ขั้นตอนทำบ่อปลูกแหนแดง พืชน้ำดูแลง่าย ไนโตรเจนสูง

วิธีเลี้ยงแหนแดง พืชไนโตรเจนสูง เลี้ยงง่าย ใช้ประโยชน์ได้ทั้งเป็นอาหารสัตว์ และ เป็นปุ๋ยพืชสด

ยกให้ แหนแดง เป็นพืชยอดฮิตของชาวเกษตรในทศวรรษนี้ ซึ่งหลายคนอยากรู้จัก วิธีเลี้ยงแหนแดง ด้วยประโยชน์ที่ถูกเปรียบให้เป็นโรงงานผลิตไนโตรเจน ในต้นทุนสุดต่ำ เลี้ยงง่าย โตไว ให้ผลผลิตเยอะ และ ที่สำคัญมีประโยชน์ต่อพืชผัก และ สัตว์ ด้วยประโยชน์ที่ถูกเปรียบให้เป็นโรงงานผลิตไนโตรเจน ในต้นทุนสุดต่ำ เลี้ยงง่าย โตไว ให้ผลผลิตเยอะ และ ที่สำคัญมีประโยชน์ต่อพืชผัก และ สัตว์ด้วย

Azolla หรือที่หลายๆ คนรู้จักในชื่อ แหนแดง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Azolla spp. จัดอยู่ในวงศ์ Azollaceae ในประเทศไทยมีพันธุ์พื้นเมืองชื่อ อะซอลล่า พินาต้า (A. pinnata) ซึ่งมีขนาดเล็ก และ ให้ผลผลิตต่ำ ทางกรมวิชาการเกษตรจึงได้มีการนำพันธุ์จากต่างประเทศมาปรับปรุง จนได้สายพันธุ์อะซอลล่า ไมโครฟิลล่า (A. microphylla) ที่ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์พื้นเมืองถึง 10 เท่า

วิธีเลี้ยงแหนแดง

หลายคนให้คำนิยามว่า แหนแดง เปรียบเสมือนโรงงานผลิตปุ๋ยไนโตรเจนทางชีวภาพ โดยผ่านกระบวนการตรึงไนโตรเจนจากอากาศของสาหร่ายสีเขียวแกรมน้ำเงินสูงถึงวันละ 300-600 กิโลกรัม/ไร่ แหนแดงจึงมีไนโตเจนเป็นองค์ประกอบ 3- 5% ของน้ำหนักแห้ง หากปลูกแหนแดง 1 ไร่ จะได้ปุ๋ยพืชสดเทียบเท่ากับปุ๋ยยูเรียมากถึง 7-10 กิโลกรัม

นอกจากนี้ แหนแดงยังมีโปรตีนสูงถึง 21.4 – 28.5% รวมถึงมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อสัตว์ จึงถูกใช้เป็นอาหารไก่ ลดต้นทุนอาหารสัตว์กันอย่างแพร่หลาย สามารถใช้เป็นปุ๋ยพืชสด หรืออาจจะนำมาตากแห้ง ประมาณ 1-2 วัน เท่านี้ก็สามารถเก็บแหนแดงไว้ใช้ได้นานเป็นปีเลย แต่ก็ไม่ควรเก็บไว้เกิน 1 ปีเพราะอาจเกิดเชื้อรา และ ทำให้สารอาหารลดลงได้

ถึงแม้แหนแดงจะเป็นพืชกลุ่มเฟิร์นน้ำที่ขนาดเล็ก แต่คุณประโยชน์ของแหนแดงเยอะจนเรียกได้ว่ามีมากเกินขนาดจริงๆ ในทางกลับกันขั้นตอนการเพาะเลี้ยง การดูแล และ การขยายพันธุ์กลับไม่ยุ่งยากสักเท่าไหร่ ซึ่งแหนแดงส่วนใหญ่จะลอยอยู่บนผิวน้ำและ สามารถเจริญเติบโตได้ดีในน้ำที่ไม่ลึกมากการทำบ่อเลี้ยงจึงไม่จำเป็นต้องมีความลึกเกินไป หรือสามารถเลือกใช้ภาชนะที่เหมาะสมต่อการใช้งานในพื้นที่จำกัด เช่น กะละมัง หรือกระถางเลี้ยงบัว ทั้งนี้ควรพิจาณาตามความเหมาะสมของพื้นที่นั้นๆ

เทคนิค และ ขั้นตอน วิธีเลี้ยงแหนแดง

วิธีเลี้ยงแหนแดง

1.เตรียมสถานที่ และ ภาชนะสำหรับเพาะเลี้ยง โดยเลือกสถานที่ที่มีร่มรำไร ได้รับแสงแดดประมาณ 40-50% หรือหากเป็นพื้นที่กลางแจ้งหรือแดดจัด ควรมีการพรางแสงด้วยซาแรน 40-60%

วิธีเลี้ยงแหนแดง

2.เตรียมดิน 4 ส่วน +มูลสัตว์ 1 ส่วน (4:1) เป็นดินกระสอบที่หาได้ตามร้านการเกษตรก็ได้ และ มูลสัตว์เป็นมูลไส้เดือน มูลหมู มูลไก่ หรือมูลวัวอัดเม็ด ที่สามารถหาได้ และ สะดวกต่อการใช้งาน

วิธีเลี้ยงแหนแดง

3.จากนั้นผสมส่วนผสมให้เข้ากัน เทลงในภาชนะหรือบ่อดินรองด้วยพลาสติก ให้มีความสูงประมาณ 5-10 เซนติเมตร

วิธีเลี้ยงแหนแดง

4.เติมน้ำให้ท่วมดินประมาณ 10 เซนติเมตร จากนั้นทิ้งไว้ 1-2 คืน (ขั้นตอนนี้หากมีจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงสามารถเติมได้ เพื่อเร่งในการย่อยสลายของมูลสัตว์)

วิธีเลี้ยงแหนแดง

5.ตักเศษต่างๆที่ลอยน้ำออก

แหนแดง

6.ใส่แหนแดงสดลงไปในปริมาณที่พึงพอใจ หากใส่ปริมาณมาก จะทำให้การขยายของแหนแดงเต็มบ่อเลี้ยงเร็วขึ้น ในที่นี้แนะนำให้ใส่ประมาณ 50-60% ของพื้นที่เพาะเลี้ยงก็เพียงพอ

แหนแดง

7.จากนั้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ แหนแดงที่ปลูกจะเติบโตสามารถนำแหนแดงมาใช้ประโยชน์ หรือทำการเพาะขยายพันธุ์ต่อไปได้ ทั้งนี้ไม่ควรปล่อยให้แหนแดงหนาแน่นจนเกินไป เพราะอาจทำให้แหนแดงที่อยู่ด้านล่างไม่ได้รับแสง ทำให้เกิดการเน่า และ เป็นที่หลบซ่อนของหนอน และ แมลงได้

โรคศัตรูพืช และ การจัดการ ในการเลี้ยงแหนแดง

แหนแดง

หนอนผีเสื้อ แมลงปากกัด แมลงปากดูด เหล่านี้เป็นศัตรูตัวสำคัญของแหนแดง ซึ่งจะเข้าทำลายโดยการกัดกิน และ ดูดน้ำเลี้ยงจากใบ สังเกตง่ายๆจากการที่แหนแดงจับตัวกันเป็นกลุ่มก้อน โดยวิธีการจัดการสามารถทำมุ้งครอบเพื่อป้องกันหนอน และ แมลงเข้าไปวางไข่ หรือให้ตักแหนแดงออก และ นำไปตากแดดทันที วิธีนี้ยังช่วยให้เก็บแหนแดงไว้ใช้ได้นานอีกด้วย ไม่แนะนำให้ใช้สารฉีดกำจัดแมลง เนื่องจากใบของแหนแดงมีคุณสมบัติเหมือนใบบัวหรือใบบอน ทำให้ยากที่สารหรือน้ำจะจับบริเวณใบ ดังนั้นแนะนำให้มีบ่อพ่อแม่พันธุ์ไว้ 1-2 บ่อ เพื่อหากมีการเข้าทำลายของหนอน และ แมลงในบ่ออื่นๆ จะยังสามารถใช้แหนแดงจากบ่อแม่พันธุ์มาขยายต่อได้

การดูแลแหนแดง

แหนแดง

แหนแดงต้องการธาตุอาหารหลักเหมือนพืชสีเขียวชนิดอื่นๆ ยกเว้นไนโตรเจน รวมทั้งต้องการธาตุอาหารรองเพื่อใช้ในการเจริญเติบโตฟอสฟอรัสจึงมีความจำเป็นต่อแหนแดงมาก ถ้าปริมาณฟอสฟอรัสในดินต่ำเกินไป จะส่งผลให้การเจริญเติบโต และ ปริมาณการตรึงไนโตรเจนลดลง ดังนั้นควรมีการใส่มูลสัตว์ประมาณ 100 กรัม เป็นประจำทุกๆ 2-3 สัปดาห์ หากใส่แล้วสังเกตเห็นว่าแหนแดงเหี่ยว ให้เติมน้ำเพิ่มเพราะอาจจะมาจากการใส่มูลสัตว์ที่มากเกินไป ทำให้น้ำเค็มได้ และ หากแหนแดงแสดงอาการเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ให้เติมมูลสัตว์ลงไปอีก เพราะปริมาณธาตุอาหารอาจไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต

ข้อเสียของแหนแดง

แหนแดงเมื่อแพร่กระจายมากจะมีลำต้นปกคลุมผิวน้ำทั้งผืน ทำให้แสงแดดส่องไม่ถึงท้องน้ำหรือแสงแดดส่องไม่ถึงน้ำ ส่งผลต่อการสังเคราะห์แสง และ การเติบโตของพืชใต้ท้องน้ำ รวมถึงทำให้ออกซิเจนละลายน้ำลดลง ผลที่เกิดขึ้นเหล่านี้ มีสาเหตุสำคัญทำให้สัตว์น้ำจำพวกปลาตายได้ง่าย และ ไม่ควรนำปล่อยขยายในลำน้ำ ลำธารธรรมชาติ หรือสาธารณะ เพราะเนื่องจากแหนแดงมีปริมาณไนโตรเจนที่สูง และ ขยายพันธุ์เร็ว เมื่อมีหนาแน่นเกินไปอาจส่งผลให้แหล่งน้ำเกิดการเน่าเสีย และ เป็นพิษได้

แหนแดง

นอกจาก แหนแดง จะใช้เป็นปุ๋ย และ เลี้ยงสัตว์ได้แล้ว ยังอีกคุณประโยชน์ที่หลายๆ คนยังไม่รู้ คือแหนแดงสามารถนำมาประกอบเป็นอาหารได้ โดยใช้แหนแดงที่ยังไม่โตเต็มที่หรือยังมีสีเขียวอยู่ เมนูสำหรับแหนแดง ได้แก่ ลวกจิ้มน้ำพริก ผัดใส่หมู/เนื้อ แกงเลียง แกงอ่อม เป็นต้น ทั้งนี้การรับประทานแหนแดงควรทำให้สุกทุกครั้ง เพราะอาจมีพยาธิหรือไข่พยาธิเกาะติดมาด้วย

เรื่อง/ภาพ : อธิวัฒน์ ยั่วจิตร

บทความที่เกี่ยวข้อง

อยากให้รู้ก่อนเริ่มเลี้ยงด้วย 10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ “แหนแดง”

แก้ดินเค็ม ดินไม่ดี ให้ปลูกผักงาม

ทำฟาร์มไก่ไข่อารมณ์ดีเป็นอาชีพเสริม วางแผนให้ดีก็คุ้มทุนได้

ติดตามข้อมูลจากบ้านและสวน Garden & Farm ได้ที่นี่