10 แคคตัสด่าง สวยโดดเด่นน่าหลงใหล

รวม แคคตัสด่าง ที่หลายๆคนอยากมีไว้ดูแล ทั้งสวยและน่าหลงใหล และบางสายพันธุ์หายากอีกด้วย

แคคตัสด่าง

ดิสโกแคคตัส ฮอร์สติอาย (ด่าง)  D. horstii (variegated)           แคคตัสด่าง

ในเมืองไทยนิยมเรียกกันว่า ‘ดิสโก้แคคตัส’ ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก discus ที่แปลว่า จานหรือแผ่นกลม สื่อถึงลักษณะต้นที่กลมเตี้ย  มีอยู่ 7 ชนิด ทุกชนิดเป็นพืชที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ในธรรมชาติ ได้รับการคุ้มครองจากอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์(CITES) โดยจัดให้อยู่ในบัญชีที่ 1 คือห้ามซื้อขายระหว่างประเทศโดยเด็ดขาด ยกเว้น เพื่อการศึกษา วิจัย หรือเพาะพันธุ์ ซึ่งต้องได้รับการยินยอมจากประเทศที่นำเข้า

แคคตัสด่าง

แอสโตรไฟตัม แอสทีเรียส ‘ฟุคุเรียว’ (ด่าง)  A. asterias ‘Fukuryu’ (variegated)

สกุลแอสโตรไฟตัม สกุลนี้มีกระจายพันธุ์อยู่ตามพื้นที่แห้งแล้งในเม็กซิโกและทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา ปลูกเลี้ยงและให้ดอกง่าย แต่ใช้เวลานานกว่าจะออกดอก ในธรรมชาติขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดเพียงอย่างเดียว แต่สามารถใช้วิธีอื่นได้ เช่น การปาดยอดให้แตกต้นใหม่หรือต่อตอ เพื่อย่นระยะเวลาให้โตเร็วขึ้น

แคคตัสด่าง

แอสโตรไฟตัม แอสทีเรียส ‘กิ๊กโกะ’ (ด่าง)  A. asterias ‘Kikko’ (variegated)

สกุลแอสโตรไฟตัม สกุลนี้มีกระจายพันธุ์อยู่ตามพื้นที่แห้งแล้งในเม็กซิโกและทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา ปลูกเลี้ยงและให้ดอกง่าย แต่ใช้เวลานานกว่าจะออกดอก ในธรรมชาติขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดเพียงอย่างเดียว แต่สามารถใช้วิธีอื่นได้ เช่น การปาดยอดให้แตกต้นใหม่หรือต่อตอ เพื่อย่นระยะเวลาให้โตเร็วขึ้น

แคคตัสด่าง

แอสโตรไฟตัม ไมริโอสติกมา (ด่าง)  A. myriostigma (variegated)

สกุลแอสโตรไฟตัม สกุลนี้มีกระจายพันธุ์อยู่ตามพื้นที่แห้งแล้งในเม็กซิโกและทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา ปลูกเลี้ยงและให้ดอกง่าย แต่ใช้เวลานานกว่าจะออกดอก ในธรรมชาติขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดเพียงอย่างเดียว แต่สามารถใช้วิธีอื่นได้ เช่น การปาดยอดให้แตกต้นใหม่หรือต่อตอ เพื่อย่นระยะเวลาให้โตเร็วขึ้น

แอริโอคาร์ปัส ‘ก๊อดซิลลา’ (ด่าง)  Ariocarpus ‘Godzilla’ (variegated)

ในธรรมชาติพบขึ้นอยู่ตามพื้นดินปะปนกับก้อนหิน โดยฝังตัวเองลงไปในพื้น และโผล่ออกมาเฉพาะส่วนหน้าใบให้สัมผัสกับอากาศและแสงแดด จนได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘ก้อนหินที่มีชีวิต’ ชอบอุณหภูมิค่อนข้างเย็น ในเมืองไทยให้ดอกได้ดีช่วงปลายปีจนถึงต้นปี โดยเฉพาะช่วงที่มีอากาศเย็นจัด ดอกบานเพียง 1-2 วัน แต่ถ้าอากาศไม่ร้อนก็จะบานได้นานขึ้น

แอริโอคาร์ปัส ลอยดิอาย (ด่าง)  A. fissuratus ‘Lloydii’ (variegated)

ในธรรมชาติพบขึ้นอยู่ตามพื้นดินปะปนกับก้อนหิน โดยฝังตัวเองลงไปในพื้น และโผล่ออกมาเฉพาะส่วนหน้าใบให้สัมผัสกับอากาศและแสงแดด จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ก้อนหินที่มีชีวิต” ชอบอุณหภูมิค่อนข้างเย็น ในเมืองไทยให้ดอกได้ดีช่วงปลายปีจนถึงต้นปี โดยเฉพาะช่วงที่มีอากาศเย็นจัด ดอกบานเพียง 1-2 วัน แต่ถ้าอากาศไม่ร้อนก็จะบานได้นานขึ้น

แอสโตรไฟตัม ออร์นาตัม (ด่าง)  A. ornatum (variegated)

สกุลแอสโตรไฟตัม สกุลนี้มีกระจายพันธุ์อยู่ตามพื้นที่แห้งแล้งในเม็กซิโกและทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา ปลูกเลี้ยงและให้ดอกง่าย แต่ใช้เวลานานกว่าจะออกดอก ในธรรมชาติขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดเพียงอย่างเดียว แต่สามารถใช้วิธีอื่นได้ เช่น การปาดยอดให้แตกต้นใหม่หรือต่อตอ เพื่อย่นระยะเวลาให้โตเร็วขึ้น

โอบรีโกเนีย (ด่าง)  O. denegrii (variegated)

สกุลโอบรีโกเนีย มีงานวิจัยพบว่า ภายในลำต้นมีสารอัลคาลอยด์เช่นเดียวกับแคคตัสสกุล Lophophara พืชสกุลนี้ชอบดินระบายน้ำดีแต่โตช้า

แอสโตรไฟตัม ไมริโอสติกมา ‘ฟิคุริว’ (ด่าง)  A. myriostigma ‘Fukuryu’ (variegated)

สกุลแอสโตรไฟตัม สกุลนี้มีกระจายพันธุ์อยู่ตามพื้นที่แห้งแล้งในเม็กซิโกและทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา ปลูกเลี้ยงและให้ดอกง่าย แต่ใช้เวลานานกว่าจะออกดอก ในธรรมชาติขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดเพียงอย่างเดียว แต่สามารถใช้วิธีอื่นได้ เช่น การปาดยอดให้แตกต้นใหม่หรือต่อตอ เพื่อย่นระยะเวลาให้โตเร็วขึ้น

อูเบลแมนเนีย เพคตินิเฟอรา, แผงคอม้า (ด่าง)  U. pectinifera (variegated)

เป็นแคคตัสที่ใกล้สูญพันธุ์จากธรรมชาติ เพราะมีการกระจายพันธุ์ในบริเวณแคบๆ แถบรัฐมีนัสชีไรส์ ประเทศบราซิล


วิธีกำจัดเพลี้ยหอยในกระบองเพชร

9 ข้อควรรู้ สำหรับมือใหม่ วิธีปลูกกระบองเพชรหรือแคคตัสชนิดต่างๆ

ติดตามไอเดียบ้านและสวน เพิ่มเติมได้ทาง : บ้านและสวน Baanlaesuan.com