และที่จอดรถด้านหน้าที่รองรับจำนวนรถยนต์ได้ 2 คันเช่นกัน
และบ้านหลังสุดท้ายคือแบบบ้านหลังใหญ่ที่สุด LIWA (Life + Water) มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 260 ตารางเมตร ผู้ออกแบบวางผังอาคารหลังนี้ในลักษณะตัว H (พิมพ์ใหญ่) ทำให้บ้านมี courtyard สองฝั่งเช่นเดียวกับแบบบ้าน DENFE แต่พื้นที่ใช้งานหลัก ๆ ของบ้านหลังนี้เชื่อมต่อกันอย่างเป็นสัดส่วนที่สุด ประกอบด้วย ห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัวจำนวน 4 ห้อง ห้องน้ำ จำนวน 5 ห้อง พร้อมมุมนั่งเล่น 2 ส่วน ห้องครัวเชื่อมต่อกับมุมรับประทานอาหาร ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถด้านหน้าที่รองรับจำนวนรถยนต์ได้ 3 คัน
บ้านทั้ง 3 แบบอาจแตกต่างกันที่รายละเอียด ผัง และขนาดพื้นที่ก็จริง แต่ทุกหลังมุ่งเน้นดีไซน์ที่เรียบง่าย กำหนดฟังก์ชันเป็นสัดส่วนชัดเจน และยังสามารถประยุกต์พื้นที่ใช้สอยให้ยืดหยุ่นตามลักษณะการใช้ชีวิต หรือปรับตามจำนวนสมาชิกของบ้านได้เป็นอย่างดี
- พื้นที่ส่วนกลางในวงล้อมของต้นไม้
อีกจุดหนึ่งที่ทำให้โครงการ BARANEE PARK SRINAKARIN-ROMKLAO น่าอยู่คือพื้นที่ส่วนกลางอันร่มรื่น เงียบสงบ และพร้อมสรรพสำหรับการใช้ชีวิตในหนึ่งวันอย่างเพลิดเพลินโดยไม่ต้องออกไปไหน เพราะที่นี่มีคลับเฮ้าส์ที่เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์สำหรับการออกกำลังกาย ห้องอบไอน้ำ สระว่ายน้ำ และสนามเด็กเล่นสำหรับเจ้าตัวเล็ก ในขณะเดียวกันก็มีมุมบาร์บีคิวสำหรับลูกบ้านที่ต้องการจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ นอกบ้าน รวมถึงมุมนั่งทำงานใต้ร่มไม้สำหรับใครที่ต้องการพื้นที่ใช้ความคิดในการทำงานแต่ไม่อยากนั่งอยู่ในบ้าน เป็นต้น
- Room Recommends
จุดเด่นของ BARANEE PARK SRINAKARIN-ROMKLAO คือการออกแบบพื้นที่โครงการได้อย่างลงตัวทั้งในส่วนบ้านพักอาศัยแบบ FESPA, DENFE และ LIWA ที่เน้นดีไซน์เฉียบเรียบ เปิดโปร่งรับความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ที่เกิดจากการนำสายไฟลงดิน เพื่อไม่ให้สายไฟมารบกวนการเจริญเติบโตของต้นไม้ และให้มุมมองที่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยในองค์รวม
สำหรับบ้านพักอาศัยทั้ง 3 แบบนั้น ได้รับการคิดมาเป็นอย่างดีจนตกผลึกเป็นแบบบ้านที่เอื้อสำหรับผู้อาศัย สามารถใช้ประโยชน์พื้นที่ใช้สอยอย่างคุ้มค่าในทุกตารางเมตร ผังอาคารที่มอบความเป็นส่วนตัวด้วยการปิดทึบพื้นที่ส่วนหน้าด้วยโรงจอดรถ แล้วเปิดโปร่งพื้นที่ส่วนกลางของบ้านในลักษณะ courtyard ให้แสงและอากาศผ่านเข้าสู่ภายในอย่างทั่วถึง ผู้อาศัยจึงไม่รู้สึกอึดอัดเมื่อเข้ามาอยู่จริง
รวมถึงยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบมาอย่างเข้าใจถึงความต้องการพื้นฐานของผู้ใช้งาน มีการวางระบบจัดการดูแลรักษาความปลอดภัยที่ดี ตั้งแต่ประตูบานเลื่อนอัตโนมัติหน้าโครงการที่เข้า-ออกด้วยระบบคีย์การ์ดเท่านั้น การติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบโครงการ มาพร้อมระบบสัญญาณเตือนเมื่อมีผู้บุกรุกภายในตัวบ้าน ช่วยสร้างความมั่นใจให้ลูกบ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- Basic Information
บารานี พาร์ค ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (BARANEE PARK SRINAKARIN-ROMKLAO)
พื้นที่โครงการ 22-2-1 ไร่
จำนวนบ้านในโครงการ 86 หลัง เนื้อที่บ้าน 55.7-88.2 ตร.ว. และพื้นที่ใช้สอย 190-260 ตร.ม.
ดําเนินการโดย บริษัท มานะพัฒนาการ จํากัด
ที่ตั้งโครงการอยู่ระหว่างซอยร่มเกล้า 36 และ 38 ถนนร่มเกล้า
ใกล้ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ และแยกเจ้าคุณทหาร เขตลาดกระบัง
สถานที่ใกล้เคียง
– สนามบินสุวรรณภูมิ เพียง 10 นาที
– Airport Link เพียง 6 นาที
– Central Village เพียง 15 นาที
– ย่าน New CBD พระราม 9 เพียง 15 นาที
โทร.08-6339-9983
เว็บไซต์ www.manapat.co.th
อีเมล์ [email protected]
GPS: 13.758555, 100.745994
