เพิ่มมุมนั่งเล่นเอ้าท์ดอร์สำหรับพื้นที่จำกัด ด้วยเคาน์เตอร์บาร์ในสวน

หากพูดถึง “เคาน์เตอร์บาร์” หลายคนมักจะนึกถึงโต๊ะเคาน์เตอร์ที่มักมาพร้อมกับเก้าอี้ทรงสูง ซึ่งใช้เป็นพื้นที่สำหรับนั่งรับประทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มภายในอาคาร

วันนี้ บ้านและสวน จึงมีอีกหนึ่งไอเดียในการประยุกต์นำเอาเคาน์เตอร์บาร์มาจัดวางไว้นอกบ้าน เพื่อให้เป็นมุมนั่งเล่นแบบประหยัดพื้นที่ในสวนมาฝากกันค่ะ
 
เคาน์เตอร์บาร์บริเวณเฉลียงหน้าบ้านที่มีพื้นที่จำกัด โดยมีมุมของของต้นพุดกังหันเป็นไม้ประธาน โอบล้อมด้วยกำแพงระแนงไม้ และกำแพงธรรมชาติของไทรอินโดที่ทำหน้าที่เป็นฉากบังตาจากคนภายนอก ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังช่วยลดเสียงของรถที่สัญจรไปมาได้เป็นอย่างดี
 
มุมเคาน์เตอร์บาร์ในพื้นที่เล็ก ๆ ดูโปร่ง สะอาดตา ตกแต่งด้วยของสะสมหลากไอเดีย ไม่ว่าจะเป็น ขวดแก้ว แจกัน และมินิเทอร์ราเรียม ใช้สำหรับนั่งพักจิบกาแฟชมวิวในสวนใต้มุมกอไผ่สีเขียวที่ตัดกับบรรยากาศของโครงสร้างสีขาว
 
บ้านต้นไม้ โครงสร้างทำด้วยเหล็กแข็งแรง ปูพื้นด้วยไม้เก่า บริเวณขอบราวกันตกทำให้มีขนาดใหญ่กลายเป็นเคาน์เตอร์บาร์ สำหรับนั่งชมสวนจากมุมสูง
 
พื้นระเบียงเลือกใช้วัสดุที่โชว์พื้นผิวและสีสันที่ดูเป็นธรรมชาติ คลุมโทนด้วยสีเบจ เพื่อให้ดูรับกับตัวบ้าน และเสริมให้บรรยากาศภายในสวนดูอบอุ่นเป็นธรรมชาติ มีมุมเคาน์เตอร์บาร์ขนาดเล็ก สำหรับนั่งเล่นหรือปาร์ตี้สังสรรค์ ใกล้กันยังมีน้ำตกทรงโมเดิร์นช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้แก่สวน
 
สวนขนาดเล็กริมระเบียงปลูกไม้กระถาง โดยจัดวางบนพื้น ติดตั้งให้เป็นไม้กระถางแขวน และวางบนชั้นไม้ที่ต่อแบบง่าย ๆ ทั้งยังสามารถดัดแปลงให้เป็นมุมนั่งเล่นชมบรรยากาศภายนอก โดยการวางม้านั่ง และต่อแผ่นไม้เสริมบริเวณราวกันตกให้เป็นทั้งเคาน์เตอร์บาร์สำหรับนั่งทำงาน และอ่านหนังสือได้อีกด้วย
 
สวนที่อยู่บริเวณคอร์ตยาร์ดของตัวบ้าน ถูกจัดสรรแบ่งพื้นที่ให้มีมุมนั่งเล่นและใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นมุมชานไม้ที่เสมือนห้องนั่งเล่นอีกห้องหนึ่งบริเวณเอ้าท์ดอร์ และมุมที่เป็นเคาน์เตอร์บาร์ เปิดมุมมองเข้าสู่พื้นที่สีเขียวโดยรอบ
 
ภายในพื้นที่โรงเรือนปลูกต้นมะไฟยักษ์อยู่ตรงกลางในกระบะอิฐทรงกลม ล้อมรอบด้วยเคาน์เตอร์บาร์สีขาวให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ นอกจากนี้ ส่วนโครงหลังคาด้านบนยังปลูกสร้อยอินทนิลเลื้อยคลุม เพื่อให้ร่มเงาและสร้างบรรยากาศภายในโรงเรือนให้ดูสดชื่นมากยิ่งขึ้น
 
บริเวณชานไม้ที่เชื่อมต่อกับศาลามีเคาน์เตอร์บาร์ที่ทำหน้าที่เป็นทั้งรั้ว และมุมนั่งเล่นใต้ต้นไม้ สร้างบรรยากาศที่เหมาะแก่การพักผ่อน โดยเฉพาะช่วงที่เหลืองปรีดียาธรพากันแบ่งบานสวยงาม ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนของทุกปี ซึ่งจะบานเพียง 1-2 สัปดาห์เท่านั้น
 
สวนที่เน้นการใช้วัสดุธรรมชาติ อย่าง หลังคามุงจากที่ไม่สะสมความร้อน จึงเย็นสบายและดูเป็นกันเอง อีกทั้งยังมีลูกเล่นอย่างการใช้บานหน้าต่างทำเป็นผนังร้าน เมื่อเปิดขึ้นก็จะกลายเป็นมุมเคาน์เตอร์บาร์ที่มองออกไปเห็นบรรยากาศสวน ตกแต่งด้วยไม้กระถาง และของใช้เก่าที่ดัดแปลงเป็นที่ปลูกต้นไม้
 
ขอบระเบียงของดาดฟ้าเป็นกระจกใส ช่วยเปิดมุมมอง ทำให้พื้นที่สวนดูโปร่ง มีเคาน์เตอร์บาร์บริเวณแนวริมระเบียงเป็นพื้นที่นั่งเล่น และสังสรรค์ได้บรรยากาศแบบร้านอาหารหรูบนตึกสูง โดยมีกระบะปลูกต้นไม้ขนาดกำลังดี เป็นแนวฉากกั้นบังสายตา ช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวจากพื้นที่อื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี