เชิญชวนคนไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งแห่งความภาคภูมิใจ ที่ประเทศไทยนำศักยภาพด้านการแพทย์ไปจัดแสดงบนเวทีโลกในงาน EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสเห็นประเทศไทยไปแสดงศักยภาพในด้านต่างๆ บนเวทีระดับโลกอยู่บ่อยครั้งและในครั้งนี้ถือว่าเป็นบันทึกหน้าใหม่ของวงการแพทย์และสาธารณสุขไทย ที่จะได้ไปจัดแสดงในงานนิทรรศการระดับโลก EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น นอกจากจะได้ไปโชว์ศักยภาพของประเทศไทยแล้ว ยังได้เผยแพร่สถาปัตยกรรม ศิลปวัฒนธรรม รวมถึงมนต์เสน่ห์ของไทยในด้านต่าง ๆ สู่สายตาชาวโลกอีกด้วย
ภายในงานจะได้พบกับ ศิลปะสถาปัตยกรรมที่งามสง่า อย่างอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ซึ่งตัวอาคารได้ออกแบบโดยนำศิลปะและสถาปัตยกรรมไทยโบราณให้ผสานเข้ากับวิธีก่อสร้างสมัยใหม่ ใช้เทคนิคย่อมุมที่อยู่บนยอดอาคารมณฑป ซึ่งเป็นลักษณะ “ทรงจอมแห” เป็นรูปทรงของหลังคา
และด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ตั้งอาคาร ซึ่งมีหน้าแคบและลึกยาว รูปทรงอาคารในครั้งนี้จึงถูกออกแบบให้เป็นทรงครึ่งจั่วประกอบกับการใช้ผนังกระจกขนาดใหญ่ขนาบข้างอาคารยาวตลอดแนวเป็นการสร้างเทคนิคภาพสะท้อน เมื่อมองจากด้านหน้าทางเข้าหลักทำให้เห็นความเป็นสถาปัตยกรรมไทยที่สมบูรณ์แบบโดดเด่นสะดุดตา ทำให้อาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ในครั้งนี้งดงามทันสมัยแตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา
ในส่วนบริเวณด้านในได้จัดแสดงนิทรรศการจาก 1 สู่ 1,000,000 ที่จะนำประเทศไทยมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพโลก (Medical and Wellness Hub) ประกอบด้วยโซน
• 1 หมุดหมายสุขภาพโลก
ปักหมุดอาคารนิทรรศการไทย ร่วมทำสัญลักษณ์ถ่ายภาพเช็คอินเพื่อแชร์ให้ทั่วโลกได้รู้จักดินแดนแห่งความกินดี อยู่ดีสไตล์ไทยๆ โดยมี “น้องภูมิใจ” เป็นมาสคอตตัวแทนประเทศไทยรอต้อนรับทุกคนอย่างเป็นมิตร
• 10 มนต์เสน่ห์ของประเทศไทย
นำเสนอความงดงามของธรรมชาติ ภูมิปัญญา สมุนไพรไทย มนต์เสน่ห์ของประเทศไทย ความเป็นเลิศด้านการแพทย์ และรอยยิ้มของผู้คน ผ่านการจัดแสดงแบบ Immersive Experience ภายใน โรงภาพยนตร์ Wisdom of life Immersive Theater
• 100 ศักยภาพสาธารณสุขไทย
นำเสนอเรื่องราวการเป็นศูนย์กลางสุขภาพโลกของไทยอย่างครบวงจร ผ่านวิดีทัศน์ “Eye Opener เปิดโลกระบบสาธารณสุขไทย” ควบคู่กับวัตถุจัดแสดงกว่า 100 สิ่ง ที่สื่อถึงศักยภาพของระบบสาธารณสุขไทย ซึ่งจะพาผู้ชมท่องไปในโลกสาธารณสุขไทยที่ประกอบไปด้วย Medical service hub สถานบริการรักษาพยาบาลแบบครบวงจรที่ได้รับการรับรองคุณภาพตามมาตรฐานระดับสากล Academic hub การเสริมสร้างศักยภาพ ในการแข่งขันของประเทศไทยด้านการแพทย์และการวิจัย Wellness hub สถานบริการที่รองรับการพักผ่อนเพื่อรักษาสุขภาพที่เน้นการฟื้นฟูและรักษาสุขภาพ รวมทั้ง Product Hub ศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ
• 1,000 สถานบริการทางการเเพทย์
นำเสนอศักยภาพทางการแพทย์และการบริการของไทย ที่ได้มาตรฐานในระดับสากล ผ่านทัชสกรีนที่สามารถเข้าถึงการรักษา 15 กลุ่มโรคที่นักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์นิยมมารักษาที่ไทย ตลอดจนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของไทย รวมไปถึงการให้บริการด้านเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว (Travel Medicine) สำหรับกลุ่มนักเดินทางท่องเที่ยว โดยให้บริการดูแลสุขภาพทั้งก่อนเดินทาง ระหว่างเดินทาง และหลังจากเดินทาง เพื่อลดการเจ็บป่วย ลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพและการเสียชีวิต ทำให้และสามารถเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งสามารถสัมผัสประสบการณ์ ผ่อนคลายผ่านห้องจัดแสดง “ท่วงทำนองแห่งสุขภาพดีแบบไทย” ตามหลักเเพทย์เเผนไทย
• 10,000 เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ
เรียนรู้เรื่องราววัตถุดิบและอาหารไทย ผ่านโซนจัดแสดงต่างๆ ได้แก่ “เกมรังสรรค์เมนูสุขภาพสไตล์คุณ” ผ่าน Art Wall Installation พร้อมรับชม “อาหารไทยติดอันดับโลก” ผ่าน Interactive Table ที่ให้ผู้เล่นสามารถเลือกหยิบจานอาหารวางบนโต๊ะ จะปรากฏภาพของสมุนไพรพร้อมสรรพคุณลงมายังจานและกลายเป็นภาพของเมนูอาหารที่ติดอันดับโลก เช่น ผัดกะเพรา ผัดไทย มัสมั่น ฯลฯ ซึ่งเป็นเมนูที่สามารถฟิวชั่นกับอาหารชาติอื่นๆ ได้
• 100,000 ผลิตภัณฑ์สร้างสุขภาพดี
พื้นที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากประเทศไทย รวมถึงโปรแกรมท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพที่ทุกคนล้วนเข้าถึงสุขภาพดีในแบบไทยๆ ได้
• 1,000,000 รอยยิ้มแห่งความประทับใจ
พื้นที่รวบรวมล้านความรู้สึกประทับใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ได้มีส่วนร่วมแบ่งปันรอยยิ้มให้กับคนทั่วโลก ซึ่งในโซนนี้ได้เปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดแสดงภายในอาคารนิทรรศการไทยผ่าน กิจกรรม Thai Smile @ Expo 2025 ส่งยิ้มไทยไปเอ็กซ์โป2025 เพียงโพสภาพรอยยิ้มแห่งความประทับใจใน Facebook หรือ Instagram ของตนเอง พร้อมติดแฮชแท็ก #thaismileatexpo2025 และ #ยิ้มไทยไปเอ็กซ์โป2025 ตั้งค่าโพสต์เป็นสาธารณะ และแท็กโพสต์มายัง FB: Thailand Pavilion World Expo 2025 ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 5 มีนาคม 2568
หลังจากนั้นทางทีมงานจะทำการคัดเลือกภาพที่ตรงตามข้อกำหนดและนำมาเปิดโหวตในช่องทาง FB: Thailand Pavilion World Expo 2025 ระหว่างวันที่ 6 – 31 มีนาคม 2568 ภาพใดที่มียอดไลค์ จากโพสต์ของเพจ FB: Thailand Pavilion World Expo 2025 มากที่สุด จะได้รับ ตั๋วบินลัดฟ้าสู่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น พร้อมสิทธิพิเศษเข้าชมอาคารนิทรรศไทยในงาน Expo 2025 ฟรี! ประกาศผลผู้ได้รับรางวัล วันที่ 5 เมษายน 2568
โดยตลอดการจัดงานมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยร่วมสมัยที่จะมาสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจและความประทับใจแก่ผู้ที่มาร่วมชมงาน เพื่อผลักดัน Soft Power เผยแพร่ความเป็นไทยให้แก่ผู้มาเข้าชมทั่วโลก ประกอบไปด้วย
การแสดงประจำอาคารแสดงประเทศไทย การแสดงประจำวันของอาคารแสดงประเทศไทย จัดขึ้นเพื่อดึงดูดผู้เข้าชมงานสู่อาคารประเทศไทยและให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสถึงบรรยากาศ และเอกลักษณ์ในแบบไทย นำเสนอภายใต้แนวคิด ยิ้มสยามงามสู่สังคมโลก เผยแพร่วัฒนธรรม ประเพณี และเสน่ห์ที่หลากหลายผ่านการแสดงที่สลับหมุนเวียนกันไปในแต่ละวัน สร้างความสนุกและประทับใจให้แก่ผู้มาเข้าชมทั่วโลก รวมถึงการแสดงแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมร่วมกับประเทศต่างๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ประเทศไทยกับนานาประเทศ
กิจกรรมวันพิเศษของอาคารแสดงประเทศไทย ได้แก่
พิธีเปิดอาคารนิทรรศการไทย จัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาเทศกาลสงกรานต์ และวันขึ้นปีใหม่ ของประเทศไทย จึงหยิบยก ‘เทศกาลสงกรานต์’ ซอฟต์พาวเวอร์ไทยขวัญใจชาวโลก มาสรรสร้างเป็น การแสดงในพิธีเปิดอาคาร เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุข และเป็นการอวยพรให้ทุกคนประสบ แต่ความโชคดี
วันเฉลิมฉลองของชาติไทย กิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นไทย เชื่อมสัมพันธไมตรีผ่านประเพณีอันงดงาม
นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการและกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ จากหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาร่วมจัดกิจกรรมทั้ง 6 เดือนตลอดการจัดงาน
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์แห่งความภาคภูมิใจในครั้งนี้ไปพร้อมๆกัน ด้วยการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และไปเยี่ยมชมอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ในงาน EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN ระหว่างวันที่ 13 เมษายน – 13 ตุลาคม 2568 ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ด้วยกัน เพื่อน ๆ ชาวบ้านและสวนทุกคนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวได้ที่ Website: Thailand Pavilion 2025 และทุกช่องทางโซเชียลมีเดียของ Thailand Pavilion World Expo 2025