ช่วงนี้ฝนตกบ่อย ฝนสาดผนังบ้านจนสีภายนอกและภายในลอกเป็นแผ่น ๆ แบบนี้ต้องแก้อย่างไรดี
ปัญหาสีทาบ้าน : ผนังบ้านมีส่วนหนึ่งที่โดนฝนสาดซ้ำ ๆ จนเกิดปัญหา สีลอกล่อน เป็นแผ่น แล้วผนังภายในก็ลอกล่อน บวมพองด้วย แบบนี้ต้องแก้อย่างไรดี
ปัญหา สีลอกล่อน ในช่วงหน้าฝน เหมือนจะเป็นปัญหาคลาสสิกที่เกิดขึ้นได้ในทุกบ้าน โดยเฉพาะผนังที่ต้องสู้กับฝนสาด แดดแรง มีโอกาสจะเกิดปัญหาดังกล่าวได้ง่าย เพราะผนังบ้านปูนนั้นมีรูพรุนที่สามารถดูดซับน้ำหรือความชื้นได้ หรือในบางจุดเกิดที่รอยแตกร้าว น้ำฝนหรือความชื้นก็สามารถซึมเข้ารอยแตกร้าวและสะสมอยู่ในคอนกรีต และไม่สามารถระเหยออกจากผนังได้ เนื่องจากมีฟิล์มสีกั้นไว้ ความชื้นจึงไปดันให้ฟิล์มสีบวมพอง ไปจนถึงสีลอกล่อนออกมาเป็นแผ่นจนเห็นผิวคอนกรีต
นอกจากปัญหาฝนสาดซ้ำ ๆ จนเกิดความชื้นสะสมแล้ว สีลอกล่อน ยังเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การปลูกต้นไม้ชิดกับผนังก็จะเกิดการสะสมความชื้นจากการรดน้ำต้นไม้และความชื้นได้เช่นเดียวกัน รวมทั้งความชื้นจากพื้นดินซึ่งทำให้บริเวณชายล่างของผนังนั้นมักเกิดปัญหาสีลอกล่อน บวมพองไปจนถึงเกิดเชื้อราและตะไคร่เกาะตามผนังตามมาด้วย
![]()
ขั้นตอนการเตรียมผนังก่อนทาสีไม่ถูกวิธี ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ฟิล์ม สีลอกล่อน ได้ง่าย เช่น ทาสีขณะที่ผนังคอนกรีตมีความชื้นสะสมอยู่ หรือขั้นตอนของการฉาบปูนหากช่างไม่มีความชำนาญ บ่มปูนไม่ดี ก็เป็นสาเหตุหนึ่งให้เกิดปัญหาสีลอกล่อนด้วยเช่นกัน (วิธีเตรียมผนังก่อนทาสีที่ถูกต้อง)
อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผนังลอกล่อนได้ง่าย แม้จะไม่อยู่ในตำแหน่งที่ฝนสาดโดยตรงคือเกิดจากการเลือกสีทาบ้านที่ผิดประเภทและไม่มีคุณภาพ อย่างการเลือกสีเกรดต่ำที่คุณภาพของสีไม่เหมาะกับสภาพอากาศของเมืองไทย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสีเกรดอัลตร้าพรีเมียม หรือสีเกรดพรีเมียม ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน 10-15 ปี จะมีคุณสมบัติที่ทนร้อนทนฝน ฟิล์มสีกันความชื้นได้อย่างมีคุณภาพ แต่ราคาก็สูงกว่าสีเกรดธรรมดาด้วยเช่นกัน ในแง่ของความคุ้มค่าการเลือกสีที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ย่อมเกิดความคุ้มค่าในระยะยาวมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นสีภายนอกหรือภายใน
การแก้ปัญหาผนังลอกล่อนจึงควรเริ่มจากหาต้นเหตุที่แท้จริง เพื่อทำการซ่อมได้ถูกจุด แต่หากสาเหตุเกิดจากความชื้นสะสมจากบริเวณที่มีฝนสาดซ้ำ ๆ มีขั้นตอนการซ่อมดังนี้
1. สำรวจผนังที่บวมน้ำและมีสีหลุดล่อนเพื่อเตรียมพื้นผิว โดยใช้เกรียงแซะสีที่ลอกล่อนออกให้หมด ให้เห็นถึงเนื้อคอนกรีต หากผนังมีเชื้อราให้ใช้น้ำยาขจัดเชื้อรา นิปปอนเพนต์ ไบโอวอช จากนั้นล้างทำความสะอาด และทิ้งให้แห้งสนิท
![]()
2. ตรวจสอบพื้นผิวผนังดูรอยแตกร้าว เพราะเป็นจุดที่น้ำอาจเข้าสู่ภายในผนังได้ ถ้ามีก็ซ่อมแซมผนังให้ไม่มีรอยร้าวก่อนโดยใช้สีโป๊วผนัง นิปปอนเพนต์ วอล พัตตี้ ขัดให้เรียบ แล้วทิ้งให้ผนังแห้งสนิท (ดูวิธีซ่อมรอยร้าวบนผนัง)
![]()
3. ทาสีรองพื้นด้วยสีรองพื้นปูนเก่า นิปปอนเพนต์ เอ็กเซล ไพรเมอร์ (สูตรน้ำมัน) หรือ นิปปอนเพนต์ อะควา ซีลเลอร์ (สูตรน้ำ) ช่วยให้ฟิล์มสียึดเกาะกับผนัง ลดเกิดการปัญหาสี โดยทาจำนวน 1 เที่ยว
4. ทาสีทับหน้า สำหรับภายนอก ทาสีทับหน้าที่ช่วยป้องกันความชื้น ป้องกันความร้อน ทนแดดทนฝน และป้องกันเชื้อราและตะไคร่น้ำได้ดี ด้วยสีทับหน้า นิปปอนเพนต์ เวเธอร์บอนด์ ทาจำนวน 2 เที่ยว
![]()
สำหรับภายในทาสีทับหน้าด้วยสี นิปปอนเพนต์ แอร์แคร์ สีทาภายในที่มีคุณสมบัติช่วยฟอกอากาศ ดูดซับสารฟอร์มัลดีไฮด์ซึ่งเป็นสารระเหยที่เป็นพิษ ช่วยป้องกันเชื้อไวรัส แบคทีเรียและเชื้อรา เรียบเนียน และ Zero VOCs ไม่มีกลิ่นฉุน โดยทาสีทับหน้านิปปอนเพนต์ แอร์แคร์ จำนวน 2 เที่ยว
![]()
หลังการซ่อมแซมผนังลอกล่อนแล้ว ควรป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำซ้อนโดยเริ่มที่ต้นเหตุคือป้องกันไม่ให้เกิดความชื้นสะสม อย่างเช่นการติดตั้งกันสาดในบริเวณนั้นไม่ให้ผนังต้องรับความชื้นซ้ำ ๆ ก็เป็นอีกทางออกสำหรับบ้านในเมืองไทยที่ต้องเจอสภาพอากาศร้อนชื้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ระบบสีนิปปอนเพนต์
สีรองพื้นปูนเก่า (สูตรน้ำมัน) นิปปอนเพนต์ เอ็กซ์เซล ไพรเมอร์ (Nippon Paint Excel Primer)
![]()
สีรองพื้นปูนเก่า (สูตรน้ำ) นิปปอนเพนต์ อะควา ซีลเลอร์ (Nippon Paint Aqua Sealer)
สีทับหน้าสำหรับภายใน นิปปอนเพนต์ แอร์แคร์ (Nippon Paint AirCare)
สีทับหน้าสำหรับภายนอก นิปปอนเพนต์ เวเธอร์บอนด์ (Nippon Paint Weatherbond Advance)
ขอบคุณข้อมูลจากสี NIPPON PAINT
![]()