CORNER 60’S เปลี่ยนตึกแถวเก่าในไต้หวัน เป็นคาเฟ่และห้องเรียนสำหรับชุมชน

Corner 60’s โปรเจ็กต์รีโนเวตตึกแถวเก่าในไต้หวัน เพื่อคงเอกลักษณ์และสุนทรียภาพแบบดั้งเดิมไว้ และสร้างสรรค์พื้นที่ให้กลายเป็นคาเฟ่และห้องเรียนสำหรับชุมชน

บ้านสี่สวนที่หายใจได้รอบทิศ ด้วยวัสดุอิฐและประตูบานสไลด์

บ้านอิฐ ที่พึ่งพาพลังงานจากธรรมชาติ ผ่านการใช้วัสดุท้องถิ่น และเทคนิคที่เอื้อต่อการหมุนเวียนของอากาศ และลดความร้อนก่อนจะเข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างเป็นรูปธรรม

บ้านปูนเปลือยปิดทึบของคู่รักที่มีวิวส่วนตัวจากภายในบ้าน

บ้านปูนเปลือย ที่เปิดช่องแสงขนาดใหญ่จากภายในซึ่งเป็นฝั่งทิศตะวันออกของบ้าน เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติ ระบายอากาศ ทั้งยังกลายเป็นวิวส่วนตัวของบ้านโดยปริยาย

สำนักงานของ DROOMPARKEN ในเนเธอร์แลนด์ ที่มีขนาดเพียง 2.2 x 2.75 เมตร

สำนักงานขนาดเล็ก กะทัดรัดของ Droomparken ซึ่งตั้งอยู่กลางสวนสาธารณะในประเทศเนเธอร์เเลนด์ ซึ่งพิสูจน์ให้รู้ว่าแม้มีพื้นที่ไม่มากคุณก็สามารถมีออฟฟิศสำหรับทำงานสร้างสรรค์ของตัวเองได้

บ้านกึ่งสตูดิโอที่หันหน้าไปคนละทิศ แต่หันข้างแนบชิดเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว

บ้านไม้ ที่บางครั้งก็ปรับเป็นสตูดิโอจัดงานศิลปะ ที่เกิดจากการวางไดอะเเกรมด้วยแกน 2 แกน ต่อด้วยแบบร่างโครงคร่าวเพื่อจัดความสัมพันธ์ของการใช้งานที่เหมาะสม

ZHAO ZHAO TEA LOUNGE ร้านชาในบ้านเก่าที่เข้าถึงแก่นแท้วัฒนธรรมการดื่มชาไต้หวัน

Zhao Zhao Tea Lounge ร้านชาเก่าแก่ที่สืบทอดกันรุ่นสู่รุ่น ที่เจ้าของร้านมุ่งถ่ายทอดประสบการณ์ 30 ปี ส่งต่อชาไต้หวันชั้นเยี่ยมให้กับบุคคลทั่วไปได้รู้จัก

THE MINT BUREAU HOMESTAY เปลี่ยนหมู่บ้านทหารเก่าเป็นโฮมสเตย์กลางหุบเขา

The Mint Bureau Homestay โฮมสเตย์จากหมู่บ้านเก่าในชื่อ Hanhonggou ในประเทศจีน ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของกองทหารเขต Taiyue ในช่วงสงครามต่อต้านญี่ปุ่น

BONPLAND BUILDING ตึกที่เท้าแตะผืนหญ้าง่ายดายเพียงไม่กี่ก้าวจากห้องพัก

หอพัก แบบสตูดิโอขนาด 7 ชั้น 13 ยูนิต ออกแบบมาเพื่อปรับให้เข้ากับการใช้งานที่หลากหลาย โดยมีสวนริมระเบียงเชื่อมต่อกับพื้นที่ภายในด้วยประตูกระจกบานเลื่อน

สถานพำนักของศิลปินในอินเดียที่ตั้งใจเบียดเบียนระบบนิเวศให้น้อยที่สุด

Mumbai Artist Retreat บ้านชั้นเดียวบนที่ดินซึ่งปลูกสวนมะพร้าวต้นเตี้ย ที่หมายมุ่งเป็นห้องทดลองและการแสดงออกทางศิลปะในรูปแบบต่าง ๆ อย่างสร้างสรรค์และมีวิจารณญาณ ไปพร้อมกับเป็นสถานที่สำหรับการอยู่กับตัวเอง ดื่มด่ำธรรมชาติรอบด้าน และกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจท่ามกลางความเงียบสงบ

NOTE KRITSADA ศิลปินหนุ่มผู้กล้าจะล้มเหลว ล้มเลิก และเริ่มใหม่เสมอ

โน้ต – กฤษดา ภควัตสุนทร หลายคนอาจรู้จักเขาในฐานะนักออกแบบผู้ร่วมก่อตั้งครีเอทีฟสตูดิโอและโปรดักชั่นเฮ้าส์ James Dean บางคนอาจเพิ่งได้ฟังซิงเกิ้ลใหม่ ‘หอน’ (Horn) จากวง The Keylookz ที่เขาเป็นนักร้องนำ หรือบางทีก็อาจเคยใส่เสื้อเชิ้ตแบรนด์ Wolfkind ที่เขาเคยออกแบบไว้เมื่อหลายปีก่อน แต่เชื่อว่าใครก็ตามที่ได้เห็นผลงานศิลปะของเขาสักครั้ง ก็ต้องมีภาพจำของลายเส้นและสไตล์ อันเป็นเอกลักษณ์ภายใต้ลายเซ็นของ NOTE KRITSADA แน่นอน หมวกหลายใบ และบทบาทหลายด้านที่ศิลปินหนุ่มไฟแรงคนนี้สวมอยู่ได้สะท้อนตัวตน และความเชื่อของเขา ณ ขณะนั้นอย่างชัดเจน มาวันนี้บทบาทความเป็นศิลปินครอบครองพื้นที่ครึ่งหนึ่งของชีวิต และเป็นพื้นที่ที่ถ่ายทอดความหลงใหล ความทรงจำหรือประสบการณ์ส่วนตัวของ NOTE KRITSADA ให้แปรเปลี่ยนเป็นผลงานศิลปะที่ไร้กรอบจำกัด “ครึ่งหนึ่งของชีวิตทำงาน ผมมีหุ้นส่วนร่วมกันทำบริษัท มีพนักงานที่เราต้องดูแล มีงานที่เราต้องคิดให้ตอบโจทย์ลูกค้าตลอด อีกครึ่งหนึ่งคือเรื่องงานศิลปะ จริง ๆ ผมก็ไม่ได้มองว่าผมเป็นนักดนตรี เพราะเชื่อว่านักดนตรีจริง ๆ คงต้องทุ่มเทกว่าผมเยอะ แค่มีเพื่อนอีกสองคนที่ทำวงสนุก ๆ ด้วยกัน” “งานศิลปะช่วยบำบัดผมจากงานคอมเมอร์เชี่ยลที่บริษัทขณะเดียวกันงานที่บริษัทก็บำบัดผมจากงานศิลปะและงานดนตรีเองก็ช่วยบำบัดผมจากการหมกมุ่นกับศิลปะหรืองานคอมเมอร์เชี่ยล ผมว่าแต่ละอย่างที่ผมทำมันมีมิติ และเสน่ห์ที่ต่างกันไป” room เคยได้พูดคุยกับโน้ต กฤษดา ครั้งแรกในหนังสือฉบับพิเศษ […]

SoA+D เปิดแล็บเรียนรู้วัฒนธรรม สร้างนักออกแบบเพื่อสังคม

‘วัฒนธรรม’ กับ ‘การศึกษาไทย’ เป็นประเด็นที่พูดถึงกันมานาน เปรียบได้กับสมการที่พยายามหาคำตอบในการเชื่อมต่ออดีตสู่อนาคต คงเพราะวัฒนธรรมคือรากเหง้าความเป็นเรา และคือรากฐานสำคัญในการพัฒนาสังคมในวันหน้า การรักษาสมดุลระหว่างการออกแบบร่วมสมัยบนพื้นฐานความเข้าใจทางวัฒนธรรมดั้งเดิมถือเป็นประเด็นสำคัญ และ SoA+D ได้เปิดห้องทดลองแห่งการเรียนรู้ เพื่อชวนคนรุ่นใหม่มาเป็นนักออกแบบเพื่อสังคมรุ่นต่อไป  SoA+D Social and Cultural Innovation Lab คือห้องทดลองแห่งการเรียนรู้ของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ภายใต้การนำของ ผศ.นันทนา บุญละออ ที่นี่คือพื้นที่แห่งการศึกษาค้นคว้า แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และ ‘บ่มเพาะ’ นักออกแบบรุ่นใหม่ ให้พรั่งพร้อมด้วยศักยภาพด้านการออกแบบ ภายใต้ความเข้าใจในเชิงสังคม และวัฒนธรรม ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักสำหรับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนในทุกมิติของสังคมได้อย่างยั่งยืน  “เริ่มแรกโครงการนี้เป็นนโยบายของทางคณะฯ ที่อยากจะหลอมรวมการทำงานวิจัย การเรียนการสอน และการลงพื้นที่ทำงานจริงนอกรั้วมหาวิทยาลัยเข้าด้วยกัน ภายใต้ประเด็นทางด้านสังคมและวัฒนธรรม จึงได้จัดตั้งเป็นแล็บวิจัยเพื่อสร้างขอบเขตการทำงานที่ชัดเจน และเข้มข้นขึ้น”  อาจารย์นันทนาบอกเล่าถึงที่มาที่ไปของโครงการ โดยกระบวนการเรียนรู้ทั้งหมดล้วนเริ่มต้นจากการลงพื้นที่ เพื่อทำความเข้าใจทุกแง่มุมของปัญหาในบริบทชุมชน มากกว่าแค่การเรียนรู้ผ่านทฤษฎี “ในการลงพื้นที่ชุมชนในช่วงแรกๆ ส่วนใหญ่ชุมชนจะขอความช่วยเหลือทางด้านการออกแบบ เช่น การออกแบบโลโก้สำหรับสินค้า การพัฒนาผลิตภัณฑ์  อย่างกรณีชุมชนชาวกะเหรี่ยงที่จังหวัดราชบุรี ก็เริ่มต้นจากการเข้าไปพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าของเครื่องจักสานไม้ไผ่ ซึ่งตอนนั้นชาวบ้านสานแต่เข่งเพราะเป็นสินค้าที่ขายได้ดีในพื้นที่นั้น เราอยากลองทำงานกับชุมชนหนึ่ง ๆ ให้นานขึ้น เพื่อเข้าใจวงจรปัญหาภายในอย่างแท้จริง […]

DUJIANGYAN ZHONGSHUGE ร้านหนังสือดีไซน์สุดพิศวง

ร้านหนังสือ Dujiangyan Zhongshuge ตั้งอยู่ในเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ทางภาคตะวันตกของสาธารณรัฐประชาชนจีน ออกแบบโดยสตูดิโอออกแบบสถาปัตยกรรมจากเซี่ยงไฮ้ X+Living ได้แรงบันดาลใจจากภูมิทัศน์ และประวัติศาสตร์ของระบบชลประทานอายุกว่า 2,000 ปีในเมือง Dujiangyan เมื่อก้าวเข้าไปในร้าน Dujiangyan Zhongshuge ผนังชั้นวางโค้งรูปตัวซี (C) สีไม้วอทนัทสร้างสเปซให้มีชั้นเชิงน่าค้นหา ทั้งยังเป็นไฮไลต์สำคัญของร้าน การเดินทางใต้ชั้นหนังสือเหล่านี้ให้ความรู้สึกเหมือนเดินใต้ชายคาของซุ้มโค้งกลางสวน หรือท่ามกลางคลื่นทิวเขาตามธรรมชาติ สร้างประสบการณ์เลือกซื้อหนังสือที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ชั้นหนังสือเรียงรายเต็มบนซุ้มโค้ง และเสากลมสูงทะยานจรดเพดาน บรรจุหนังสือกว่า 80,000 เล่ม  ตู้หนังสือเหล่านี้ได้รับแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์ และลักษณะภูมิประเทศของเมือง Dujiangyan ซึ่งมีประวัติการพัฒนาด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำมายาวนาน ดังนั้นในพื้นที่หลักจะมีชั้นหนังสือที่สะท้อนภาพของเขื่อนกั้นน้ำ Dujiangyan สิ่งมหัศจรรย์ที่ชาวจีนสร้างตั้งแต่ 2,000 กว่าปีก่อน โดยนักออกแบบตั้งใจนำเสนอแรงบันดาลใจนี้ทั้งในเชิงนามธรรม และเชิงความงาม ในโซนหนังสือวรรณกรรมตรงกลาง กระจกบนเพดานชื่อทำให้สเปซดูสูงโปร่งไร้ที่สิ้นสุด พร้อมด้วยเงาสะท้อนของชั้นหนังสือที่ได้แรงบันดาลใจจากเขื่อนกั้นน้ำสุดยิ่งใหญ่ใน Dujiangyan ดูเหมือนเมืองย่อมๆ ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยวัฒนธรรมเชิงประวัติศาสตร์ โต๊ะจัดวางหนังสือดูไม่ต่างเรือที่ล่องอยู่บนสายน้ำ ซึ่งแทนด้วยกระเบื้องสีดำบนพื้น ระหว่างชั้นหนังสือทั้งหลาย และเมื่อเดินผ่านช่องวงกลมบนผนังชั้นวางหนังสือเข้าไปจะพบกับโซนคาเฟ่ ที่ให้ทุกคนนั่งจิบกาแฟพร้อมๆ กับซึมซับบรรยากาศ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ  ส่วนระเบียงของชั้นสองเต็มไปด้วยที่นั่ง ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกหนังสือมานั่งเปิดดูก่อนซื้อ หรือนั่งพูดคุยกันได้ โดยทั้งหมดออกแบบด้วยแนวคิดแบบองค์รวม ทุกองค์ประกอบจึงต่อเนื่องลื่นไหลภายใต้แนวคิดความงามเดียวกัน […]

คุยกับ ตื่น ดีไซน์ สตูดิโอ ถึงการออกแบบที่เน้นเสริมคุณค่าด้วยการทำความเข้าใจใน “ความหมาย”

แน่นอนว่าบริบทนั้นจะส่งเสริมคุณค่าให้กับงานสถาปัตยกรรม แต่การจะได้มาซึ่งคุณค่านั้นอาจไม่ใช่การทำภายในระยะเวลาอันสั้นหรือการทำอย่างฉาบฉวย การออกแบบที่เน้นเสริมคุณค่าด้วยการลงลึกไปในความหมายด้วยการค่อยๆทำความเข้าใจจึงเป็นเรื่องสำคัญ      จากความโกลาหลในกรุงเทพมหานคร กลิ่นอายทะเลเริ่มแทนที่หมอก PM2.5 ในอากาศ ตามเส้นทางยาวไกลที่มุ่งหน้าสู่จังหวัดปลายสุดของภาคตะวันออกด้วยระยะทางที่ไกลกว่า 300 กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ - จังหวัดตราด เมืองซึ่งยังไม่ถูกจัดว่าวุ่นวาย ทว่าเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานพอ ๆ กับเมืองหลวง ในปี พ.ศ. 2514 ตราดได้กำเนิดร้านบะหมี่เกี๊ยวร้านแรก และยังคงเปิดขายยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน “เขาเป็นบะหมี่เจ้าแรกของตราด คุณพ่อเข้ามาค้าขายเมื่อ 50 ปีที่แล้ว กระทั่งถึงรุ่นลูกเขาอยากจะปรับลุคร้านใหม่ให้ทันสมัยขึ้น”  คุณภัทราวุธ จันทรังษี เริ่มเล่าถึงที่มาที่ไปของงานออกแบบปรับปรุงร้านบะหมี่เก่าแก่ ในนาม บริษัท ตื่น ดีไซน์ สตูดิโอ ให้เราฟัง      “แทนที่เราจะเปลี่ยนลุคใหม่ให้ดูใหม่ไปเลย เราคุยกับเจ้าของว่า น่าจะลองใช้ของเดิมนี่แหละมาปรับให้ดูน่าสนใจขึ้น เราพูดกันว่า เราน่าจะ ‘ปลุกตำนาน’ ร้านเกี๊ยวหนองบัวกลับมา โดยมีโจทย์ว่าจะทำอย่างไรให้สามารถดึงคนอายุ 50 ปีขึ้นไป ที่เป็นลูกค้าเก่าแก่กลับมาอุดหนุนพร้อม ๆ กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก เพราะกลายเป็นเหมือนเราทำสัญญาใจกันว่าเราจะไม่ได้ออกแบบแค่ตึกสวย ๆ แต่เราจะต้องทำให้เขาขายดีขึ้น ๆ ต่อไปด้วย      “ทำอย่างไรให้ร้านอยู่ได้อีก 50 ปี มันคงไม่ใช่ดีไซน์ที่หวือหวาหรือแฟชั่นจี๊ดจ๊าด แต่ต้องดูถ่อมตัวมากพอ แต่อะไรล่ะคือตรงกลาง”      โดยพื้นฐานทั่วไป งานออกแบบที่ดีนั้นอาจถูกวัดได้จากความสำเร็จไม่กี่ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านภาพลักษณ์หรือฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบสนองความต้องการ อย่างไรก็ตาม การทำงานของตื่น ดีไซน์ สตูดิโอนั้น พวกเขากล่าวว่า ในทุก ๆ งานพยายามมุ่งความสนใจไปสู่ประเด็นที่ลึกซึ้งกว่านั้น ด้วยความเชื่อร่วมกันว่า งานออกแบบควรเป็นสิ่งที่มากกว่าแค่ฟังก์ชันหรือสินค้า แต่เป็นสิ่งที่สามารถเข้าถึงจิตใจผู้คน มีความหมาย และมีคุณค่าอันนำมาซึ่งความสุขต่อผู้ใช้ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ      ร้านเกี๊ยวหนองบัว งานออกแบบปรับปรุงร้านบะหมี่เกี๊ยวและของฝากในตึกแถว 3 คูหาใกล้กับตลาดโต้รุ่งไร่รั้งในตัวเมืองตราดก็เป็นหนึ่งในนั้น พวกเขาได้พยายามสร้างคุณค่าที่ดีที่สุดให้กับงาน เพื่อความสมบูรณ์ของการใช้งานในระยะยาว หากจะทำเช่นนั้นได้ พวกเขาจำเป็นจะต้องเข้าใจสิ่งที่ทำ เข้าใจบริบทแวดล้อม และเข้าใจผู้ใช้งานให้มากที่สุดก่อนเท่าที่จะเป็นไปได้      “ถ้าเปรียบเทียบกับ
ขั้นตอนการออกแบบปกติ 
เมื่อได้โจทย์จากลูกค้ามา 
ดีไซเนอร์ก็จะลงไปดีไซน์ แล้ว
ใช้วิธี ‘Try and Error’ คือ
ดีไซน์ไปให้ลูกค้าดูว่าถูกใจ
หรือไม่ ชอบไม่ชอบอะไร 
ทำอย่างนี้กลับไปกลับมา 
จนกว่าจะพอใจร้อยเปอร์เซ็นต์ 
แล้วจึงค่อยเขียนแบบก่อสร้าง” 
คุณภคชาติ เตชะอำนวย-
วิทย์ อีกหนึ่งสถาปนิกใน
ทีมกล่าว      “แต่การทำงานของเรา
จะมีการรีเสิร์ชก่อนที่เราจะเริ่มดีไซน์จริง ๆ 
อาจจะใช้เวลามากน้อยต่างกันไปแล้วแต่
โปรเจ็กต์ อาจเดือนหนึ่งหรือสองเดือน เพื่อ
ทำความเข้าใจโจทย์ร่วมกันระหว่างเรากับ
เจ้าของ เช่น เราได้รับความต้องการมา 
เราต้องไปดูที่ตั้งโครงการ ศึกษาเกี่ยวกับเมือง 
ศึกษาเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมเก่าที่เกี่ยวข้อง
กับงาน แล้วต้องพยายามคุยกับเจ้าของ
เยอะ ๆ หรือตั้งคำถามในเชิงวิเคราะห์หน่อย      “เช่นคำถามง่าย ๆ ว่า ชีวิตประจำวัน
ในหนึ่งวันเขาทำอะไรบ้าง ห้องแบบไหนที่
เขาชอบ หรือถ้าได้ไปอยู่ในบ้านหลังใหม่จะ
เกิดอะไรขึ้น ไปจนถึงคำถามอย่างถ้าคุณมี
เวลาเหลืออีก 6 เดือนในชีวิต คุณจะทำอะไร”      ในการค้นคว้าสถาปนิกตื่นจะพยายาม
ศึกษางานออกแบบและผู้ใช้งานมากไปกว่าเรื่อง
ดินฟ้าอากาศ ทิวทัศน์รอบด้าน หรือความ
ต้องการพื้นฐาน แต่พวกเขาจะให้การทำงาน
พาเข้าไปในโลกของเจ้าของงานให้มากที่สุด และ
ทำความเข้าใจบริบทในทุกมิติเท่าที่จะเป็นไปได้ 
รวมถึงกำหนดเป้าหมายของงาน โดยไม่ใช่
เฉพาะแค่ด้านภาพลักษณ์ แต่เป็นเป้าหมาย
และคุณค่าที่เจ้าของงานและนักออกแบบ
จะเห็นร่วมกันตั้งแต่ต้น เช่น เป้าหมาย
ว่างานออกแบบนั้นจะส่งผลดีกับเมืองนั้น ๆ 
อย่างไร หรือเป็นเป้าหมายที่มีคุณค่าทางใจ
สำหรับเจ้าของโดยเฉพาะ      “ผมมองว่าจริง ๆ ขั้นตอนของการ
ออกแบบมันเป็นแค่ช่วงสั้น ๆ แต่ช่วงแรก
ก่อนการเกิดขึ้นของบางสิ่งที่มันจะอยู่ไป
อีกนานนี้สำคัญมาก จะเห็นว่าทุกโปรเจ็กต์
เราจะเน้นให้เจ้าของเข้ามามีส่วนร่วมเยอะ 
เพราะตัวเขาเองเป็นคนใช้งาน ถ้าเขาเข้าใจ
ที่มาที่ไปของสิ่งที่มันจะอยู่ไปอีกนาน ผมว่า
นั่นถือเป็นประโยชน์ในระยะยาว” คุณ
ภคชาติกล่าว      “การรีเสิร์ชหรือการทำอะไรเยอะ ๆไม่ใช่แค่เราจะได้เข้าใจเขา แต่ผมว่าเขาจะเข้าใจเรามากขึ้นด้วย” คุณภาสพงศ์ มณี-วัฒนา อีกหนึ่งสถาปนิกในกลุ่มกล่าวเสริม“เขาจะเข้าใจกระบวนการทำงาน แล้วเขาจะรู้ว่า โอเค บางอย่างที่มันต้องเป็นอย่างนี้นั้นเป็นเพราะอะไร หรือทำไมมันถึงต้องใช้เวลา”      จึงกล่าวได้ว่า นอกจากการให้ความสำคัญกับมิติรอบด้านของตัวงาน การให้เจ้าของงานได้มีบทบาทกับงานของตัวเองอย่างมาก ก็เป็นแนวทางการทำงานที่กลุ่มสถาปนิกตื่นเห็นตรงกันว่า จะทำให้ได้งานออกแบบที่มีคุณค่ามากที่สุด มากกว่าที่ “สถาปนิก” จะเป็นผู้กะเกณฑ์ฝ่ายเดียว เรือนพินรัตน์ บ้านไม้สองชั้นของ
ครอบครัวรอดสุดในจังหวัดพัทลุง อีกหนึ่ง
ผลงานของสำนักงาน เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ดี
ของการให้เจ้าของบ้านได้เข้ามามีส่วนร่วม
กับงานออกแบบอย่างลึกซึ้ง      “ตัวเจ้าของบ้านค่อนข้างชัดมากว่าต้องการอะไร” คุณภคชาติเล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของบ้าน “เขาถึงขนาดสเก็ตช์รูปมาให้ว่าอยากให้บ้านออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งเราก็ยึดสเก็ตช์ตัวนี้แหละเป็นเครื่องมือ เราไม่ได้อยากจะสร้างหรือเปลี่ยนภาพลักษณ์อะไรใหม่ เราให้ความเคารพกับสิ่งที่ออกมาจากตัวเขา ซึ่งสิ่งนั้นก็คือความทรงจำ โดยที่เขาอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันคือส่วนผสมระหว่างความทรงจำที่เขามีกับบ้านคุณตาคุณยายเขากับชีวิตสมัยใหม่ที่เขาอยากจะเป็นในบ้านหลังนี้”      เรือนพินรัตน์เกิดจากความคิดของคุณวิวัฒน์ รอดสุด เจ้าของบ้าน ที่ต้องการสร้างบ้านหลังใหม่ให้เป็นสัญลักษณ์ของการระลึกถึงและแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ โดยนอกจากการนำไม้เก่าจากบ้านคุณตาคุณยายมาใช้ การมีมุมติดรูปคุณตาคุณยายไว้ที่มุมหนึ่งของข้างฝา การใช้รูปลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมที่อ้างอิงกับเรือนพื้นถิ่นภาคใต้แบบที่คล้ายกับบ้านหลังเก่า ชื่อของบ้านยังได้มาจากชื่อของคุณยายพินและคุณตาวิรัตน์ ทั้งหมดรวมกันจึงเป็นบ้านที่ประกอบขึ้นมาจากองค์ประกอบทางความทรงจำ และความหมายที่มีคุณค่าต่อเจ้าของบ้านโดยเฉพาะอย่างลึกซึ้ง      ท้ายที่สุดการให้ความสำคัญกับการเน้นความหมายที่อยู่ในแต่ละสถานที่มากกว่าการกำหนดออกมาจากตัวนักออกแบบเอง จึงเป็นสิ่งที่กลุ่มสถาปนิกตื่นมุ่งหวังมาโดยตลอด ดังที่คุณภคชาติกล่าวสรุปในตอนท้าย      “เรื่องนี้มันสะท้อนในวิธีคิดของพวกเราเหมือนกัน คือเรารู้สึกว่าบางทีสถาปนิก หรือดีไซเนอร์นั้นไม่ได้เป็นเจ้าของความสวยงาม หรือว่าสิ่งที่ออกมาจากดีไซเนอร์เท่านั้นที่มันจะสวย      “งานพื้นถิ่น หรือถ้าเป็นในเมืองถือเป็นงานแนวสตรีทดี ๆ นี่เอง ซึ่งล้วนแต่มีความงามติดตัวมาอยู่แล้ว เพียงแต่เราจะเห็นมันหรือเปล่า ความธรรมดาและความเรียบง่ายมันมีอยู่ทุกที่ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นดีไซเนอร์เท่านั้นที่จะสร้างสรรค์ความงามออกมาได้” เรื่อง : กรกฎา, โมโนโซดาภาพ : ตื่น ดีไซน์ สตูดิโอ

บ้านพร้อมคอร์ตยาร์ดในแนวคิด STAYCATION ให้ทุกวันเหมือนได้พักตากอากาศ

บารานี พาร์ค ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า บ้านพร้อมคอร์ตยาร์ดที่สเปซเปิดโปร่งจนเห็นต้นไม้ได้จากทุกมุมของบ้าน อีกทั้งยังพร้อมสำหรับการเป็นบ้านแบบ Co-Housing ที่สามารถแบ่งปันพื้นที่ส่วนกลางร่วมกันได้อีกด้วย

6 แบรนด์คราฟต์น่าจับจ่ายให้เป็นของขวัญปีใหม่ และมีวางจำหน่ายที่ไอคอนคราฟต์

รวมแบรนด์คราฟต์ไทยที่ ไอคอนคราฟต์ ที่น่าจับจ่ายให้เป็นของขวัญปีใหม่กับคนสนิท เพื่อนรู้ใจ และใครต่อใครที่เราตั้งใจมอบสิ่งดี ๆ ให้เนื่องในโอกาสสำคัญ

CHULA BEACH KHANOM รีสอร์ตคอนกรีตเรียบเท่ริมหาดขนอม

Chula Beach Khanom รีสอร์ตกะทัดรัดขนาด 6 ห้องพักบนที่ดิน 3 ไร่ ริมหาดหน้าด่าน อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช หมุดหมายใหม่สำหรับการพักผ่อนที่เงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติแบบไม่เหมือนใคร

รีโนเวตตึกแถวเก่าให้กลายเป็นบ้านเดี่ยวทันสมัยพร้อมสวนในบ้าน

โดยทั่วไปโครงการรีโนเวตมักเป็นความท้าทายสำหรับนักออกแบบอยู่แล้ว เนื่องจากมักต้องพบเจอข้อจำกัดมากกว่าโครงการที่ออกแบบและสร้างขึ้นใหม่ โดยเฉพาะโครงการธนบุรี 6 ที่ต้องเปลี่ยนโฉมจากตึกแถวอายุ 20 ปี ให้กลายเป็นบ้านเดี่ยวสมัยใหม่ พร้อมสวนภายในบ้าน

MAISON826 จากพื้นที่ใต้ตึกที่เคยปล่อยร้าง ถูกปลุกให้ฟื้นเป็นคอนเซ็ปต์สโตร์สุดเท่

ภายใต้โครงสร้างที่เหมือนจะยังสร้างไม่เสร็จดีนัก แท้ที่จริงแล้วนั้นเกิดจากความตั้งใจของ Nuno Ferreira Capa ผู้ออกแบบที่เข้ามา รีโนเวท ฟื้นคืนชีพพื้นที่ใต้ตึกมีอายุ ที่ครั้งหนึ่งเคยปิดเอาไว้โดยไม่ถูกใช้งาน ให้กลับมามีชีวิตใหม่เป็นพื้นที่มัลติฟังก์ชันดีไซน์เรียบเท่ ที่นี่คือ Maison826 ร้านทำผม ส่วนจัดแสดงดนตรี และคอนเซ็ปต์สโตร์ แบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องประดับของแฮร์สไตลิสต์หนุ่ม Pedro Remy ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น G ของตึกคอนกรีตอายุหลายสิบปีที่สร้างขึ้นตั้งแต่ยุค 70’s ในย่านใจกลางเมืองบราก้า ประเทศโปรตุเกส ภายใต้พื้นที่ใช้สอยรวมทั้งหมด 250 ตารางเมตร ที่ได้รับการ รีโนเวท ขึ้นมาใหม่ จนเรียกได้ว่าเปลี่ยนบรรยากาศไปเลยไก้อย่างไม่น่าเชื่อ บ้างถูกห่อหุ้มด้วยวัสดุปิดผิวให้ดูเรียบร้อย บ้างยังคงปล่อยเปลือยให้ปรากฏร่องรอยกระด้างดิบของเนื้อคอนกรีตบนผิวผนังและโครงสร้าง อีกทั้งด้วยลักษณะของพื้นที่ที่มีระดับต่างกันไป คล้ายกับชั้นหนึ่งชั้นถูกแบ่งย่อยออกเป็นชั้นเล็ก ๆ อีก 4 ระดับ จนดูซับซ้อน กลับดูน่าสนใจและมีเสน่ห์ในแบบฉบับของมันเองอย่างน่าประหลาด แม้ว่าในแต่ละสเปซจะมีฟังก์ชันที่ถูกกำหนดการใช้งานออกมาต่างกันก็ตาม เพราะด้วยช่องเปิดอาคารและหน้าต่างแต่ละบานที่มีจำนวนมากพอ ประกอบกับผู้ออกแบบจัดการรื้อผนังที่เป็นส่วนเกินรบกวนสเปซบางส่วนออกไป จึงทำให้สเปซต่างระดับเกิดความต่อเนื่องกันและมองเห็นกันได้ ผู้ออกแบบอธิบายว่า แนวคิดทางสถาปัตยกรรมของ Maison826 เกิดขึ้นพร้อมกับการหยุดชะงักไปในระหว่างกระบวนการปรับปรุงรื้อถอน ประกอบกับการคำนึงถึงความเหมาะสมของสเปซกับโปแกรมใหม่ที่จะถูกกำหนดลงบนสเปซเดิมทั้ง 4 ระดับ ซึ่งส่วนแรกถัดจากประตูทางเข้าถูกกำหนดฟังก์ชันเป็นส่วนเซอร์วิส จากจุดนี้สามารถก้าวขึ้นไปสู่ส่วนร้านทำผม ที่มีมุมสระผมและทำสีที่ออกแบบให้เกิดความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า เชื่อมกับห้องทรีตเมนต์ที่มีจุดสังเกตเป็นโต๊ะทำงานไม้ยาว […]