7 วิธีระบายน้ำเพื่อสวนสวย

เคล็ดลับเบื้องลึกของสวนสวย ที่ต้นไม้เติบโตสมบูรณ์ได้อย่างยาวนาน  ปัจจัยสำคัญอยู่ที่การระบายน้ำ เพื่อเสริมสร้างระบบรากพืชที่แข็งแรง

ในช่วงหน้าฝน หากเกิดน้ำท่วมขังในสวน ต้องรีบหาสาเหตุโดยเร่งด่วน โดยเฉพาะหากน้ำขังนานเกิน 2 ชั่วโมงย่อมส่งผลต่อระบบรากพืช และเป็นตัวการทำสวนเสื่อมโทรม ต้นไม้ตายลงในที่สุด ควรเร่งป้องกันโดย

  1. ปรับปรุงดินให้ระบายน้ำดี หากดินในสวนเป็นดินเหนียวไม่ระบายน้ำ ควรขุดออกแล้วปรับปรุงดินใหม่ ทั้งนี้เพิ่อการเติบโตของพืช รวมถึงการดูดซึมน้ำด้วย
  2. ปรับความลาดเอียงของพื้นที่ ไปหาร่องระบายน้ำ เพื่อช่วยถ่ายเทน้ำออกจากสวน
  3. ทำเนินดิน หากมีพื้นที่กว้างอาจทำเนินหลายๆเนิน โดยให้ตีนเนินบรรจบกันเป็นทางระบายน้ำไหลออกไปตามเส้นรูปเนิน
  4. ทำท่อและบ่อพักน้ำรอบบ้าน บ้านโดยทั่วไปจะวางท่อระบายน้ำจากในบ้านและน้ำฝนจากชายคา มักใช้ท่อขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 6 นิ้วขึ้นไป มีบ่อพัก วางห่างทุกระยะ 6-8 เมตร
  5. วางท่อก้างปลาใต้ผิวดิน หากไม่สามารถระบายน้ำบนผิวดินได้ อาจเลือกใช้วิธีระบายน้ำใต้ผิวดินโดยการฝังท่อ อาจวางเฉพาะจุดตามโคนต้นไม้ใหญ่ ใต้แปลงปลูก หรือสนามกว้าง วิธีนี้เหมาะกับสวนในพื้นที่ดินเหนียว โดยขุดดินฝังท่อลึก 30-40 ซม.ให้ท่อเมนอยู่ลึกกว่าท่อแขนง เพื่อให้น้ำจากดินไหลผ่านท่อแขนง ลงสู่ท่อเมนก่อนระบายออกไป
  6. วางท่อเพื่อลดระดับน้ำใต้ดิน โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ราบลุ่มที่มีน้ำใต้ดินสูง เช่น กรุงเทพฯและปริมณฑล ก่อนตัดสินใจใช้วิธีนี้ ลองขุดหลุมเพื่อดูระดับน้ำใต้ดินว่าอยู่สูงเพียงใด เพื่อวางแผนแก้ปัญหา  หากระดับน้ำต่ำกว่าเขตรากพืชก็ไม่ต้องใช้วิธีนี้ แต่หากสูงกว่าเขตรากพืช เพื่อการอยู่รอดของต้นไม้ จึงควรรู้ระดับความลึกของรากพืชด้วยประกอบกัน ทั้งไม้ต้นและไม้พุ่มที่ปลูก ซึ่งโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 0.50-0.80 เมตร การขุดจึงควรขุดหลุมลึกเกิน 1 เมตร ตามแนวปลูกต้นไม้ โดยใช้ท่อนีโอเดรน หุ้มด้วยแผ่นจีโอเทกไทล์ และกรวด ใต้ชั้นทราย และดินปลูก ดังรูป
  7. ไม่มีระบบระบายน้ำใดที่ให้ผลสมบูรณ์ การระบายน้ำจึงควรหาสาเหตุในพื้นที่ แล้วทำหลายวิธีร่วมกัน ทั้งระบายน้ำบนผิวดินและใต้ดิน

อ่านเพิ่มเติมได้ จากหนังสือ Hardscape สิ่งก่อสร้างและงานระบบ 

  • ผู้เขียน :  ขวัญชัย จิตสำรวย
  • ออกแบบโครงสร้าง : สหพงษ์ พลวัน
  • เรียบเรียง ทิพาพรรณ
  • ภาพวาด วารุณี อนุรักษ์ชนะพล