เจาะลึก 5 เกณฑ์การพิจารณาผลิตภัณฑ์ผู้เข้าร่วมโครงการ SACIT Craft Collection 2025 - บ้านและสวน

เจาะลึก 5 เกณฑ์การพิจารณาผลิตภัณฑ์ผู้เข้าร่วมโครงการ SACIT Craft Collection 2025

ชวนลงลึก 5 เกณฑ์คัดสรรผลงานศิลปหัตถกรรมทั้งสามประเภท ได้แก่ Master Craft, Trendy Craft และ Conscious Craft ในโครงการ SACIT Craft Collection 2025 การรับรองผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์ความยั่งยืนให้กับงานศิลปหัตถกรรมไทย หนึ่งในกลไกที่ช่วยส่งเสริมและสร้างเสน่ห์ให้งานหัตถศิลป์ เพื่อให้งานคราฟต์ไทยเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตสมัยใหม่ คู่ขนานไปกับการเติบโตในเวทีโลก ไปจนถึงสามารถเป็นแรงขับเคลื่อนและเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ที่จะทำนุบำรุงให้สังคมคราฟต์ไปสู่ความยั่งยืน

หลักเกณฑ์คัดสรรผลงานศิลปหัตถกรรมทั้ง 5 ด้านประกอบไปด้วย

  1. ด้านความเป็นเลิศเชิงช่าง (Craftsmanship)ให้ความสำคัญกับเทคนิค ลวดลาย วัสดุ และความหมายในแต่ละผลิตภัณฑ์ เพื่อรักษาคุณค่าและความประณีตของงานคราฟต์ไว้ให้คงอยู่ ทั้งในด้านฝีมือ องค์ความรู้ และภูมิปัญญาของผู้สร้างสรรค์ พร้อมเสริมเสน่ห์เพื่อส่งต่อสู่ผู้บริโภคเพื่อให้เกิดการรับรู้ ชื่นชม และเกิดการหมุนเวียนในสังคมคราฟต์อย่างยั่งยืน
  2. ด้านความสามารถทางการตลาด (Marketability)ให้ความสำคัญกับการปรับตัวให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค โดยเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดรับกับรสนิยมสมัยใหม่ เพื่อให้งานคราฟต์เข้าถึงชีวิตประจำวันและสามารถต่อยอดสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศได้
  3. ด้านความดั้งเดิม (Authenticity)ให้ความสำคัญกับการเก็บรักษาและสะท้อนภูมิปัญญา องค์ความรู้ และเทคนิควิธีการที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเน้นการรักษารากเหง้าควบคู่กับความทันสมัย และให้ความสำคัญกับชิ้นงานที่มีความเป็นต้นฉบับ ไม่เกิดจากการลอกเลียนแบบ เพื่อเน้นย้ำเสน่ห์และความคิดสร้างสรรค์ของตัวให้ผู้ผลิตเอง
  4. ด้านนวัตกรรม (Innovation) และความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่แสดงออกซึ่งนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนางานศิลปหัตถกรรม โดยมีความโดดเด่นด้านการออกแบบรูปลักษณ์ การใช้งาน และการเล่าเรื่องที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและบริบทปัจจุบัน พร้อมแสดงให้เห็นแนวทางและความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของงานศิลปหัตถกรรมไทย ที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของผู้ผลิต
  5. ความยั่งยืน (Sustainability)ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนควบคู่กับความยั่งยืน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยเน้นการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ กระบวนการผลิตที่รับผิดชอบ และการสร้างรายได้ให้ชุมชนผู้ผลิต เพื่อให้ศิลปหัตถกรรมไทยเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในทุกมิติ

เกณฑ์ทั้ง 5 ด้านนี้ จะถูกนำมาใช้พิจารณาคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ส่งเข้าร่วมโดยผู้เชี่ยวชาญหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มศิลปินระดับประเทศอย่าง ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) พ.ศ.2552 ศาสตราจารย์ปรีชา เถาทอง และศิลปินเซรามิกเจ้าของรางวัลศิลปาธร คุณวศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ กลุ่มนักออกแบบร่วมสมัยอย่าง คุณพลอยพรรณ ธีรชัย และ คุณเดชา อรรจนานันท์ จาก Think Studio นอกจากนั้น ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อและการออกแบบอย่าง คุณเจรมัย พิทักษ์วงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานมีเดียแอนด์อีเวนต์ บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด เสริมทัพด้วยผู้ประกอบการด้านสิ่งแวดล้อม คุณสมภพ มาจิสวาลา จาก Maxiswood ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการขยะและพัฒนาสิ่งของเหลือใช้ พร้อมด้วยครีเอทีฟสายการตลาดอย่าง คุณสุริยะ ครุฑพันธุ์ จาก บริษัท อามิน บาบา จำกัด ผู้ขับเคลื่อนแนวคิดสร้างสรรค์และกลยุทธ์แบรนด์ให้กับหลากหลายธุรกิจ ไปจนถึงนักวิชาการด้านการค้าระหว่างประเทศอย่าง ม.ล.คฑาทอง ทองใหญ่ จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งทั้งหมดล้วนมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนวงการงานคราฟต์และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยในบริบทปัจจุบัน และพร้อมจะร่วมส่งเสริมผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยให้สมบูรณ์และเปี่ยมเสน่ห์ สามารถตอบโจทย์ตลาดปัจจุบันได้อย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน ทั้งในระดับประเทศและสากล

ร่วมส่งผลิตภัณฑ์เพื่อเข้าร่วมการคัดสรรผลิตภัณฑ์โดยผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 15 สิงหาคม 2568 โดยจะประกาศผลการคัดสรรผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมที่ผ่านการรับรองภายใต้ SACIT Craft Collection 2025 ในวันที่ 31 สิงหาคม 2568