ความแตกต่างไม่ได้หมายความว่าสิ่งๆ นั้นจะผิดแปลกแต่อย่างใด ถ้าเราลองเปิดใจก็จะรู้ว่าความแตกต่างนั้นมีอยู่ในทุกๆ ที่เป็นปกติ ทั้งในเรื่องรูปลักลักษณ์ภายนอก มุมมองความคิด ตลอดจนการใช้ชีวิตที่จะมีสักกี่คนเหมือนกันไปเสียทุกอย่าง มันอยู่ที่ว่าใครจะเข้าใจและยอมรับในความแตกต่างนั้นได้มากกว่า
ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา โนเบิลยังคงยึดมั่นและยืนหยัดในแนวคิดที่แตกต่างเพื่อพัฒนาทุกๆ ผลงานให้โดดเด่นไม่เหมือนใคร พร้อมนำเสนอความแปลกใหม่ให้เหมาะกับยุคสมัยที่กำลังดำเนินต่อไปในทุกๆ วัน จนเกิดเป็นภาพยนตร์โฆษณาที่สะท้อนให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนผ่านตัวละคร “มนุษย์เหลี่ยม” เด็กชายคนหนึ่งที่เกิดมาพร้อมกับความแตกต่างในสังคมกับใบหน้าและรูปร่างที่เป็นเหลี่ยมมุมคล้ายกับผลงานคิวบิสม์ของปิกัสโซ บางครั้งก็ทำให้เขารู้สึกว่าเป็นเป้าสายตา แต่เด็กชายยังคงพยายามใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติแม้มุมมองความคิดจะดูแตกต่างไม่เหมือนใคร เห็นได้จากผลงานศิลปะและภาพวาดของเขาที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างแตกต่าง เด็กชายคิดอยู่เสมอว่าสิ่งนั้นคือสิ่งพิเศษที่ถูกสร้างมาพร้อมกับตัวเขาเอง แต่ทำไมทุกคนกลับไม่ยอมรับแม้กระทั่งหญิงสาวที่เขาชอบ หรือความจริงแล้วสิ่งที่เขาเป็นมันคือความแปลกแยกมากกว่าความแตกต่างที่พิเศษอย่างที่เขาคิด ด้วยความกดดันเด็กชายจึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง ใช้เครื่องมือขูดเหลี่ยมมุมของตัวเองออกจนหมดเพื่อให้เป็นคนธรรมดาเหมือนคนอื่นๆ ทั่วไป และไม่รีรอที่จะออกไปใช้ชีวิตอย่างคนปกติ แต่แล้วความรู้สึกก็บอกกับเขาว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นมันไม่ใช่ ชีวิตที่เหมือนคนอื่นไปเสียหมดมันช่างน่าเบื่อและดูไร้ความหมาย แต่โชคดีที่นั่นเป็นเพียงแค่ความคิดจากจินตนาการของเขา เด็กชายยังคงเก็บตัวตนที่แตกต่างของเขาไว้พร้อมกับดำเนินชีวิตต่อไป สุดท้ายการพิสูจน์ตัวเองของเขาก็เป็นที่สิ้นสุด เขากลายเป็นที่ยอมรับกับภาพวาดซึ่งถูกนำไปจัดแสดงในนิทรรศการ และหลายคนก็ชื่นชอบผลงานในสไตล์ของเขาที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด “ขอจงเชื่อในตัวตนของคุณ” สักวันความแตกต่างนั้นจะสร้างความโดดเด่นในที่สุด
ถ้าพูดง่ายๆ เด็กชายหรือ “มนุษย์เหลี่ยม” คนนั้น ก็สะท้อนตัวตนของโนเบิลออกมาให้เห็นว่าแม้มุมมองความคิดอาจจะดูแตกต่างไม่เหมือนใคร ทั้งในเรื่องของการออกแบบที่อยู่อาศัยและการใช้ชีวิต แต่ถ้าเราเชื่อและมั่นใจในทุกสิ่งที่ทำแล้ว สักวันก็จะมีคนเห็นและเข้าใจยอมรับสิ่งเหล่านั้นได้ในไม่ช้า
Advertorial