พื้นที่ระเบียงบ้านเป็นพื้นที่อเนกประสงค์รองรับหลากหลายกิจกรรมของคนในบ้าน ไม่ว่าจะนั่ง นอน เดิน ออกกำลังกาย หรือสังสรรค์ ซึ่งโดยทั่วไประเบียงมักจะอยู่ภายนอก หรือกึ่งภายนอกตัวบ้าน จึงได้รับอิทธิพลของแดดลมฝนอยู่แล้ว
โดยเฉพาะในฤดูฝน บริเวณระเบียงซึ่งอยู่กลางแจ้ง จะเป็นส่วนที่รองรับน้ำฝนแบบเต็มๆ หากใช้วัสดุปูพื้นที่ไม่ทนทาน และทำความสะอาดยาก สิ่งที่มักจะตามมาคือตะไคร่น้ำ และคราบสกปรก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำลายพื้นผิวของระเบียงโดยตรง รวมทั้งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่คนในบ้านเมื่อออกไปทำกิจกรรมบนระเบียงได้ด้วย
ดังนั้นการเลือกพื้นระเบียงจึงต้องมีทั้งความทนทาน และปลอดภัยควบคู่กัน การเลือกใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน ทนทานต่อการใช้งาน นอกจากจะทำให้ระเบียงยังสวยงาม มีอายุการใช้งานยาวนาน ยังมั่นใจได้ว่าทุกคนในครอบครัว จะก้าวเดินอย่างปลอดภัย และมั่นคงไปบนระเบียง โดยไม่ต้องกลัวว่าจะหกล้ม หรือลื่นไถลให้เจ็บตัว
ซึ่งวัสดุสำหรับทำระเบียงก็มีหลายแบบ อาทิเช่น พื้นคอนกรีตที่มีความขรุขระ แต่ก็จะเกิดตะไคร่ และสะสมคราบสกปรก รวมทั้งพื้นกระเบื้องที่จะทำความสะอาดง่ายกว่า แต่เสี่ยงที่จะลื่นได้ง่ายเช่นกัน หรือหากบ้านไหนอยากได้ความกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ก็จะเลือกพื้นไม้จริง แต่ก็จะเปื่อยยุ่ย ผุพังง่าย อายุการใช้งานไม่ยาวนาน นานวันไปอาจหักหรือมีปลวกมาทำลายเนื้อไม้
ถ้าคุณกำลังมองหาวัสดุปูพื้นระเบียง ภายนอก และกึ่งภายนอก ตัวเลือกที่เราอยากแนะนำคือ พื้นตกแต่ง เอสซีจี วัสดุทดแทนไม้หรือไม้เทียม ซึ่งเป็นวัสดุไฟเบอร์ซีเมนต์ ที่ให้ทั้งความทนทาน แข็งแรง สามารถรองรับหลากหลายกิจกรรมของครอบครัว อีกทั้งยังสวยงามเสมือนไม้จริง ไร้ปัญหาเรื่องปลวก มีขนาดมาตรฐาน ทำให้คำนวณค่าใช้จ่าย และควบคุมงบประมาณได้อย่างตรงใจ
โดยพื้นตกแต่งรุ่นใหม่ที่เราอยากแนะนำให้ใช้จะมีอยู่ 3 รุ่นด้วยกัน คือ
“พื้นตกแต่ง เอสซีจี รุ่น ที-คลิปชิลด์” ไม้พื้นวัสดุไฟเบอร์ซีเมนต์ มีผิวลายไม้ให้ความรู้สึกเสมือนไม้จริง ที่มีนวัตกรรม Color Loc Shield ล็อกถึง 5 ชั้น ด้วย Safe Shield ปลอดภัย ไม่ลื่น ช่วยลดโอกาสการลื่นไถลได้มากถึง 90% จากการใช้สารเคลือบพิเศษเฉพาะเอสซีจี อีกทั้งผิวของวัสดุยังรองรับการกระแทกได้เป็นอย่างดี สามารถทนต่อรอยมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า จึงเหมาะเป็นอย่างมากที่จะนำไปใช้งานกับพื้นที่ภายนอกบ้านเหมาะกับทุกสภาพอากาศ ส่วนในเรื่องความสวยงามนั้น พื้นตกแต่ง เอสซีจี รุ่น ที-คลิป ชิลด์ มีหลากหลายเฉดสีที่เหมาะกับทั้งสไตล์มินิมอล เช่น สีวอลนัท บีช (Walnut Beech), โคซี่ บีช (Cozy Beech), วอร์ม เกรย์ (Warm Grey) และ สไตล์ธรรมชาติ เช่น โรสวูด (Rosewood), คันทรี โอ๊ค (Country Oak) มาพร้อมลายเสี้ยนไม้ลึกเด่นชัดให้สัมผัสเสมือนไม้จริง
ถ้าอยากได้ฟีลลิ่งเหมือนระเบียงไม้ แต่ทนทานกว่าไม้จริง แนะนำ “พื้นตกแต่ง เอสซีจี รุ่น คัลเลอร์ทรู” รุ่นนี้มีจุดเด่นที่สุดคือเป็นสีสำเร็จจากโรงงานและจะใช้เทคโนโลยีทำสีในเนื้อวัสดุใกล้เคียงกับผิวหน้าไม้ เหมือนไม้ธรรมชาติ หมดกังวลเรื่องริ้วรอยสีซีเมนต์ และด้วยนวัตกรรม Color Loc Shield ล็อกถึง 5 ชั้น จึงช่วยให้สีสวย ทนนานช่วยยืดเวลาการใช้งานให้พื้นระเบียงดูเป็นธรรมชาติด้วยเฉดสีวอลนัท บีช (Walnut Beech) และหมดกังวลเรื่องปลวกกินเนื้อไม้
อีกรุ่น คือ “พื้นตกแต่ง เอสซีจี รุ่น สปรินท์” เหมาะมากสำหรับบ้านไหนที่กำลังอยากเปลี่ยนพื้นระเบียง เพราะรุ่นนี้ออกแบบมาให้สามารถติดตั้งบนตงเดิมที่มีระยะตง 50 ซม. ทำให้สามารถเปลี่ยนจากพื้นไม้เดิมมาเป็นพื้นตกแต่ง เอสซีจี รุ่น สปรินท์ ได้เลย โดยไม่ต้องรื้อโครงสร้าง เพราะพื้นตกแต่งรุ่นี้มีขนาดใหญ่หน้ากว้าง 30 ซม.เสมือนใช้ไม้พื้น 2 แผ่นในแผ่นเดียว จึงทำให้ติดตั้งง่ายและรวดเร็วขึ้น 2 เท่า อีกทั้งยังติดตั้งด้วยระบบคลิปล็อกไร้รอยหัวสกรู และยังแข็งแรงทนทานเพราะมาพร้อมความหนาถึง 2.65 ซม จึงตอบโจทย์งานรีโนเวทและงานต่อเติมพื้นใหม่ได้เป็นอย่างดี
ถ้าจะต่อเติมระเบียง หรือปรับปรุงพื้นบ้านกันสักหน ควรเลือกวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน ปลอดภัย ได้มาตรฐาน สามารถใช้ประโยชน์หลากหลาย และมีอายุใช้งานยาวนาน จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่ทำให้บ้านคุณสวยงามดูเป็นธรรมชาติและยังสามารถอยู่คู่บ้านได้อย่างคุ้มค่ากับการลงทุน
…
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.scgbuildingmaterials.com/th/product/decorative-materials
และหาซื้อสินค้าได้ที่ SCGHOME.com
ถ้าอยากลองสัมผัสกับพื้นตกแต่ง จาก เอสซีจี ช่วงนี้สามารถมาชมของจริง และดูตัวอย่างการใช้งานผลิตภัณฑ์ได้ที่ บูธ เอสซีจี โฮม ในงานบ้านและสวนแฟร์ 2022
ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 28 ต.ค. – 6 พ.ย. 65
