วิธีไล่ “สัตว์มีพิษ” อันตรายใกล้บ้าน
สัตว์มีพิษ ไม่ได้อยู่ไกลตัวพวกเราเลย และเชื่อว่าช่วงนี้หลายพื้นที่มีโอกาสได้พบเจอมากขึ้น ด้วยสภาพฝนฟ้าอากาศที่กระหน่ำลงมา พวกเขาย่อมต้องหาที่พักพิงเป็นธรรมดา แต่ถ้าที่หลบพักของเหล่าสัตว์พิษนั้นเป็น “บ้านของเรา” ล่ะ
![]()
หน้าฝนแบบนี้ มาดูวิธีป้องกัน วิธีไล่ สัตว์มีพิษน้อยใหญ่ ที่ชอบแวะเวียนมาเยี่ยมบ้าน เพื่อขอหลบฝน ไม่ว่าจะ งู ตะขาบ หรือจะต่อ ผึ้ง ซึ่งล้วนมีพิษ และอาจก่ออันตรายถึงชีวิตได้
- งู
![]()
ไม่แปลกที่เรามักพบว่า “งู” ชอบเข้าบ้านในช่วงหน้าฝน ก็บ้านเป็นที่พักพิงหลบฝนได้เป็นอย่างดี ยิ่งรกยิ่งมืด ยิ่งชอบ แถมถ้ามีแหล่งอาหารชั้นยอดอย่าง หนู หรือสัตว์เล็ก น้องงูมาแน่นอน
“วิธีป้องกัน”
![]()
อย่าให้บ้านเรามี “หนู”
ในเมื่อ “หนู” คือสาเหตุใหญ่ที่เชื้อเชิญงูมา เราก็ไม่ควรให้มีหนูในบ้าน ดังนั้นเศษขยะต่างๆ มัดปากถุงและนำไปทิ้งให้เรียบร้อยทุกวัน รวมถึงท่อระบายเมื่อไม่ใช้งาน อาจหาก้อนอิฐ หิน มาปิดท่อซะ
![]()
บ้านสะอาด สวนไม่รก
เก็บกวาดทั้งภายในบ้านให้เรียบร้อย ของใต้ซิงค์ จัดระเบียบให้ดี มองเห็นได้ชัด อย่าให้มีซอกหลืบให้สัตว์มาหลบได้ และภายในสวนก็ควรตัดแต่งต้นไม้ สนามหญ้า ทางเดินไม่ให้รกเข้าไว้ พื้นที่รกและสงบเป็นที่อยู่ระดับห้าดาวสำหรับงู
![]()
กลิ่นฉุน กลิ่นกรด ถือเป็นของแสลง
งูไม่ถูกกับกลิ่นฉุนของ “น้ำมันก๊าด” กลิ่นกรดจาก “มะกรูด” ให้สร้างกลิ่นเหล่านี้โดยการพรมหรือวาง ตามจุดต่างๆ ที่งูมีโอกาสเลื้อยผ่าน ทางเข้าบ้าน หลังบ้าน มันจะทนกลิ่นไม่ไหว และไม่กล้าเหยียบเข้ามาเลย
Tips :
- การปลูก “ต้นลิ้นมังกร” ไว้ในบ้าน หรือวางตามมุมทางเดิน จะช่วยทำให้งูไม่เลื้อยเข้าบ้าน เพราะใบมีลวดลายคล้ายงู (ใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ อาจขึ้นอยู่กับประเภทของงู ไม่ลองก็ไม่รู้นะ)
- สังเกตจากเสียงของสัตว์เลี้ยง(น้องหมาน้องแมว) นั่นคือสัญญาณเตือนที่ดี เพราะเมื่อสัตว์เลี้ยงะส่งเสียงผิดปกติ พวกเขาอาจเจอกับภัยร้ายที่คืบคลานเข้ามาก็ได้
- การใช้ “น้ำมันก๊าด” ในการป้องกันงู ควรใช้อย่างระมัดระวัง ไม่ใช้ใกล้กับที่ที่อาจเกิดประกายไฟ รวมถึงไม่ควรใช้กับชักโครกเด็ดขาด เพราะจะฆ่าจุลินทรีย์ในถังบำบัดได้
“แก้ปัญหาเมื่อเจองู”
![]()
อยู่นิ่งๆ เคลื่อนไหวช้า อย่าทำร้ายเขา
งูเป็นสัตว์ที่มีประสาทสัมผัสไวมาก แต่โชคดีที่มันสายตาไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าบังเอิญเดินไปเจองูเข้า ให้เราอยู่นิ่งๆ คอยดูท่าที และค่อยๆ เดินออกห่างอย่างช้าๆ อย่าพยายามจะจับด้วยตัวของเราเอง ต้องให้เป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
Tip สังเกตงูเบื้องต้น “งูมีพิษ” ส่วนใหญ่หัวมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยม หัวจะโต และมีแม่เบี้ยทั้งเล็กและใหญ่ ส่วน “งูไม่มีพิษ” ส่วนใหญ่หัวจะมีลักษณะมนกลม ไม่โต แต่ไม่ว่ามีหรือไม่มีพิษ ก็ไม่เข้าใกล้ดีกว่า
![]()
โทรเรียกหน่วยกู้ภัย
โทร. 199 หน่วยกู้ภัย หรือโทร. 1784 สายด่วนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เรียกผู้มีประสบกาณณ์มาจัดการดีกว่า
2. ตะขาบ
![]()
“ความชื้น” เป็นสิ่งที่ตะขาบชื่นชอบ ช่วงนี้หน้าฝนยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ
“การป้องกันก่อนตะขาบเข้าบ้าน”
![]()
บ้าน อากาศถ่ายเท
ส่วนใหญ่ตะขาบจะมาตามท่อในห้องน้ำ และที่เปียกชื้น ต้องดูแลเก็บกวาดให้สะอาด จัดให้โล่งโปร่ง และภายในบ้านหรือห้อง ต้องทำให้อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่หมักหมมและก่อความชื้น ห้องน้ำควรทำความสะอาด และหมั่นเช็ดให้แห้งอยู่เสมอ
![]()
อุดรูและรอยแตกร้าว
รูหรือรอยแตกร้าวขนาดเล็กตามพื้น ผนังนี่ล่ะ ที่ตะขาบชอบใช้เดินทางและอยู่อาศัยได้ ดังนั้นต้องจัดการอุดปิดให้เรียบร้อย
“แก้ปัญหาเมื่อมีตะขาบ”
![]()
ปูนขาว
นำปูนขาวไปโรยตามจุดที่อับชื้น พื้นดิน โดยรอบๆ บ้าน ป้องกันไม่ให้ตะขาบเข้าบ้าน จะทำให้ตะขาบอพยพหนีไปในที่สุด
![]()
โซดาไฟ
นำโซดาไฟผสมกับน้ำ แล้วราดลงไปตามท่อระบายน้ำ ฤทธิ์กัดกร่อนและแสบร้อนของโซดาไฟจะช่วยขจัด … แต่อาจจะดูรุนแรงสักหน่อยสำหรับวิธีนี้
Tip
- ผลิตภัณฑ์ “กำจัดจัดแมลง” ที่มีจำหน่ายตามร้านวัสดุอุปกรณ์การเกษตร ก็สามารถใช้ โรยโดยรอบบริเวณบ้าน โรยโคนต้นไม้ ก็ช่วยไล่ตะขาบได้
- ผลิตภัณฑ์ “กำจัดเห็บหมัด” ก็ใช้โรยโดยรอบบริเวณบ้าน เพื่อไล่ตะขาบได้เช่นกัน
3. ผึ้งและตัวต่อ
![]()
แมลงตัวเล็ก มีพิษรุนแรง แถมยังจัดการยาก เพราะเดาใจกันยากเหลือเกิน แต่ไม่ต้องกังวล มาดูวิธีจัดการกับแมลงตัวน้อยได้อย่างปลอดภัย
“การป้องกันก่อนผึ้งหรือตัวต่อเข้าบ้าน”
![]()
แขวนถุงน้ำ ขวดน้ำ สิ่งของสะท้อนแสง
ด้วยดวงตาที่มีความสามารถพิเศษเฉพาะตัว เมื่อมันเห็นแสงสะท้อนวิบวับก็จะไม่เข้าใกล้ เพราะคิดว่าแสงเหล่านี้อาจเป็นอันตรายได้ มันจึงบินหนีไป
“แก้ปัญหาเมื่อมีผึ้งหรือตัวต่อ”
![]()
ติดหนึบด้วยกับดักกาว
นำแผ่นไม้หรือวัสดุแบนราบมาทากาวให้ทั่ว 1 ด้าน และติดอาหารไว้ด้านที่ทากาว จากนั้นนำไปวางและรอให้ติดกับดัก จึงนำไปทิ้งนอกบ้าน
![]()
ควันไฟ
ควันจากธูปหรือการเผาไหม้ สามารถไล่ผึ้ง/ตัวต่อให้บินหนีไปได้ แต่หากต้องการไล่ทั้งรัง ใช้กาบมะพร้าวแห้งจำนวนมาก มาสุมไว้ใต้รังแล้วจุดไฟ จะเกิดควันที่ทำให้แมลงตัวน้อยทนไม่ไหวเลยหล่ะ (หลีกเลี่ยงการไล่ในช่วงเช้า เพราะเป็นเวลาหาอาหาร)
![]()
สเปรย์ไล่แมลงสูตรธรรมชาติ
เพียงนำมาฉีดพ่นไล่เจ้าแมลง กลิ่นฉุนจากสเปรย์จะทำให้ผึ้งหรือตัวต่อ หรือสัตว์มีพิษอื่นๆ หนีไปได้โดยง่าย และไม่อันตรายต่อสวนของเราด้วย
![]()
จ้างบริษัทกำจัดแมลง
หากผึ้งหรือตัวต่อมาทำรังอยู่เป็นจำนวนมากควรให้บริษัทกำจัดแมลงมาจัดการ แต่บางบริษัทอาจใช้สารเคมีในการกำจัดแมลงตัวน้อยเหล่านี้
การไล่ สัตว์มีพิษ เหล่านี้ต้องใช้ความระมัดระวังให้มาก หากจัดการไล่เองไม่ได้ต้องเรียกผู้เชี่ยวชาญมาจัดการแทนจะดีกว่า พลาดไปจะเป็นเรื่องใหญ่ได้ แต่หากเราดูแลบ้านของเราให้สะอาดและเป็นระเบียบตั้งแต่แรกจะดีที่สุด กันไว้ก่อนจะได้ไม่ต้องลำบากทีหลังนะครับ
ติดตามเคล็ดลับและเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ facebook/myhomefc
บทความที่น่าสนใจ “วิธีกำจัดแมลงเม่า เมื่อบินเข้าบ้านเรา”
บทความที่น่าสนใจ “10 วิธีไล่ยุง อย่างปลอดภัย ไม่ใช้สารเคมี”
บทความที่น่าสนใจ “9วิธี “ไล่มด” ง่ายๆ จากของใกล้ตัว”
เรื่อง : เดโช วิเชียรพิทยา
ช่างถาพ : บุษกร บัวแย้ม
Stylist : ฑิตยา หาสตะนันทน์