ต้นชิงชัน ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดหนองคาย
ต้นชิงชัน ไม้ยืนต้นเนื้อแข็ง ดอกสีขาวอมม่วง จุดกำเนิดเสียงดนตรี และคุณประโยชน์ที่ยั่งยืน

ต้นชิงชัน เป็นพรรณไม้ที่มีลักษณะฟอร์มต้นและดอกโดดเด่น ลายไม้มีเอกลักษณ์นิยมในการนำมาทำเครื่องเรือน และยังถูกนำมาใช้ทำเครื่องดนตรีหลากหลายชนิด เช่น ขลุ่ย ซอ จระเข้ และกลอง

ชิงชัน Blackwood, Rosewood ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Dalbergia oliveri Gamble ex Prain จัดอยู่ในวงศ์ FABACEAE
มีชื่อเรียกอื่นๆตามแต่ละจังหวัด เช่น กระซิบ ประดู่สับ (สุราษฎร์ธานี) กำพี้ต้น (เพชรบุรี) เก็ด เก็ดคำ เก็ดแดง (เชียงใหม่) ดู่ลาย (ลำปาง) ดู่สะแดน (ภาคเหนือ) ประดู่ชิงชัน พะยูงแกลบ (สระบุรี) พะยูงแดง (พิษณุโลก) พะยูงหิน (เพชรบูรณ์) ยูน (จันทบุรี) หมากพลูตั๊กแตน


เป็นไม้ต้น สูงได้ตั้งแต่ 15-30 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มกว้าง โปร่ง เปลือกต้นสีเทา เป็นเกล็ดบางๆ เปลือกด้านในสีเหลือง เนื้อไม้สีน้ำตาลอ่อนอมเหลือง ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับผิวใบเกลี้ยง เป็นมัน แผ่นใบด้านบนสีเขียวเข้ม ใต้ใบสีซีดกว่า ดอกเป็นช่อแบบช่อเชิงประกอบ ออกตามปลายกิ่ง ดอกสีขาวอมม่วง

ต้นชิงชันพบได้ทั่วไปในป่าเบญจพรรณ และป่าดิบแล้ง ที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 100-700 เมตร สถานภาพเป็นไม้หวงห้ามธรรมดาประเภท ก. และนอกจากนี้ยังเป็นไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดหนองคายอีกด้วย ชิงชันยังมีสรรพคุณทางยา เปลือกต้นชิงชันใช้สมานแผลและรักษาแผลเรื้อรัง ส่วนแก่นไม้ใช้บำรุงโลหิตสตรี บำรุงกำลัง และแก้ปวดหลัง

การปลูกต้นชิงชัน
การเพาะชำกล้าไม่ควรเพาะชำกลางแจ้ง เนื่องจากช่วงแรกต้องการร่มเงาในการเจริญเติบโต เมื่ออายุ 6 เดือน จึงสามารถย้ายปลูกได้ หากพื้นที่ปลูกเป็นพื้นที่แล้งจัด ควรปลูกในฤดูฝนถัดไป ในระยะแรกของการปลูก ต้องการการดูแลอย่างสม่ำเสมอเพราะมักมีปัญหาเรื่องโรคและแมลง เช่น โรคเน่าคอดิน ซึ่งดังนั้นต้องควบคุมปริมาณให้น้ำไม่ให้แฉะ หรือมีน้ำขังเป็นเวลานาน



ขอขอบคุณภาพ : อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล
บทความที่เกี่ยวข้อง
ต้นจามจุรี หรือ ต้นก้ามปู กับการเดินทางสู่ประเทศไทย
ต้นตีนเป็ดน้ำ กับอันตรายที่ซ่อนอยู่
ติดตามไอเดียบ้านและสวนเพิ่มเติมได้ทาง : บ้านและสวน Baanlaesuan.com