เทคนิคเลือกดีไซน์เตียงและที่นอนถูกขนาดถูกใจ เหมาะกับสไตล์ห้อง

การออกแบบบ้าน “ห้องนอน” ถือว่าเป็นพื้นที่ที่เราต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ เพราะห้องนอนคือสถานที่ชาร์จแบตฯ และพักเหนื่อยในยามค่ำคืน ดังนั้นนอกจากการออกแบบตกแต่งห้องนอนให้ถูกใจเราแล้ว การเลือก ‘เตียงนอน’ และ ‘ที่นอน’ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเราต้องเลือกเตียงและที่นอนที่ช่วยให้เราหลับสนิท นอนสบายตัว เพื่อให้เราพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

เตียงประเภทไหนถึงจะเหมาะกับคุณ?
โดยปกติเตียงนอนจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ นั่นคือ เตียงนอนไม้, เตียงนอนผ้า และเตียงนอนหนัง ซึ่งเตียงแต่ละประเภทจะมีข้อดีที่แตกต่างกันไป

  • เตียงนอนไม้ เป็นเตียงที่ช่วยเสริมให้ห้องนอนมีบรรยากาศอบอุ่นและทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ นอกจากนี้เตียงไม้ยังเป็นเตียงที่ทำความสะอาดง่ายและเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เพราะนักออกแบบได้เพิ่มฟังก์ชั่นและดีไซน์ให้เตียงไม้โดดเด่น เข้ากับการตกแต่งห้องได้หลายสไตล์
  • เตียงนอนผ้า เป็นเตียงอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยม โดยเตียงผ้าในปัจจุบันมีดีไซน์ให้เลือกหลายแบบ โดยมาพร้อมสีสันสดใส ที่สำคัญเตียงผ้ายังช่วยระบายความร้อนได้ดี จึงเหมาะกับห้องที่ไม่นิยมติดเครื่องปรับอากาศ และที่สำคัญเตียงนอนผ้ายังสามารถถอดซักได้จึงเป็นที่ถูกอกถูกใจคุณแม่บ้านมากกว่าเตียงประเภทอื่น
  • เตียงนอนหนัง เป็นเตียงนอนที่ให้ความรู้สึกหรูหรา จึงเหมาะกับคนที่ต้องการให้บ้านมีบรรยากาศภูมิฐาน น่าเชื่อถือ โดยข้อดีของเตียงนอนหนังคือมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและยังทำความสะอาดง่าย

ห้องสไตล์นี้ควรวางเตียงดีไซน์ไหน?
หลังจากตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกเตียงประเภทไหนถึงจะเหมาะกับตัวเอง ก็มาต่อกันที่ดีไซน์เตียงที่ควรเลือกให้เข้ากับการตกแต่งห้อง เพราะเตียงนอนเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเด่นในห้องนอน ดังนั้นหากเลือกเตียงนอนเข้ากับการออกแบบจะช่วยเสริมให้ห้องมีบรรยากาศน่านอนยิ่งขึ้น

  • สไตล์โมเดิร์น หากห้องนอนตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น เราสามารถเลือกเตียงได้หลากหลายมากกว่าห้องนอนสไตล์อื่นๆ โดยเตียงนอนที่เหมาะกับห้องนอนสไตล์นี้ จะเป็นเตียงนอนผ้าหรือเตียงนอนหนังก็ได้ทั้งนั้น เพียงแต่เตียงนอนต้องมีดีไซน์เรียบหรูในโทนสีขาว เทา หรือดำ ขณะเดียวกันหากเราอยากเลือกเตียงนอนไม้ก็ไม่ว่ากัน แต่แนะนำให้เลือกเตียงไม้ดีไซน์เรียบเฉียบที่มีสีน้ำตาลเข้ม เสริมความโมเดิร์นด้วยผ้าปูที่นอนและผ้านวมสีเรียบในโทนขาว เทา และดำเช่นเดียวกัน
  • สไตล์วินเทจ ห้องนอนของสาวๆ ส่วนใหญ่มักจะตกแต่งในสไตล์วินเทจที่เจือความอ่อนหวานเอาไว้ ดังนั้นเตียงนอนที่เลือกก็ควรเป็นเตียงสไตล์เดียวกัน อย่างเตียงนอนไม้ที่มีเสาทั้งสี่ด้าน ปิดล้อมด้วยผ้าม่านโปร่งบางจะยิ่งช่วยขับให้ห้องนอนวินเทจหวานยิ่งขึ้น หรือจะเลือกเตียงนอนผ้าที่ออกแบบให้มีหัวเตียงหรูหราสไตล์ลักชัวรี่ก็เข้ากับห้องนอนสไตล์นี้ได้เช่นกัน โดยแนะนำให้เลือกหัวเตียงในโทนสีขาวหรือครีมมากกว่าโทนสีเข้ม
  • สไตล์ลอฟต์ ห้องนอนสไตล์ลอฟต์ของหนุ่มๆ มักวางเตียงนอนด้วยไม้พาเลท ซึ่งนำมาทำเป็นฐานเตียงแล้วปูด้วยที่นอนหนา แต่ก็มีหลายคนที่อยากได้เตียงนอนที่ทนทานแข็งแรงและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ดังนั้นดีไซน์เตียงนอนที่เหมาะกับห้องสไตล์นี้จึงเป็นเตียงไม้ที่ด้านล่างทึบตันและที่สำคัญเตียงต้องไม่สูงมากนัก เพราะการเลือกเตียงที่ต่ำเสมือนราบไปกับพื้นห้องนั้น เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของห้องนอนสไตล์ลอฟต์ หรือจะลองเปลี่ยนเป็นเตียงนอนหนังก็เข้ากับสไตล์ลอฟต์ได้เช่นกัน เพียงแต่เตียงนอนหนังต้องมีดีไซน์เรียบ ไม่มีหัวเตียง และต้องไม่สูงเช่นกัน

เลือกที่นอนแบบไหนดี จึงจะทำให้หลับสบาย?
นอกจากดีไซน์ห้องและเตียงนอนที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้ห้องน่านอนแล้ว “ที่นอน” ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรานอนหลับสบาย ซึ่งที่นอนก็มีหลายประเภทและมีข้อดีแตกต่างกัน เพื่อให้เราเลือกได้ตามความชอบ อาทิ

  • ที่นอนเมมโมรีโฟม มีคุณสมบัติสำคัญอยู่ที่การคืนตัวได้อย่างรวดเร็วและรองรับแรงกดทับได้ดีเยี่ยม ที่นอนเมมโมรีโฟมจึงช่วยโอบรับสรีระตามการเคลื่อนไหวได้อย่างนุ่มนวล จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบที่นอนนุ่มๆ
  • ที่นอนยางพารา ด้วยเพราะยางพาราเป็นวัสดุธรรมชาติ ทำให้มีความยืดหยุ่นได้ดี อีกทั้งยังมีความทนทาน ไม่ยุบตัวเมื่อใช้ไปนานๆ นอกจากนี้ที่นอนยางพารายังสามารถเลือกระดับความนุ่มได้หลายระดับ ที่สำคัญยังเหมาะกับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ เพราะยางพาราเป็นวัสดุธรรมชาติ จึงสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและไรฝุ่นได้นั่นเอง
  • ที่นอนสปริง อย่างที่ทราบว่าที่นอนประเภทนี้จะเสริมโครงสร้างภายในด้วยสปริง ทำให้มีความยืดหยุ่นในการรองรับน้ำหนักและการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ดี โดยระบบสปริงจะทำหน้าที่ช่วยกระจายน้ำหนักไปทั่วที่นอนได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นยิ่งจำนวนสปริงมากการรองรับน้ำหนักก็ยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เรานอนได้สบายตัว แม้จะพลิกตัวไปมา

อยากได้ที่นอนไซส์พิเศษต้องทำอย่างไร?
จริงอยู่ว่าโดยปกติที่นอนจะมีไซส์มาตรฐานอย่างขนาด 3.5 ฟุต, 5 ฟุต และ 6 ฟุต แต่บางครั้งเราก็อยากได้ที่นอนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นหรือเล็กกว่ามาตรฐาน อีกทั้งหลายคนก็อยากได้ที่นอนที่มีระดับความแข็งนุ่มแตกต่างกันไป บางคนชอบที่นอนที่นุ่มมาก บางคนชอบที่นอนแบบแข็งแน่น ซึ่งที่นอนตามท้องตลาดไม่สามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้

แต่คุณรู้หรือไม่ว่าที่ Home Pro มีบริการพิเศษที่เรียกว่า “ที่นอนสั่งตัดได้” นั่นคือเราสามารถสั่งตัดที่นอนตามความต้องการได้ด้วย 5 ขั้นตอนง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก นั่นคือ

  1. เริ่มต้นด้วยติดต่อแผนกที่นอนของโฮมโปร
  2. บอกขนาดของที่นอนที่ต้องการสั่งตัด โดยระบุไซส์ ทั้งความกว้าง ความสูง และความหนา เพราะโฮมโปรจะรับตัดตามขนาดที่คุณต้องการ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นขนาดไหน โฮมโปรก็สามารถตัดให้คุณได้
  3. เลือกวัสดุที่อยากได้ เช่น ที่นอนสปริง, ที่นอนยางพารา หรือที่นอนเมมโมรี
  4. เลือกความนุ่มและความแน่นแข็งตามต้องการ
  5. ชำระค่าสินค้าและรอรับสินค้าได้ภายใน 7 วันกับบริการพิเศษที่ส่งตรงถึงบ้าน

หากคุณอยากสั่งตัดที่นอน สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โฮมโปร ทุกสาขา