ต้นแก้วเจ้าจอม

แก้วเจ้าจอม ต้นไม้มงคลมีกลิ่นหอมให้ร่มเงา ที่ปลูกได้ทั้งในและนอกตัวบ้าน

ต้นแก้วเจ้าจอม
ต้นแก้วเจ้าจอม

ต้น แก้วเจ้าจอม มีชื่อวิทยาศาสตร์ : Guaiacum officinale L เป็นต้นไม้ในวงศ์ Zygophyllaceae จัดอยู่ในประเภทไม้ต้นขนาดเล็กความสูงอยู่ที่ประมาณ 10 – 15 เมตร มีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลาง, อเมริกาใต้ และในรัฐฟลอริดาของสหรัฐอเมริกา ยังเป็นดอกไม้ประจำชาติจาไมก้า และอยู่ในบัญชีที่ 2 ของ CITES

ลักษณะโดยทั่วไปลำต้นมีเนื้อไม้แข็ง ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ ออกตรงข้ามมี 2 พันธุ์ คือ ใบย่อย 2 คู่และ 3 คู่ ใบย่อยรูปไข่กลับหรือรูปรี ขนาดไม่เท่ากัน กว้าง 1- 2.5 เซนติเมตร ยาว 1.5 – 2.5 เซนติเมตร ปลายใบมน โคนใบสอบ

ด้านผลมีลักษณะกลมแบน ขนาดประมาณ 1.5 เซนติเมตร ปลายผลมีติ่งแหลม เปลือกแข็ง ชอบดินร่วนระบายน้ำดี และต้องการแสงแดดเต็มวัน ส่วนน้ำต้องการปานกลาง ขยายพันธุ์ค่อนข้างยาก นิยมใช้วิธีตอนกิ่งและเพาะเมล็ด

แก้วเจ้าจอม
แก้วเจ้าจอม

ดอกมีกลิ่นหอม

ดอกของแก้วเจ้าจอมออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบใกล้ปลายยอด กลีบดอก 5 กลีบ ดอกบานมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 – 2.5 เซนติเมตร บานวันแรกสีฟ้าอมม่วง จากนั้นสีจะซีดลงเป็นสีขาว เกสรสีเหลืองเห็นเด่นชัด มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกดอกเดือนสิงหาคม – มกราคม

ดอกของต้นแก้วเจ้าจอมจะเริ่มส่งกลิ่นหอม ในช่วงเที่ยง ไปจนถึงช่วงเย็น แต่กลิ่นจะไม่แรง หอมอ่อน ๆ จาง ๆ เบาบาง บางต้นต้องดมใกล้ๆจึงจะได้กลิ่น มีบางคนบอกว่า กลิ่นหอมคล้ายวานิลลา ช็อกโกแลต แป้ง หรือ กลิ่นเครื่องสำอาง

ต้นไม้มงคล

แก้วเจ้าจอม จัดอยู่ในกลุ่มต้นไม้มงคลตามความเชื่อ เนื่องจากมีชื่อมงคล นามมงคล ว่า เจ้าจอม (เพื่อระลึกถึงรัชกาลที่ 5) ตามประวัติมีถิ่นกำเนิดในหมู่เกาะเวสต์อินดีส พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนำต้นพันธ์มุาจากประเทศอินโดนีเซียเมื่อปี พ.ศ. 2451 และทรงปลูกไว้ที่พระราชอุทยานสวนสุนันทา

เดิมชาววังเรียกว่า “ต้นน้ำอบฝรั่ง” (เพราะมีกลิ่นคล้ายน้ำอบ) ต่อมาพระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราช ปดิวรัดา ประทานชื่อใหม่ว่า “แก้วจุลจอม” ในปี พ.ศ. 2501 ศาสตราจารย์เต็ม สมิตินันทน์ ได้ตั้งชื่อใหม่ว่า “แก้วเจ้าจอม” ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้เรียกอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน เป็นพรรณไม้ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

ปลูกได้ทั้งในและนอกตัวบ้าน

ต้นแก้วเจ้าจอม เหมาะปลูกเป็นไม้ประดับให้ร่มเงา ส่วนใหญ่นิยมปลูกนอกบ้าน มีทรงพุ่มกลมสวยงาม ใช้จัดสวนได้ดี มีความสวยงามเป็นสง่า ปลูกเป็นไม้ประดับ ทั่วไป หากออกดอกบานสะพรั่งก็ดูงดงาม แต่ไม่ควรปลูกติดชิดตัวบ้านหรืออาคารมากเกินไป เนื่องจากพุ่มอาจแผ่ออกมากระทบ คารเผื่อเพื้นที่ให้ แก้วเจ้าจอม ได้แผ่กิ่งออก

นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังมีความนิยมในการนำ แก้วเจ้าจอม ต้นเล็กๆไปปลูกในบ้านหรืออาคาร โดยเฉพาะร้านคาเฟ่หรือร้านอาหารที่ต้องการเพิ่มความร่มรื่น ซึ่งมีข้อแนะนำคือต้องมีช่องหลังคาโปร่งแสงเพื่อให้แสงแดดส่องมาถึงต้นแก้วเจ้าจอมตลอดเวลา เพราะต้นไม่ชนิดนี้ชอบแสงแดด

บทความที่เกี่ยวข้อง

สายมูพลาดไม่ได้กับ “ 50 ต้นไม้มงคล ” ตามความเชื่อของไทย

กวักมรกต ต้นไม้ในบ้านที่มีอันตรายกว่าที่คิด

ต้นไม้กิ่งเปราะ หักง่าย อันตราย

ติดตามไอเดียบ้านและสวนเพิ่มเติมได้ทาง : บ้านและสวน Baanlaesuan.com