บ้านริมน้ำต่างจังหวัด บรรยากาศดี เน้นเปิดบ้านรับลม

บ้านริมน้ำต่างจังหวัด บรรยากาศดีที่เน้นทำช่องเปิดเยอะๆ ทางเดินยาวๆ ทำให้การเดินไปยังส่วนต่างๆของบ้านไม่ต่างจากการเดินเล่น เพราะเพลินไปกับวิวธรรมชาติรอบๆบ้าน

ระเบียงบ้าน — มุมนั่งเล่นกลางแจ้งเหมาะกับการนั่งพักผ่อนเงียบๆตกแต่งในโทนสีขาวและเพิ่มความน่าสนใจด้วยการใช้เก้าอี้เหล็กดัดสไตล์วินเทจวางรวมกับร่มผ้าในพื้นเมือง

บ้านริมน้ำต่างจังหวัด รูปตัวไอ (I) ที่ยาวถึง 34 เมตรหลังนี้ เป็นบ้านของ คุณอรนาถ อาศนะเสน และลูกชาย คุณชวเนติ อาศนะเสน โดยทั้งสองต้องการพื้นที่ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง จึงตัดสินใจออกแบบบ้านโดยแบ่งอาคารเป็นสองฝั่ง และมีพื้นที่ใช้งานร่วมกันอยู่ตรงกลาง แรกเริ่มนั้นทั้งสองได้คุยกับช่างและวางผังอย่างที่คิดว่าเหมาะสมกับการใช้อาศัยของตน แต่เมื่อเริ่มก่อสร้างและเห็นเป็นโครงบ้านคร่าวๆก็พบว่าบ้านหลังนี้มีรูปลักษณ์ที่มองแล้วไม่ต่างไปจากตึกแถว จึงตัดสินใจให้ คุณณรงค์ โอถาวร เข้ามาช่วยออกแบบและปรับเปลี่ยนผังบางส่วน จนได้หน้าตาของบ้านที่ทุกคนพอใจ

มุมรับประทานอาหาร — ส่วนรับประทานอาหารในพื้นที่ระเบียงแบบกึ่งกลางแจ้ง มีไม้ระแนงกรองแสงในช่วงสายๆของวัน พอตกบ่ายเงาของบ้านก็จะช่วยบังแดดให้เราอาศัยร่มเงาได้อีก จึงนั่งเล่นได้ทั้งวัน

มุมนั่งเล่น — ทางเดินเข้าบ้านปูพื้นไม้ธรรมชาติแบบดิบๆ โดยมีหลังคาไม้ระแนงตลอดเส้นทางเดินปลูกไม้เลื้อยเกาะเกี่ยวเพื่อเพิ่มความเขียว ทำให้บ้านดูไม่แห้งแล้งจนเกินไป

ผนังเจาะช่องแสง — เจาะช่องแสงสำหรับวางเทียน แล้วปูพื้นด้วยพรมจากอินเดีย ทำให้มุมนี้มีกลิ่นอายแบบโมร็อกโกเจืออยู่บางๆ โดยเฉพาะยามโพล้เพล้นั้นสีของแสงเทียนจะทำให้ส่วนนั่งเล่นดูอบอวลด้วยบรรยากาศผ่อนคลายยิ่งขึ้น

เพิ่มความสดใสให้ห้องแพนทรี่ชั้นบนด้วยการใช้สีฟ้าสดทาเคาน์เตอร์และชั้นวางของ แล้วจัดวางชุดโต๊ะอาหารสีขาวที่มีท็อปโต๊ะไม้สีธรรมชาติคู่กับกลุ่มโคมไฟหลากสไตล์สีขาวที่สวยไม่ซ้ำใคร

“ตอนแรกเราคิดว่าสามารถทำกันเองได้ เพราะช่างก็มีอยู่แล้ว แต่พบว่ามีหลายจุดที่เราต้องหาข้อสรุปร่วมกัน รายละเอียดจุกจิกที่เกิดขึ้นนั้นมีตั้งแต่การปรับผังไปจนถึงการเลือกของตกแต่ง โทนสีห้อง จนบ้านเสร็จลงตัว สรุปคือเราคุยกับนักออกแบบตลอด ต้องขอบคุณคุณณรงค์มากเลยค่ะ”

คุณณรงค์พูดถึงการเข้ามาดูแลงานแบบที่มีการก่อสร้างไปแล้วว่า “ผมเข้ามาดูเรื่องหน้าตาของบ้านครับ ตอนแรกบานกรอบทั้งหมดเป็นเฟรมอะลูมิเนียม เราเสนอให้เปลี่ยนเป็นบานกรอบไม้สักทอง และดึงเอาไม้เข้ามาใช้ในการตกแต่งมากขึ้น เพื่อให้บ้านดูอบอุ่นและลดความกระด้างจากวัสดุที่ใช้อย่างอะลูมิเนียม เหล็ก อย่างเช่นไม้ระแนงกรองแสงของมุมรับประทานอาหาร หรือระเบียงชั้นบนที่ยื่นลอยออกมา ผมมองว่าไม้ยังสามารถดึงบรรยากาศบ้านให้รู้สึกน่าไว้วางใจได้ ไม่ว่าเราจะนำมาใช้กับบ้านรูปแบบใดก็ตาม”

ใช้มุ้งลวดและผ้าม่านแบบโปร่งบางเพื่อให้ลมพัดเข้ามายังมุมนี้ได้ตลอดเวลา แล้วเลือกใช้หน้าต่างสีดำเพื่อเน้นบานกรอบให้ดูชัดเจน ได้มุมมองไม่ต่างจากภาพแขวนที่เห็นภาพวิวที่มีชีวิตจากภายนอก

ผนังเก็บของ — ทางเดินชั้น 2 ทำผนังด้านหน้าเป็นชั้นเก็บของยาวตลอดแนว โดยออกแบบหน้าบานเป็นไม้ระแนงตีเว้นร่อง 5 เซนติเมตร ยาวจนสุดทางเดินและต่อเนื่องไปถึงฝ้าเพดาน สร้างมิติให้มุมทางเดินน่าสนใจยิ่งขึ้น

ออกแบบหิ้งพระแบบเรียบง่ายโดยใช้กล่องไม้อัดเจาะช่องวางพระพุทธรูปเป็นรูปใบหอก และทาสีเก็บความเรียบร้อย โดยทาสีให้เป๋นสีเดียวกับไม้ระแนงและตู้เพื่อให้ดูต่อเนื่องกัน

บริเวณทางเดินออกแบบให้มีหน้าต่างบานยาวจรดพื้น ยกระดับฝ้าเพดานให้สูง 2.80 เมตร จึงรับลมได้ทั่วทุกมุมห้อง แล้วติดม่านโปร่งยาวถึงพื้นเพื่อความสวยงาม

ตัวบ้าน 2 ชั้นหลังนี้ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 1 ไร่ โดยมีพื้นที่ใช้สอยภายในชั้นละ 250 ตารางเมตร ออกแบบตัวอาคารให้วางยาวเป็นตัวไอ (I) ที่เปิดรับลมได้ทุกห้อง จึงออกมานั่งเล่นรับลมธรรมชาติที่ชั้นล่างของบ้านได้ตลอดวัน พื้นชั้นล่างเลือกใช้ปูนขัดมันผสมสีไข่ไก่ ทำให้บ้านดูนุ่มนวลและอบอุ่นมากขึ้น แต่ละส่วนนั้นจะไม่มีผนังมาปิดกั้นเปิดเป็นพื้นที่โล่งเชื่อมกันไปหมด โดยกำหนดให้แปลนทิศตะวันตกเป็นพื้นที่ใช้งานร่วมกันอย่างส่วนรับประทานอาหาร ครัวไทย ห้องน้ำ และส่วนนั่งเล่น ทิศตะวันออกเป็นส่วนของห้องนอนแขกที่มีห้องน้ำแบบเปิดถึงกันทั้งสองห้อง

ชั้นบนแบ่งเป็นห้องนอน 2 ห้องที่อยู่กันคนละฝั่งของบ้านเพื่อความเป็นส่วนตัว โดยห้องคุณแม่เลือกใช้สีขาวเป็นสีหลัก แล้วจึงเปลี่ยนอารมณ์ให้สนุกขึ้นเมื่อก้าวเข้าไปในห้องน้ำสีเหลืองสดใส ส่วนห้องนอนลูกเป็นสีดำแซมสีแดงเลือดนกแบบที่เจ้าตัวชอบ มีส่วนนั่งเล่นและครัวแบบฝรั่งเป็นแกนกลางเพื่อทำกิจกรรมในครอบครัวร่วมกัน

ประตูห้องนอนออกแบบให้มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ คือ กว้าง 1.50 เมตร ใช้บานกรอบไม้สักและลูกฟักกระจกฝ้าเพื่อให้ได้แสงธรรมชาติ และคงความเป็นส่วนตัวเมื่อใช้งาน

ห้องนอนคุณแม่ใช้โทนสีขาวทั้งหมด ให้ความรู้สึกโรแมนติกด้วยเตียงไม้แกะสลักสี่เสาของเก่าประดับผ้าลูกไม้ลายหวาน เติมความหวานอีกนิดด้วยโต๊ะข้างเตียงแบบโบราณ

ตกแต่งส่วนแต่งตัวด้วยผ้าม่านลายทางที่ซ่อนส่วนเก็บเสื้อผ้าไว้ภายใน ลายเส้นของผ้าม่านทำให้เรารู็สึกว่าทางเดินดูสูงโปร่งมากขึ้น

เลือกทาห้องน้ำสีเหลืองสว่าง ช่วยสร้างความสดชื่นในยามเช้าได้เป็นอย่างดีและปูพื้นไม้จริงแบบเว้นร่องเพื่อให้น้ำระบายลงไปได้อย่างรวดเร็ว

ห้องนอนปูนเปลือย — ห้องนอนลูกชานตกแต่งให้มีบรรยากาศที่ดูแปลดตา เน้นของตกแต่งโทนสีแดงที่มีผิวสัมผัสนุ่มมืออย่างเดย์เบดผ้ากำมะหยี่สีแดงที่วางบนพื้นปูนผสมสีดำ เลือกใช้ผนังคอนกรีตเปลือยทำให้ห้องดูดิบนิดๆ

ศาลาริมน้ำที่ออกแบบให้กลมกลืนกับบริบทโดยรอบ โดยกำหนดตำแหน่งให้อยู่ริมบึงที่ต้องค่อยๆไต่เนินทางเดินลงไป จึงสามารถนั่งกิมลมชมวิวและแกว่างเท้าเล่นน้ำได้ในวันสบายๆ ตัวศาลาเสริมความแข็งแรงโดยใช้เสา ค.ส.ล.เป็นฐานรากใต้น้ำ แล้วใช้เสาไม้ต่อโครงสร้างส่วนที่อยู่เหนือน้ำเพื่อยืดอายุการใช้งาน ทำระแนงกันแดดด้วยไม้ไผ่รวกบนคานไม้ให้ดูกลมกลืนกับธรรมชาติ สุดท้ายติดผ้าม่านที่ออกแบบให้ถอดเก็บได้เมื่อไม่มีใครเข้าพักเป็นเวลานาน

ใช้เสาไม้ขนาด 4×4 นิ้ว ทำระแนงไม้ด้านบน แล้วเลือกใช้ราวจับระเบียงเป็นไม้เช่นกัน ก่อนจะปรับซี่ลูกกรงราวระเบียงเป็นเหล็กเส้นทาสีน้ำมันวางเรียงสลับกันเพื่อให้ดูเหมือนลายเส้นที่ขีดไปมา น่าสนใจกว่าแบบวางตรงๆ

เตาบาร์บีคิว — ก่อเตาย่างบาร์บีคิวรูปวงกลมซ้อนกันสองชั้นเพื่อลดความร้อนขณะใช้งาน โดยเว้นช่องว่างไว้ 1 ฟุต สำหรับเก็บขึ้เถ้าจากเตา แค่นี้ก็นั่งทำอาหารโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนแล้ว

การสร้างบ้านแต่ละหลังมีสิ่งต่างๆที่ต้องเรียนรู้ ตั้งแต่การคุยกับนักออกแบบ คุมงานกับช่าง และการปรึกษากับคนในครอบครัว เพื่อให้ได้บ้านที่ตอบสนองความต้องการทั้งในแง่การใช้งานและความสวยงามได้อย่างเต็มที่