บ้านเล่นระดับ มากฟังก์ชัน เติมเต็มความสุข
บ้านเล่นระดับ ในแนวตั้งที่สลับชั้นไปมาทั้งหมดร่วม 7 ชั้น แยกเป็นฟังก์ชันใช้งานที่แตกต่างกัน โดยมีบันไดโปร่งกลางบ้านเชื่อมต่อทุกชั้นกับผนังกระจกใสที่ทำให้แต่ละชั้นมองเห็นกันได้


สำหรับคนที่ยังคงอยู่ในช่วงวัยทำงานและต้องขับเคลื่อนชีวิตให้ทันกระแสงสังคมเมืองตลอดเวลา การมีบ้านพักอาศัยอยู่กลางเมืองก็ดูจะเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เพราะไม่ต้องมาเสียเวลาไปกับการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วน อีกทั้งยังดีต่อสุขภาพจิตและยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างเต็มที่ด้วย นี่เป็นเพียงหนึ่งในเหตุผลที่ คุณเก๋-ชลลดาและคุณพร้อม สิริสันต์ มองหาบ้านกลางเมืองกันอยู่นานกว่าจะมาพบหมู่บ้านส่วนตัวภายในซอยอันสงบเงียบกลางย่านสาทร เป็น บ้านเล่นระดับ ซึ่งออกแบบโดย Robert G. Boughey สถาปนิกชาวอเมริกัน

“ที่นี่เป็นหมู่บ้านขนาดจำกัดซึ่งมีเพียง 12 หลังเท่านั้น แม้จะอยู่กลางเมืองแต่เข้ามาในซอยตันก็เลยค่อนข้างเงียบสงบ และยิ่งรู้ว่าเป็นงานออกแบบของโรเบิร์ต จี บุย เราก็ยิ่งชอบ ด้วยเส้นสายแบบโมเดิร์นและการเปิดช่องแสงช่องลมที่ดีของตัวอาคาร แต่ละหลังไม่ได้มีรั้วกั้นแยก ใช้แค่ต้นไม้ซึ่งโครงการก็ดูแลจัดแต่งได้ดีมาก โชคดีที่เจ้าของเดิมบอกขายบ้านเพื่อย้ายกลับประเทศ เราก็เลยรีโนเวตภายในใหม่โดยมองไปถึงอนาคตเลยว่าจะอยู่บ้านนี้ต่อไปอย่างไรอีกหลายปีแบบไม่ต้องมาปรับเปลี่ยนอะไรแล้ว”


ลดจำนวนชั้น เพิ่มความโปร่ง
ด้วยแปลนในบ้านมีฟังก์ชันเป็นแนวตั้งสลับไปมาทั้งหมด 7 ชั้น บนพื้นที่ใช้สอยราว 430 ตารางเมตร โดยคุณพร้อมและคุณเก๋ต้องการเปิดส่วนใช้งานหลักบริเวณชั้นล่างให้โปร่งแบบโอเพ่นแปลน จึงตัดสินใจลดจำนวนออกไป 1 ชั้น เพื่อให้ห้องนั่งเล่นมีฝ้าเพดานที่ยกสูงโปร่งแบบดับเบิลวอลลุ่ม ดูสบายตา
คุณพร้อมเล่าถึงแนวคิดของการปรับเปลี่ยนพื้นที่นี้ว่า “เพราะสถาปนิกได้ซ่อนเสาโครงสร้างไว้ในตัวอาคารอยู่แล้ว ทำให้เราสามารถเปิดสเปซได้ แต่ต้องย้ายบันไดเดิมที่อยู่ตรงทางเข้าออกแล้วทำบันไดใหม่ไว้กลางบ้านให้สูงโปร่งไปถึงชั้นบน เชื่อมพื้นที่ระหว่างชั้นและเปิดรับแสง แต่ละชั้นก็ยังโปร่งด้วยผนังกระจกใสทำให้ทุกชั้นสามารถมองเห็นกันได้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเรา เพราะทำให้รู้สึกว่าได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอด แม้จะทำกิจกรรมคนละอย่างหรืออยู่กันคนละชั้น แต่ก็ยังสัมผัสถึงความอบอุ่นของบ้านและของครอบครัว”




แยกชั้นแยกฟังก์ชันที่แตกต่างกัน
เจ้าของบ้านกำหนดให้แต่ละชั้นมีฟังก์ชันสอดคล้องและรับกับไลฟ์สไตล์ รวมถึงไล่ระดับความเป็นส่วนตัวจากชั้นล่างสู่ชั้นบน เริ่มจากห้องนั่งเล่น-รับแขกบริเวณชั้นล่างที่มีโซฟาขนาดยาวสีสว่างวางเป็นรูปทรงตัวแอล (L) พร้อมกับสตูล อาร์มแชร์ และเก้าอี้ให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย มีแม้กระทั่งชิงช้าที่แขวนติดฝ้าเพดานในบ้านไว้ให้นั่งเล่นตามความต้องการของคุณเก๋
“เราสองคนก็ชอบอยู่กับธรรมชาติ ชอบลมชอบแสงแบบไม่ต้องเปิดแอร์ตลอดก็ได้ เลยทำโซนนั่งเล่นให้เชื่อมต่อกับภายนอกได้ ซึ่งปกติเราชอบเปิดบ้านรับเพื่อน ๆ เสมอ เวลามากันเยอะ ๆ ก็สามารถขยายไปถึงชานด้านนอกที่ติดกับสระว่ายน้ำได้เลย แล้วตกแต่งด้านในสไตล์โมเดิร์นผสมสแกนดิเนเวียนในสีโมโนโทนให้ดูผ่อนคลายสบายตา คิดว่าน่าจะมาจากที่คุณพ่อผมเป็นลูกครึ่งเดนมาร์กทำให้รู้สึกชอบดีไซน์ทางสแกนอยู่แล้ว”





ขึ้นมาสู่ห้องรับประทานอาหารที่จัดวางด้วยโต๊ะไม้ขนาดยาวดูอบอุ่นกลมกลืนไปกับพื้นไม้ ขณะที่ส่วนครัวบิลท์อินเป็นสไตล์โมเดิร์นเรียบเท่ในโทนสีดำเงา
“ตอนแรกเราคิดจะใช้สเตนเลสแต่กลัวเรื่องรอยขีดข่วนก็เลยเปลี่ยนเป็นหินที่ดูเรียบมาก ๆ ส่วนบิลท์อินก็ดีไซน์เรียบแบบไม่ต้องมีมือจับเลย เพราะเราชอบความเนี้ยบความเป๊ะ ฟังก์ชันทุกอย่างต้องพอดีกับไลฟ์สไตล์ ทั้งระดับความสูงเคาน์เตอร์ก็ต้องพอดีกับเราสองคนที่เป็นคนตัวสูง และก็ยังออกแบบซ่อนพวกปลั๊กและสายไฟรกตาต่าง ๆ ให้อยู่ในตู้ให้หมด เพื่อให้ดูสบายตาน่าใช้งาน โดยปกติผมชอบทำอาหารโดยมีคุณเก๋เป็นคนรอชิมอยู่ข้าง ๆ เสมอ”





ขยับขึ้นมาอีกชั้นก็จะเป็นฟิตเนสที่จัดวางเรียงอุปกรณ์ออกกำลังกายต่าง ๆ ให้เป็นเหมือนเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน โดยทั้งคู่ยังออกแบบให้สามารถย้ายหรือเลื่อนเมื่อต้องการพื้นที่กว้างสำหรับโยคะหรือปรับเปลี่ยนการใช้งานให้หลากหลายขึ้นได้ ก่อนจะขึ้นมาสู่ห้องทำงานของคุณพร้อมที่มีห้องสปาของคุณเก๋อยู่ใกล้ ๆ กัน
“เดิมทีตรงนี้เป็นห้องนอนแต่เราเปลี่ยนให้เป็นห้องทำงานที่มีแสงธรรมชาติเข้าถึงผ่านผนังกระจกและก็มองออกไปเห็นพื้นที่สีเขียว ช่วยให้ผ่อนคลายได้ดี เพราะผมใช้เวลาอยู่ในห้องทำงานค่อนข้างมาก”





พื้นที่ส่วนตัวบนสวรรค์ชั้น 7
สองชั้นบนสุดของบ้านยังกั้นแยกด้วยประตูอัตโนมัติเพื่อบอกถึงระดับความเป็นส่วนตัวสูงสุด โดยเริ่มจากห้องน้ำขนาดใหญ่กับห้องแต่งตัว ก่อนจะเข้าสู่ห้องนอน
“เราออกแบบโซนนี้ให้เหมือนเพ้นต์เฮ้าส์ที่มีครบทุกอย่างมากกว่าแค่ห้องนอน ทั้งโซฟานั่งเล่น แพนทรี่ และที่ออกกำลังกายเล็ก ๆ โดยมี Air Flow ที่ช่วยการระบายอากาศได้ดี กับระเบียงสองด้านให้ออกมานั่งเล่นรับลมธรรมชาติได้ เราเคยต้องกักตัวช่วงโควิด-19 อยู่ 2 ครั้ง อยู่แค่โซนนี้ซึ่งก็รู้สึกสบายมากเหมือนได้ฮันนีมูนสองรอบเลย” (หัวเราะ)

Home is where the heart is
เป็นประโยคที่ให้ความหมายจริงจังสำหรับคุณเก๋มาก เพราะเธอบอกว่าบ้านหลังนี้เป็นของขวัญวันครบรอบแต่งงานปีแรกที่คุณพร้อมมอบให้ บ้านจึงเป็นตัวแทนความรักที่สวยงามและใช้งานได้จริง
“เราเชื่อว่าบ้านต้องไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียว แต่ต้องอยู่ได้สบายด้วย ก็เลยลงดีเทลกับทุกจุดค่อนข้างมาก สิ่งจำเป็นคือแสงธรรมชาติต้องเข้าถึงทุกห้อง ต้องมีที่เก็บของไว้ทุกชั้น ตรงไหนทำตู้ได้ก็ทำ เวลาหยิบจับของใช้แล้วก็เก็บให้เรียบร้อย มันจะทำให้บ้านดูสบายตาสบายใจตลอดเวลา และก็สามารถจัดหรือเปลี่ยนของตกแต่งไปตามเทศกาลได้ เช่น เปลี่ยนภาพศิลปะ ดอกไม้ หรือหมอนอิง ทำให้เราสนุกกับการอยู่บ้านได้โดยไม่รู้สึกเบื่อเลย”
ที่สำคัญสำหรับคุณเก๋คือบ้านยังเป็นเหมือนความรักที่ให้พลังชีวิตด้วยเช่นกัน “เก๋ว่าบ้านคือที่พักผ่อนปลอดภัย ตั้งแต่มาอยู่นี่รู้สึกเลยว่าทุกวันเวลากลับบ้านเหมือนมีคนรอเราอยู่ ก่อนนอนได้พูดราตรีสวัสดิ์กับคนที่เรารัก ตื่นมาก็เจอคนที่อยากเจอที่สุด ทำให้เรารู้สึกสดชื่น ปลอบประโลมจิตใจให้พร้อมออกไปเผชิญโลกในทุก ๆ วัน”
เจ้าของ-ตกแต่ง : คุณชลลดา – คุณพร้อม สิริสันต์
สถาปนิก : Robert G. Boughey
ออกแบบ : DWP (Design Worldwide Partnership)
เรื่อง : ภัทรสิริ โชติพงศ์สันติ์
ภาพ : อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม, กานต์ชนก บำรุงสุข
สไตล์ : Suntreeya
ทำความรู้จักกับ บ้านเล่นระดับ กัน
บ้านเหล็กเล่นระดับที่แอบซ่อนความเป็นส่วนตัว
บ้านสีขาวริมสวนของคุณเต้ย-จรินทร์พร