เทคนิคการเทพื้นคอนกรีตให้ง่าย เร็ว และน่ามอง
เรื่องพื้นฐานของงานก่อสร้างอย่างการเทพื้น ดูเป็นเรื่องง่าย และทำกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันในทุกๆ ที่จนเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตามหลายครั้งงานง่ายๆ ที่ทำตามความเคยชิน ที่นำมาซึ่งปัญหาของงานก่อสร้างในระยะยาว ทำให้ต้องกลับมานั่งแก้ไข ไม่ก็ต้องรื้อทำกันใหม่เพราะมองข้ามปัจจัยสำคัญหลายเรื่องที่อยู่แค่ใต้จมูก
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสารพัด และเพื่อยกระดับงานก่อสร้างให้ได้มาตรฐานมากขึ้น เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้งานก่อสร้างสำเร็จได้โดยสมบูรณ์ เพื่อให้งานก่อสร้างนั้นทั้งง่าย เร็ว และน่ามองในระยะยาว
![]()
1. การปรับพื้นที่ก่อนเทคอนกรีต
ปรับระดับหน้าดิน โดยถมดินและบดอัดให้เรียบเสมอกัน หากเป็นพื้นที่ในบ้าน มักถมสูงกว่าถนนนอกบ้านประมาณ 50 – 80 เซนติเมตร โดยไม่ควรถมสูงเกินไป เนื่องจากอาจเกิดแรงดันรั้วจนเสียหาย รวมถึงไม่ต้องใช้ปริมาณดินมากเพื่อให้ดินแน่นและแข็งแรงพอ และเททรายจนได้ระดับความหนาประมาณ 5เซนติเมตร แล้วบดอัดให้แน่น
2. การเตรียมแบบหล่อที่ได้ระดับ มั่นคงและแข็งแรง
แบบหล่อปูนนั้นเป็นได้ทั้งไม้ พลาสติกและเหล็กสำเร็จรูป โดยต้องตั้งค้ำยันให้แข็งแรง และต้องคำนึงถึงจุดหรือรอยรั่วต่างๆ ที่น้ำปูนอาจไหลทะลักออก หรือมีจุดบอดในซอกร่องต่างๆ ที่น้ำปูนไหลเข้าไปไม่ถึง โดยเฉพาะในส่วนที่ใกล้กับเหล็กเสริม ในจุดนี้แก้ไขได้โดยการใช้เหล็กกระทุ้งหรือใช้เครื่องจี้ให้น้ำปูนไหลได้ทั่ว โดยหากใช้ไม้แบบพลาสติกหรือเหล็กสำเร็จรูป ก็อาจทำให้ได้งานที่เรียบร้อย มีมาตรฐานกว่า เพราะถูกออกแบบมาให้ประกอบใหม่ใช้ได้หลายครั้ง
3. เหล็กเสริมอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
การวางตะแกรงเหล็กเสริม หรือ (Wire Mesh) ควรให้ตะแกร่งเหล็กอยู่ต่ำกว่าผิวคอนกรีตประมาณ 3-5 เซนติเมตร วิธีที่สะดวกคือควรหนุนเหล็กด้วยลูกปูนระยะห่างกันประมาณ 60-80 เซนติเมตรของพื้นที่ปรับระดับ เพื่อไม่ให้เหล็กสัมผัสกับพื้นดินโดยตรง ก่อนเทปูนตามจนได้ระดับที่ต้องการ เหล็กเสริมจะช่วยเพิ่มความแข็งแรง และลดโอกาสการแตกร้าวของปูนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในช่วงกลางวันและกลางคืน
4. ใช้คอนกรีตที่เหมาะสมกับงานพื้น
ส่วนผสมของคอนกรีตนั้นมีความสำคัญ โดยทั่วไปสามารถใช้ปูนสำหรับงานโครงสร้างทั่วไป ในอัตราส่วน ปูนซีเมนต์ : ทราย : หิน เป็น 1 : 2 : 4 ซึ่งจะแข็งแรงมากพอสำหรับงานที่ต้องรับน้ำหนักมากอย่างพื้น หรือหากใช้ปริมาณมากก็อาจสั่งปูนผสมสำเร็จจากผู้ผลิตมาก็จะสะดวกยิ่งขึ้น
5. ทำรอยต่อควบคุมการแตกร้าว
เนื่องจากคอนกรีตนั้นจะขยายและยืดหดตัวเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง การทำรอยต่อให้กับพื้นนั้นคือการบังคับให้คอนกรีตแตกร้าวตามแนวเส้นที่ทำรอยต่อไว้ จะช่วยลดความเสี่ยงของการแตกร้าวแบบสะเปะสะปะ ทั้งนี้เนื่องจากพื้นปูนจะมีการหดตัวเนื่องจากการสูญเสียน้ำ ทำให้เกิดแรงดึงภายในจึงทำให้เกิดรอยร้าวอย่างที่เห็นได้ทั่วไป การทำรอยต่อสามารถทำได้โดยการกรีดร่องด้วย Saw cut Machine ให้มีความกว้างประมาณ 5 – 10 มิลลิเมตรแล้วหยอดยางมะตอย เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำซึมลงไปถึงชั้นดินซึ่งจะเป็นตัวการทำให้พื้นสูญเสียการรับน้ำหนักได้
![]()
นอกจากเทคนิคต่างๆ ที่ว่ามาทั้งหมดแล้ว อีกสิ่งสำคัญที่จะทำให้ได้พื้นสวยและน่ามองนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับชนิดปูน ฝีมือช่าง และการผสมที่เหมาะสมโดยหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจและสามารถช่วยเหลือทั้งเจ้าของบ้านและผู้รับเหมาได้มาก คือผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จ “CPAC Super Plus” หรือ “คอนกรีตไหลลื่นเทง่ายซีแพคซุปเปอร์พลัส” ซึ่งผ่านการออกแบบส่วนผสมมาตรงตามมาตรฐานคุณภาพของ CPAC โดยไม่จำเป็นต้องเติมน้ำเพิ่ม
![]()
ซึ่งถูกออกแบบมาให้ลื่นไหล เทง่าย งานเสร็จไว สบายมือช่างและผู้รับเหมา และเจ้าของบ้านก็จะได้งานคอนกรีตที่เรียบเนียน แข็งแรงงบไม่บานปลาย รวมถึงยังเทได้ทั้งงานพื้น เสา คาน และฐานรากได้ทั้งหมด อีกทั้งCPAC ยังมาพร้อมบริการ “CPAC เท ปาด ขัด” บริการใหม่ด้วยงานเทคอนกรีตคุณภาพ พร้อมทีมช่างมาตรฐานจาก CPAC เอง ที่มั่นใจได้ทั้งในคุณภาพคอนกรีตและคุณภาพงานฝีมือ
![]()
ทั้งหมดนี้ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดและสอบถามได้ที่เว็บไซต์ www.cpacconnect.com