บ้านชั้นเดียวล้อมสวน พร้อมมองเห็นวิวนาข้าว

บ้านชั้นเดียวที่ผสมผสานการตกแต่งในสไตล์ล้านนา จีน และโคโลเนียล โอบล้อมด้วยไผ่ที่ปลูกเป็นแนวรั้วหนาทึบ ปิดล้อมตัวบ้านเอาไว้ ส่วนตัวบ้านสร้างแยกเป็น 3 เรือน วางผังเป็นรูปตัวยู (U) มีคอร์ตตรงกลางซึ่งทำหน้าที่เป็นสวนและสนามหญ้า สร้างบรรยากาศร่มรื่นและสดชื่นให้แก่ภายในบ้าน

แบบบ้านชั้นเดียวมีระเบียง

สถาปนิก : คุณวรวิทย์ ภู่ประเสริฐ

บ้านในจังหวัดเชียงใหม่หลังนี้มีชื่อว่า “วิลล่าโบตั๋น” รอบที่ดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าในแนวลึกโอบล้อมด้วยไผ่ที่ปลูกเป็นแนวรั้วหนาทึบ ปิดล้อมตัวบ้านเอาไว้ จนมองจากด้านนอกแทบไม่เห็นตัวบ้านเลย ให้อารมณ์เหมือนบ้านตามชนบทไทยในอดีตที่พบเห็นได้ตามท้องไร่ปลายนา      แบบบ้านชั้นเดียวมีระเบียง

แบบบ้านชั้นเดียวมีระเบียง
ภาพที่ปรากฏเมื่อก้าวผ่านซุ้มประตูก็คือสนามหญ้ากว้าง มีทางเดินปูอิฐพุ่งตรงไปยังเรือนส่วนกลางและมีทางแยกซ้าย-ขวาเพื่อเข้าสู่เรือนนอนด้านละ 2 ห้อง ด้านหลังของห้องนอนเกือบชนกับรั้วและแนวต้นไผ่ เป็นการวางผังบ้านแบบสมมาตร
แบบบ้านชั้นเดียวมีระเบียง
รูปแนวยาวของเรือนห้องนอนมีลักษณะผสมผสานกันของสไตล์ล้านนา จีน และโคโลเนียล มองจากภายนอกดูค่อนข้างเตี้ยและทึบ แต่ภายในกลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
แบบบ้านชั้นเดียวมีระเบียง
ทางเดิน ผนังด้านซ้ายเป็นเสมือนรั้วที่เห็นได้จากด้านนอก ใช้เป็นส่วนรองรับหลังคา แต่ก็ไม่ได้ทำผนังทึบทั้งหมด เว้นช่องลูกกรงไม้เป็นช่วงๆ ขณะที่ด้านในเป็นเสาไม้กลึงกลม

บริเวณด้านหน้าตัวบ้านจากประตูรั้วเว้นระยะห่างทำเป็นพื้นที่โล่งๆ พื้นโรยหินก่อสร้างเป็นลานซึ่งกว้างขวางมากพอจะจอดรถได้หลายคัน ถัดเข้าไปคือประตูทางเข้าซึ่งออกแบบเป็นซุ้มบ้านแบบโบราณ ปลูกเฮลิโคเนียล้อกันไปตลอดทั้งสองด้านของซุ้มสลับกับต้นหมากที่สูงชะลูดขึ้นไป

ตัวบ้านสร้างแยกเป็น 3 เรือน วางผังเป็นรูปตัวยู (U) มีคอร์ตตรงกลางซึ่งทำหน้าที่เป็นสนามหญ้ามีทางเดินหลักให้เดินตรงยาวเข้าไป และแยกทางเดินรองเข้าไปสู่ตัวบ้าน เรือนแต่ละหลังมีกลิ่นอายโคโลเนียลที่ได้รับอิทธิพลจากสไตล์ไทยและจีนอย่างเห็นได้ชัด คุณวรวิทย์ ภู่ประเสริฐ สถาปนิกของบ้านหลังนี้บอกว่า สไตล์โคโลเนียลของเชียงใหม่นั้นมีการผสมผสานหลากหลายวัฒนธรรม สไตล์จีนเองก็มีความสัมพันธ์แนบแน่นไม่ด้อยไปกว่าสไตล์พม่าซึ่งเรามักเห็นในงานสถาปัตยกรรมล้านนา สำหรับบ้านนี้การวางแปลนบ้านแบบสมมาตรก็ได้ไอเดียจากสไตล์จีน แต่ปิดล้อมให้เกิดพื้นที่ว่างตรงกลางเสมือนลานบ้านไทย รวมถึงรูปทรงอาคารก็มีลักษณะคล้ายเรือนไทย เพียงแต่ไม่มีใต้ถุน นอกจากนี้หลังคายังเป็นทรงจั่วมุงกระเบื้องดินเผา ส่วนตามซุ้มประตูก็ตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นของจีน ด้านซ้ายและขวาของซุ้มประตูเป็นเรือนนอนด้านละ 2 ห้อง บริเวณหน้าห้องมีระเบียงทางเดินซึ่งมีหลังคาคลุมต่ำลงมา ใช้เป็นส่วนนั่งเล่นได้ด้วย ทุกห้องนอนมีขนาดเท่ากัน รวมถึงวางแปลนและตกแต่งเหมือนกันทั้งหมด

เรือนหลังสุดท้ายตั้งขนานกับแนวซุ้มทางเข้า เป็นจุดปะทะสายตาแรกเมื่อเดินผ่านซุ้ม ลักษณะของตัวเรือนก็คล้ายกับเรือนนอน เพียงแต่หลังนี้ยกพื้นสูงกว่า มีระเบียงทางเดินทั้งด้านหน้าและด้านหลังห้อง ส่วนที่แตกต่างอย่างชัดเจนก็คือ เลือกติดประตูบานเปิดแบบบ้านจีนโบราณเรียงเป็นแถวยาวทั้งด้านหน้าและด้านหลังตัวเรือนเช่นกัน เรือนนี้จัดเป็นพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางอย่างส่วนนั่งเล่น-รับแขก ห้องน้ำ ส่วนรับประทานอาหาร และครัว โดยแยกเป็นสองฝั่ง      แบบบ้านชั้นเดียวมีระเบียง

แบบบ้านชั้นเดียวมีระเบียง
เรือนนอนทั้งสองด้านเว้นพื้นที่ว่างหน้าห้องทำเป็นระเบียงยาวกว้างพอประมาณ นอกจากใช้เป็นทางเชื่อมต่อกันแล้ว ยังจัดเป็นส่วนนั่งเล่นหน้าห้องได้ด้วย ด้านหนึ่งจะสัมผัสแสงแดดในช่วงเช้าและอีกด้านเป็นช่วงบ่ายแก่ๆ
ประตูไม้
ประตูทุกห้องเป็นบานเปิดคู่ตามแบบบ้านรุ่นเก่า เหนือกรอบประตูห้องตกแต่งลวดลายปูนปั้นรูปสัตว์มงคลซึ่งตกแต่งเหนือกรอบประตูห้อง ตามคติความเชื่อแบบจีน
ห้องนอนสไตล์โคโลเนียล เตียงสี่เสา
พื้นที่ภายในห้องนอนทุกห้องเหมือนกันและมีขนาดเท่ากัน เลือกใช้โทนสีเหมือนกัน แนวเพดานที่ล้อตามโครงหลังคารูปจั่วแหลมสูงขึ้นไปทำให้ภายในห้องดูโปร่ง แม้เพดานจะกรุไม้สีเข้มก็ตาม พื้นห้องปูกระเบื้องดินเผา
แบบบ้านชั้นเดียวมีระเบียง
เรือนส่วนกลางยกระดับพื้นสูงกว่าเรือนนอน เพื่อสร้างความแตกต่าง ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเรือนมีระเบียงและผนังซึ่งติดประตูบานเปิดเรียงยาวแบบบ้านจีน
ห้องนั่งเล่น
ส่วนนั่งเล่นภายในเรือนส่วนกลาง จัดวางเฟอร์นิเจอร์หวายแบบโบราณ ให้บรรยากาศที่ดูไม่เป็นทางการจนเกินไป เหมาะสำหรับบ้านพักผ่อนหลังนี้
ห้องรับประทานอาหาร
ชุดรับประทานอาหารตั้งอยู่อีกด้านของเรือนส่วนกลาง วางโต๊ะไม้สักตัวยาวเลียนแบบโต๊ะรุ่นเก่า ซึ่งเข้ากันดีกับเก้าอี้หวายที่ให้ความรู้สึกนั่งสบาย
แบบบ้านชั้นเดียวมีระเบียง
ด้านหลังเรือนส่วนกลางเป็นระเบียงโล่งกว้างใช้งานเป็นลานอเนกประสงค์ซึ่งล้อมรอบด้วยวิวสวยๆจากนาข้าว
ทุ่งนา
แนวไผ่หนาทึบเป็นรั้วธรรมชาติอย่างดีที่คอยบดบังตัวบ้านเอาไว้ สร้างบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว

ทั้งบ้านมีอากาศหมุนเวียนตลอด ในช่วงที่ต้องเผชิญพายุลมหลวงซึ่งพัดกระหน่ำในช่วงปลายฤดูหนาวต่อกับฤดูร้อน แนวต้นไผ่ที่ล้อมอยู่ก็ช่วยลดทอนความรุนแรงลงได้ แถมยังช่วยกรองเสียงและฝุ่นละอองอีกด้วย จึงเป็นบ้านพักผ่อนที่อยู่อาศัยได้อย่างสุขสบาย


เรื่อง : atta otto

ภาพ : สังวาล พระเทพ, สิทธิศักดิ์ น้ำคำ

นิตยสารบ้านและสวนฉบับกันยายน 2557

5 บ้านกลางทุ่ง อยู่สบายทั้งกายและใจ

บ้านชั้นครึ่งกลางทุ่งโล่ง สวยงามราวสวรรค์บนดิน

บ้านไม้แบบไทยๆ กลิ่นอายโมเดิร์นของป๊อด – ธนชัย อุชชิน