บ้านดีไซน์เรียบที่แฝงชั้นเชิงไว้ภายใน
บ้านเล่นระดับ ด้วยสเต็ปเล็ก ๆ ภายใน ที่ออกแบบมาให้เป็นตัวช่วยแบ่งพื้นที่ใช้สอยและไล่ระดับการเข้าถึงจากพื้นที่ด้านหน้าถึงด้านใน เพิ่มความสนุกในการใช้งาน
Design Directory : สถาปนิก Anonym


เพราะที่ดินราว 200 ตารางวาแห่งนี้อยู่ในโซนที่เคยถูกน้ำทะเลท่วมถึงมาแล้ว ด้วยมีระยะห่างที่ไม่ไกลจากชายฝั่งทะเลของจังหวัดระยองมากนัก เมื่อ คุณกิ่ง-กีรติ วรโศภิษฐ์ และคุณเม้ง-สุขุม ประวาลพฤกษ์กุล อยากจะสร้างบ้านหลังใหม่สำหรับครอบครัว สิ่งแรก ๆ ที่ทั้งคู่ทำก็คือการถมที่ดินให้สูงจากระดับถนนไว้ก่อน จากนั้นจึงเริ่มมองหาสถาปนิกมาช่วยออกแบบบ้านให้ โดยก่อนหน้านี้คุณกิ่งอยู่บ้านที่เป็นตึกแถวมาตลอด เพราะใช้พื้นที่ชั้นล่างสุดเปิดเป็นร้านขายยา ขณะที่คุณเม้งได้ย้ายมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาทำงานในคลินิกของเพื่อน หลังจากที่ทั้งคู่แต่งงานกันแล้ว ก็คิดจะสร้าง บ้านเล่นระดับ นี้ซึ่งเป็นเหมือนเรือนหอที่จะได้เริ่มต้นชีวิตคู่และสร้างครอบครัวใหม่ไปด้วยกัน

“ที่จริงเราก็ลองหาบ้านที่สร้างสำเร็จไว้อยู่หลายที่แล้ว แต่ก็ไม่ค่อยถูกใจผังและฟังก์ชันเท่าไร เลยตัดสินใจสร้างบ้านบนที่ดินที่คุณพ่อของกิ่งซื้อไว้นานแล้ว อยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังเดิมและที่ทำงานสักเท่าไร คิดว่าน่าจะเป็นบ้านหลังเดียวที่เราได้สร้างกัน เลยอยากจะทำให้ดี ๆ ตั้งแต่เลือกสถาปนิกที่เราชอบ แล้วก็มาเจอผลงานออกแบบบ้านของ Anonym จากบ้านและสวนนี่แหละ เลยลองติดต่อไป เราก็ไม่รู้หรอกว่าชอบบ้านสไตล์ไหนแน่ รู้แค่ว่าอยากได้บ้านที่อยู่สบายสำหรับสองคนกับแมวอีก 3 ตัว เป็นบ้านที่มีความเป็นส่วนตัว มีที่เก็บของเยอะ ๆ แต่ไม่รก ที่สำคัญคืออยากได้บ้านเล่นระดับจะได้ดูไม่น่าเบื่อ ซึ่งตอนนั้นก็รออยู่นานเหมือนกันนะกว่าทางสถาปนิกจะตกลงออกแบบบ้านให้”


วางบ้านให้ถูกทิศถูกทาง
ด้วยที่ดินหน้าบ้านนั้นหันไปทางทิศตะวันตกอย่างจัง ก่อนที่จะออกแบบวางตำแหน่งตัวบ้านลงไป คุณบอย-พงศ์ภัทร เอื้อสังคมเศรษฐ์ และคุณปาน-ปานดวงใจ รุจจนเวท สถาปนิกจาก Anonym จึงเริ่มต้นด้วยการเว้นระยะหน้าบ้านให้เป็นพื้นที่สวน แล้วเพิ่มรั้วเล็ก ๆ ไว้อีกชั้นเพื่อไม่ให้ตัวบ้านปะทะกับแนวแสงแดดจากทิศที่ร้อนที่สุด
คุณบอยอธิบายถึงแนวคิดนี้ว่า “ตัวที่ดินมีรูปทรงแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดประมาณ 40×20 เมตร เราเลยเซ็ตระยะระหว่างรั้วกับตัวบ้าน เพื่อให้บ้านหลบเข้ามาด้านในของที่ดิน อีกทั้งระดับดินที่เขาถมไว้ก่อนทำให้บ้านถูกยกสูงกว่าบ้านรอบ ๆ อยู่แล้ว ก็จะทำให้บ้านมีความเป็นส่วนตัวมากๆ พอเราเว้นระยะก็ช่วยทำให้บ้านห่างไกลเสียงและฝุ่นจากถนน อีกทั้งยังมีที่จอดรถกับคอร์ตต้นไม้พร้อมกำแพงเล็ก ๆ มาช่วยกางร่มให้บ้าน ทำให้บ้านไม่ร้อน และมีพื้นที่หายใจ สามารถเปิดช่องลมหมุนเวียนเข้า-ออกในบ้านได้ แล้วเราก็ย้ายมุมหน้าบ้านให้มาอยู่ทางทิศเหนือแทน พร้อมกับทำคอร์ตต้นไม้หลักสร้างมุมมองธรรมชาติให้เห็นได้จากพื้นที่พักผ่อนภายใน ส่วนทิศตะวันตกเดิมก็ใช้เป็นแค่ทางเข้าบ้านจากถนนด้านนอกเท่านั้น และสำหรับทิศใต้ที่มีแดดแรงเหมือนกันนั้นเราเน้นให้เป็นมุมสำหรับที่เก็บของ บันได หรือห้องน้ำ โดยใช้แดดช่วยระบายความอับชื้นไปเลย”





เล่นระดับแยกฟังก์ชัน
เพื่อให้ตัวบ้านยังดูกลมกลืนไปกับบริบทของบ้านต่างจังหวัดโดยรอบ เส้นสายที่่เรียบง่ายแบบเรขาคณิตจึงกลายเป็นรูปทรงหลักของบ้าน พร้อมกับหลังคาทรงจั่วที่มีชายคายื่นยาวรับกับสภาพอากาศเมืองร้อนได้ดี จนเมื่อเริ่มจะเข้าสู่พื้นที่ภายใน เราจึงเริ่มเจอกับสเต็ปเล็ก ๆ ตั้งแต่แผ่นทางเดินยกระดับ 3 ชั้นเพื่อนำไปสู่ประตูเข้าบ้าน ราวกับจะบอกว่าในความธรรมดาของบ้านนี้ยังซ่อนความสนุกไว้ภายในตามแบบที่เจ้าของบ้านตั้งโจทย์ไว้แต่แรกเลย


นั่นเพราะสถาปนิกเลือกใช้สเต็ปเล็ก ๆ ในบ้านเป็นตัวแบ่งพื้นที่ใช้สอยและไล่ระดับการเข้าถึงจากพื้นที่ต้อนรับ พื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่ส่วนตัวที่อยู่ด้านในสุด ดังน้้นเมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้ว จึงเป็นส่วนของโถงหน้าบ้านขนาดเล็ก พร้อมทางเดินที่นำไปสู่มุมนั่งเล่นกึ่งรับแขกด้านซ้ายมือที่ยังมองไม่เห็นพื้นที่ส่วนตัวด้านใน เพราะมีผนังเคาน์เตอร์สูงระดับสายตาช่วยบังมุมมองไว้ แต่ยังคงสบายตาจากช่องเปิดที่มองเห็นคอร์ตต้นไม้ทางทิศเหนือ จนกว่าจะได้เดินขึ้นสเต็ปเล็ก ๆ ก่อนจึงสามารถเข้าสู่พื้นที่ส่วนกลางนั่นคือแพนทรี่และมุมรับประทานอาหารที่วางเรียงฟังก์ชันต่อกันในแนวยาวตามรูปทรงของบ้าน ผนังกระจกบานกว้างของมุมนี้ช่วยรับแสงธรรมชาติเข้ามาภายในได้เต็มที่พร้อมกับเชื่อมต่อวิวสวนคอร์ตแบบเต็มตา ตามมาด้วยการเข้าสู่พื้นที่ส่วนตัวด้านในซึ่งต้องผ่านอีกหนึ่งสเต็ปเล็ก ๆ ที่จะนำไปสู่โถงนั่งเล่นและพื้นที่นันทนาการขนาดกว้างที่เจ้าของบ้านสามารถสนุกไปกับการจัดวางฟังก์ชันให้เปลี่ยนไปตามแต่ละช่วงชีวิตได้ อาทิ วางโต๊ะปิงปอง ทำมุมออกกำลังกาย หรือปรับเป็นที่เล่นของลูกในอนาคต โดยที่บริเวณโถงยังมีผนังภายในผืนใหญ่ที่ใช้บังบันไดทางขึ้นห้องนอนบนชั้น 2 ไว้ด้านหลัง ซึ่งเจาะช่องวงกลมเปิดไว้ตรงกลางเพื่อให้เชื่อมมุมมองระหว่างเดินขึ้น-ลงได้แบบไม่รู้สึกอึดอัด






คุณเม้งและคุณกิ่งเล่าความรู้สึกไว้ว่า“ส่วนใหญ่เราสองคนใช้เวลาอยู่ตรงบริเวณนี้เป็นหลัก ตั้งแต่แพนทรี่ กินข้าว มาจนถึงโซฟานั่งเล่น เพราะสเต็ปเล็ก ๆ แต่ละส่วนทำให้สนุกกับการใช้พื้นที่ในทุกมุม ไม่มีเบื่อเลย และรู้สึกปลอดโปร่งมาก ๆ เมื่อก่อนตอนอยู่ตึกแถวเราไม่รู้หรอกว่าการได้อยู่บ้านแล้วมองเห็นต้นไม้ตลอดเวลามันทำให้รู้สึกดี ต้องขอบคุณสถาปนิกที่ช่วยคิดแทนให้หมดเลย พอได้มาอยู่จริง ๆ รู้สึกผ่อนคลายมาก ตื่นมาก็เห็นธรรมชาติ นั่งกินข้าวก็มองต้นไม้ได้ บางอาทิตย์ป๊ากับม๊าแวะมานั่งดูทีวีด้วยก็บอกว่ารู้สึกสบาย เราเลยกลายเป็นคนติดบ้านไปแล้ว แม้แต่มุมนั่งทำงานในบ้านก็ยังมองเห็นคอร์ตต้นไม้เล็ก ๆ ด้านหลังบ้านได้ด้วยเหมือนกัน”




เรียบง่ายในสีเอิร์ธโทน
นอกจากแสงสว่างและคอร์ตต้นไม้ที่ช่วยเติมความรู้สึกผ่อนคลายให้บ้านแล้ว สถาปนิกยังใช้สีเอิร์ธโทนมาตกแต่งพื้นผิวทั้งภายนอกและภายใน ผสานไปกับการแทรกงานไม้ในตัวเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินและลอยตัว กลายเป็นส่วนผสมที่ทำให้มู้ดแอนด์โทนของบ้านนี้ดูกลมกล่อมและนุ่มนวล
“เราเลือกใช้วัสดุมาตรฐานเพื่อช่วยคุมงบประมาณให้อยู่ตามที่เจ้าของบ้านกำหนดไว้ แต่ในความธรรมดานั้นก็ต้องเนี้ยบด้วยถึงจะทำให้บ้านออกมาดูดี อย่างผนังทำสีเท็กซ์เจอร์ทั่วไป ซึ่งพอใช้เป็นสีครีมก็ช่วยขับกับโทนสีน้ำตาลให้ออกมาสวย แล้วเพิ่มเส้น Groove มาช่วยแก้ความเลี่ยนโล่งของผนังในบางส่วน ทำให้เกิด Element แบบบ้านไทย ๆ ที่เรียบง่าย ดูแลไม่ยาก ภายในโปร่งโล่งรับแสงธรรมชาติ พอเติมพื้นที่สีเขียวเข้าไปก็ดูสดชื่นขึ้นมาเลย”



ประสบการณ์ในบ้านใหม่
แม้จะเริ่มต้นจากความไม่ชัดเจนในสไตล์ที่ชอบ แต่เมื่อได้เข้ามาใช้ชีวิตในบ้านหลังใหม่แล้ว ทั้งคุณกิ่งและคุณเม้งก็มีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน
“เราเคยกลับไปนอนบ้านตึกแถวแต่ก็รู้สึกไม่เหมือนเดิมแล้ว (หัวเราะ) เพราะอยู่บ้านนี้ฟังก์ชันมันครบ ใช้งานสะดวก หยิบจับอะไรก็สบายเกินกว่าที่คิดไว้มาก แตกต่างไปจากผังในบ้านสำเร็จทั่วไปที่เคยเห็นหมดเลย ที่นี่ให้ประสบการณ์ความสนุกกับการอยู่บ้านมากกว่า อย่างมุมโซฟาหน้าทีวีที่เม้งชอบมาก นอนทิ้งตัวได้สบาย หลายครั้งนอนยาวเพลินเลยก็มี หรือดีไซน์ช่องเปิดกลมๆ ตรงผนังที่โถงเวลาเปิดไฟตอนกลางคืนมันดูสวยเหมือนมีพระจันทร์อยู่ในบ้านเลย และฝ้าทรงจั่วในห้องนอนก็ให้ความรู้สึกของบ้านชัดเจนดี แม้แต่น้องแมวก็ยังมีมุมกินข้าวกินน้ำของตัวเอง มีช่องทางเดินเข้าเดินออกของตัวเอง กระทั่งมุมอาบแดดของแต่ละตัว เขาดูมีความสุขขึ้นมาก ไม่ร้องกลางดึกเหมือนเมื่อก่อนเลย และเราสองคนก็ยังมีงานอดิเรกใหม่ในการปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นด้วย จากคนที่ไม่รู้เรื่องต้นไม้เลย ตอนนี้แค่รดน้ำอย่างเดียวก็ใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมงแล้ว รู้สึกเลยว่าคุ้มค่าที่สร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมา”
เจ้าของ : คุณกีรติ วรโศภิษฐ์ และคุณสุขุม ประวาลพฤกษ์กุล
สถาปนิก : Anonym โดยคุณพงศ์ภัทร เอื้อสังคมเศรษฐ์ และคุณปานดวงใจ รุจจนเวท
เรื่อง : ภัทรสิริ โชติพงศ์สันติ์
ภาพ : ศุภกร ศรีสกุล
สไตล์ : Suntreeya
ที่ตั้ง : จังหวัดระยอง