วิธีเลือกทิศปลูก “ไม้หอม” ให้หอมรัญจวน
“ไม้หอม” เสน่ห์อีกอย่างของพรรณไม้ที่ไม่เพียงให้สีสัน รูปทรงที่งดงามเพลินตา แต่กลิ่นหอมๆ ของดอกไม้นี่แหละครับ ชวนให้หลงใหล และสร้างจิตวิญญาณธรรมชาติให้สวนอย่างที่สุด ซึ่งไม้หอมแต่ละสายพันธุ์ก็ผลิดอก ส่งกลิ่นหอมต่างเวลา ต่างฤดูกัน มาดูกันว่า เราจะปลูกไม้หอมในสวนของเราให้ได้รื่นรมย์กับกลิ่นหอมๆ ตลอดทั้งปีได้อย่างไร

“การเลือกทิศในการปลูก ไม้หอม ให้หอมทั่วบ้าน”
“ไม้ดอกหอมที่ ออกดอกใน ฤดูฝน”
ควรปลูกต้นไม้นั้นทาง “ทิศใต้” เพราะถ้าลมฝนพัดมาก็จะหอบเอากลิ่นหอมมาเข้าบ้าน เช่น จำปี จำปา พุดต่างๆ จันทน์หอม ปีบ ฯลฯ
“ไม้ดอกหอมที่ ออกดอกใน ฤดูหนาว”
ควรเลือกปลูกไว้ “ทิศเหนือ” เวลาลมหนาวพัดมาก็จะได้กลิ่นหอม เช่น จิกทะเล จันทน์กะพ้อ สุพรรณิการ์ พะยอม ลำดวน เลี่ยน ช่อมาลี ฯลฯ
“ไม้ดอกหอมที่ ออกดอก ตลอดปี”
ถ้าจะปลูกก็สามารถ “ปลูกได้ทั่วบริเวณ” เพราะถึงแม้ลมจะมาทางไหนก็สามารถพัดเอากลิ่นหอมเข้าบ้านได้ตลอดทั้งปีเช่นกัน ตัวอย่างต้นไม้ดอกหอมที่ออกทั้งปี เช่น โมก สายหยุด บุหงาส่าหรี พิกุล ชงโค ฯลฯ

ไม้ที่มีกลิ่นหอมเขา “ไม่ได้หอมทั้งวัน” ทุกต้นหรอกครับ บางชนิดหอมเช้า บางชนิดหอมตอนเย็น หรือหอมกลางคืน ก็แล้วแต่สายพันธุ์ บางทีเวลาเดินไปซื้อต้นไม้ตามตลาด แล้วไปดมที่ดอกแต่ไม่ได้กลิ่น เพราะต้นนั้นหอมตอนกลางคืน ผมมีตัวอย่างคร่าวๆ ของไม้ที่หอมเป็นช่วงเวลามาให้ดูครับ
ไม้ดอกหอมใน “ตอนเช้า” มี กระดังงาไทย มหาหงส์ บุหงาส่าหรี เดหลี กระทิง
ไม้ดอกหอม “ตลอดทั้งวัน” ก็มี ดอกคัดเค้า ทิวาราตรี บุนนาค ทองอุไร เข็มหอม กันเกรา พิกุล มะลิ ชะลูดช้าง นนทรี พะยอม กล้วยไม้
ไม้หอม “ตอนเย็นไปถึงรุ่งเช้า” ก็มี ดอกโมก แก้ว ราตรี จำปี ปีบ การเวก เล็บมือนาง ยี่โถดอกแดง พุดซ้อน
หอม “ทั้งวันทั้งคืน” มี ดอกพุทธชาดสามสี มะลิซ้อน มะลุลี นางแย้ม มีดอกหอมตลอดปี และชำมะนาด

หากชอบกลิ่นหอมๆ จาก “โมก” ควรปลูกเป็นไม้ยืนต้นบริเวณที่ลมพัดผ่าน

“ดอกลั่นทม” สามารถเด็ดมาประดับแจกัน ให้ความสวยงามแบบใกล้ชิด

“พุดสามสี” นอกจากดอกที่มีสีสันสวยงามแล้ว ยังให้กลิ่นหอมตลอดปีอีกด้วย
Tips ปลูกเลี้ยงและดูแลรักษา “ไม้ดอกหอม” ให้ถูกวิธี
- หลังจากที่ซื้อไม้ดอกหอมมาปลูก และ เลือกพื้นที่ที่เหมาะกับไม้ดอกหอมชนิดนั้นๆ แล้ว ดูดินด้วยว่าขาดความอุดมสมบูรณ์ หรือมีเศษปูนทับถมอยู่ ควรขุดเศษวัสดุเหล่านั้นออกและปรับสภาพดินใหม่ โดยใส่ดินใหม่และอินทรียวัตถุลงไป เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก (การใส่กาบมะพร้าวสับลงไปในหลุมปลูกให้ระวังเรื่องปลวก)
- หลังจากปลูกไม้ดอกหอม หมั่นรดน้ำสม่ำเสมอ หากอยู่ในฤดูฝนที่มีฝนตกชุก ควรคำนึงถึงระดับน้ำใต้ดิน เพราะอาจทำให้รากเน่า ต้นตายได้ หากเป็นฤดูแล้งหรือฤดูร้อน ควรพรางแสงให้ต้นที่เพิ่งปลูกลงดิน เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ ซึ่งอาจทำให้ต้นเหี่ยวแห้งและตายในที่สุด
- หากซื้อต้นขุดล้อมมา แต่ยังไม่ปลูกลงดิน ควรวางต้นในแนวตั้ง ทิ้งไว้ในตำแหน่งที่มีแสงแดดรำไร หมั่นรดน้ำอยู่เสมอเพื่อไม่ให้ต้นเหี่ยวแห้งตายไป ไม่ควรปล่อยให้ต้นนอนในแนวระนาบ เพราะอาจทำให้ไม้ดอกหอมต้นนั้นตายได้
- เมื่อต้นเติบโตจนสมบูรณ์เต็มที่ ควรหมั่นตัดแต่งทรงพุ่มออกบ้าง เพื่อไม่ให้กิ่งเกะกะ ทรงพุ่มบังลม หรือทำให้ต้นไม้ด้านล่างได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม้เลื้อย มีความจำเป็นต้องตัดแต่งเถาให้โปร่ง ให้ยอดได้รับแสงแดด จึงจะออกดอก
- หมั่นตรวจดูต้นไม้ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หากพบว่ามีโรคแมลง เช่น เพลี้ย หนอนเข้าทำลาย ควรใช้วิธีเก็บออก หรือตัดส่วนที่เกิดอาการทิ้ง ไม่จำเป็นต้องฉีดพ่นยากำจัดโรคแมลง โดยเฉพาะต้นที่อยู่ใกล้บ้านหรือใกล้มือเด็ก
เรื่อง : ฐปนา วชิรมาศ