พืชกินแมลง

พืชกินแมลง เพชฌฆาตงับเหยื่อ

พืชกินแมลง
พืชกินแมลง

2.กับดักที่เคลื่อนไหว

กับดักงับเหยื่อ (Steel trap)

เป็นกับดักที่มีลักษณะคล้ายบานพับ เมื่อเหยื่อก้าวเข้าสู่กับดัก บานพับจะงับลงและขังเหยื่อไว้จนดูดกินธาตุอาหารจนหมดจึงเปิดออกอีกครั้งเพื่อรอเหยื่อรายต่อไป เช่น

กาบหอยแครง (Dionaea หรือ Venus Flytrap)

 

พืชกินแมลง กาบหอยแครง (Dionaea หรือ Venus Flytrap)
กาบหอยแครง (Dionaea หรือ Venus Flytrap)

เป็นพืชที่เจริญได้ดีในเขตร้อน เป็นไม้อวบน้ำ ลำต้นขอบกาบหอยแครงมีลักษณะเป็นหัวใต้ดิน มีดอกสีขาว ส่วนของกับดักมีลักษณะคล้ายเปลือกหอยสองฝา มีซี่ฟันที่ขอบกาบเหมือนกรงขัง ภายในกาบมีขนรับความรู้สึกข้างละ 3-4 เส้น ซึ่งจะจับแมลงได้ 3-4 ครั้ง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีดำ และ ถ้าหากกาบถูกแหย่ให้หุบบ่อย ๆ จะสูญเสียพลังงานมาก อาจทำให้อ่อนแอถึงตายได้

ถุงดูดเหยื่อ (Bladder trap หรือ Mousetrap suction)

 

พืชกินแมลง ถุงดูดเหยื่อ (Bladder trap หรือ Mousetrap suction)
ถุงดูดเหยื่อ (Bladder trap หรือ Mousetrap suction)

เป็นกับดักที่พบในน้ำหรือที่ชื้นแฉะ เมื่อเหยื่อว่ายน้ำผ่านสัมผัสของรยางค์ กับดักที่คล้ายถุงจะเปิดออกพร้อมกับดูดเหยื่อและน้ำเข้าไปในถุงอย่างรวดเร็วพบในสกุล Utricularia

การเลี้ยงพืชกินแมลง

วัสดุปลูก ควรเลือกชนิดที่มีลักษณะโปร่ง สามารถระบายน้ำและเก็บความชื้นได้ดีสามารถเลือกใช้ได้หลายประเภท เช่น กาบมะพร้าวสับ เพอร์ไลท์ สแฟกนัมมอส และควรเปลี่ยนวัสดุปลูกใหม่ ทุก 1-2 ปี

แสงแดด  50-100 เปอร์เซ็นต์ หรือ อย่างน้อยประมาณ 5 ชั่วโมงต่อวัน ตามลักษณะความต้องการแสงของพืชกินแมลงแต่ละชนิด

น้ำ ต้องการน้ำสะอาดอย่างสม่ำเสมอ พยามยามรดน้ำให้ชุ่มชื้น วันละ 1 ครั้ง หรือ ใช้จานรองหล่อน้ำที่ก้นกระถาง

ถึงแม้พืชกินแมลงจะเป็นพืชที่ทนแดด แต่ก็ควรคำนึงถึงความชื้นในอากาศ โดยความชื้นสัมพัทธ์อยู่ที่ 60 เปอร์เซนต์
ถ้าแสงแดดจัดแต่อากาศแห้งพืชกินแมลงจะแสดงอาการแห้งกรอบเป็นรอยไหม้ ให้รดน้ำเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 2 ครั้ง หรือ อาจพ่นสปริงเกอร์เป็นละอองน้ำรอบบริเวณปลูก

พืชกินแมลง

การเพาะเนื้อเยื่อในขวด

นำขวดไปวางไว้ในบ้านแต่ต้องให้ขวดได้รับแสงไฟ อาจใช้แสงไฟนีออนหรือโคมไฟ เพื่อให้ต้นไม้ได้สังเคราะห์แสง
ใช้ระยะเวลาเลี้ยงในขวดประมาณ 6 เดือน ในระหว่างนี้ห้ามเปิดฝาขวด เพื่อป้องกันเชื้อราและแบคทีเรียจากภายนอก
เมื่อต้นไม้เริ่มโตแน่นขวดหรืออาหารวุ้นเริ่มหมด ให้ปรับสภาพต้นไม้โดยการคลายฝาขวดออก แล้ววางในที่ร่มรำไร 1 สัปดาห์จากนั้นเปิดฝาขวดออก ใส่น้ำเขย่าล้างวุ้นให้สะอาดป้องกันเชื้อรา แล้วปลูกในสแฟกนัมมอสแช่น้ำ หุ้มกระถางด้วยถุงพลาสติกใสมัดปากให้สนิท เพื่อรักษาความชื้นให้ใกล้เคียงสภาพในขวด 1 สัปดาห์  เจาะรูที่ถุงแล้วทิ้งไว้อีก 1 สัปดาห์ จึงนำถุงออก เมื่อต้นไม้แข็งแรงแล้วให้นำไปไว้ในที่มีแสงรำไรและมีความชื้น

ขอบคุณ
คุณชานนท์ พลเสน
โทร.083-296 0601
@จตุจักร

Story : สริดา จันทร์สมบูรณ์
Illustrator : จิรารัตน์ ศรีอ่ำดี
Style : ออ-ร-ญา
Photo : พัสกร ญาณจินดา , แฟ้มภาพบ้านและสวน
เรียบเรียง : Jaranya.lw


3 สูตรสมุนไพรไล่แมลง ทำเองได้ง่ายๆไม่แพง

10 ตลาดต้นไม้ในกรุงเทพฯ สวรรค์ของคนรักสวน