12 ไม้ประธานฟอร์มสวยที่นิยมใช้ในงานจัดสวน

ไม้ประธาน คือ ต้นไม้ใหญ่ที่ช่วยสร้างความน่าสนใจให้มุมสวนได้ดี จึงนิยมเลือกต้นที่มีรูปทรงสวยงามมาใช้กัน เราได้รวบรวม 12 ต้นไม้ฟอร์มสวยที่นิยมนำมาสร้างจุดเด่นให้สวน จะมีต้นอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย

ไม้ประธานจัดสวน 

เสม็ดแดง  ไม้ประธานจัดสวน
เสม็ดแดง

1. เสม็ดแดง

ชื่อวิทยาศาสตร์: Syzygium Gratum (Wight) S.N.Mitra Var.Gratum

วงศ์: MYRTACEAE

ไม้ต้นขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ สูงถึง 20 เมตร มีถิ่นกำเนิดประเทศอินเดีย พม่า มาเลเซีย จนถึงฟิลิปปินส์ ทรงพุ่มกลม ลำต้นสีน้ำตาลปนเทา มักบิดงอ กิ่งอ่อนเป็นทรงสี่เหลี่ยม ใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม ใบรูปรีแคบหรือรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบสอบมน ใบค่อนข้างหนามัน ใต้ใบสีอ่อน ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง สีขาวอมเขียว ไม่มีก้านดอก กลีบดอก 5 กลีบ รูปทรงมน มีขนาดเล็ก ออกดอกเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม ติดผลเป็นพวง ผลทรงกลมสีขาวขุ่น อัตราการเจริญเติบโตปานกลาง ต้องการน้ำมาก ทนน้ำท่วม แสงแดดตลอดวัน ควรปลูกในพื้นที่กว้างให้ได้รับแสงเต็มที่ ระยะปลูกที่เหมาะสม 3 – 6 เมตร ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด

น้ำเต้าต้น ไม้ประธานจัดสวน
น้ำเต้าต้น

2. น้ำเต้าต้น (Calabush Tree)

ชื่อวิทยาศาสตร์: Crescentia cujete L.

วงศ์: BIGNONIACEAE

ไม้ต้นสูง 3 – 8 เมตร มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกากลาง ทรงพุ่มกลม กิ่งก้านแผ่กว้าง ปลายกิ่งห้อยลง นิยมปลูกให้ความสวยงามเนื่องจากลักษณะของต้นและผลสวยแปลกตา ใบเดี่ยวเรียงเวียนสลับเป็นกระจุก รูปไข่กลับแกมรูปช้อน ปลายมนหรือมนเป็นติ่งแหลม โคนใบสอบแคบ ดอกออกเป็นช่อกระจุกแน่นตามลำต้นและกิ่ง โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย สีเขียวอมเหลือง มีลายริ้วสีชมพูอมม่วงเด่นชัดและร่วงง่าย ออกดอกตลอดปี ผลกลม ใหญ่ เปลือกแข็งหนา เมื่อแก่มีสีเหลืองอมเขียว เจริญเติบโตช้า แสงแดดตลอดวันถึงครึ่งวัน ต้องการน้ำปานกลาง ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดหรือตอนกิ่ง พืชสกุลนี้มีอีกชนิดหนึ่งคือ ตีนเป็ดฝรั่ง (C. alata) แตกต่างกันที่มีใบประกอบ 3 ใบย่อย ดอกสีม่วงแดง และหายากกว่าน้ำเต้าต้น

หลิว ไม้ประธานจัดสวน
หลิว

3. หลิว (Weeping Willow)

ชื่อวิทยาศาสตร์: Salix babylonica L.

วงศ์: SALICACEAE

ไม้ต้นขนาดเล็กถึงกลาง สูง 10 – 20 เมตร มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน ทรงพุ่มโปร่ง แผ่กว้าง ลำต้นสีน้ำตาลแตกเป็นร่องไม่มีระเบียบตามแนวตั้ง กิ่งก้านมีสีเขียวหรือน้ำตาลอ่อน ปลายกิ่งห้อยย้อยลู่ลง ใบเดี่ยวเรียงเวียนรอบกิ่ง รูปใบเรียวยาวเหมือนหอกแคบหรือรูปขอบขนาน ยาว 8 – 16 เซนติเมตร ปลายใบและโคนใบแหลม ใต้ใบสีเขียวอ่อน ดอกออกเป็นช่อกระจะ ขนาดเล็กมากเป็นแท่งยาว ไม่มีกลีบดอกมีสีเขียวอมเหลืองกลืนไปกับพุ่มใบ โตเร็ว ต้องการน้ำมาก ทนน้ำท่วมได้ และแสงแดดเต็มวัน สามารถขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ และตอนกิ่ง ระยะปลูกที่เหมาะสม 4 – 8 เมตร ในการจัดสวนใช้ปลูกริมถนน ริมทางเดิน แต่ส่วนใหญ่นิยมปลูกประดับสวนริมน้ำ เพราะรูปทรงอ่อนช้อย ช่วยเพิ่มเส้นสายที่พลิ้วไหวนุ่มนวล  ไม้ประธานจัดสวน 

จามจุรี ไม้ประธานจัดสวน
จามจุรี

4. จามจุรี (Rain tree)

ชื่อวิทยาศาสตร์: Albizia saman (Jacq.) Merr.

วงศ์: FABACEAE

ไม้ต้นขนาดใหญ่ ผลัดใบ ความสูง 15-20 เมตร มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ ทรงพุ่มทึบ รูปร่มแผ่กว้าง เหมาะเป็นไม้ต้นให้ร่มเงาขนาดใหญ่ รูปทรงสวยงาม ไม่ควรใช้ในพื้นที่ขนาดเล็ก เนื่องจากทรงพุ่มแผ่กว้าง ระยะปลูกเพื่อจัดสวนห่าง 15-20 ม. โคนต้นเป็นพูพอนเล็กน้อย ลำต้นสีเทาดำ หนา ขรุขระแตกเป็นสะเก็ดขนาดเล็กใหญ่ไม่เป็นระเบียบ ใบประกอบแบบขนนกสองชั้นรูปไข่ บ้างคล้ายรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน สีเขียวเข้ม ออกดอกเป็นช่อกระจุกแน่นตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ช่อดอกตั้งขึ้น มีดอกจำนวนมาก กลีบเลี้ยงสีเขียวแกมชมพูติดกันเป็นหลอด ปลายแยก 6-8 แฉก มีขนอ่อนปกคลุม กลีบดอกสีขาวอมชมพูโคนติดกันเป็นรูปปากแตร ปลายแยกออกเป็น 5 แฉก ออกดอกตลอดปี แต่จะดกในเดือนกันยายน – กุมภาพันธ์ ฝักรูปขอบขนานบิดโค้งเล็กน้อย ฝักอ่อนสีเขียว ฝักแก่สีน้ำตาล โป่งและคอดเป็นตอนๆ เติบโตเร็ว ต้องการน้ำปานกลาง-สูง ทนน้ำท่วมขังแฉะได้ แสงแดดเต็มวัน ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด นอกจากงานจัดสวนแล้ว จามจุรีนิยมนำใบไปทำปุ๋ยหมักและวัสดุปลูกหรือใช้เพาะครั่งได้

พะยอม
พะยอม

5. พะยอม (White Meranti)

ชื่อวิทยาศาสตร์: Shorea roxburghii G.Don

วงศ์: DIPTEROCARPACEAE

ไม้ต้นผลัดใบที่สูงได้ถึง 15 – 30 เมตร มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศไทย และทวีปเอเชีย ทรงพุ่มรูปไข่หรือกรวยคว่ำ ลำต้นเปลือกสีเทาเข้มแตกเป็นร่องตามยาว ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปรี ปลาย และโคนใบมนหรือเป็นติ่งสั้น ใต้ใบมีขนนุ่ม เห็นเส้นใบชัดเจน ดอกเป็นช่อแยกแขนงออกที่ปลายกิ่ง โคนกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันปลายแยกเป็น 5 กลีบสีขาวเรียงเวียนแบบกังหัน กลีบดอกเชื่อมติดกันและร่วงง่าย กลีบเลี้ยงขยายขนาดเป็นปีกและติดทนนานจนเป็นผล บานพร้อมกันหรือทยอยบานทั้งช่อ ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่วงเย็น ออกดอกเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ ผลรูปกระสวย อัตราการเจริญเติบโตช้า ปลูกได้ในดินร่วนปนทรายหรือดินที่ระบายน้ำดี และแสงแดดเต็มวัน ชอบอากาศเย็น  ให้น้ำปานกลาง ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดหรือตอนกิ่ง ในการจัดสวนควรปลูกลงแปลงกลางแจ้งให้ห่างจากต้นไม้อื่น 6 – 8 เมตร หากปลูกในดินเหนียวแฉะ จะออกดอกน้อยมาก  ไม้ประธานจัดสวน 

กระพี้จั่น
กระพี้จั่น

6. กระพี้จั่น

ชื่อวิทยาศาสตร์: Millettia brandisiana Kurz

วงศ์: LEGUMINOSAE – PAPILIONOIDEAE

ไม้ต้นขนาดกลาง ผลัดใบ สูงถึง 20 เมตร มีถิ่นกำเนิดในประเทศพม่า ทรงพุ่มกลม ลำต้นมีเปลือกสีน้ำตาลค่อนข้างดำแตกเป็นสะเก็ด มีใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ รูปรีหรือรูปไข่ปลายใบแหลมถึงเรียวแหลม ใบมีสีเขียวเข้มใต้ใบสีเขียวนวล  ยอดอ่อนมีสีแดง ช่อดอกเป็นช่อกระจะออกตามกิ่งพร้อมผลิใบใหม่ ดอกแบบดอกถั่ว สีม่วงอมชมพู ผลเป็นฝักแบน ปลายฝักแหลมเป็นจะงอย สามารถปลูกในดินร่วนปนทราย ให้น้ำปานกลาง และทนแล้งได้ดี ต้องการแสงแดดเต็มวัน สามารถเพาะเมล็ดได้ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับสวนเพื่อให้ร่มเงาและมีดอกออกสวยงาม แต่ไม่ควรปลูกในสนามเด็กเล่น เพราะปลายฝักแหลมอาจเป็นอันตรายได้

นนทรี
นนทรี

7. นนทรี (Yellow Flame Tree)

ชื่อวิทยาศาสตร์: Peltophorum pterocarpum (DC.) Backer ex K.Heyne

วงศ์: FABACEAE

ไม้ต้นขนาดใหญ่ กึ่งผลัดใบ  สูงได้ถึง 25 เมตร มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย ทรงพุ่มรูปร่ม ให้ร่มเงาและกรองฝุ่นได้ดี ควรปลูกในพื้นที่กว้าง ระยะปลูกที่เหมาะสม 4 – 10 เมตร  ส่วนของลำต้นสีเทาอมน้ำตาล ตามกิ่งและยอดมีขนสีน้ำตาลแดง ใบประกอบแบบขนนกสองชั้นปลายคู่เป็นรูปไข่แกมรูปขอบขนานเรียงเวียนสลับถี่ที่ปลายกิ่ง ปลายใบมนหรือเว้าตื้น ๆ โคนใบมนและเบี้ยว ดอกเป็นช่อกระจะขนาดใหญ่ รูปเจดีย์ ออกที่ปลายกิ่งและซอกใบใกล้ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงมีขนเป็นกำมะหยี่สีน้ำตาลแดง กลีบดอก 5 กลีบ สีเหลืองเข้ม บางและย่น มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกดอกเดือนมีนาคม – มิถุนายน ผลฝักแบนรูปรี ปลายและโคนสอบแหลมสีน้ำตาลอมม่วง เมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดง เจริญเติบโตเร็ว ต้องการน้ำปานกลาง ทนแล้งได้ แสงแดดตลอดวัน ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด นนทรีมีลักษณะคล้ายไม้ต้นอีกชนิดหนึ่งคือ อะราง (P. dasyrrhachis) ต่างกันที่ช่อดอกห้อยและเมล็ดในฝักเรียงตามยาว

จิกน้ำ
จิกน้ำ

8. จิกน้ำ (Freshwater Mangrove)

ชื่อวิทยาศาสตร์: Barringtonia acutangula (L.) Gaertn.

วงศ์: LECYTHIDACEAE

ไม้ต้นขนาดกลาง ผลัดใบ ความสูง 5 – 18 เมตร มีถิ่นกำเนิดภูมิภาคเอเชียใต้ อัฟกานิสถาน ฟิลิปปินส์ ไปจนถึงทางตอนเหนือของประเทศออสเตรเลียในแถบรัฐควีนส์แลนด์ ทรงต้นและพุ่มใบแผ่กว้าง เหมาะสำหรับจัดสวนประกอบน้ำ ระยะปลูกที่เหมาะสม 3 – 6 เมตร ลำต้นเป็นปุ่มปม ปลายกิ่งลู่ลง ใบเดี่ยวใหญ่ยาว ร่องใบลึก เรียงเวียนสลับถี่บริเวณปลายยอด รูปใบหอกหรือรูปไข่กลับ ปลายและโคนใบแหลม ขอบจักถี่ ใบอ่อนสีน้ำตาลแดงเข้ม ดอกเป็นช่อยาวออกที่ปลายกิ่งห้อยลงเป็นระย้ายาว มีกลิ่นหอม กลีบเลี้ยง 4 กลีบ กลีบดอกสั้น ปลายแยกเป็น 4 กลีบ หลุดร่วงง่าย ดอกเล็กสีชมพูหรือสีแดง ออกดอกเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม บานในตอนเย็นถึงเช้า ร่วงตอนสาย ผลรูปเหลี่ยมกลมยาว เจริญเติบโตเร็ว ต้องการน้ำมาก ทนน้ำท่วมได้ ต้องการแสงแดดตลอดทั้งวัน

ลั่นทม
ลั่นทม

9. ลั่นทม (Plumeria)

ชื่อวิทยาศาสตร์: Plumeria obtusa L.

วงศ์: APOCYNACEAE

ไม้ผลัดใบขนาดเล็ก ความสูง 3 – 8 เมตร มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ เช่น เม็กซิโก ทรงพุ่มรูปร่ม แผ่กว้าง เจริญเติบโตช้า ต้องการน้ำปานกลาง ทนแล้งได้ แต่ไม่ทนน้ำท่วม ต้องการแสงแดดตลอดวัน ควรปลูกในพื้นที่กว้างให้ได้รับแสงเต็มที่ ระยะปลูกที่เหมาะสม 2 – 6 เมตร ลำต้นและกิ่งอวบน้ำ เปราะ เปลือกสีน้ำตาลปนเทา ทุกส่วนของต้นมีน้ำยางสีขาว ใบเดี่ยวเรียงเวียนสลับถี่ที่ปลายกิ่ง รูปใบหอก หรือรูปไข่ ปลายใบมน โคนใบมนหรือสอบ แผ่นใบหนา ผิวใบด้านบนสีเขียวเป็นมัน ดอกออกเป็นช่อกระจุกที่ปลายกิ่ง สีขาว กลางดอกสีเหลือง มีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดปี ผลแห้งแตกเป็นฝักคู่ ขยายพันธุ์ได้โดยการเพาะเมล็ด ปักชำ และตอนกิ่ง นิยมปลูกในสวนสไตล์เมืองร้อน

หว้า
หว้า

10. หว้า (Black Plum)

ชื่อวิทยาศาสตร์: Syzygium cumini (L.) Skeels

วงศ์: MYRTACEAE

ไม้ผลเขตร้อน สูง 15-35 เมตร มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดียถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  เปลือกต้นสีน้ำตาลค่อนข้างเรียบ ใบรูปไข่หรือรูปรี บริเวณขอบใบมีจุดน้ำมัน มีพุ่มใบค่อนข้างแน่นให้ร่มเงาได้ดี ทรงพุ่มแผ่กว้างตามอายุที่มากขึ้น จึงต้องใช้พื้นที่ในการปลูกมากกว่า 30 ตารางเมตร ถึงจะได้ต้นที่สมบูรณ์และสวยงามจริงๆ แต่ถ้าหมั่นตัดแต่งทรงพุ่มบ้างก็จะได้ไม้ต้นในสวนที่สวยงาม ดอกออกเป็นช่อที่ซอกใบหรือปลายยอด ดอกสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน ฐานรองดอกรูปกรวย มีกลีบเลี้ยง 4 กลีบ กลีบดอก 4 กลีบ ออกดอกและติดผลในช่วงเดือนธันวาคม-มิถุนายน ผลสด รูปรีแกมรูปไข่ ฉ่ำน้ำ มีสีม่วงดำ ผิวผลเรียบเป็นมัน ผลแก่ประมาณเดือนพฤษภาคม อัตราการเจริญเติบโตปานกลาง แสงแดดตลอดวัน ให้น้ำปานกลาง การขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด และตอนกิ่ง

พุดกังหัน
พุดกังหัน

11. พุดกังหัน (Pinwheel Jasmine)

ชื่อวิทยาศาสตร์: Tabernaemontana orientalis R.Br.

วงศ์: APOCYNACEAE

ไม้พุ่มสูง 1-3 เมตร มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศไทย ทุกส่วนมีน้ำยางสีขาว ใบเดี่ยวรูปหอกกลับ ปลายใบแหลมยื่นเป็นติ่งแหลม โคนใบแคบแหลม ขอบใบเรียบ แผ่นใบสีเขียวเข้มเป็นมันเงา ดอกออกเป็นช่อสีขาว กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกัน กลีบดอก 5 กลีบ โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดรูปทรงกระบอก ดอกบานคล้ายกังหันหรือกงจัก อัตราการเจริญเติบโตปานกลาง ชอบดินร่วนปนทราย ระบายน้ำดี แสงแดดตลอดวันถึงครึ่งวัน ให้น้ำปานกลาง ขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่ง ปักชำกิ่ง  นิยมปลูกประดับสวนได้หลายสไตล์ ทั้งสวนโมเดิร์น สวนยุโรป และสวนเมืองร้อน

บุนนาค
บุนนาค

12. บุนนาค (Iron Wood)

ชื่อวิทยาศาสตร์: Mesua ferrea L.

วงศ์: GUTTIFERAE (CLUSIACEAE)

ไม้ต้นขนาดกลางถึงใหญ่ ไม่ผลัดใบ สูงประมาณ 15-25 เมตร มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอินเดียไปจนถึงมาเลเซีย ทรงพุ่มรูปกรวยคว่ำ หนาทึบ อัตราการเจริญเติบโตช้า ต้องการน้ำมากแต่ไม่แฉะ แสงแดดตลอดวันควรปลูกในพื้นที่กว้างให้ได้รับแสงเต็มที่ ระยะปลูกที่เหมาะสม 3 – 6 เมตร ให้ร่มเงาได้ดี ลำต้นสีน้ำตาลปนเทา เปลือกลำต้นเรียบ ใบเดี่ยวรูปใบหอกสีเขียวเข้ม ใต้ใบสีเขียวนวล ใบอ่อนสีชมพูห้อยเป็นพวง ออกดอกเดี่ยวหรือเป็นกระจุก 2-3 ดอกที่ปลายกิ่ง กลีบดอก 4 กลีบ สีขาวหรือชมพูรูปไข่ ปลายบานและเว้า โคนสอบขอบกลีบเป็นคลื่น ออกดอกเกือบพร้อมกันทั้งต้น ดอกบานนาน 1-2 วัน มีกลิ่นหอมมาก ออกดอกเดือนมีนาคม-กรกฎาคม มีผลรูปไข่ ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด และตอนกิ่ง


เรียบเรียง: คีตญา จันนคร

ภาพ : คลังภาพบ้านและสวน และนิตยสาร room

อ่านเพิ่มเติม

10 ต้นไม้ยืนต้นโตเร็ว ให้ร่มเงาและบังแดดได้ดีมาก

15 ไม้ยืนต้นกินได้ เนื้อไม้ใช้ได้ ล้อมขายก็ได้