สวน Modern Japanese เทรนด์ใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมที่เมืองเกียวโต
นครเกียวโตเคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 1,000 ปี (ตั้งแต่ปี พ.ศ.1337-2411) แม้ว่าปัจจุบันเมืองหลวงจะย้ายไปอยู่ที่โตเกียวแล้ว แต่เกียวโตก็ยังคงรักษาความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไว้อย่างดี เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัดเก่าแก่ ศาลเจ้า พระราชวัง รวมถึงสวนญี่ปุ่นสไตล์ดั้งเดิม (Traditional Japanese Gardens) แต่มีการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย ให้เป็น สวน Modern Japanese
เพราะในปัจจุบันสิ่งปลูกสร้างทั้งอาคารสำนักงาน โรงแรม รวมไปถึงบ้านพักอาศัยเป็นสไตล์โมเดิร์นมากขึ้น ในขณะที่หลายอย่างยังเป็นของเก่าแก่ดั้งเดิมอายุหลายร้อยปี นักจัดสวนจึงเกิดไอเดียนำของเก่าที่มีเหล่านั้นมาจัดวางเล่าเรื่องใหม่เป็น สวน Modern Japanese ให้ดูทันสมัยขึ้น โดยยังคงรากของสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมไว้ ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์หลักที่ คุณภูริวัจน์ วรากิติยาวิโรจกุล เจ้าของและนักออกแบบจัดสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมฝีมือดีจาก บริษัทวาบิซาบิ สปิริต จำกัด นำมาใช้เป็นโจทย์หลักในการออกแบบสำหรับสวนของบ้านหลังนี้
- เข้าใจสวนญี่ปุ่นยุคใหม่แบบนอกตำราที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนกับคุณภูริวัจน์ วรากิติยาวิโรจกุล
- สวนลำธารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ที่ทำงานแห่งใหม่ของนักจัดสวน

“ปัจจุบันการออกแบบสวนญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่นจะนิยมรวมเอาสวนแบบต่าง ๆ มาอยู่ในพื้นที่เดียวกัน นำของเก่ามาบิดให้เกิดรูปแบบใหม่ที่ดูทันสมัยขึ้น เช่น ใช้ตะเกียงหินอายุหลายร้อยปี หรือตะเกียงหิน อ่างน้ำรินที่ออกแบบและทำขึ้นมาใหม่ให้มีรูปทรงที่ดูโมเดิร์น นำมาจัดวางในตำแหน่งที่ต่างไปจากสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มีไอเดียใหม่ ๆ ที่น่าสนใจหลากหลายให้เห็นมากขึ้นครับ ยกตัวอย่างที่เห็นได้ในสวนนี้คือ บริเวณบันไดหินหรือสะพานหินเดินข้ามสวน เรานำหินเก่ายุคโบราณมาจัดวางร่วมกับหินใหม่ มีบรรยากาศของสวนโระจิที่มีมอสส์ดูชุ่มชื้น มีต้นไม้สีเขียวอ่อนเข้ม มีลำธารเล็ก ๆ มีน้ำไหลเหมือนสวนชิเซนเทเอ็น (自然庭園) หรือสวนธรรมชาติแบบญี่ปุ่น วางอ่างน้ำรินที่มีรูปแบบทันสมัยไว้ในลำธาร ทำให้เกิดมุมมองใหม่ ๆ ที่ดูแปลกตา แต่ก็ยังคงกิมมิคของสวนชาแบบดั้งเดิมไว้ครับ”


คุณภูริพาเดินชมสวนโซนแรกที่อยู่บริเวณข้างบ้าน พร้อมเล่าให้ฟังว่า “คุณชีพ-ชูชีพ ลิมปนาวรวงศ์ เป็นลูกค้าคนแรกที่ซื้อของที่ผมขายที่เฟซบุ๊กแฟนเพจตั้งแต่ช่วงก่อนโควิดครับ ตอนนั้นเราสองคนต่างก็เป็นโควิด ส่งข้อความพูดคุยปรึกษาเกี่ยวกับการรักษากันมาตลอด และผมรับปากว่าหลังรักษาหายแล้วจะมาจัดสวนที่บ้านให้

“โซนแรกที่ผมจัดคือบริเวณด้านข้างบ้าน พื้นที่มีลักษณะแคบยาว กว้างแค่ประมาณ 1 เมตร และมีพื้นที่ด้านหน้าอีกนิดหน่อย ซึ่งทั้งหมดนี้มีสวนญี่ปุ่นที่คุณชีพจัดเองอยู่ก่อนแล้ว รวมไปถึงบ่อปลาคาร์ปติดรั้วด้านหน้าบ้าน แต่พื้นที่เล็กก็ไม่ใช่ปัญหาครับ เพราะสวนญี่ปุ่นจะถนัดกับการเล่าเรื่องในพื้นที่ขนาดเล็ก ๆ แคบ ๆ อยู่แล้ว จะมีสวนญี่ปุ่นอยู่ประเภทหนึ่งเรียกว่า “ทสึโบะนิวะ (坪庭)” ซึ่งสวนประเภทนี้จะหยิบยกเอากิมมิคของสวนแต่ละประเภทมารวมกัน และจัดในพื้นที่ขนาดเล็ก ที่ญี่ปุ่นจะมีการวัดพื้นที่ที่มีหน่วย “ทสึโบะ” 1 ทสึโบะจะเท่ากับเสื่อทาทามิ 2 ผืน (80×1.80 เมตร) มีการแข่งขันประกวดออกแบบสวนทสึโบะนิวะกันอย่างจริงจัง การตัดสินจะวัดกันที่ว่าในพื้นที่ขนาดเล็กนี้นักออกแบบจะเล่าเรื่องราวอย่างไรได้บ้าง สวนทสึโบะนิวะจะมีความมินิมอล มีความน้อยแต่มาก ไม่ใส่อะไรเยอะเกินไป อย่าง ของตกแต่งแค่บางชิ้น หรือหินแค่บางก้อน แค่วางก็สามารถเล่าเรื่องได้ครับ”


“ผมไปญี่ปุ่นบ่อยครับ ชอบความเป็นญี่ปุ่น และอยากมีสวนญี่ปุ่นที่บ้าน พื้นที่เราก็มีไม่มาก และเราเองก็พอจะมีหัวทางด้านนี้ เลยลองจัดเอง หาของตกแต่งสวนสไตล์ญี่ปุ่นจนไปเจอเพจคุณภูริ ตอนนั้นผมเลี้ยงปลาคาร์ปด้วย ก็หาคนมาทำบ่อให้ ส่วนน้ำตกก็ออกแบบเอง โดยให้คนที่มาส่งหินช่วยวางหินให้ แต่งขอบบ่อ วางกระถางบอนไซที่เป็นของสะสมตกแต่งแบบง่าย ๆ สรุปทำออกมาแล้วไม่สวย ต้องให้คุณภูริมาช่วยจัดการให้ครับ” คุณชีพเล่าเสริมให้ฟัง

“หลังจากนั้น 2 ปี คุณชีพติดต่อมาอีกครั้งให้เข้ามาดูพื้นที่จัดสวน เพราะซื้อบ้านที่อยู่ติดกันเพิ่มทั้งสองข้างครับ ตอนเข้ามาบ้านรีโนเวทใกล้เสร็จ พอจะเห็นแล้วครับว่าจะมีห้องอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง การออกแบบสวนผมเน้นการเทควิวจากในบ้านออกไปที่สวน เพราะบ้านออกแบบให้เปิดมุมมองจากภายในสู่ภายนอกไว้ค่อนข้างมาก ทั้งหน้าต่างและประตูบานใหญ่ รวมไปถึงผนังกระจกรอบห้อง พื้นที่จัดสวนมีน้อยก็จริง แต่ถ้าเรายกสวนให้เป็นเนินสูงขึ้น ทุกอย่างจะเด่นขึ้น ช่วยเพิ่มมิติในแนวตั้งมากขึ้น เมื่อมองจากในบ้านออกมาจะเห็นสวนมีตัวตนมากขึ้น ซึ่งลักษณะเนินแบบนี้จะพบได้ตามบ้านที่ญี่ปุ่นซึ่งอยู่ตามเนินเขาหุบเขาเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้วครับ

“สวนนี้ใช้หินค่อนข้างเยอะและเป็นหินที่หาได้ในบ้านเราครับ บริเวณลำธารเป็นหินภูเขาไฟจาก 2 แหล่ง คือ บุรีรัมย์จะออกโทนสีน้ำตาล และจากสุรินทร์จะออกโทนสีเทา ใช้ผสมรวมกัน ซึ่งตอบโจทย์เรื่องโทนสีที่ดูเป็นหินเก่า เลือกใช้เป็นหินภูเขาไฟเพราะต้องการเท็กซ์เจอร์ที่มีเหลี่ยมมุม มีสันในแบบหินใหม่ แต่ก็ไม่คมมากเกินไป ให้ดูแล้วมีลักษณะกึ่งเก่ากึ่งใหม่ ส่วนโซนอื่นใช้หินภูเขาไฟเช่นกัน โดยคุมโทนสีที่ใกล้เคียงกันและเข้ากันกับสีวัสดุของบ้านครับ



“ต้นไม้ส่วนใหญ่เป็นไม้นำเข้า และเป็นต้นไม้สะสมของเจ้าของบ้านที่ซื้อเก็บไว้ครับ ทั้งสนใบพาย เมเปิ้ล โรโดเดนดรอน (กุหลาบพันปี) อาซาเลีย คาเมลเลีย ซึ่งเป็นกลุ่มต้นไม้ที่นิยมใช้ในสวนญี่ปุ่นอยู่แล้ว และไปด้วยกันได้ดีกับสไตล์สวนที่ผมออกแบบ สวนนี้ใช้ไม้ดอกค่อนข้างเยอะตามความชอบของเจ้าของบ้าน เลือกไม้ดอกที่ผลิดอกผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามช่วงฤดูกาล ทั้งไฮเดรนเยีย กล้วยไม้ดิน กุยช่ายฮาวาย เป็นสวนเดียวที่ผมไม่ปิดกั้นความสนุก ให้เจ้าของได้มีส่วนร่วมในการเลือกไม้ดอกที่มีสีสันหลากหลาย เราไม่คุมโทนสีมากนัก แต่ก็ไม่ใช้สีที่ฉูดฉาดจนเกินไป ในงานสวนเราต้องเสิร์ฟความสุขให้ลูกค้าให้ได้ ปลายทางอยู่ตรงนั้นครับ เขาเสียสละพื้นที่และงบให้เรา เป้าหมายของผมคือให้ความสวยงามและมอบความสุขครับ”


“ตั้งแต่มีสวนที่บ้าน ผมแทบจะไม่ได้ไปญี่ปุ่นเลยครับ ผมว่าสวนที่บ้านผมสวยกว่าสวนที่ญี่ปุ่นบางที่อีกนะครับ” คุณชีพกล่าวทิ้งท้ายก่อนเชิญชวนให้เข้าไปชมภายในบ้านที่ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น เรียบ เท่ มีความสวยงามไม่แพ้กัน
เจ้าของ : คุณชูชีพ ลิมปนาวรวงศ์
ออกแบบ : บริษัท Wabisabi Spirit โดยคุณภูริวัจน์ วรากิติยาวิโรจกุล
เรื่อง : วชิรพงศ์ หวลบุตตา
ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข