- Page 5 of 32

เทคนิคดูแลพรรณไม้ในสวนทรอปิคัล ให้บรรยากาศเป็นธรรมชาติ

สวนป่าหรือสวนทรอปิคัล มีหลักพื้นฐานที่ต้องคำนึงถึงคือ “ความเป็นธรรมชาติ” เน้นโทนสีเขียว มีพรรณไม้หลากหลายทั้งชนิดและขนาดขึ้นเบียดเสียดกันให้ร่มเงาอย่างหนาแน่นและเขียวชอุ่ม ไม่เน้นการตัดแต่งหรือประดิษฐ์มากจนเกินไป การตัดแต่งไม้รูปทรงอิสระในสวนป่า เพื่อให้บรรยากาศสวนยังคงความเป็นธรรมชาติ ไม่เปลี่ยนแปลง หรือรู้สึกประดิษฐ์มากจนเกินไป จึงมีวิธีการง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ดังนี้ เมื่อไหร่ที่ควรตัดแต่งเมื่อใดที่ไม้เหล่านี้เริ่มมีทรงพุ่มแน่นทึบ แสงส่องผ่านไม่ทั่วถึง แสดงว่า ถึงเวลาที่ควรตัดแต่งแล้ว และอาจตัดแต่งต้นไม้ใหญ่ในช่วงฤดูหนาว ประมาณกลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นระยะที่ต้นไม้พักตัว เพื่อความสวยงามและสร้างความสมดุลให้ต้นไม้ ความเข้าใจผิดเมื่อมีกิ่งยืนยาว หลายคนมักเข้าใจว่าควรตัดกิ่งที่ยื่นออกให้มีขนาดเท่าๆ กับกิ่งอื่นในทรงพุ่ม ซึ่งนั่นเป็นการเข้าใจที่ผิด และเป็นการเริ่มต้นบังคับทรงพุ่มของต้นไม้ ซึ่งไม่เหมาะกับสวนป่า การตัดแต่งที่ถูกต้องควรตัดที่โคนกิ่งให้โคนพุ่มโปร่ง หรือตัดกิ่งที่แยงเข้าหาทรงพุ่ม หรือสิ่งที่ยื่นยาวออกจากทรงพุ่ม จนเกะกะข้างทางก็ควรลดออก รวมถึงเลือกตัดกิ่งที่มีปัญหา เช่น แคระแกรน มีโรค หรือมีแมลงกิน แต่หากเป็นไม้กอ อย่าง เฮลิโคเนีย เมื่อกอเริ่มแน่นอาจใช้วิธีแยกกอ เป็นการช่วยให้ทรงพุ่มโปร่งและรักษารูปทรงอิสระของต้นไม้ไว้ เพื่อให้สวนป่าดูเป็นสวนธรรมชาติที่สวยงาม

วิธีการดูแลสนามหญ้า ให้หมดปัญหากวนใจ

หากอยากมีสนามหญ้าสีเขียวที่ดูแน่นและนุ่ม ไว้วิ่งเล่นและเพิ่มบรรยากาศในสวนให้สดชื่นอยู่เสมอ โดยไม่มีปัญหามากวนใจ ควรหมั่นดูแลเอาใจใส่ และมี วิธีการดูแลสนามหญ้า อย่างถูกต้อง ซึ่ง วิธีการดูแลสนามหญ้า อาจพิจารณาจากปัญหาที่มักพบได้ ดังนี้ หญ้าจัดสวน ต้องเลือกแบบไหน? ขั้นตอนการปูหญ้า มีพื้นที่สีเขียวข้างบ้านทำได้เองแบบง่ายๆ 1.ปัญหาจากวัชพืช อาการ: มีวัชพืชขึ้นแทรกเป็นหย่อม โดยเฉพาะหญ้าแห้วหมู ซึ่งเป็นวัชพืชพื้นถิ่นที่พบได้ทั่วไป ขึ้นง่าย ตายยาก แพร่พันธุ์เร็ว การแก้ไข-ดูแล: หลังจากการปรับดินในช่วงก่อนปูหญ้า ควรกำจัดอย่างถอนรากถอนโคน อย่างการถอนและขุด ใช้น้ำร้อนราด หรือไถพรวนดินแล้วตากแดด เพราะการใช้กรรไกรตัดหรือใช้ยาฆ่าหญ้าจะไม่ได้ผลในระยะยาว เนื่องจากจะตายแค่ใบหญ้า แต่ต้นไม่ตาย นอกจากนี้การดูแลให้หญ้าขึ้นเขียวแน่นอยู่เสมอจะเป็นการป้องกันไม่ให้วัชพืชขึ้นแทรกได้อีกทางหนึ่ง 2.ไม่ได้รับแสงแดดเต็มที่ อาการ: มักเกิดจากการปลูกหญ้าในที่ร่ม หรือใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งนอกจากหญ้าจะไม่ไดรับแสงแล้ว หญ้าก็จะถูกแย่งอาหารจากต้นไม้ ทำให้สนามหญ้าบริเวณนั้นไม่ขึ้นแน่นสวยงาม การแก้ไข-ดูแล: บริเวณพื้นที่ร่มหรือใต้ต้นไม้ใหญ่ อาจเลือกปลูกเป็นพืชคลุมดิน-พืชทนร่ม หรือโรยกรวดแทน เนื่องจากบริเวณโคนต้นไม้มักชื้นแฉะและมีดินอัดแน่น 3.ดินทรายกลบผิวหน้า อาการ: หญ้าจะเหลืองและหยุดการเติบโต การแก้ไข-ดูแล: ให้เกลี่ยทรายออก ถ้ามีส่วนประกอบของสิ่งทับถมมาก อาจเปลี่ยนดินบริเวณนั้นใหม่ 4.ฉี่สุนัข อาการ: หญ้าจะเปลี่ยนสีเป็นหย่อม […]

รู้ก่อนเปลี่ยนกระถาง ไม่ให้พลาดทำร้ายต้นไม้

การย้ายกระถางปลูกเปรียบเสมือนการย้ายบ้านให้กับต้นไม้ เพื่อให้มีเนื้อที่เพียงพอในการแผ่กิ่งก้านสาขา และมีอาหารเพียงพอในการเจริญเติบโต  แต่ถ้าหากว่าเราเปลี่ยนผิดวิธีหรือผิดจังหวะก็อาจจะเป็นการทำร้าย ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ต้นไม้แทนได้ บ้านและสวน จึงมี 5 ข้อควรระวังในการเปลี่ยนกระถาง มาฝากกันค่ะ 1.ไม่ควรเปลี่ยนกระถางทันทีที่ซื้อมา เนื่องจากปริมาณแสงแดดและความชื้นในบ้านมักจะน้อยกว่าที่สวน ทำให้ต้นไม้ต้องใช้เวลาในการปรับตัว ในช่วงแรกจึงอาจวางต้นไม้กระถางสีดำลงไปในกระถางใหม่แทนก่อน เพื่อให้ต้นไม้ปรับตัวกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป และเมื่อเริ่มแตกใบ มีรากทะลุออกมาจากกระถางแล้ว จึงค่อยเปลี่ยนกระถาง มิเช่นนั้นต้นไม้อาจจะเกิดอาการลำต้นและใบเริ่มเฉา เปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือน้ำตาล และใบร่วงมากผิดปกติหรือทิ้งใบแทนได้ 2.ไม่ควรรอให้รากแน่นหรือเห็นรากขาวออกมาเยอะเกิน หากมีรากงอกออกมาที่ก้นกระถางจำนวนมาก แสดงว่ารากด้านในกระถางนั้นมีความกระจุกตัว และรากได้รับอากาศไม่เพียงพอ จึงอาจทำให้ต้นไม้ป่วยและมีอาการรากเน่าได้ จึงต้องรีบเปลี่ยนกระถาง โดยใช้ส้อมปลูกอันเล็กๆ แซะดินรอบๆ ขอบกระถางออกบ้าง เพื่อให้รากมีพื้นที่เพียงพอในการเติบโต นอกจากนี้ ก่อนทำการย้ายกระถาง ควรใช้กรรไกรตัดกิ่ง ตัดแต่งทรงต้นและรากให้สวยงาม โดยดูความสมดุลของรากที่เหลืออยู่ 3.ไม่ควรเปลี่ยนขนาดกระถางให้ใหญ่จนเกินไป การย้ายต้นไม้ไปปลูกในกระถางที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมมากๆ เช่น 4 cm เป็น 24 cm เพื่อให้ต้นไม้โตเร็วหรือลดความถี่ในการเปลี่ยนกระถาง อาจทำให้เวลาที่รดน้ำจนชุ่ม ระบบรากจะไม่สามารถดูดซึมน้ำที่มีอยู่ในดินได้ทั้งหมด รากจึงเหมือนแช่อยู่ในน้ำตลอดเวลาและมีโอกาสรากเน่าได้สูงมาก ดังนั้น ควรเลือกกระถางให้เหมาะสม ไม่เล็กหรือใหญ่เกินขนาดของต้นไม้จนเกินไป  4.ไม่ควรใช้กระถางที่ทึบตัน การเลือกกระถางนอกจากจะเลือกที่สวยงามถูกใจแล้ว ก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับต้นไม้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกระถางควรมีรูระบายน้ำ […]

การเลือกใช้ต้นไม้ให้เหมาะกับภูมิอากาศและสวนแต่ละสไตล์

ต้นไม้มีบทบาทสำคัญสำหรับสวนหรืออาจเรียกว่าเป็นพระเอกของสวนเลยก็ว่าได้ ซึ่งสวนในแต่ละประเทศก็มักจะมีการเลียนแบบธรรมชาติและเลือกใช้พรรณไม้ท้องถิ่นมาจัดวาง ทำให้เกิดเป็นสไตล์หรือเอกลักษณ์ของสวนที่ชัดเจน แต่หากว่าจะนำสวนแต่ละสไตล์มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับภูมิประเทศและภูมิอากาศแบบบ้านเรา บ้านและสวน ก็มีแนวทางใน การเลือกใช้ต้นไม้แบบไทยๆ ที่มีรูปทรงสวยงาม หาได้ง่าย รวมถึงตัวอย่างพรรณไม้สำหรับการประยุกต์ใช้ให้ได้บรรยากาศแบบสวนทั้ง 4 สไตล์มาฝากกัน สวนทรอปิคัล (Tropical) การจัดสวนแบบทรอปิคัล (Tropical) จะให้ความรู้สึกแบบธรรมชาติในแถบเขตร้อนชื้น ส่วนใหญ่นิยมใช้สีเอิร์ธโทน และเต็มไปด้วยพืชพรรณสีเขียวนานาชนิด อาจแทรกสีสันด้วยไม้ใบสีอื่นหรือใบด่างบ้าง เพื่อเติมความมีชีวิตชีวาให้สวน นอกจากนี้ยังอาจเพิ่มกลิ่นหอมเย็นชื่นใจของพรรณไม้บางชนิด โดยการจัดวางไว้บริเวณที่ใกล้กับมุมนั่งเล่นก็จะช่วยให้บรรยากาศโดยรวมดูน่าสนใจและน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่ง การเลือกใช้ต้นไม้แบบไทยๆ หรือต้นไม้ทุกชนิดที่เป็นต้นไม้พื้นถิ่นของประเทศไทยสามารถจัดสวนสไตล์นี้ได้อย่างแน่นอน  การดูแลสวนโดยทั่วไปจะปล่อยให้ต้นไม้เติบโตอย่างอิสระ ตัดแต่งกิ่งต้นไม้ใหญ่บ้างเล็กน้อย เพื่อเปิดช่องแสงให้ต้นไม้ด้านล่างได้รับแสงอย่างทั่วถึง และควรให้น้ำทั่วถึงอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อน เพื่อเพิ่มความชื้นและช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดี• ไม้ยืนต้น: กระโดน ลั่นทม พิกุล หมากเขียว จิกน้ำ จิกสวน เสม็ดแดง พะยอม ชงโค อโศกน้ำ ชุมแสง มั่งมี• ไม้พุ่ม: เฟิน โมก บอนกระดาด ขิงแดง เอื้องหมายนา เสน่ห์จันทน์แดง บีโกเนีย ฤๅษีผสม ดาหลา […]

การทำให้สวนในบ้านเป็นมิตรต่อโลกและเพื่อนต่างสายพันธุ์

“การฟื้นฟูธรรมชาติ (Rewilding Garden) ไม่จำเป็นต้องเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ แค่พื้นที่เล็กๆ ในสเกลของสวนหลังบ้านก็สามารถทำได้แล้ว อย่างที่ออฟฟิศของใจบ้านเองก็ได้มีการทดลอง ซึ่งก็เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ จากดินลูกรัง สู่การฟื้นคืนระบบนิเวศจริง ๆ” คุณตี๋ – ศุภวุฒิ บุญมหาธนากร สถาปนิกจาก ใจบ้านสตูดิโอ ได้กล่าวถึงตัวอย่างและการจัดการพื้นที่สวนภายในบ้านให้เป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นคืนธรรมชาติในเมือง (Rewilding Garden) ที่นอกจากจะช่วยสร้างความสวยงามให้กับโลกและถิ่นที่อยู่อาศัยได้แล้ว ยังสามารถสร้างความหลากหลายทางชีวภาพที่เอื้อต่อชีวิตอื่น รวมถึงเป็นแหล่งอาหารให้กับเพื่อนสิ่งมีชีวิต อย่าง ผึ้ง ผีเสื้อ นก และแมลง พร้อมทั้งแชร์เทคนิคและวิธีการทำให้สวนภายในบ้านของเราเป็นมิตรต่อโลกและเพื่อนต่างสายพันธุ์อย่างง่าย ดังนี้ ไฮไลต์สวนโชว์ 2023 ภายใต้แนวคิด “Natural Techno – Local Species” [Rewilding Garden คือ การปล่อยให้พืชและสัตว์พื้นถิ่นที่มีอยู่ในธรรมชาติกลับคืนมา อย่างพืชป่าที่คนเรียกว่า “วัชพืช” ขึ้นตามคันนา เช่น กะทกรก หรือหิ่งเม่นดอกสีเหลือง เพื่อสร้างความหลากหลายในระบบนิเวศ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องประคับประครองพื้นที่ไม่ให้ถูก takeover จากธรรมชาติมากจนเกินไป – ดร.สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ […]

5 Tips จัดมุมทำงานในสวน ให้เป็นสัดส่วนและใช้งานง่าย

การทำงานท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ ช่วยสร้างสุนทรียภาพและแรงบันดาลใจได้ไม่น้อย อีกทั้ง จัดมุมทำงานในสวน ยังทำให้เราได้เชื่อมโยงความสัมพันธ์เข้ากับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ซึ่ง การ จัดมุมทำงานในสวน ให้เป็นสัดส่วน ก็จะทำให้พื้นที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย น่าใช้งาน และหยิบจับสิ่งของได้ง่ายยิ่งขึ้น แถมหากจัดมุมทำงานในสวนให้ดีก็สามารถใช้เป็นมุมโชว์ในสวนได้อีกด้วย 1. เลือกมุมให้เหมาะ การเลือกมุมใดในสวนเป็นมุมทำงาน นอกจากจะดูจากความสะดวกของตัวเราเป็นหลักแล้ว ควรคำนึงถึง การเข้าถึงที่สามารถเดินต่อเนื่องกับสวนหรือมีทางเชื่อมต่อกับพื้นที่ภายในบ้าน เพื่อให้สามารถเข้าไปใช้งานง่ายและสะดวกในการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงการใช้รถเข็น และไม่ควรอยู่ในจุดอับที่ทางเดินแคบเกินไป ควรเป็นมุมที่มีร่มเงา เพื่อให้ไม่ร้อนเกินไปเมื่อเข้าไปใช้งาน ลองสังเกตตัวเองว่าชอบทำงานในสวนช่วงไหน หากชอบเข้าสวนตั้งแต่เช้าตรู่ก็ควรเลือกมุมที่ร่มตอนเช้า แต่หากชอบเข้าสวนช่วงบ่าย มุมนั้นก็ควรได้รับเงาจากตัวบ้านหรือต้นไม้ช่วงบ่าย เป็นต้น ควรอยู่ใกล้ระบบน้ำและไฟ เพื่อให้สามารถต่อเข้ามาใช้ในสวนได้สะดวก เนื่องจากมุมทำงานมักเป็นพื้นที่นอกบ้านซึ่งไม่ได้มีการเตรียมระบบน้ำและไฟไว้ตั้งแต่แรก การคำนึงถึงเรื่องนี้จะทำให้คุณทำงานง่ายมากยิ่งขึ้น ควรเป็นมุมที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อไม่ให้มีการสะสมความชื้นและเชื้อโรค อันจะเป็นปัญหาต่อต้นไม้หรืออุปกรณ์ที่อยู่ในมุมนั้นได้ 2. พื้นที่ทำงานและบริเวณโดยรอบ บริเวณที่จัดเป็นมุมทำงานในสวนควรเป็นพื้นดาดแข็งและมีระดับพื้นลาดเอียงเล็กน้อยเพื่อการระบายน้ำ เช่น พื้นที่ว่างหลังบ้านที่เทพื้นคอนกรีต หรือพื้นที่ที่วางแผ่นทางเดินเป็นลาน เพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่เฉอะแฉะหากฝนตกหรือมีการล้างอุปกรณ์ นอกจากนี้ หากมีหลังคาหรือกันสาดคลุม เพื่อป้องกันฝนจะดีมาก เพราะมุมนี้มักเป็นจุดที่เราใช้เก็บวัสดุและอุปกรณ์ด้วยในตัว 3. โต๊ะทำงาน โต๊ะทำงานควรมีความกว้างที่อยู่ในระยะมือเอื้อมถึงส่วนในสุดได้ โดยส่วนใหญ่มักมีความกว้างประมาณ 55 – 65 เซนติเมตร […]

Planting Palette of Rewilding Garden สวนสวยช่วยโลกได้ ด้วยพรรณไม้พื้นถิ่น

สวนสวย จะช่วยโลกได้อย่างไร? แน่นอนว่าสวนสวยคือหนึ่งสิ่งที่เหล่านักจัดสวน หรือเจ้าของสวนนั้นจำลองธรรมชาติหยิบยกมาไว้ในรูปแบบสวนที่มีขนาดเล็กลง

วัสดุ

ส่องราคาวัสดุตกแต่งผนัง สำหรับงานสวนและงานภายนอก 2566

วัสดุตกแต่งผนังแต่ละแบบล้วนมีคุณสมบัติที่แตกต่าง ทั้งในเรื่องของความสวยงาม ความคงทนและการดูแลรักษา เรทราคาของของวัสดุตกแต่งจึงมีส่วนช่วย

ประเภทและรูปแบบการใช้หินในงานจัดสวน

“หิน” เป็นวัสดุธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศ และไม่ต้องดูแลทำความสะอาดมาก จึงนิยมนำมาใช้ในงานตกแต่งจัดสวน โดยจะมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ สีสัน และลวดลายตามความชอบหรือสไตล์ของสวน เช่น ใช้โรยเป็นทางเดินสร้างผิวสัมผัสที่แตกต่าง ทำให้ต้นไม้ใบหญ้าดูอ่อนนุ่ม ใช้กรุผิวสร้างลวดลายในงานฮาร์ดสเคป หรือนำไปวางประดับเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศของสวนเรียบๆ ให้ดูเท่ขึ้น 1.หินแผ่น ในงานสวนส่วนใหญ่จะใช้หินแผ่นสำหรับปิดผิวกำแพง ขอบกระถาง สร้างผนังน้ำตก และนำมาจัดวางเป็นพื้นทางเดินหรือลานในสวน โดยแผ่นหินมีทั้งแบบรูปร่างฟรีฟอร์มเป็นธรรมชาติ และแบบที่ผ่านการตัดแต่งให้เป็นรูปทรง อย่าง แผ่นกลม หรือก้อนสี่เหลี่ยม ซึ่งหินแผ่นที่นิยมนำมาใช้ เช่น • หินทราย เป็นวัสดุหาง่าย มีลักษณะเนื้อหยาบ จับดูระคายมือ เนื้อหินมีความเปราะสูง สีที่พบตามธรรมชาติ ได้แก่ สีแดง สีเหลือง สีเขียวเทา สีขาวลาย และสีเหลืองลาย สามารถใช้ได้ทั้งผนังบ้านและพื้นทางเดินในสวน • หินกาบ มีหลายชนิดทั้งหินกาบป่า หินกาบทะเล แต่ที่นิยมนำมาใช้คือหินกาบภูเขา มีลักษณะเป็นแผ่นซ้อนกันเป็นชั้นๆ สีดำเข้มผสมสีน้ำตาลเข้มและอ่อนสลับกันไป มีรูปทรงที่หลากหลายตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติในการดูดซับความเย็น • หินแกรนิต พื้นผิวมีลักษณะเป็นจุดๆ สวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความหนาและมีความแข็งแรงของเนื้อหินสูง […]

วิธีเปลี่ยนพื้นปูนหรือพื้นคอนกรีตให้เป็นสวน แบบไม่ต้องรื้อ

การมีพื้นที่ดาดแข็ง ไม่ว่าจะเป็นดาดฟ้า ระเบียง ลานปูน หรือลานจอดรถที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อยู่รอบบริเวณบ้านมาก ๆ จะส่งผลต่อสภาวะน่าสบายของผู้อยู่อาศัย เพราะ ทำให้เกิดความร้อนและแสงสะท้อน ซึ่งหากอยากเปลี่ยนพื้นที่ที่แห้งแล้งเหล่านี้ ให้กลายเป็นพื้นที่ที่ชอุ่มไปด้วยสวนเขียว ๆ บ้านและสวน ก็มีวิธีหรือไอเดีย การจัดสวนบนพื้นปูน มาแนะนำกัน 1.สวนกระถาง วิธีที่ง่ายที่สุดใน การจัดสวนบนพื้นปูน หากไม่สามารถทุบ เจาะ หรือเซาะได้ ก็ควรจัดเป็นสวนกระถาง ซึ่งหากจัดเป็นสวนกระถาง ก็สามารถนำกระถางขนาดต่าง ๆ มาวางตกแต่งเพิ่มเติม จัดมุมให้สวยได้ โดยเลือกกระถางจากวัสดุประเภทเดียวกันหลาย ๆ ขนาด ในระดับความสูงต่างกัน เช่น กระถางดินเผา ปลูกต้นไม้สูงเป็นไม้ประธาน วางกระถางเล็ก ๆ ตกแต่งเพิ่มเติม หรือหากอยากใช้กระถางต่างวัสดุ ก็อาจ เลือกปลูกพรรณไม้ประเภทเดียวกันแล้วจัดธีมก็ได้ เช่น นำภาชนะเหลือใช้ ในบ้าน อย่างกระป๋องโลหะ กระป๋องเคลือบสีถลอก ตะกร้าสาน ปลูกไม้ใบ จัดวางเป็นกลุ่มร่วมกัน การจัดวางเป็นกลุ่มจะช่วยสร้างจุดสนใจได้ดีกว่า การวางแบบกระจาย โดยเฉพาะในพื้นที่กว้าง นอกจากนี้ ยังอาจปูหญ้าเทียม พื้นไม้ […]

4 เรื่องที่มักพลาดเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ในบ้าน

การปลูกต้นไม้ในบ้าน เป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มาอยู่ใกล้ตัวและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี แต่หลายคนเมื่อนำต้นไม้มาวางไว้ในบ้านแล้ว ก็อาจจะละเลยหรือลืมดูแลไปบ้าง บ้านและสวน จึงอยากชวนทุกคนมาลองสังเกต 4 เรื่องที่คุณอาจพลาดเกี่ยวกับ การดูแล และ การปลูกต้นไม้ในบ้าน กันค่ะ 1.ตำแหน่งผิดที่ รับแสงผิดทาง ต้นไม้ทุกต้นต้องการแสงแดด แม้แต่ต้นที่ต้องการแสงน้อยสุดก็ตาม ดังนั้น ก่อนเลือกปลูกจึงควรศึกษาความต้องการของต้นไม้แต่ละชนิดให้เรียบร้อย เพราะ หากต้นไม้ได้รับแสงที่มากหรือน้อยเกินจะส่งผลให้มีรูปทรงและสีของใบที่เปลี่ยนไป รวมถึงไม่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ การให้ต้นไม้ในบ้านได้ออกไปรับแสงแดดนอกบ้านบ้างอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง หรือเดือนละสองครั้งก็จะช่วยทำให้ต้นไม้สามารถเจริญเติบโตได้ดี 2.รดน้ำทุกวัน หรือฉีดน้ำบ่อย การรดน้ำทุกวัน หรือฉีดน้ำบ่อยไม่ได้เป็นการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น แต่จะเป็นการปิดช่องว่างของดิน ทำให้อากาศในดินถ่ายเทได้น้อย และเพิ่มโอกาสเสี่ยงของการเกิดเชื้อราหรือโรคเน่า เนื่องจากดินที่แน่นจนเกินไป ดังนั้นจึงควรรดน้ำที่โคนต้นให้ชุ่มทั้งกระถางแทนการรดน้ำเพียงเล็กน้อยหรือรดน้ำที่ใบทุกวัน รวมถึงคอยหมั่นสังเกตดินไม่ให้แห้งจนเกินไปหรือมีน้ำท่วมขังในกระถาง 3.ลืมเปลี่ยนกระถาง เมื่อต้นไม้เจริญเติบโตขยายใหญ่ขึ้น ที่อยู่อาศัยหรือกระถางปลูกก็ควรจะขยับขยายตามไปด้วย เพราะ หากเราลืมเปลี่ยนกระถางก็จะทำให้รากม้วนขดเป็นกระจุกจนแน่น ต้นไม้ขาดออกซิเจน แคระแกร็น และขาดสารอาหารจนป่วย โตช้า หรือไม่สามารถเจริญเติบโตได้ ดังนั้น เมื่อต้นไม้เริ่มแตกใบ หรือมีรากทะลุออกมา ควรเปลี่ยนกระถาง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเจริญเติบโต โดยเลือกขนาดกระถางให้เหมาะสม ไม่เล็กหรือใหญ่เกินขนาดของต้นไม้ Tips หลังซื้อต้นไม้มาใหม่ไม่ควรเปลี่ยนกระถางทันที ควรปล่อยให้ต้นไม้ปรับตัวกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปจากภายนอกสู่ภายในบ้านก่อน 4.ละเลยการเช็ดใบ […]

5 วิธีตัดแต่งไม้พุ่ม ให้ออกดอกสวยทันที

ไม้พุ่มที่ออกดอกบริเวณปลายยอด เช่น เข็มชนิดต่าง ๆ หางนกยูงไทย ฯลฯ จัดอยู่ในกลุ่มที่มีนิสัยการออกดอกแบบ Summer Bloomer สามารถตัดแต่ง เพื่อกระตุ้นการออกดอกให้ได้ดอกที่โดดเด่นสะดุดตา อย่างไรก็ตาม วิธีตัดแต่งไม้พุ่ม ก่อนการตัดแต่งควรบำรุงต้นให้แข็งแรงดีเสียก่อน จากนั้นการตัดแต่งเพื่อกระตุ้นการออกดอก สามารถทำได้ดังนี้ 1 ตัดแต่งต้น-ปลายฝนช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มตัดแต่งคือช่วงต้นฝน และหลังจากนั้นยังตัดแต่งได้อีกหลายรอบ (พิจารณาจากรอบเวลาหลังตัดแต่งไปจนถึงช่วงดอกโรย) การตัดแต่งช่วงท้ายที่สุดของแต่ละปีคือช่วงปลายฝน ไม่แนะนำให้ตัดแต่งในช่วงหน้าหนาวและหน้าแล้ง (สำหรับทุกพื้นที่ในประเทศไทย) 2 ใช้วิธี “ตัดหนัก” (Hard Pruning)สำหรับต้นไม้ในกลุ่มนี้ควรใช้วิธีตัดหนัก คือ ตัดให้ลึกที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ เช่น หางนกยูงไทย ตัดให้เหลือตอสูงจากพื้นดินประมาณ 20-30 เซนติเมตรเท่านั้น ส่วนเข็มต่าง ๆ ให้ตัดลงมาถึงโคนของสิ่งที่ดอกโรยแล้ว โดยเหลือต่อกิ่งเอาไว้เพียงเล็กน้อย ความยาวกิ่งที่ตัดผันแปรไปตามสายพันธุ์ เช่น เข็มเศรษฐี สามารถตัดได้ยาวถึงกว่า 80 เซนติเมตร แต่เข็มพิษณุโลกซึ่งเป็นกลุ่มพันธุ์แคระ ต้องตัดสั้น ๆ เท่านั้น สำหรับต้นไม้ที่ปลูกเป็นแปลง แนะนำให้ตัดในลักษณะเดียวกันทั้งแปลงในวันเดียวกัน ซึ่งส่งผลให้ต้นไม้ออกดอกบานสะพรั่งในวันเดียวกันด้วย 3 ให้น้ำและปุ๋ยอย่างเต็มที่ หลังตัดแต่งปล่อยแปลงให้แห้งไม่ได้เด็ดขาด […]