ลองผสมเกสร หน้าวัวใบ สี…ให้เป็นสีใหม่ๆ กัน

มาดูกันว่า เขาปรับปรุงพันธุ์ หน้าวัวใบ กันอย่างไร ให้ได้ไม้ใบฟอร์มสวย ทั้งใบเขียว ใบด่าง ใบด่างหลากสี และฟอร์มใบแปลกๆ

สวนสวย โรงเรือน และสวนครัว ในพื้นที่ 30 ตารางวา

ส่วนใหญ่แล้วการที่เราจะมีทั้งสวนสวย ๆ มี โรงเรือน กระจกไว้เก็บต้นไม้สะสม และมีสวนครัวขนาดย่อม ๆ อยู่รวมในพื้นที่เดียวกันได้นั้น

การจัดสวนถาด สำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัดและชื่นชอบสวนขนาดจิ๋ว

การจัดสวนถาด เป็นรูปแบบการจัดที่จำลองสวนขนาดใหญ่มาย่อส่วนให้มีขนาดเล็กลง เช่น การจำลองทิวทัศน์น้ำตก ภูเขากลางน้ำ เกาะแก่งชายน้ำ เหมาะมากสำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัดและชื่นชอบการจัดสวนขนาดจิ๋วเป็นงานอดิเรก การจัดสวนถาด คือสวนขนาดเล็ก (Miniature garden) เป็นการนำลักษณะของการปลูกต้นไม้คลุมดิน มอสส์ ต้นไม้จิ๋ว หรือบอนไซมาผสมผสานกัน เพื่อให้บรรยากาศภายในสวนถาดมีสัดส่วนที่ดูสมจริงมากที่สุด รวมถึงการใช้วัสดุตกแต่ง เช่น บ้านจำลองหรือฟิกเกอร์รูปคนและสัตว์ตามความชอบและจินตนาการของผู้แต่งสวน ช่วยเติมเต็มเรื่องราวและส่งเสริมให้สวนถาดดูมีชีวิตชีวาน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยภาชนะปลูกควรมีปากกว้าง มีความสูงเหมาะสมกับให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ขนาดพอเหมาะ ที่สำคัญต้องสามารถยกไปตั้งในบริเวณต่างๆ ได้ การดูแลสวนถาดจะไม่ต่างจากการดูแลต้นไม้กระถางจิ๋วทั่วไปมากนัก ซึ่งต้องดูแลรดน้ำอย่างน้อยวันละครั้งและหมั่นคอยตัดแต่งสวนถาดให้มีขนาดเหมาะสมอยู่เสมอ รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีในการกำจัดแมลงหรือศัตรูพืช เพราะสวนถาดเหมาะสำหรับวางประดับไว้ในบ้านใกล้กับคน และเป็นสวนที่เด็กชอบมาเล่นอยู่เสมอ สามารถวางประดับได้ทั้งพื้นที่ภายในและภายนอกบ้าน โดยต้องคำนึงถึงชนิดพรรณไม้ที่ปลูกว่าต้องการแสงแดดแค่ไหน หากต้นไม้ที่อยู่ภายในเริ่มแน่นเกินไป ควรเปลี่ยนเอาพรรณไม้บางชนิดออกและปลูกต้นใหม่ทดแทน เตรียมความพร้อมก่อนจัดสวนถาด 1.เตรียมอุปกรณ์อุปกรณ์ที่จะต้องเตรียมให้พร้อม เช่น ถาด ซึ่งถาดก็มีหลายชนิด มีทั้งแบบเคลือบและไม่เคลือบ รูปทรงก็มีตั้งแต่สี่เหลี่ยม วงกลม ไปจนถึงรูปทรงธรรมชาติ ขนาดไม่ต้องใหญ่มาก เมื่อได้ถาดมาแล้ว เราก็ต้องนำถาดมาทำความสะอาดก่อนเพื่อความปลอดภัยของต้นไม้ เพราะถ้าถาดไม่สะอาดพออาจเกิดเชื้อราขึ้นกับต้นไม้ได้ง่าย 2.การเตรียมดิน ดินที่เรานำใช้ในการจัดสวนถาดควรเป็นดินร่วน ซึ่งเราสามารถซื้อได้ทั่วไปในท้องตลาด ดินบางชนิดจะมีกากของต้นไม้ปนอยู่บ้าง เราก็ควรเลือกส่วนที่เป็นกากออกก่อน เพื่อจะได้สะดวกในเวลาที่เราปลูกต้นไม้และปูหญ้ามอสส์ 3.การเตรียมต้นไม้ ก่อนที่เราจะเตรียมต้นไม้ เราจะต้องมีภาพในใจก่อนว่า สวนของเราเป็นสวนแบบไหน เราจะได้เตรียมต้นไม้ได้อย่างถูกต้อง เช่น ถ้าเราต้องการสวนที่ออกในสไตล์สวนป่า ต้นไม้ส่วนใหญ่ที่จะนำมาใช้ก็จะเป็นพวกเฟิน เพราะรูปร่างของต้นเฟินจะดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติและไม่แข็งเกินไป ถ้าต้องการส่วนที่ออกมาแบบสวนหย่อม ต้นไม้ที่เรานำมาใช้ก็จะมีลักษณะเป็นกอๆพุ่มๆ เช่น ต้นไข่มุก […]

บอนไซเพรมน่า..ทำเองได้ สร้างรายเสริมคู่งานประจำ

บอนไซ อีกตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว ดังเช่น คุณนที วงศ์เสงี่ยม ที่สนใจการปลูกบอนไซเพรมน่าสำหรับขายสร้างรายได้

โรงเรือนแคคตัส งบ 5 แสน ของคุณหมอนักสะสม

คุณหมอเอ-จิราภรณ์ เฟื่องทวีโชค แพทย์หญิงในจังหวัดอุดรธานี คือนักสะสมแคคตัสและไม้อวบน้ำที่เริ่มแรกนั้นเธอแทบไม่มีความรู้เรื่องต้นไม้มาก่อนเลย เพียงแต่ต้องการทำงานอดิเรกในช่วงที่ว่างเท่านั้น โดยมีจุดเริ่มต้นจากแคคตัสหนึ่งถาดที่วางทิ้งในโรงเรือนที่แทบไม่ได้ใช้งาน จนกลายมาเป็นงานอดิเรกแสนรักที่ปลุกความสนุกในการทดลองอะไรใหม่ ๆ พร้อมกับโรงเรือนที่ตั้งใจออกแบบมา เพื่อให้คนได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกับต้นไม้ได้อย่างสะดวกสบาย เริ่มต้นจากแค่อยากมีโรงเรือน แรกเริ่มเดิมทีคุณหมอเอเป็นเพียงคนที่ชื่นชอบ การแต่งบ้านและอยากมีบ้านในฝันสไตล์อเมริกันคันทรี ในที่สุดก็เริ่มวางผังและออกแบบบ้านหลังใหม่ขึ้นองค์ประกอบหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือโรงเรือนเพาะชำต้นไม้ที่เธอมองว่าในวันหนึ่งอาจใช้เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมในวัยเกษียณ เช่น ปลูกต้นไม้ ทว่าต้นไม้ส่วนใหญ่ในประเทศไทยก็สามารถเจริญเติบโตได้โดยไม่จำเป็นต้องปลูกในโรงเรือน ในที่สุดก็ไม่ค่อยได้ใช้งานจริงสักเท่าไร วันหนึ่งน้องชายของคุณหมอเอ ซึ่งชื่นชอบการเลี้ยงสัตว์ รวมถึงการปลูกต้นไม้ ได้นำแคคตัสมาให้ 1 ถาด ตอนแรกเธอนำไปวางทิ้งไว้ในโรงเรือนโดยไม่ได้สนใจ กระทั่งเมื่อเดินมาดูอีกที แคคตัสในถาดเจริญเติบโตได้ดี จึงเปลี่ยนนำมาใส่กระถางดินเผาและค่อย ๆ ตั้งวางเรียงรายในโรงเรือน จาก 1 ถาดเป็น 2 ถาด และต่อยอดไปอีกหลาย ๆ ต้นในเวลาต่อมา ทำให้คุณหมอเอกลับมาใช้งานโรงเรือนมากขึ้น เธอทดลองปลูกเลี้ยงทั้งแคคตัสและไม้อวบน้ำ โดยหาความรู้จากหลากหลายช่องทาง จนกลายเป็นงานอดิเรกที่ทำให้เธอมีความสุขและรู้สึกผ่อนคลาย “หลังจากโรงเรือนหลังแรกเต็ม เราก็มาทำเพิ่มอีกหลังเพื่อขยายพันธุ์ใหม่มากขึ้น เราชอบแคคตัสสกุลยิมโนคาไลเซียม (Gymnocalycium) เพราะสนุกกับการผสมพันธุ์ให้เกิดสีสันและลวดลายที่มีความเฉพาะตัวในแบบของเราเอง รู้สึกเหมือนได้เป็นศิลปินที่รังสรรค์ให้เกิดสีสันที่เป็นเอกลักษณ์สวยงามบนแคคตัสของเราเอง” โครงสร้างและวัสดุทำโรงเรือน คุณหมอเอใช้งบประมาณส่วนใหญ่ในการเปลี่ยนหลังคาของโรงเรือนหลังเดิมที่มีปัญหารั่วซึม จนทำให้แคคตัสที่ตั้งในบริเวณที่้ำหยดเริ่มประสบปัญหารากเน่าและตายในที่สุด โดยเปลี่ยนมาใช้แผ่นอะคริลิกใสที่แข็งแรงและทนทานสามารถใช้งานได้เป็นระยะเวลานาน มีซาแรนสีขาวที่ช่วยกรองแสงประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ และยังใช้โครงสร้างเหล็กทาสีขาวอมเทาเช่นเดียวกับสีที่ทาในบ้าน คลุมด้วยผนังมุ้งลวดและผ้าใบพลาสติกใสโดยรอบ  สามารถดึงขึ้นเพื่อเปิดโล่ง และดึงลงมาคลุมเพื่อป้องกันความชื้นหรือศัตรูพืชภายนอก พื้นปูไม้เทียมแผ่นยาวเช่นเดียวกับพื้นระเบียงบ้านเพื่อให้ความรู้สึกเชื่อมถึงตัวบ้าน โดยมีร่องสำหรับระบายน้ำรอบด้าน เมื่อรดน้ำจึงไม่เกิดน้ำท่วมขังและเป็นอันตรายกับคนที่ใช้งาน อีกทั้งยังทำให้อากาศในโรงเรือนแห้งและไม่เกิดโรคจากความชื้น ซึ่งพบได้บ่อยในแคคตัสและไม้อวบน้ำ เทคนิคการดูแลต้นไม้ “สำหรับแคคตัสสกุลยิมโนคาไลเซียมจะชื่นชอบแสงรำไรถึงแดดจัด อากาศถ่ายเท ยิ่งอากาศเปลี่ยนจากกลางวันร้อนและกลางคืนเย็นยิ่งดี สีสันที่ได้จะยิ่งสวย ยิ่งมีสีที่สวยอย่างสีชมพูอ่อนปรากฏ ต้นนั้นก็จะโตช้ากว่าต้นที่มีสีเขียวเยอะ  รากจะเดินช้ามาก ดังนั้นเราจึงต้องใช้การต่อตอเพื่อให้แคคตัสสายพันธุ์ที่รากเดินเร็วกว่าช่วยหาสารอาหารให้ ซึ่งปกติก็จะใช้แคคตัสสามเหลี่ยมมาเป็นตอ  แต่สำหรับเราอยากทดลองอะไรใหม่ ๆ ก็จะมีตออื่นที่มีความสวยงามมากขึ้น  เช่น ตอหนามดำ  ทำให้ดูน่ามองมากกว่า” เช่นเดียวกับภาชนะปลูก คุณหมอเอเลือกใช้กระถางดินเผาที่ดูสวยน่ามองกว่ากระถางพลาสติกที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้กัน แม้กระถางดินเผาจะอมความชื้นที่ไม้อวบน้ำไม่ชอบ แต่การใช้วัสดุปลูกอย่างดินภูเขาไฟกับดินก้ามปูที่ร่อนเอาแต่เนื้อดินในอัตราส่วนเท่ากันก็ช่วยระบายอากาศได้ดี ร่วมกับการรดน้ำเพียงสัปดาห์ละครั้ง ก็ทำให้วัสดุปลูกไม่ชื้นจนเกินไป แล้วบำรุงด้วยการใส่ปุ๋ยละลายช้าสูตร 3 […]

“แมตทิโอลา” ไม้ดอกช่อสวยหลายสี

ไม้ดอกช่อสวยหลายชนิดนอกจากปลูกในกระถางและประดับแปลงแล้ว ยังเป็นไม้ตัดดอกปักแจกันประดับบ้านได้ดีด้วย โดยเฉพาะไม้ดอกเมืองหนาวที่มีช่อดอกสีสันสดใสอย่าง ลิซิแอนทัส(Lisianthus) คาร์เนชั่น(Carnation) แอสเตอร์(Aster) อคิลเลีย(Achillea) ไวท์เลซ(WhiteLace) ไฮยาซินท์(Hyacinth) และแมตทิโอลา(Matthiola) ซึ่งแต่ละชนิดมีอายุการปักแจกันได้นานนับสัปดาห์ทีเดียว ขอแนะนําให้รู้จักแมตทิ-โอลา หรือโฮรีสต็อก(HoaryStock) ไม้ดอกที่มีถิ่นกําเนิดทางตะวันตกและตอนใต้ของทวีปยุโรป ซึ่งมีบันทึกไว้ว่า ปลูกเป็นไม้ประดับและใช้เป็นไม้ตัดดอกมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่16 ปัจจุบันมีการนําเข้าดอกตัดช่อจากต่างประเทศ และเริ่มมีปลูกทางตอนเหนือของประเทศไทย เนื่องจากเป็นพืชที่ชอบอากาศเย็น แมตทิโอลามีชื่อวิทยาศาสตร์ว่าMatthiolaincana(L.)R.Br.&hybrid เป็นสมาชิกในวงศ์Brassicaceae เช่นเดียวกับพืชผักหลายชนิดที่คนไทยคุ้นเคยกันดี เช่น ผักคะน้า กวางตุ้ง ผักโขมจีน และหัวไชเท้า ส่วนไม้ประดับในวงศ์นี้ที่รู้จักกัน เช่น แคนดี้-ทัฟต์(Candytuft) อลิสซัม(SweetAlyssum) ลักษณะทั่วไปเป็นไม้ดอกอายุ2ปีต้นเป็นพุ่มสูง30-80เซนติเมตร ใบรูปใบหอก ปลายใบแหลมหรือมน แผ่นใบบิดเป็นคลื่นและมีขนปกคลุม ช่อดอกแบบช่อกระจะออกที่ปลายยอด ชูพ้นใบ มีดอกจํานวนมาก กลีบดอกซ้อนกัน ดอกบานขนาด3-3.5เซนติ-เมตร มีกลิ่นหอม ปัจจุบันมีการปรับปรุงพันธุ์ให้มีหลายสี ได้แก่ สีขาว สีชมพูสีชมพูเข้ม สีม่วง และสองสีในดอกเดียวกัน ทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน ออกดอกฤดูหนาว ผลเป็นฝัก แต่มักไม่ติดผล ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด เรื่อง:อังกาบดอย ภาพ:อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม […]

เฮลิโอโทรป

Heliotrope/Cherry Pie ชื่อวิทยาศาสตร์: Heliotropium arborescens L. วงศ์: Boraginaceae ประเภท: ไม้ดอกอายุหลายปี ลำต้น: ต้นเป็นพุ่มสูง 30-80 เซนติเมตร ใบ: ใบรูปไข่หรือรูปรี ปลายแหลม สีเขียวเข้มเป็นมัน เส้นใบเป็นร่อง ดอก: ช่อดอกแบบช่อกระจุก ช่อใหญ่ประมาณ 15 เซนติเมตร ดอกย่อยจำนวนมาก โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 4-5 กลีบ สีขาว ม่วง หรือม่วงแดง ดอกมีกลิ่นหอมช่วยดึงดูดผีเสื้อให้มาในสวน ดอกออกตลอดปี อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดเต็มวัน ชอบอากาศเย็น น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: ปักชำกิ่ง หรือเพาะเมล็ด หลังเพาะ 60 วันจึงเริ่มออกดอก การใช้งานและอื่นๆ: นิยมปลูกเป็นไม้ประดับแปลงและไม้กระถาง เกร็ดน่ารู้: ถิ่นกำเนิดในเปรู

แอสเตอร์

พีค็อก/Aster/Heath Aster/White Aster/White Heath Aster ชื่อวิทยาศาสตร์: Symphyotrichum ericoides (L.) G.L.Nesom วงศ์: Asteraceae ประเภท: ไม้ดอกอายุหลายปี ลำต้น: ต้นเป็นพุ่มสูงได้ถึง 1 เมตร ใบ: ใบรูปแถบเรียว ก้านใบสั้น ดอก: ดอกเป็นช่อกระจุกที่ปลายยอด ดอกบาน 1-2 เซนติเมตร สีขาว ดอกวงในสีเหลือง ออกดอกตลอดปี ปัจจุบันมีลูกผสมที่ให้ดอกสีอื่น เช่น สีฟ้าอมม่วง สีเหลือง สีชมพู อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดเต็มวัน ชอบอากาศเย็น น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: แยกกอ ปักชำกิ่ง หรือเพาะเมล็ด การใช้งานและอื่นๆ: นิยมปลูกเป็นไม้ประดับแปลง ไม้กระถาง และไม้ตัดดอก หลังออกดอกครั้งแรกควรงดให้น้ำ และตัดแต่งกิ่งจนเกือบถึงโคน รดน้ำสม่ำเสมอ จะแตกกิ่งและออกดอกใหม่ได้อีกครั้ง […]

แอฟริกันไอริส

African Iris/Fortnight Lily ชื่อวิทยาศาสตร์: Dietes bicolor (Steud.) Sweet ex Klatt วงศ์: Iridaceae ประเภท: ไม้ดอกอายุหลายปี ลำต้น: มีเหง้าทอดเลื้อยใต้ดิน ต้นเป็นพุ่มสูงได้ถึง 1 เมตร ใบ: ใบรูปแถบยาวออกเรียงสลับระนายเดียว ดอก: ช่อดอกแบบช่อกระจุกแยกแขนงออกจากซอกใบ ก้านช่อดอกกลม ดอกบาน 5-6 เซนติเมตร สีเหลือง โคนกลีบมีแต้มสีน้ำตาลคล้ำ ดอกบานเพียงวันเดียว ไม่พบติดเมล็ด ออกดอกตลอดปี ดอกดกในฤดูฝน อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดเต็มวัน น้ำ: มาก การขยายพันธุ์: แยกกอ การใช้งานและอื่นๆ: นิยมปลูกเป็นไม้ประดับแปลงและไม้กระถาง เติบโตได้ดีในเมืองไทย เกร็ดน่ารู้: ถิ่นกำเนิดแถบแอฟริกาใต้ ชื่อสกุลมาจากภาษากรีกว่า dis แปลว่า สองเท่า และคำว่า etes แปลว่า […]

แองเจิ้ลไต้หวัน

ไลทรัม/Purple Loosestrife/Purple Lythrum/Spiked Loosestrife ชื่อวิทยาศาสตร์: Lythrum salicaria L. & hybrid วงศ์: Lythraceae ประเภท: ไม้ดอกอายุหลายปี ลำต้น: ต้นสูงได้ถึง 1.20 เมตร ใบ: ใบรูปใบหอกเรียวเล็ก ออกตรงข้ามหรือเรียงเวียนสลับ ไม่มีก้านใบ  ดอก: ช่อดอกแบบช่อเชิงลดออกที่ปลายยอด มีดอกย่อยจำนวนมาก กลีบดอกเป็นหลอดเล็ก ๆ ดอกบานขนาด 1 เซนติเมตร ดอกสีชมพู แดงถึงม่วง ออกดอกตลอดปี ผล: ผลเป็นฝัก เมื่อแก่แตกออก ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดเต็มวัน น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: ปักชำกิ่ง เพาะเมล็ด การใช้งานและอื่นๆ: เป็นไม้ดอกที่เพิ่งนำเข้ามาปลูกเลี้ยงกัน เติบโตได้ดีในเมืองไทย นิยมปลูกประดับในสวนอังกฤษ มีลูกผสมหลายพันธุ์ เกร็ดน่ารู้: ถิ่นกำเนิดแถบตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา […]

อลิสซัม

หวานตาหวานใจ/Madwort/Sweet Alison/Sweet Alyssum ชื่อวิทยาศาสตร์: Lobularia maritima (L.) Desv. วงศ์: Brassicaceae ประเภท: ไม้ดอกอายุปีเดียว ลำต้น: ต้นเป็นพุ่มสูง 15-30 เซนติเมตร แตกกอแน่น ใบ: ใบรูปแถบเรียวเล็ก   ดอก: ช่อดอกแบบช่อเชิงลดออกที่ปลายยอด ยาว 3-5 เซนติเมตร ดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมาก มีทั้งสีขาว เหลือง ชมพู ม่วง ทยอยบานจากล่างขึ้นบน ดอกสีขาวมีกลิ่นหอมคล้ายน้ำผึ้ง อัตราการเจริญเติบโต: เร็ว ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดเต็มวัน ชอบอากาศเย็น น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด หลังเพาะ 2 เดือนจึงให้ดอก การใช้งานและอื่นๆ: นิยมปลูกเป็นไม้กระถางหรือไม้ประดับแปลง เกร็ดน่ารู้:  ถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของทวีปยุโรปถึงทางตะวันตกของทวีปเอเชีย เดิมมีชื่อสกุลว่า Alyssum มาจากภาษากรีก แปลว่า ระงับโทสะ […]

อเจอราตุ้ม

Ageratum/Flossflower ชื่อวิทยาศาสตร์: Ageratum houstonianum Mill. วงศ์: Asteraceae ประเภท: ไม้ดอกอายุปีเดียว ลำต้น: ต้นเป็นพุ่มสูง 15-30 เซนติเมตร ทุกส่วนมีขนสีขาวปกคลุม ใบ: ใบรูปหัวใจ ปลายมน ดอก: ดอกเป็นช่อกระจุกที่ปลายยอด มี 5-15 ดอก ดอกบาน 1.5-2 เซนติเมตร กลีบดอกวงนอกเป็นเส้นเล็ก ๆ คล้ายเส้นด้ายสีชมพู ม่วง ฟ้า และขาว ดอกมีกลิ่นฉุน อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดเต็มวัน ชอบอากาศเย็น น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด จะงอกภายใน 2 สัปดาห์และออกดอกหลังเพาะ 60 วัน หรือปักชำกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ: นิยมปลูกเป็นไม้กระถางหรือไม้ประดับแปลง เกร็ดน่ารู้:  ถิ่นกำเนิดแถบอเมริกากลาง ตั้งแต่เม็กซิโกถึงหมู่เกาะเวสต์อินดีส

โสมชบา

ข้าวต้มเล็ก/มหากาแดง/Ambrette/Musk Mallow/Musk Okra/Native Rosella ชื่อวิทยาศาสตร์: Abelmoschus moschatus Medik. subsp. tuberosus (Span.) Borss.Waalk. วงศ์: Malvaceae ประเภท: ไม้ดอกอายุหลายปี ลำต้น: ต้นเป็นพุ่มสูง 0.50-1 เมตร มีรากสะสมอาหารอยู่ใต้ดิน ทุกส่วนมีขน ใบ: ใบหยักเว้าเป็นพู ขอบใบหยักสม่ำเสมอ ดอก: ดอกเดี่ยวออกตามซอกใบใกล้ปลายยอด ดอกชั้นเดียวมี 5 กลีบ ขนาด 5-7 เซนติเมตร สีแดงอมชมพู โคนกลีบสีขาว เกสรเพศผู้สีเหลือง ยอดเกสรเพศเมียสีแดง ออกดอกฤดูฝน ผล: ผลรูปกระสวย มี 5 แฉก ผลอ่อนมีขนปกคลุม เมื่อแก่สีน้ำตาลและแตกออก ภายในมีเมล็ดรูปไตสีน้ำตาลมีขนปกคลุม พักตัวในฤดูหนาว อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดตลอดวัน ทนแล้ง น้ำ: […]

สายรุ้งทับทิม

ต้นกุ้ง/False Hop/Mexican Shrimp Plant/Shrimp Plant ชื่อวิทยาศาสตร์: Justicia brandegeeana Wassh. & L.B.Sm. วงศ์: Acanthaceae ประเภท: ไม้ดอกอายุหลายปี ลำต้น: ต้นเป็นพุ่มสูงได้ถึง 1 เมตร กิ่งอ่อนเป็นเหลี่ยมมีขนนุ่มปกคลุม ใบ: ใบรูปไข่ป้อมปลายมน ดอก: ช่อดอกแบบช่อเชิงลด ใบประดับรูปไข่สีแดง ดอกจริงสีขาวอมชมพูหรือสีเหลืองเรื่อ รูปปากเปิด ดอกยาวประมาณ 2.5 เซนติเมตร กลีบปากมีจุดสีแดงเข้ม ออกดอกตลอดปี ผล: ผลแห้งแตก ยาวประมาณ 1 เซนติเมตร เมล็ดแบน อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดครึ่งวัน น้ำ: ปานกลาง ขยายพันธุ์: ปักชำกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้กระถางหรือไม้ประดับแปลง เกร็ดน่ารู้: มีถิ่นกำเนิดในยุโรปตะวันตก เม็กซิโก

สวีตพี

Sweet Pea ชื่อวิทยาศาสตร์: Lathyrus odoratus L. วงศ์: Fabaceae ประเภท: ไม้ดอกอายุ 1 ปี ลำต้น: ต้นสูง 50-60 เซนติเมตร ใบ: ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ มีใบย่อย 2-3 คู่ รูปรีแกมรูปขอบขนาน สีเขียวอมเทา มีมือเกาะเป็นเส้นยาวที่ปลายยอด ดอก: ช่อดอกออกที่ปลายยอด มี 2-4 ดอก รูปดอกถั่ว ขนาด 3-5 เซนติเมตร ขอบกลีบเป็นคลื่นเล็กน้อย มีหลายสี ทั้งสีขาว ชมพู แดง ครีม เหลือง ม่วง ฟ้า และสองสีในดอกเดียวกัน มีกลิ่นหอมหวาน ออกดอกฤดูหนาว ผล: ผลเป็นฝัก เมล็ดขนาดใหญ่ อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ดินร่วนระบายน้ำดี ชอบดินเป็นด่าง แสงแดด: แสงแดดตลอดวัน […]

ไวท์แคนเดิลส์

White Candles ชื่อวิทยาศาสตร์: Whitfieldia elongata (P.Beauv.) De Wild. & T.Durand วงศ์: Acanthaceae ประเภท: ไม้ดอกอายุหลายปี ลำต้น: ต้นเป็นพุ่มสูงได้ถึง 1.50 เมตร กิ่งก้านและช่อดอกมีขนนุ่มปกคลุม ใบ: ใบรูปใบหอกเรียวแหลม สีเขียวเข้ม เห็นเส้นใบชัดเจน ดอก: ช่อดอกแบบช่อกระจะ ยาว 15-20 เซนติเมตร ทั้งใบประดับ กลีบเลี้ยง และกลีบดอกสีขาว ด้านนอกกลีบมีขนนุ่มปกคลุม กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร ปลายแยกเป็น 5 กลีบ เกสรเพศผู้สีขาว ออกดอกตลอดปี ผล: ไม่พบติดเมล็ด อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดเต็มวัน น้ำ: ปานกลาง ขยายพันธุ์: ปักชำกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้ประดับแปลง […]

เวโรนิกา

ม่วงจุฬามณี/Veronica/Speedwell ชื่อวิทยาศาสตร์: Veronica longifolia L. วงศ์: Plantaginaceae ประเภท: ไม้ดอกอายุหลายปี ลำต้น: ต้นเป็นพุ่มสูง 0.40-1.20 เมตร กิ่งก้านเรียบเกลี้ยงหรือมีขนปกคลุมเล็กน้อย ใบ: ใบออกตรงข้าม ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบหยักฟันเลื่อย ไม่มีก้านใบ   ดอก: ช่อดอกแบบช่อเชิงลดออกที่ปลายยอด ช่อยาว 12-15 เซนติเมตร ดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมาก บานจากโคนไปยังปลายช่อ สีม่วงถึงม่วงอมฟ้า ผล: ไม่พบติดเมล็ด อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ดินร่วนปนทราย แสงแดด: แสงแดดเต็มวัน ชอบอากาศเย็น น้ำ: ปานกลาง ขยายพันธุ์: ปักชำกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ: เป็นไม้ดอกที่เพิ่งนำเข้ามาปลูกประดับกันเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา สามารถเติบโตได้ดีในเมืองไทย นิยมปลูกเป็นไม้กระถางหรือปลูกประดับแปลงในสวนอังกฤษหรือสวนหิน เกร็ดน่ารู้: มีถิ่นกำเนิดในทวีปยุโรปและทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ ชื่อสกุลมาจากชื่อของเซนต์เวโรนิกา (St. Veronica) ผู้นำผ้าเช็ดหน้าไปมอบให้พระเยซูเพื่อซับเหงื่อ ส่วนชื่อระบุชนิดแปลว่า ช่อดอกยาว

โลบิเลีย

Lobelia ชื่อวิทยาศาสตร์: Lobelia spp. & hybrid วงศ์: Campanulaceae ประเภท: ไม้ดอกอายุปีเดียวหรือหลายปี ลำต้น: ต้นเป็นพุ่มสูง 15-60 เซนติเมตร ทุกส่วนมีน้ำยางสีขาวที่มีกลิ่นฉุน ใบ: ใบเรียงสลับ ก้านใบสั้น ดอก: ดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อดอกแบบช่อกระจะออกที่ปลายยอด โคนกลีบเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็น 5 กลีบ สองกลีบบนขนาดเล็ก สามกลีบล่างขนาดใหญ่ ผล: ผลเป็นฝัก เมื่อแก่แตกออก อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดเต็มวัน ชอบอากาศเย็น น้ำ: ปานกลาง ขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด หลังเพาะ 90 วันจึงเริ่มให้ดอก การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้กระถาง ไม้ตัดดอก ชนิดที่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับมี 2 ชนิด คือ Lobelia erinus ต้นแตกกิ่งก้านเป็นพุ่มเล็ก ๆ ลำต้นทอดเลื้อย […]