สัตว์ในฟาร์ม ทั้ง 16 ชนิด กับ บทบาทหน้าที่ของเขา

9 I นกกระทา (Quail)

สัตว์ทางเลือกอีกชนิดหนึ่งที่เลี้ยงในฟาร์มได้ดี เนื่องจากให้ผลผลิตเร็ว ใช้เวลาฟักไข่ 17 วัน และพอฟักออกมาใช้เวลาเพียง 45 วัน ก็สามารถผลิตไข่ได้แล้ว โดยนกกระทา 25 ตัว สามารถเลี้ยงในกรงขนาดเล็ก 60x60x20 ซม. ได้ โดยมีต้นทุนอาหารตกวันละ 10-11 บาท และพออายุได้ 10-12 เดือน ก็จะเริ่มหยุดไข่ก็สามารถนำไปจำหน่ายหรือรับประทานก็ได้เช่นกัน

10 I กบบูลฟร็อก (Bullfrog)

กบสายพันธุ์จากต่างประเทศที่นำมาเลี้ยงในประเทศไทยนานแล้ว ใช้เวลาเลี้ยง 3-4 เดือน ก็สามารถนำไปจำหน่ายได้ ส่วนอาหารให้กินเป็นอาหารปลาดุก และพอกบโตขึ้นก็ให้เสริมด้วยอาหารสด พวกกุ้ง หอย ปู ปลา ร่วมด้วยก็ได้ โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 75 บาท

11 I มวนพิฆาต (Stink Bug)

เป็นแมลงดีมีประโยชน์ที่อยู่ในกลุ่มของตัวห้ำ ที่ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะกินหนอนในแปลงผัก โดยเฉพาะหนอนในกลุ่มของหนอนผีเสื้อ ได้แก่ หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม หนอนคืบกะหล่ำ เป็นต้น โดยอาหารที่ให้ช่วงอนุบาลก็จะเป็น หนอนนก หรือ หนอนแว็กซ์ ซึ่งสามารถขอรับพ่อแม่พันธุ์มวนพิฆาตได้จาก กรมส่งเสริมการเกษตร หรือ ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช (ศทอ.) ที่อยู่ใกล้เคียง

12 I ห่าน (Goose)

ห่านเป็นสัตว์ปีกที่ชอบกินหญ้า เหยียบย่ำและจิกเล็มหญ้าไปทั่ว แถมยังเลี้ยงดูง่าย แข็งแรง ไม่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ไม่ค่อยเป็นโรค ทนต่อสภาพแห้งแล้งได้ดี และมีอายุยืน สามารถเลี้ยงได้นานถึง 10 ปี สำหรับห่านที่แนะนำให้เลี้ยงคือห่านพันธุ์จีน ลักษณะขนสีขาวและสีเทา การเจริญเติบโตเร็ว ตัวไม่ใหญ่มากเกินไป ปราดเปรียว ว่องไว

ภาพ : ไส้เดือนสายพันธุ์แอฟริกันไนท์ครอว์เลอร์ (African Nightcrawler) จาก GreenGarden

13 I ไส้เดือน (Earthworm)

ไส้เดือนเป็นนักย่อยสลายเศษผักหรือผลไม้ที่เน่าเสียเพื่อเป็นอาหารได้ และส่วนหนึ่งก็ใช้มูลวัวจากการทำฟาร์มโคนมมาใช้เป็นประโยชน์สำหรับเป็นที่อยู่ของไส้เดือน ซึ่งพอผ่านการย่อยสลายโดยไส้เดือนเสร็จแล้ว ก็จะกลายเป็นปุ๋ยมูลไส้เดือน ซึ่งสามารถนำมาบำรุงพืชผักให้งอกงามได้

14 I หนอนแมลงวันลาย (Black Soldier Fly larvae)

นอกจากไส้เดือนแล้วก็มีหนอนแมลงวันลายที่เป็นนักย่อยสลายเศษผักผลไม้ภายในฟาร์มด้วยเช่นกัน ซึ่งนิยมเลี้ยงไว้เพื่อเป็นโปรตีนทางเลือกมาทดแทนกากถั่วเหลืองในอาหารสัตว์ เนื่องจากหนอนแมลงวันลายมีโปรตีนสูงถึง 42-56% และมีไขมัน 30% อีกทั้งพอโตเต็มวัยไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ และสามารถควบคุมแมลงวันบ้านได้

15 I ชันโรง (Stingless Bee)

ชันโรง เป็นแมลงอีกหนึ่งชนิดที่สามารถผลิตน้ำผึ้งได้เหมือนผึ้ง แต่ไม่เป็นอันตรายเพราะไม่สามารถต่อยได้ และยังช่วยผสมเกสรให้กับไม้ผล พืชผัก ทำให้เพิ่มผลผลิตขึ้นได้ ส่วนน้ำผึ้งที่ได้จากชันโรงก็มีคุณค่าทางสารอาหารและราคาสูงกว่าน้ำผึ้งปกติอีกด้วย โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ ลิตรละ 1,500 บาท

ภาพ : เด็กขายนม – Boonchu Dairy Farm

16 I โคนม (Milk Cow)

เป็นแหล่งผลิตน้ำนมไว้สำหรับจำหน่าย โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 18 บาท/กิโลกรัม ซึ่งโคนม 1 ตัว จะสามารถให้น้ำนมได้อยู่ที่ 13-15 กิโลกรัม นอกจากนี้น้ำนมที่ได้ก็สามารถนำไปแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้ เช่น เนย โยเกิร์ต นมปรุงแต่งรสชาติ เป็นต้น ส่วนลูกโคนมตัวผู้ หลังจากขุนจนอายุได้ 10-12 เดือน ก็สามารถนำไปจำหน่ายได้ในราคาตัวละ 9,000-10,000 บาท