สร้างบ้านเสร็จเร็ว แข็งแรง ลดต้นทุน ด้วยอิฐมวลเบา ตราเพชร

การสร้างบ้านที่ดีไม่ใช่แค่เรื่องของการออกแบบที่สวยงาม แต่คือการเลือกวัสดุที่มีคุณภาพ แข็งแรง และตอบโจทย์การใช้งานจริง ผนังเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของบ้าน เพราะทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกปลอดภัย หนึ่งในวัสดุการก่อผนังที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ คือ อิฐมวลเบา ตราเพชร ที่ช่วยให้งานก่อสร้างเสร็จไว ประหยัดต้นทุน และทำให้บ้านอยู่สบายในระยะยาว

ภายใต้ชื่อ Diamond Solutions ตราเพชรพัฒนาผลิตภัณฑ์อิฐมวลเบาหลัก 3 ชนิด ที่ครอบคลุมงานก่อสร้างผนังและการใช้งานจริงภายในบ้าน ได้แก่

ไดมอนด์บล็อก (Diamond Block): อิฐมวลเบาสำหรับก่อผนังอาคาร แข็งแรง น้ำหนักเบา กันเสียงและเป็นฉนวนกันความร้อน ซึ่งมีให้เลือกใช้ทั้งชั้นคุณภาพ 2 (G2) และ 4 (G4)
ไดมอนด์ลินเทล (Diamond Lintel): คานสำเร็จรูปเสริมเหล็ก วางเหนือช่องเปิดประตู–หน้าต่าง ช่วยให้งานก่อผนังต่อเนื่องได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลากับการเทเสาเอ็นแบบเดิม
ไดมอนด์เคาน์เตอร์ (Diamond Counter): เคาน์เตอร์สำเร็จรูปผลิตจากอิฐมวลเบา เสริมเหล็ก เหมาะกับงานครัว ห้องน้ำ และงานตกแต่งที่ต้องการความแข็งแรงและติดตั้งง่าย

ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงแนวคิด “วัสดุเพื่อบ้านที่ครบวงจร” ของตราเพชร ที่ไม่ได้ให้เพียงแค่อิฐก่อผนัง แต่ยังรวมไปถึงองค์ประกอบสำคัญของบ้านที่ช่วยให้การก่อสร้างสะดวก รวดเร็ว และมั่นใจได้ในคุณภาพ

1. อิฐมวลเบา วัสดุสารพัดประโยชน์ ใช้ได้หลายงานก่อสร้าง

อิฐมวลเบาตราเพชรถูกออกแบบให้ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

ผนังบ้าน : อิฐมวลเบา ไดมอนด์บล็อก G2 และ G4 แข็งแรง เรียบเนียน น้ำหนักเบา ก่อสร้างได้ไว รวมถึง Max Block (60x60x7.5 ซม.) ซึ่งเป็นนวัตกรรมอิฐมวลเบาขนาดใหญ่ ก่อได้ไว ช่วยลดเวลาและต้นทุนการทำงานหน้างานลงได้มาก
ทับหลัง (ลินเทลสำเร็จรูป) : ผลิตตรงมาตรฐาน แข็งแรง ลดปัญหาการแตกร้าวหรือทรุดตัวในอนาคต ช่วยเสริมความมั่นคงให้ช่องเปิดประตู–หน้าต่าง
เคาน์เตอร์สำเร็จรูป : ติดตั้งไว ลดเวลาการทำงาน พร้อมใช้งานในครัวหรือพื้นที่ซักล้าง แข็งแรง ทนทาน และติดตั้งง่าย

การมีวัสดุที่ใช้ได้หลายวัตถุประสงค์ในตัวเดียวกัน ทำให้ทั้งเจ้าของบ้านและผู้รับเหมาวางแผนงานได้อย่างยืดหยุ่นและคุ้มค่า

2. เลือกเกรดให้เหมาะกับบ้าน: G2 และ G4

เพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกัน ตราเพชรมีอิฐมวลเบาให้เลือกใช้เหมาะสมกับแต่ละฟังก์ชั่นชัดเจน

ชั้นคุณภาพ 2 หรือ เกรด G2 : แข็งแรง เหมาะสำหรับงานบ้านและอาคารที่เป็นโครงสร้างเสา คานทั่วไป
ชั้นคุณภาพ 4 หรือ เกรด G4 : แข็งแรงมากกว่า ดูดซึมน้ำน้อยกว่า เหมาะสำหรับงานผนังภายนอกอาคารสูง อาคารที่มีโครงสร้างไร้คานหรือพื้น Post-Tension

การเลือกเกรดให้เหมาะสมกับลักษณะงาน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการก่อสร้าง ลดปัญหาแตกร้าว และยืดอายุการใช้งานของบ้านในระยะยาว

3. จุดเด่นของอิฐมวลเบา ตราเพชร

สิ่งที่ทำให้อิฐมวลเบาตราเพชรแตกต่างจากวัสดุทั่วไป คือคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ทั้งความสบายและความแข็งแรง โดยมีจุดเด่นสำคัญ ดังนี้

กันความร้อนได้ดีกว่า
อิฐมวลเบาตราเพชรสามารถป้องกันความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้านได้ดีกว่าอิฐมอญ ทำให้อุณหภูมิภายในบ้านเย็นลง เหมาะกับภูมิอากาศร้อนชื้นแบบประเทศไทยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ อิฐมวลเบา 10 ซม. ที่ช่วยลดความร้อนจากภายนอกและยังช่วยประหยัดค่าไฟเครื่องปรับอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลดเสียงรบกวน เพิ่มความเป็นส่วนตัว
ด้วยโครงสร้างที่มีฟองอากาศเล็ก ๆ กระจายอยู่ทั่วก้อน อิฐมวลเบาตราเพชรสามารถซับเสียงได้ดี จึงช่วยลดเสียงจากภายนอก ทำให้บรรยากาศภายในเงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเต็มที่
แข็งแรง ทนทาน ก่อสร้างได้รวดเร็วกว่า
อิฐมวลเบาตราเพชร ทั้งชั้นคุณภาพ G2 และ G4 มีความแข็งแรงตามมาตรฐาน สามารถรับแรงได้ถึง 25–50 กก./ตร.ซม. อีกทั้งยังมีขนาดก้อนใหญ่ ก่อสร้างได้ไวกว่าอิฐมอญ จึงช่วยประหยัดเวลาและต้นทุนค่าแรง เหมาะทั้งงานสร้างใหม่และงานต่อเติม
ก่อสร้างไว ลดต้นทุน : บล็อกขนาดใหญ่ เช่น Max Block ถูกออกแบบมาเพื่อลดเวลาก่อทำให้งานเสร็จเร็ว ประหยัดแรงงานและเวลา