เมล็ดพันธุ์ผัก หน้าตาแบบนี้ โตขึ้นเป็นผักชนิดไหนกันนะ??

พืชผักส่วนใหญ่นิยมขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด เนื่องจากมีข้อดีคือทำได้สะดวก รวดเร็ว ปลูกครั้งหนึ่งก็ได้ต้นผักปริมาณมาก แต่ปัญหายอดฮิตของมือใหม่หัดปลูกคงหนีไม่พ้น ‘เพาะ เมล็ดพันธุ์ผัก ไม่งอก’ หรือถ้างอกก็มักจะแคระแกร็น ไม่โตต่อ พอเจอปัญหานี้บ่อย ๆ เข้าก็พานจะท้อใจ

การเพาะ เมล็ดพันธุ์ผัก จะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉพาะคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ ซึ่งต้องเป็นเมล็ดที่สมบูรณ์ ไม่เล็กลีบ และสามารถงอกได้ มีการจัดการสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมทั้งความชื้น แสงสว่าง และอุณหภูมิ รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการเพาะเมล็ด

อีกสิ่งที่หลายคนมองข้ามก็คือ เมล็ดผักแต่ละชนิดมีลักษณะแตกต่างกัน บางชนิดต้องการแสงสว่างในการงอก บางชนิดมีเปลือกหุ้มเมล็ดแข็งจึงต้องขริบเมล็ดหรือนำไปแช่น้ำก่อนปลูก บางชนิดต้องนำไปแช่ตู้เย็นก่อนเพื่อกระตุ้นการงอก เป็นต้น สิ่งเหล่านี้อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เมื่อรู้ก็จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในการเพาะเมล็ดได้มาก ขึ้นบทความนี้จึงชวนมารู้จักเมล็ดพันธุ์ พร้อมดูตัวอย่างว่าเมล็ดพันธุ์หน้าตาแบบนี้ โตขึ้นเป็นผักชนิดไหนกันนะ

เมล็ดพันธุ์ผัก

กรีนโอ๊ก เมล็ดพันธุ์ผัก

เมล็ดยาวแบน หัวท้ายแหลมคล้ายรูปหอก ขนาดเล็ก เปลือกหุ้มเมล็ดบางและมีเส้นเล็ก ๆ ลาดไปตามยาวเมล็ดสีน้ำตาลเข้มถึงดำ น้ำหนักเบาคล้ายกับเมล็ดผักกาดหอมและผักสลัดชนิดอื่นแต่แตกต่างกันที่สีของเมล็ด นิยมเพาะกล้าในถาดหลุม หลุมละ 1-2 เมล็ด โดยไม่ต้องกลบหรือกลบเมล็ดแค่เพียงบาง ๆ เนื่องจากเมล็ดต้องการแสงในการงอก เมื่อต้นกล้ามีอายุ 15-18 วันจึงย้ายปลูกลงแปลงหรือกระถาง

เมล็ดพันธุ์ผัก เรดปัตตาเวีย

เมล็ดยาวแบน หัวท้ายแหลมคล้ายรูปหอก ขนาดเล็ก เปลือกหุ้มเมล็ดบางและมีเส้นเล็ก ๆ ลาดไปตามยาว เมล็ดสีขาว น้ำหนักเบา คล้ายกับเมล็ดผักสลัดชนิดอื่นแต่แตกต่างกันที่สีของเมล็ด

นิยมเพาะกล้าในถาดหลุม หลุมละ 1-2 เมล็ด โดยไม่ต้องกลบหรือกลบเมล็ดแค่เพียงบาง ๆ เนื่องจากเมล็ดต้องการแสงในการงอก เมื่อต้นกล้ามีอายุ 15-18 วันจึงย้ายปลูกลงแปลงหรือกระถาง

สวิสชาร์ด

เมล็ดกลม ขนาดใหญ่ ผิวขรุขระ สีน้ำตาลอ่อน 1เมล็ดสามารถงอกได้ 2-3 ต้น อาจใช้วิธีหยอดเมล็ดลงแปลงโดยตรง แล้วทยอยถอนแยกต้นอ่อนออกมาบริโภค แต่นิยมเพาะกล้าในถาดหลุม หลุมละ 1 เมล็ดโดยไม่ต้องกลบหรือกลบเมล็ดแค่เพียงบาง ๆ เนื่องจากเมล็ดต้องการแสงในการงอก เมื่อต้นกล้ามีอายุ 15-18 วันจึงย้ายปลูกลงแปลงหรือกระถาง

เมล็ดพันธุ์ผัก

เมล็ดพันธุ์ผัก กะหล่ำปลี

เมล็ดกลม ขนาดเล็ก สีน้ำตาลเข้มถึงดำ คล้ายคลึงจนแทบแยกไม่ออกกับเมล็ดผักตระกูลกะหล่ำชนิดอื่นที่นิยมปลูกกัน ไม่ว่าจะเป็นคะน้า ผักกาดเขียวกวางตุ้ง ผักกวางตุ้งดอก ผักกาดเขียวปลี ผักกาดขาว กะหล่ำดอก กะหล่ำดาว กะหล่ำปม บรอกโคลี เคลหรือคะน้าใบหยิก  

แนะนำให้เพาะกล้าในถาดหลุม หลุมละ 1-2 เมล็ด เมื่อต้นกล้ามีอายุ 21-30 วันจึงย้ายปลูกลงแปลงหรือกระถาง  หรือหยอดเมล็ดลงแปลงโดยตรงก็ได้หลุมละ 5-7 เมล็ด กลบดินทับบาง ๆ แล้วปิดด้วยฟางเพื่อรักษาความชื้น เมื่อเมล็ดงอกจนต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบจึงทยอยตัดต้นอ่อนออกจนเหลือหลุมละ 1 ต้น

เมล็ดพันธุ์ผัก

หน่อไม้ฝรั่ง

เมล็ดกลม เปลือกหุ้มเมล็ดสีดำ ผิวเรียบเป็นมัน ก่อนเพาะควรนำเมล็ดไปแช่ในน้ำอุ่น 1 คืน แล้วห่อด้วยผ้าเปียกจนเริ่มเห็นตุ่มราก จากนั้นนำเมล็ดไปหว่านลงแปลงเพาะ แล้วค่อยย้ายปลูกลงแปลงเมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 2 เดือน โดยถอนขึ้นมาทั้งรากแล้วตัดยอดต้นกล้าออกให้ต้นสูงประมาณ 20 เซนติเมตรก่อนย้ายปลูก

แครอต

นิยมหยอดเมล็ดลงแปลงโดยตรง หลุมละ 3-4 เมล็ด กลบดินบาง ๆ รดน้ำให้ชุ่ม แล้วคลุมด้วยฟาง เมล็ดจะเริ่มงอกภายใน 7 วัน เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 15-20 วัน หรือมีใบจริง 3-5 ใบ ให้ถอนแยกต้นที่เบียดกันแน่นและต้นที่ไม่สมบูรณ์ออกเหลือหลุมละ 1 ต้น โดยเว้นระยะห่างระหว่างต้น 25 เซนติเมตร

เมล็ดพันธุ์ผัก

ผักกาดหัว

เมล็ดกลม ขนาดเล็ก สีน้ำตาลเข้มถึงดำคล้ายเมล็ดกะหล่ำปลีแต่มีขนาดใหญ่กว่า โรยเมล็ดเป็นแถวหรือหยอดเมล็ดลงแปลงโดยตรง หลุมละ 3-5 เมล็ด กลบดินบาง ๆ รดน้ำให้ชุ่ม แล้วคลุมด้วยฟาง เมื่อต้นกล้ามีอายุ 5-7 วัน หรือมีใบจริง 3-4 ใบ ให้ถอนแยกต้นที่เบียดกันแน่นและต้นที่ไม่สมบูรณ์ออก โดยเว้นระยะห่างระหว่างต้น 25 เซนติเมตร

เมล็ดพันธุ์ผัก

ฟักทองบัตเตอร์นัท

เมล็ดแบน สีขาวนวล ขอบแข็งเป็นสัน คล้ายกับเมล็ดฟักทอง ฟักทองญี่ปุ่น สควอช น้ำเต้าและฟักเขียวที่เห็นในภาพเมล็ดมีสีม่วงเพราะมีการเคลือบผิวเมล็ด นิยมเพาะกล้าในถาดหลุม หลุมละ 1-2 เมล็ด อาจขริบปลายเมล็ดหรือนำเมล็ดไปแช่น้ำอุ่นเพื่อช่วยกระตุ้นการงอก แล้วย้ายปลูกลงแปลงหรือกระถางเมื่อต้นกล้ามีอายุ 12-14 วัน

แตงกวาญี่ปุ่น

เมล็ดรูปร่างเรียวแบน ผิวเรียบ สีขาวถึงเหลืองอ่อน คล้ายกับเมล็ดแตงกวาแตงร้าน แตงไทย และเมลอนที่เห็นในภาพเมล็ดมีสีชมพูเพราะมีการเคลือบผิวเมล็ด หยอดเมล็ดลงแปลงโดยตรงก็ได้ แต่นิยมนำเมล็ดไปแช่น้ำอุ่นเพื่อช่วยกระตุ้นการงอก แล้วเพาะกล้าในถาดหลุม หลุมละ 1-2 เมล็ด แล้วย้ายปลูกลงแปลงหรือกระถางเมื่อต้นกล้ามีอายุ 12-14 วัน หากย้ายปลูกช้าต้นจะชะงักการเจริญเติบโต

เมล็ดพันธุ์ผัก

ถั่วฝักยาว

เมล็ดรูปไต มีหลายสีขึ้นอยู่กับพันธุ์ เช่น สีขาว สีน้ำตาล สีดำ และสีสลับน้ำตาล-ขาว ดำ-ขาว และแดงขาว หยอดเมล็ดลงแปลงโดยตรง หลุมละ 3-4 เมล็ด กลบด้วยดินหรือปุ๋ยคอก รดน้ำให้ชุ่ม แล้วคลุมด้วยฟาง เมื่อต้นกล้ามีอายุ 15 วัน ให้ถอนแยกต้นที่เบียดกันแน่นและต้นที่ไม่สมบูรณ์ออกให้เหลือหลุมละ 2 ต้น

เมล็ดพันธุ์ผักที่จำหน่ายทั่วไปมี 2 ประเภท คือ พันธุ์ผักพื้นบ้าน เป็นพันธุ์ที่ปลูกและเก็บรักษาสืบต่อกันมานาน เป็นพันธุ์ที่ให้ผลดีที่สุดในท้องถิ่นนั้น ๆ ซึ่งเราสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์เอาไว้ปลูกต่อได้เรื่อย ๆ และพันธุ์ผักทางการค้า เป็นพันธุ์ผักที่ปลูกเพื่อจำหน่ายทั่วไปตามท้องตลาด ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่

– พันธุ์ผสมเปิด หน้าซองเขียนสัญลักษณ์ว่า OP เป็นพันธุ์ที่สามารถเก็บเมล็ดมาใช้ปลูกต่อได้ โดยจะให้ผลผลิตที่มีลักษณะเดิม

– พันธุ์ลูกผสม หน้าซองเขียนสัญลักษณ์ว่า F1 เป็นลูกผสมรุ่นที่ 1 ซึ่งพัฒนาพันธุ์จากการคัดเลือกต้นพ่อและต้นแม่ที่มีลักษณะตามต้องการมาผสมกันจนได้ลูกผสมที่มีลักษณะดีเด่นกว่าเดิม เช่น ให้ผลผลิตสูงและมีคุณภาพดี มีความแข็งแรงต้านทานต่อโรคและแมลงได้ดีขึ้น แต่ไม่สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์มาใช้ปลูกต่อได้ เพราะจะให้ผลผลิตไม่เหมือนเดิม

นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งเมล็ดออกเป็น 3 แบบ คือ

– เมล็ดแบบไม่เคลือบ เป็นเมล็ดที่ผ่านการลดความชื้นมาแล้ว แต่ไม่ได้เคลือบสารป้องกันเชื้อราและสารกระตุ้นการงอก สามารถเก็บรักษาในภาชนะปิดสนิทแล้วแช่ตู้เย็นอุณหภูมิ 4-10 องศาเซลเซียสได้นานประมาณ 1-2 ปี

– เมล็ดแบบเคลือบ เป็นเมล็ดที่มีการเคลือบสารป้องกันเชื้อราและสารกระตุ้นการงอก มีทั้งแบบเคลือบผิวและผสมวัสดุห่อหุ้มเพื่อรักษาสภาพของเมล็ดเอาไว้

– เมล็ดแบบพอก เป็นเมล็ดที่มีการนำวัสดุต่าง ๆ เช่น ดินเหนียว แป้ง หรือวัสดุปูน มาห่อหุ้มเมล็ดเพื่อรักษาสภาพของเมล็ดเอาไว้ บางครั้งอาจจะกระตุ้นการงอกของเมล็ด เช่น การทำ seed priming ก่อนเคลือบ เมล็ดแบบพอกจึงมีรูปร่างและขนาดเปลี่ยนไป คือมีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักและความสม่ำเสมอมากขึ้น จึงสะดวกต่อการเพาะปลูก

การจะเลือกใช้เมล็ดพันธุ์ประเภทใดขึ้นอยู่กับความต้องการและวัตถุประสงค์ของการปลูก สิ่งสำคัญคือควรเลือกซื้อเมล็ดพันธุ์ที่ดีจากร้านค้าที่มีสถานที่และวิธีเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์อย่างเหมาะสม ไม่ควรซื้อเมล็ดพันธุ์ที่วางขายในที่ที่ได้รับแสงแดดตลอดวัน เพราะความร้อนอาจทำให้เมล็ดตายได้ ก่อนซื้อให้ตรวจดูวันผลิตและวันหมดอายุ ถ้าใกล้หมดอายุ เมล็ดจะงอกน้อยและไม่สม่ำเสมอ เมล็ดควรมีอัตราการงอกมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถดูได้บนซองบรรจุภัณฑ์

สำหรับผู้ที่ต้องการย่นระยะเวลาในการลองผิดลองถูกเพื่อให้ปลูกผักได้สำเร็จรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถเรียนรู้เทคนิคปลูกผักได้เพิ่มเติมในหนังสือ ผักนอกปลูกง่าย ทำได้ทุกฤดู โดยสำนักพิมพ์บ้านและสวน

เรื่อง: อังกาบดอย

ภาพ: อภิรักษ์ สุขสัย, อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม

รวมผักสวยน่าปลูก กินได้ ตกแต่งสวนครัวให้สวยขึ้น

เติมสีสันให้สวนครัวด้วยไอเดียปลูกผักหลากหลายในแปลงเดียว