บ้านไม้ริมคลอง ที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติมาร่วมร้อยปี

บ้านไม้ริมคลอง ที่ประกอบด้วยบ้านไม้สักสีธรรมชาติฉลุลายแบบขนมปังขิงหนึ่งหลัง ส่วนอีกหลังเป็นบ้านไม้สไตล์โคโลเนียลทาสีเขียวอ่อน ซึ่งผ่านกาลเวลามาได้เกือบร้อยปี

บ้านกลางสวน ที่เปิดมุมมองรับธรรมชาติรอบตัว

บ้านกลางสวน สบายๆ แบบรีสอร์ตที่เปิดโล่ง แบ่งโซนนิ่งของบ้านด้วยคอร์ตยาร์ดสองคอร์ตโดยเน้นปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น พร้อมช่องเปิดเพื่อเชื่อมมุมมองธรรมชาติ การทำให้บ้านน่าอยู่และสดชื่นอาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวสถาปัตยกรรมสวยๆ หรือการตกแต่งภายในให้อยู่สบายเท่านั้น หากแต่ความร่มรื่นจากต้นไม้หรือพื้นที่สีเขียวยังมีส่วนช่วยลดอุณหภูมิความร้อน กรองแสงกรองฝุ่น เพิ่มออกซิเจน และส่งผลต่อการกระตุ้นพลังงานที่ดีให้ชีวิตได้อย่างน่าอัศจรรย์ เพราะอย่างนี้ คุณหนึ่ง-เดโช สว่างรุ่งเรืองกิจ และ คุณดาว-ดวงดาว รัตนวงศ์ชัย จึงตัดสินใจย้ายออกจากบ้านหลังเดิมที่อยู่กลางเมืองซึ่งมีแต่ความแออัดและวุ่นวาย แล้วมองหาทำเลใหม่ที่ห่างจากตัวเมืองเพื่อสร้าง บ้านกลางสวน ให้เป็นที่พักผ่อนของครอบครัวอย่างแท้จริง แม้ก่อนหน้านั้นคุณหนึ่งจะยอมรับว่าเขาไม่เคยสนใจลงทุนกับเรื่องการสร้างบ้านเลยก็ตาม “ผมเคยคิดนะว่าการลงทุนกับบ้านมันไร้สาระ ตอนสร้างบ้านหลังนี้ก็ทำไปตามความต้องการของภรรยา ยิ่งมาเจอปัญหาระหว่างการก่อสร้างยิ่งหงุดหงิดมาก แต่พอแก้ปัญหาได้เรารู้สึกว่าโตขึ้น มองย้อนกลับไปแล้วมันกลายเป็นปัญหาที่ไม่ยากเลย เพราะสิ่งที่ได้มาคุ้มค่าสำหรับครอบครัวเรามากๆ” บ้านกลางสวน ทำเลที่คุณหนึ่งถูกใจนั้นเป็นพื้นที่ของบ้านเดี่ยว 5 หลังติดกันภายในซอยแห่งหนึ่งใกล้กับสนามบิน ด้วยว่าสภาพแวดล้อมที่สงบเงียบและหลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ก็ทำให้ราคาบ้านย่านนี้ไม่สูงมากนัก ความตั้งใจเดิมคือ รีโนเวตบ้านแต่ละหลังและทำทางเชื่อมต่อถึงกัน แต่ คุณเต้อ–วิชญ์วัส บุญประสงค์ สถาปนิกแห่ง PVWB studio แนะนำว่าให้รื้อทิ้งแล้วสร้างใหม่ โดยถมที่ให้สูงขึ้นพ้นระดับรอยน้ำท่วมเดิมและออกแบบสเปซให้มีพื้นที่สีเขียวแทรกตัวอยู่กับบ้านอย่างเต็มที่ คุณเต้อเล่าถึงแนวคิดนี้ว่า “เพราะเจ้าของบ้านอยากได้บ้านสบายๆ แบบรีสอร์ตที่เปิดโล่ง ได้สัมผัสกับธรรมชาติ ทั้งต้นไม้ แสงแดด สายลม และเสียงนกร้อง ทางเดินและช่องเปิดต่างๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จริงเราวางผังบ้านไว้หลายแบบและให้ซินแสเพื่อนคุณหนึ่งดูด้วย ซึ่งก็เลือกแบบนี้ที่เป็นบ้านแนวยาวตามที่ดินรูปทรงแบบตัวที […]

วิธีไหนใช้ทำความสะอาดไม้ใบ ให้สะอาดและดีต่อสุขภาพพืช

หลายคนอยากให้เหล่าไม้ใบที่ปลูกอยู่มีใบเงามันสวยงามเหมือนตอนที่ซื้อจากร้านค้ามาในช่วงแรก ๆ เพราะ เวลาปลูกต้นไม้ไว้ที่บ้านนาน ๆ ก็มักจะมีคราบสกปรกจากฝุ่นเกาะอยู่ตามผิวใบ ทำให้ใบดูไม่เขียวสดใสเหมือนเดิม บ้านและสวน จึงมาหาคำตอบให้ดูว่า มีวิธีไหนที่จะช่วย ทำความสะอาดไม้ใบ ให้กลับมาเขียวสดใสขึ้นกันได้บ้าง สเปรย์สำหรับฉีดเพิ่มความเงาให้ใบ ใช้ง่ายเพียงแค่ฉีดพ่นในระยะห่างจากใบประมาณ 10 ซม. แต่ด้วยความที่น้ำยาสเปรย์ก็มีส่วนผสมของน้ำมันหรือแว็กซ์เพื่อสร้างความเงางาม จึงอาจมีการอุดตันต่อผิวใบ ทำให้ใบนั้นไม่สามารถสังเคราะห์แสงหรือคายน้ำได้ดีและอาจส่งผลให้ใบนั้นเหี่ยวแห้งตายในที่สุด  ทำความสะอาดไม ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันพืช เมื่อนำมาเช็ดก็จะให้สัมผัสของใบเงางามวิบวับขึ้นมาทันที แต่ตัวน้ำมันสามารถเคลือบผิวของใบ ทำให้ใบไม่สามารถสังเคราะห์แสงหรือคายน้ำได้ ส่งผลให้ใบนั้นเหี่ยวแห้งตาย โดยเฉพาะผิวใบที่มีขน ๆ อย่าง ไทรใบสัก เมื่อถูกเคลือบด้วยน้ำมันจะทำให้ใบไหม้ได้ เราจึงไม่ค่อยอยากแนะนำให้ใช้ น้ำอัดลมก็สามารถช่วยให้เกิดความเงามันบนผิวใบได้ดี แม้จะไม่เงาวับเท่ากับน้ำมันก็ตาม แต่น้ำอัดลมจะทำให้ผิวใบเกิดความเหนียวที่เป็นเหมือนตัวเคลือบการคายน้ำและสังเคราะห์แสงของใบได้เช่นกัน อีกทั้งความเหนียวยังกลายเป็นตัวกักเก็บฝุ่นได้ง่ายขึ้นด้วย เราจึงไม่แนะนำให้ใช้ การหยดน้ำยาล้างจานเพียง 2-3 หยดลงในน้ำเปล่า 1 ลิตร เพื่อนำมาเช็ดที่ใบ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความเงางาม แต่ใช้เพื่อกำจัดล้างแมลงเล็ก ๆ หรือไข่แมลงที่เกาะอยู่ตามใบ ถ้าเป็นต้นที่มีใบเล็ก ๆ จำนวนมากก็สามารถยกมาล้างในห้องน้ำ หรืออ่างล้างหน้าได้ แต่ไม่ควรใช้แปรงขนมาทำความสะอาด เพราะ […]

บ้านไม้ไทย เปิดโปร่ง ใต้ถุนโล่ง

บ้านไม้ไทย ริมน้ำที่จังหวัดลำพูนหลังนี้ดูลึกลับเมื่อซ่อนอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ใบหนา จนแทบมองไม่เห็นในครั้งแรก แต่เมื่อก้าวผ่านประตูใหญ่ด้านหน้าเข้าไป จึงรู้สึกได้ถึงความสดชื่นร่มเย็นของบ้านซึ่งแทรกตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สร้างความอบอุ่นสบายใจแก่ผู้มาเยือนได้ทันที เจ้าของ – ตกแต่ง : คุณสาธิต กาลวันตวานิช สถาปัตยกรรม : อาจารย์จุลพร นันทพานิช เจ้าของ บ้านไม้ไทย หลังนี้คือ คุณสาธิต กาลวันตวานิช CreativeDirector ของ Propaganda บริษัทออกแบบผลิตภัณฑ์และของแต่งบ้านซึ่งเป็นที่รู้จักและนิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ผลงานชุด Mr. P และผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาแห่ง Phenomena เขาเริ่มต้นเล่าว่า “ที่ดินเดิมมีขนาดประมาณครึ่งไร่ ภายหลังผมซื้อเพิ่มเติมและมีที่งอกตรงชายตลิ่งบ้าง ปัจจุบันจึงกลายเป็นเกือบหนึ่งไร่ต้นไม้เดิมมีแค่ลำไยแก่ๆ 6 ต้น หลายปีก่อนตอนปลูกบ้านต้องตัดทิ้งไป 2 ต้น เพื่อการใช้พื้นที่ได้สะดวกขึ้น หลังจากนั้นก็หาไม้พื้นบ้านและไม้ผลมาปลูกโดยได้รับคำแนะนำจาก อาจารย์จุลพร นันทพานิช สถาปนิกและอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเน้นการสอนแนวทางส่งเสริมสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นและสถาปัตยกรรมแบบยั่งยืน ท่านบอกว่า ให้ลงไม้ที่เกิดจากเมล็ดและเป็นไม้พื้นบ้านซึ่งเหมาะกับระดับทะเลในพื้นที่ รวมทั้งไม่ให้ถมดิน เพราะดินเดิมเป็นดินชายน้ำที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยตะกอนของหน้าดินที่พัดมา ซึ่งเป็นประโยชน์กับพืชปรากฏว่า แค่ปีเดียวต้นไม้โตท่วมศีรษะ สองปีสูงเกินสะพานที่เชื่อมตัวบ้านกับศาลาชายน้ำ สามปีก็แผ่กิ่งคลุมตัวบ้านและศาลา […]

บ้านสีหวานสไตล์คาเฟ่เกาหลี

คู่เน็ตไอดอลที่มีแนวคิดสนุกๆ นอกกรอบเกณฑ์การแต่งบ้านแบบเดิมๆ  มาทำเป็น แบบบ้านสไตล์คาเฟ่ เหมือนคาเฟ่เกาหลีที่ถ่ายรูปสวยได้ทุกมุม เจ้าของ : คุณกิตติวัฒน์ สวัสดิมิลินท์ และคุณณัฐพงศ์ ชินโสภณทรัพย์ ออกแบบตกแต่ง : Kirin Design & Living ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นการตกแต่งบ้านด้วยสีสวยหวานแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าของบ้านคือ คุณนิวเยียร์ – กิตติวัฒน์ สวัสดิมิลินท์ และคุณโบ้ท – ณัฐพงศ์ ชินโสภณทรัพย์ คู่เน็ตไอดอลที่ฝันไว้แต่แรกเลยว่าอยากมี แบบบ้านสไตล์คาเฟ่ เหมือนคาเฟ่เกาหลีที่ถ่ายรูปสวยได้ทุกมุม เพื่อจะได้ไม่ต้องออกไปตามล่าหาคาเฟ่นอกบ้านอีกต่อไป แต่ความฝันแบบนี้ก็อาจไม่ได้เกิดขึ้นจริงหากทั้งคู่ไม่ได้มาพบกับนักออกแบบที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่องานรีโนเวต คุณจ้า – คิริน ชัยชนะ แห่ง Kirin Design & Living ผู้ที่สนุกกับการเปลี่ยนโฉมบ้านแบบสุดปัง เพราะทั้งคุณโบ้ทและคุณนิวเยียร์แอบเฝ้าติดตามผลงานของคุณจ้ามาโดยตลอด ตั้งแต่ก่อนจะซื้อบ้านตัวเองและปักหมุดหมายในใจไว้เลยว่าจะต้องให้คุณจ้ามาช่วยตกแต่ง แบบบ้านสไตล์คาเฟ่ นี้อย่างแน่นอน “ถ้าเปรียบพี่จ้าเป็นลัทธิอะไรสักอย่าง เราก็คือสาวกที่เชื่อใจเขาเต็มร้อยเลยนะ แต่กว่าเขาจะยอมมาแต่งบ้านให้ก็ติดต่อยากมากเลย นี่โชคดีที่เป็นช่วงเขาจบโปรเจ็กต์ไปพอดี ปกติเขาไม่รับงาน บ้านจัดสรรเพราะมักติดข้อห้ามในรายละเอียดเยอะ แต่พอเราส่งรูปบ้านตรงมุมโถงทางเข้า (Foyer) ให้ดู […]

บ้านทรงจั่ว ที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติ

ความสุขเล็กๆ จากการได้มองธรรมชาติผ่านมุมมองจากในบ้านหรือสถานที่ที่เราคุ้นเคยคือความสุขใจที่หลายคนโหยหา บ้านแนวคิด inside out จึงตอบโจทย์อารมณ์แบบนั้นได้ดี เหมือน บ้านทรงจั่ว ที่สวยสไตล์โมเดิร์นในอำเภอแม ่ริมจังหวัดเชียงใหม่ หลังนี้ซึ่งออกแบบเชื่อมโยงพื้นที่ภายนอกสู่ภายใน และมีพื้นที่ว่างเพื่อสร้างมุมมองภายในสู่ภายนอกที่ปลอดโปร่ง จึงเกิดภาวะน่าสบายและไม่ถูกจำกัดอยู่แค่ในกรอบสี่เหลี่ยม เจ้าของ : คุณสถาพร – คุณธิดา สิริสิงห สถาปนิก : บริษัทแผลงฤทธิ์ สถาปัตย์ จำกัด โดยคุณขวัญชัย สุธรรมซาว บ้านทรงจั่ว โครงปูนสองชั้นสไตล์โมเดิร์น ออกแบบแปลนเป็นรูปตัวซี(C) หันหน้าไปทางทิศเหนือ ทำให้ได้แสงธรรมชาติในช่วงบ่าย ด้านหน้าเป็นห้องนั่งเล่นชั้นเดียว เปิดเพดานโล่ง โดยมีหลังคาทรงจั่วแหลมสูงและมีแนวเอียงในองศาที่ต่างกัน เพื่อให้ส่วนต่างของโครงหลังคาทั้งสองมีช่องว่างที่เป็นช่องแสง ช่วยเพิ่มความสว่างให้ภายใน ส่วนด้านหลังเป็นบ้านทรงกล่องสองชั้น แปลนบ้านที่วางเป็นรูปตัวซี(C) ยังทำให้เกิดพื้นที่ว่างในส่วนกลางบ้าน ซึ่ง คุณขวัญชัยสุธรรมซาว  สถาปนิกผู้ออกแบบ บอกว่ามีส่วนคล้ายกับชานกว้างของบ้านเรือนไทยแต่บ้านนี้ปรับเป็นสระว่ายน้ำที่มีมุมนั่งเล่นรอบสระแทน ช่วยสร้างความรู้สึกเย็นสบายให้บ้านได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ตัวบ้านทั้งสองฝั่งยังช่วยบังแสงแดดยามบ่ายให้สระว่ายน้ำ รวมถึงห้องนั่งเล่นด้วย สำหรับชั้นสองของบ้านประกอบด้วยห้อนอนใหญ่และห้องนอนเล็ก ซึ่งแบ่งสัดส่วนเป็นมุมทำงานและอ่านหนังสือที่กว้างขวางเพียงพอ เน้นความทันสมัย เรียบง่าย ดูโปร่งสบายตา เลือกใช้โทนสีสว่างจากไม้สีอ่อน เช่นไม้ธรรมชาติ รวมถึงการเปิดช่องแสงในส่วนต่างๆ เช่น […]

บ้านปูน ดูทันสมัยแต่อบอุ่นด้วยงานไม้

บ้านปูน แลดูทันสมัยนี้สร้างใหม่แทนบ้านไม้หลังเก่าซึ่งอยู่กันมานาน เปลี่ยนผ่านช่วงอายุคนจากรุ่นสู่รุ่น แม้นัยหนึ่งรุ่นพ่ออาจยังมีความลังเลในความต่างจากรูปทรงและวิถีการอยู่อาศัยแบบเดิมๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านนี้ตั้งอยู่ในย่านชานเมืองเชียงใหม่ แวดล้อมด้วยบ้านใกล้เรือนเคียงซึ่งเป็นบ้านไม้เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็รับได้กับสิ่งที่เปลี่ยนไปตามที่รุ่นลูกเลือกสรร เจ้าของ – ตกแต่ง : คุณเฉลิมชนม์ อินตื้อ สถาปนิก : บริษัทแผลงฤทธิ์ สถาปัตย์ จำกัด บ้านปูน หลังนี้มีจุดเริ่มต้นที่คุณเฉลิมชนม์  อินตื้อ เจ้าของบ้าน ซึ่งเล่าว่า “บ้านนี้รวมคนสามรุ่นมาอยู่ร่วมกัน  คือคุณพ่อคุณแม่ของผม  ผมกับภรรยา  และลูกของผมจึงอยากทำบ้านที่รวมทุกส่วนเข้าด้วยกัน  ตัวผมเองชอบบ้านรูปยาว  มีส่วนใช้สอยที่ต่อเนื่องกัน  ไม่ต้องกั้นเป็นห้องๆ  อยากได้แบบโล่งๆ  เดิมผมอยากได้บ้านชั้นเดียว  แต่พื้นที่ใช้สอยไม่พอกับความต้องการ  จึงจำเป็นต้องทำห้องนอนของผมอยู่ชั้นบน  ของคุณพ่อคุณแม่อยู่ชั้นล่าง  (คนละด้านของตัวบ้าน)  แต่สิ่งที่ระบุกับสถาปนิกอย่างชัดเจนก็คือ  อยากได้บ้านที่มีแปลนเป็นรูปตัวยู(U)” แม้ที่ดินจะเป็นรูปสามเหลี่ยมที่แต่ละด้านไม่เท่ากัน สถาปนิกก็สามารถออกแบบและวางผังตัวบ้านได้ลงตัว กล่าวคือ ได้แปลนบ้านรูปตัวยูตามความต้องการของเจ้าของบ้าน จัดสรรพื้นที่ภายในได้โล่งเรียบ และผังของบ้านก็ยังอยู่ในทิศทางที่แสงแดดเข้ามาในตัวบ้านเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น ด้านหนึ่งของห้องชั้นล่างจึงทำผนังกระจกใสเพื่อเน้นบรรยากาศแบบเปิดโล่ง ทำให้ภายในและภายนอกบ้านดูเหมือนเป็นส่วนเดียวกันตัวบ้านเป็นรูปสี่เหลี่ยมตรงๆ ใช้ปูนเปลือยเป็นวัสดุหลัก แต่ก็มีการเลือกใช้หลากหลายเทคนิคทั้งฉาบเรียบ ฉาบมัน ฉาบผสมสีขาวและสีเทา ในแปลนรูปตัวยูนี้ด้านหนึ่งเป็นบ้านสองชั้น พื้นที่ใช้สอยต่างๆ อยู่ในส่วนนี้เกือบทั้งหมด ชั้นล่างประกอบด้วยส่วนรับแขก- นั่งเล่น […]

บ้านมินิมัล เปิดรับธรรมชาติ อยู่แล้วไม่เศร้าซึม

บ้านมินิมัล อยู่แล้วสุขภาพดีทั้งกายและใจ โดยลดขอบมุมในบ้านให้น้อยเพื่อไม่เป็นที่กักเก็บฝุ่น ลดการใช้พรมแต่เน้นวัสดุที่ดูแลรักษาง่าย

บ้านไม้มินิมัล สเปซโปร่งๆ ที่อบอุ่นด้วยงานไม้

บ้านไม้มินิมัล เน้นเส้นสายของอาคารที่เฉียบคมดูเรียบง่ายแต่แฝงด้วยรายละเอียดของเทคนิคงานช่างมากฝีมือ ตลอดเวลา 30 ปีที่สวมหมวกนายช่างใหญ่เพื่อควบคุมการสร้างบ้านและอาคารให้สถาปนิกชั้นนำของไทยมาหลายต่อหลายหลัง นอกจากจะได้สร้างผลงานคุณภาพที่ทั้งสถาปนิกและเจ้าของบ้านไว้ใจแล้ว คุณขจี เกศจุมพล ยังบอกด้วยว่าเขาเองก็ได้เรียนรู้ภาษาของสถาปัตยกรรมนอกห้องเรียนอยู่มากมาย และสะสมเป็นประสบการณ์อันมีคุณค่ามาจนถึงวันที่เขาตัดสินใจนำมาใช้กับการรีโนเวตบ้านหลังเดิมของตัวเองให้ตอบรับการใช้งานได้มากขึ้น และกลายเป็น บ้านไม้มินิมัล ที่สวยเท่จนสถาปนิกเองยังเอ่ยชม “ผมซื้อบ้านนี้มาตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ซื้อเพราะชอบต้นแก้วที่อยู่หน้าบ้านนี่แหละ ส่วนอื่นๆ คิดว่าน่าจะรีโนเวตเองได้ ซึ่งตอนนั้นก็ทำไปหลายอย่างก่อนจะมาปรับอีกครั้งในรอบนี้ เพื่อให้รับกับความต้องการและยุคสมัยมากขึ้นก็เลยเพิ่มพื้นที่ชั้น 3 ขึ้นมา แล้วตกแต่งให้เป็นเหมือนเพ้นต์เฮ้าส์ที่ผมกับภรรยาอยู่ด้วยกัน ยกพื้นที่ชั้น 2 ให้ลูกสาว ชั้นล่างก็เป็นพื้นที่ส่วนกลางและที่อยู่ของน้องหมา 3 ตัว ส่วนลูกชายอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งใกล้ๆ กัน” แนวทางการออกแบบตัวบ้านหลักๆ เน้นให้สอดคล้องกับบริบทของธรรมชาติที่มีอยู่เดิม เพราะคุณขจีต้องการเก็บร่มเงาและความสดชื่นทุกอย่างไว้ ระยะต่างๆ ของบ้านจึงกำหนดขึ้นมาจากการหลบเลี่ยงต้นไม้ทุกต้นที่มีอยู่ ไม่ว่าจะด้วยการเจาะช่อง ร่นระยะผนัง และเปิดคอร์ตให้ต้นไม้เหล่านี้ยังชูกิ่งก้านใบได้สวยงามเหมือนเดิม แถมยังใช้เป็นช่องแสงธรรมชาติเพื่อเอื้อต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้เอง อีกทั้งเพิ่มความปลอดโปร่งให้ผู้อาศัยภายในบ้านไปในตัว “ผมชอบต้นไม้มาก เพราะให้ร่มเงา ให้ออกซิเจน กรองฝุ่นกรองแดด และช่วยให้บ้านเย็นสบาย ส่วนภายในก็ปล่อยให้เรียบโล่งแบบมินิมัล เพราะอยู่แล้วสบายตาสบายใจ ดูแลง่าย ถึงจะมีของเยอะแต่ก็ทำช่องเก็บของบิลท์อินซ่อนไปกับผืนผนังให้หมด เวลาอยากได้ของอะไรใหม่ ก็ต้องหาทางปล่อยของเดิมไป ไม่ว่าจะยกให้ลูกน้องหรือขายก็ตาม มันทำให้เรามีชาเลนจ์และสนุกกับข้าวของใหม่ๆ […]

บ้านโมเดิร์นผนังกระจก ที่ใช้สวนเป็นรั้วธรรมชาติป้องกันแดดและความร้อน

บ้านโมเดิร์น รูปทรงคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีหน้าแคบแต่ยาวเกือบ 50 เมตร จำต้องเปิดหน้าบ้านไปทางทิศตะวันตกจึงใช้ต้นไม้ใหญ่ช่วยกันแสงและความร้อน

บ้านปูน ที่มีความเป็นพื้นถิ่นไทยร่วมสมัย

คําว่า “บ้านไทยพื้นถิ่น” เป็นสิ่งที่หลายคนคงจะนึกภาพตามได้ไม่ยาก แต่ บ้านปูน สไตล์โมเดิร์นหลังนี้ที่จังหวัดอ่างทองสามารถคลี่คลายนิยามของคําว่า “บ้านไทยพื้นถิ่นร่วมสมัย” ได้อย่างลงตัวและสวยงาม เพราะเป็นบ้านที่มีเอกลักษณ์แบบโมเดิร์น แต่ไม่ทิ้งภูมิปัญญาเดิม และมีความเข้าใจสภาพภูมิอากาศของไทย ชานบ้านเป็นพื้นที่โปรดของครอบครัว ทั้งใช้นั่งเล่น รับแขก วันหยุดก็นั่งอ่านหนังสือชมวิวสวนจากตรงนี้ บ้านหลังนี้ยัง เปิดรับลมรับแดดที่เป็นความสบายแบบชนบทอยู่ เพราะคําว่าพื้นถิ่นไม่จําาเป็นว่าจะต้องกลับไปใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก หลังคาต้องมุงจาก หรือทําาลวดลายแบบไทยดั้งเดิม แม้ว่าสิ่งเหล่านั้นจะมีความสําคัญในเชิงวัฒนธรรม แต่สิ่งที่สําคัญกว่าก็คือพื้นฐานของการอยู่อาศัยร่วมกับธรรมชาติ ซึ่ง บ้านปูน หลังนี้คือตัวอย่างของการทําความเข้าใจในบริบทพื้นถิ่นและวิถีการอยู่อาศัยที่เหมาะสม “เราชอบของเราแบบนี้ อยากให้บ้านมีเอกลักษณ์ เพราะที่นี่เป็นต่างจังหวัด อยากให้คนขับรถผ่าน แล้วก็รู้ว่านี่ แหละบ้านคุณพยอม” คุณพยอม อัคควุฒิ เจ้าของบ้าน เอ่ยตอบเราอย่างอารมณ์ดีเมื่อถามว่าทํา ไมผู้ใหญ่วัยใกล้เกษียณถึงทํา บ้านปูน ที่ดูทันสมัยได้เช่นนี้ แนวคิด บ้านปูน ผสมความเป็นชนบท “ผู้ออกแบบมาคุยกับเราและอธิบายส่วนต่างๆ ของบ้าน จริงๆ ก็เป็นบ้านที่เหมือนบ้านชนบทเรานี่แหละ ตรงชานบ้านเป็นพื้นที่โปรดของเราเลย ทั้งใช้นั่งเล่น รับแขก วันหยุดก็นั่งอ่านหนังสือชมวิวสวนจากตรงนี้ ไม่ใช่บ้านโมเดิร์นที่ปิดทึบเปิดแอร์ตลอดเวลา บ้านนี้ยังเปิดรับลมรับแดดที่เป็นความสบายแบบชนบทอยู่”คุณอุ้ม- รักตระกูล ใจเพียร และคุณแมน- ศตวรรษ […]

บ้านโมเดิร์น สีขาวโปร่ง รับแสงและเงาสวย

คงไม่มีใครปฏิเสธว่าความร่มรื่นของต้นไม้ ช่วยสร้างบรรยากาศที่น่าอยู่ ร่มเงาจากต้นไม้ยังช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านให้ต่ำกว่าอุณหภูมิภายนอก จึงช่วยสร้างภาวะน่าสบายได้ไม่ยาก เช่นเดียวกับ บ้านโมเดิร์น แถบชานเมืองของนครโฮจิมินห์ซิตีหลังนี้ซึ่งมีภูมิอากาศแบบร้อนชื้น ไม่ต่างจากเมืองไทยเท่าไร แต่ภายในบ้านกลับเย็นสบายราวกับปลูกบ้านอยู่ใต้ร่มเงาของไม้ใหญ่ เจ้าของ : Mr. Le Minh สถาปนิก : A 21 Studio นั่นเป็นเพราะกลุ่มสถาปนิกชาวเวียดนามที่ใช้ชื่อว่า A 21 Studio มีไอเดียในการออกแบบ บ้านโมเดิร์น หลังนี้โดยอิงกับธรรมชาติ และผลงานของพวกเขาก็กำลังเป็นที่จับตามองในวงการออกแบบของประเทศเวียดนาม ประตูรั้วภายนอกของบ้านออกแบบให้มีความสูงพอสมควร นอกจากดูปลอดภัยแล้ว ยังให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว ซึ่งเข้ากับนิสัยรักสันโดษ ของเจ้าของบ้าน เมื่อเดินเข้าไปภายในบ้านก็เห็น การจัดวางพื้นที่อย่างเรียบร้อยและสวยงามใน แบบฉบับ“มินิมัล” พื้นที่ของชั้นล่างออกแบบให้มีความต่อเนื่อง ไหลลื่น และดูโปร่งด้วยการกรุผนังกระจกใส แต่ละส่วนของบ้านไม่ว่าจะเป็นส่วนรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร หรือแพนทรี่ สามารถมองเห็น กันได้ผ่านสวนเล็กๆ กลางบ้าน โดยทำช่องแสงด้านบนเพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาสู่ภายใน และช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตต่อไปได้ ทั้งยังสร้างบรรยากาศร่มรื่น ดูสบายตาและสบายใจ การตกแต่งเน้นความเรียบเกลี้ยงของพื้นผิว วัสดุอย่างพื้นซีเมนต์ขัดมัน ผนังทาสีเรียบ และ ผนังกระจกใส ด้านในสุดออกแบบเป็นห้องนอนไว้ รองรับเพื่อนหรือญาติที่มาเยี่ยมเยือนเป็นครั้งคราว […]

บ้านไม้ผสมปูน ที่มีช่องเปิดรับลมธรรมชาติทุกฤดูกาล

บ้านหลังนี้ได้รับ ‘รางวัลสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การเผยแพร่’ ของกรรมาธิการสถาปนิกล้านนา สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นสิ่งยืนยันว่าบ้านหลังนี้ไม่เพียงแต่สวยงามด้วยรูปลักษณ์ แต่ยังหมายถึงวิธีคิดและเรื่องราวที่สวยงามด้วย เจ้าของ-ออกแบบตกแต่ง : คุณกวิน ว่องวิกย์การและคุณวิยะดา เจริญศุข ว่องวิกย์การ บ้านไม้ผสมปูน หลังนี้เกิดจากการตัดกันของเส้นทางชีวิตของคนสองคน ไม่ว่าจะด้วยความบังเอิญหรือฟ้าเป็นคนเขียนบท คุณกวิน ว่องวิกย์การ และ คุณวิยะดา เจริญศุข ว่องวิกย์การ ก็ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกันมานานกว่า 7 ปีแล้ว มีบางสิ่งเชื่อมโยงให้ทั้งคู่พบกันที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในหน้าที่ของการเป็นอาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ แล้วผมก็ต้องแปลกใจเมื่อทราบว่าทั้งคู่ไม่ใช่คนเชียงใหม่ แต่พอได้มาอยู่และทำงานที่นี่ ต่างก็หลงรักเสน่ห์ของเมืองแห่งนี้เข้าอย่างจัง ตอนนี้คุณวิยะดาลาออกจากการเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัย ปัจจุบันเป็นสถาปนิกที่บริษัทสถาปนิก 49 จำกัด สาขาเชียงใหม่ ส่วนคุณกวินยังคงสอนหนังสืออยู่ “ตอนแรกไม่ได้คิดจะมาลงหลักปักฐานที่เชียงใหม่ คงเป็นเพราะเจอช่วงเวลาที่พอดี เจอคนและสถานที่ที่พอดี เลยเกิดความคิดอย่างนี้ขึ้น ซึ่งคุณพ่อของคุณกวินมีที่ดินตรงนี้อยู่แล้ว ประจวบกับมีคนรู้จักกำลังจะขายบ้านไม้เก่า เราไปเห็นเข้าก็สนใจ จึงขอซื้อมาทำเป็นโครงสร้างไม้ของบ้านชั้นบน สภาพไม้ยังดีอยู่ แค่นำมาทาสีเคลือบและปรับช่วงเสานิดหน่อยก็ใช้ได้แล้ว” หลังจากแต่งงานมาประมาณ 3 ปี ทั้งคู่ตัดสินใจสร้าง บ้านไม้ผสมปูน หลังนี้ด้วยแนวคิดที่อยากให้เป็นบ้านที่อยู่สบาย ไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา และสามารถคุมงบประมาณการก่อสร้างได้ พื้นที่ใช้สอยถูกกลั่นกรองจนเหลือแต่พื้นที่ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตจริงๆ ชั้นล่างประกอบด้วยชานไม้ขนาดใหญ่ […]

บ้านสีขาว ขนาดร้อยกว่าตารางเมตร

บ้านสีขาว ชั้นเดียวริมแม่น้ำแม่กลอง ในจังหวัดราชบุรี  ตกแต่งแบบมินิมัลผสมผสาน ภายในพื้นที่ร้อยกว่าตารางเมตร เมื่อบ้านที่อยู่ในเมืองไม่อาจมองเห็นท้องฟ้ากว้าง ไม่ได้สัมผัสกับสายน้ำเย็น หรือกระทั่งใกล้พื้นที่สีเขียวมากพอที่จะมาช่วยเติมเต็มความสดชื่นผ่อนคลายได้ คุณตู่-อภินันท์ ปัญญากร จึงมองหาพื้นที่ริมน้ำสวยๆ เพื่อสร้าง บ้านสีขาว เพื่อใช้เป็นพักตากอากาศหลังเล็กๆ ของตัวเอง แล้วก็บังเอิญได้มาพบกับพื้นที่ตรงใจฝันซึ่งถูกปล่อยทิ้งรกร้างอยู่ริมแม่น้ำแม่กลองในจังหวัดราชบุรี คุณตู่เล่าว่า “เดิมทีตรงนี้เคยเป็นร้านหมูกระทะที่เลิกกิจการไปนานแล้ ว ก่อนจะกลายมาเป็นบ้านอยู่อาศัย ซึ่งตอนที่มาดูก็ทรุดโทรมไปมาก ที่ผมชอบก็คือแม้จะเป็นที่ดินติดถนนแต่ดูแล้วไม่รู้เลยว่ายังมีพื้นที่ที่เป็นเนินลาดลงไปจนถึงขอบตลิ่งริมน้ำได้ นั่นแปลว่าถ้าทำบ้านไว้อยู่ใต้ระดับแนวถนนลงไปก็จะไม่มีใครมองเห็นตัวบ้าน ทำให้ได้ความสงบและเป็นส่วนตัวมากๆ เลย” ด้วยสภาพบ้านเก่าและเนินดินโคลนที่ไม่ได้รับการดูแลมานาน คุณตู่จึงนำแนวคิดนี้ไปปรึกษากับคุณวิน- อิทธิพัทธ์ จิตติโชติพงศ์ มัณฑนากรคู่ใจ เมื่อเห็นพื้นที่ซึ่งมีด้านกว้างราว 8 เมตรแต่ขนานยาวไปตามขอบแม่น้ำสวยร่วม 20 เมตร ประกอบกับความต้องการบ้านพักผ่อนที่เรียบง่ายและสงบส่วนตัว ทั้งคู่จึงเกิดไอเดียเพิ่มเติมว่าจะทำส่วนของอาคารติดหน้าถนนให้เป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่เปิดวิวออกสู่แม่น้ำได้ เพื่อซ่อนส่วนของบ้านพักผ่อนไว้ด้านล่าง โดยแยกทางเข้าไว้คนละทางเพื่อความเป็นส่วนตัวที่ชัดเจน คุณวินบอกถึงที่มาของการออกแบบนี้ว่า “เพราะที่นี่เป็นบ้านพักผ่อนซึ่งคุณตู่ไม่ได้อยู่อาศัยทุกวัน การมีคาเฟ่ด้านบนจึงไม่น่าเป็นปัญหาแถมยังสร้างรายได้จากพื้นที่ไปด้วย ผมจึงออกแบบให้เป็นอาคารสีขาวขนาด 2 ชั้นที่ดูเรียบง่ายที่สุด กลมกลืนไปกับบริบทของเพื่อนบ้าน และยังอยู่ในความชอบของผู้เป็นเจ้าของ ส่วนการวางผังภายในนั้นแบ่งไว้เป็น 3 ห้องนอนหลักเรียงต่อกันในแนวยาวเพื่อให้ทุกห้องได้ประโยชน์จากวิวแม่น้ำสวยๆ ได้เหมือนกัน พร้อมกับพื้นที่นั่งเล่นส่วนกลางขนาดกะทัดรัดซึ่งมีคอร์ตต้นไม้ขนาดเล็กในบ้าน ทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ใช้สอยราวร้อยกว่าตารางเมตร” เมื่อต้องการสร้างอาคารแนบไปกับเนินดินที่ลาดลงต่ำกว่าระดับถนน […]

บ้านโครงสร้างเหล็ก สไตล์โรงนาฝรั่งของสายเอ๊าต์ดอร์

บ้านโครงสร้างเหล็ก กรุผนังกระจกใสแบบเรือนกระจก ได้แรงบันดาลใจมาจากโรงนาฝรั่งหลังคาทรงจั่ว พร้อมพื้นที่กางเต้นท์ริมน้ำแบบสายเอ๊าดอร์

กิจกรรมโซน Garden of Ideas

เตรียมตัวเตรียมใจมาพบกับกิจกรรมสนุกๆ ในงานบ้านและสวนแฟร์ Select 2021 บริเวณโซน Garden of Ideas พร้อมของขวัญของรางวัลมากมายให้กับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม จะมีอะไรบ้างไปชมกันค่ะ ผู้ร่วม Talk 1.คุณเต้-ดำรง ลี้ไวโรจน์ บรรณาธิการอำนวยการ นิตยสารกลุ่ม Living บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) 2.คุณนิว-พิมพ์พิชา อุตสาหจิต กรรมการบริหาร บริษัทวิธิตากรุ๊ป จำกัด 3. คุณต่าย-ภักดี แสนทวีสุข หรือ ต่าย ขายหัวเราะ นักเขียนการ์ตูนสำนักพิมพ์บรรลือสาส์น 4.คุณเฟน-อารีเฟน ฮะซานี หรือนามปากกา เฟน สตูดิโอ นักเขียนการ์ตูนลายเส้นคุ้นเคยสาวดอกไม้กับนายกล้วยไข่ วันเวลา วันที่ 20 มี.ค. 2564 เวลา 14.00-16.00 น. รายละเอียด พบปะนักเขียนการ์ตูนจากขายหัวเราะและตัวแทนจากนิตยสารบ้านและสวน ที่จะมาพูดคุยถึงเบื้องหลังการร่วมงานแลกเปลี่ยนคอลัมน์และหน้าปกพิเศษของสองนิตยสารฉบับมีนาคม 2564 . ภายในงานจะมีการแจกรางวัลให้กับผู้ร่วมงานที่ซื้อนิตยสารแพ็กคู่ทั้งสองฉบับ และแจกลายเซ็นจากนักเขียนการ์ตูน กับรางวัลใหญ่ภาพปก my […]

เบื้องหลังการทำงานร่วมกันระหว่าง บ้านและสวน x ขายหัวเราะ

ชมเบื้องหลังการแลกเปลี่ยนเนื้อหาและการทำงานร่วมกันระหว่าง “บ้านและสวน” กับ “ขายหัวเราะ” กว่าจะมาเป็น “บ้านและสวน” ฉบับ Happy Home และ “ขายหัวเราะ” ฉบับ   บ้านและสรวล เรียกว่าเป็นการรวมตัวฉบับพิเศษในเดือนมีนาคม 2564 เพื่อสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับคนรักบ้านโดยเฉพาะ การ Collaboration ครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร มีที่มาที่ไปอย่างไร แล้วทำไมปกบ้านและสวนถึงดูเป็นขายหัวเราะ แล้วทำไมปกขายหัวเราะมีภาพบ้านจริงๆ ขึ้นปก และทีมงานยังแลกเปลี่ยนเนื้อหาคอลัมน์อื่นๆ อะไรกันอีกบ้างภายในเล่ม  ไปชมคลิปกันเลยค่ะ บ้านและสวนxขายหัวเราะ

บ้านและสวนxขายหัวเราะ

โครงการร่วมสร้างสุขระหว่างสองนิตยสารนี้เป็นปรากฎการณ์ที่สร้างความคึกคักให้กับวงการนิตยสารอีกครั้ง เมื่อสองนิตยสารที่อยู่คู่วิถีชีวิตคนไทยมายาวนานอย่าง บ้านและสวนซึ่งก้าวเข้าสู่ปีที่ 45 และขายหัวเราะที่ขึ้นปีที่ 48 มาร่วมกันสร้างความสุขด้วยการแลกเปลี่ยนเนื้อหาพิเศษ เพื่อทำให้นิตยสารฉบับมีนาคม 2564 ทั้งสองฉบับนี้ควรค่าแก่การสะสมเป็นคอลเล็กชั่นพิเศษอย่างยิ่ง ความสุขแรกเห็นได้ชัดเจนจากภาพบนหน้าปกของทั้งสองเล่มที่แลกเปลี่ยนคาแร็กเตอร์กันจนสร้างเอกลักษณ์ใหม่ๆ ขึ้นมา โดยทางฝั่งบ้านและสวนเปลี่ยนมาใช้ฟอนต์ที่มีสีสันแบบขายหัวเราะ พร้อมกับภาพวาดการ์ตูนลายเส้นแฝงแก๊กอารมณ์ดีของ ‘อาวัฒน์’ นักเขียนการ์ตูนสุดคลาสสิคแห่งขายหัวเราะ ซึ่งล้อรับกับธีมประจำเล่มคือ ‘Happy Home’ ขณะที่ขายหัวเราะก็นำภาพบ้านจริงขึ้นปกพร้อมกับสมาชิกที่อยู่หน้าบ้านคล้ายคลึงกับสไตล์ปกของบ้านและสวน ภายใต้ธีมว่า ‘บ้านและสรวล’ ความสุขที่ตามเก็บได้อีกมากมายภายในเล่มยังมีการแลกเปลี่ยนเนื้อหาในแบบที่แต่ละฝ่ายเชี่ยวชาญ โดยบ้านและสวนได้พาไปบุกบ้านของ ‘คุณต่าย ขายหัวเราะ’ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดคาแร็กเตอร์การตูนดังปังปอนด์ ทำให้ได้เห็นมุมบ้านหลังจริงที่กลายเป็นฉากต่างๆ ในแก๊กขายหัวเราะ แม้แต่น้องหมาสมาชิกในบ้านก็ยังกลายเป็นเจ้าสุดสวยที่อยู่ในการ์ตูนด้วยเช่นกัน ตามด้วยการอาสาไปปรับแต่งมุมทำงานของ “คุณเฟน แห่งสาวดอกไม้กับนายกล้วยไข่” ให้สวยงามน่าใช้งานมากขึ้น และยังแนะนำไอเดียการจัดบ้านให้ดูกว้างผ่านภาพประกอบฮาๆ จากทีมขายหัวเราะ ปิดท้ายด้วยมุมคลาสสิคเฉพาะตัวของเหล่าคาแร็กเตอร์ตัวการ์ตูนที่อยากจะอวดมุมของตัวเองให้กับผู้อ่านบ้านและสวนบ้าง ทางด้านขายหัวเราะเองก็ได้เล่าเรื่องราวซึ่งเกิดขึ้นอยู่ภายในบ้านและสวนผ่านมุกตลกหลากหลายมุมมองจากทีมนักเขียน และยังมีส่วนพิเศษเพิ่มเติม เช่น เกร็ดพิเศษสนุกๆ เกี่ยวกับการอยู่บ้านที่ทางบ้านและสวนได้นำเนื้อหามาช่วยเล่าในสไตล์สนุกสนานแบบขายหัวเราะ หรือช่วยออกแบบบ้านให้กับคาแร็กเตอร์การ์ตูน เช่น ห้องนอนของปังปอนด์ สวนหลังบ้านของหนูหิ่น หรือบ้านอยู่สบายสไตล์คู่รักเกษียณสำราญของครอบครัวคุณโฉลง พร้อมกับแนะนำพรรณไม้มงคล 12 ราศี ได้อย่างน่ารัก โดยโปรเจ็กต์พิเศษในการทำงานร่วมกันระหว่างบ้านและสวนxขายหัวเราะ นี้ไม่ได้มีเพียงแค่นิตยสารสองเล่มนี้เท่านั้น แต่ยังกระจายความสุขไปถึงกิจกรรมสนุกๆ ที่จะทำร่วมกันในงานบ้านและสวนแฟร์ […]