บ้านสีขาว ริมทะเล สไตล์ Mid-century Modern

จากอาร์ตไดเร็กชั่นแบบเฟรมภาพยนตร์มาสู่มุมเท่ๆ ภายใน บ้านสีขาว ริมทะเล สไตล์ Mid-century Modern ของผู้กำกับหนังฉลาดเกมส์โกงและ One for the Road วันสุดท้ายก่อนบายเธอ

ความทรงจำและประสบการณ์จากช่วงชีวิตที่เติบโตมาไม่เพียงจะกลายเป็นวัตถุดิบสำคัญในการทำบทหนังดีๆ ให้ คุณบาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับภาพยนตร์ One for the Road วันสุดท้ายก่อนบายเธอ ที่พูดถึงความพยายามแก้ไขข้อผิดพลาดในอดีตก่อนต้องจากโลกนี้ไป หากยังกลายเป็นโจทย์หลักที่นำพาไปสู่การมี บ้านสีขาว ริมทะเล สไตล์ Mid-century Modern ที่หัวหินหลังนี้ ซึ่งเขาตั้งใจตกแต่งด้วยตัวเองทั้งหมด

บ้านสีขาว สไตล์ Mid-century Modern

บ้านสีขาวชั้นเดียวในบรรยากาศของบ้านชายทะเล โดยมีสเปซหน้าบ้านที่คุณขิมตกแต่งให้เป็นสวนกระบองเพชร

มันมาจากความรู้สึกที่อยู่ในใจตั้งแต่เด็กว่าครอบครัวเราโตมาในบ้านทาวน์เฮ้าส์ที่เล็กมากราวๆ 20 ตารางวาแต่อยู่กันร่วม 6 คน สิ่งที่ติดอยู่ในใจมาตลอดคือพ่อกับแม่อยากมีบ้านหลังใหญ่ๆ ไว้อยู่ด้วยกัน พอมาถึงวันหนึ่งผมเลยคิดอยากสร้างบ้านต่างจังหวัดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ นัก เพราะด้วยงบประมาณที่มีคงยากที่จะสร้างบ้านหลังใหญ่ในกรุงเทพฯ ก็เลยคิดถึงหัวหินซึ่งเป็นเมืองที่เราชอบตั้งแต่วัยรุ่นและมีภาพความทรงจำที่พ่อแม่ขับรถพามาเที่ยวอยู่ด้วย ตอนแรกมองหาที่ดินเปล่าสำหรับสร้างบ้านแต่คิดว่าต้องใช้เวลานานมากๆ แน่ ก็เปลี่ยนมาดูพวกบ้านจัดสรร ซึ่งก็ไม่ค่อยชอบเท่าไร เพราะอยากมีดีไซน์เป็นของตัวเองด้วย จนมาเจอที่นี่เป็นโครงการบ้านที่ยินดีให้ตกแต่งภายในเองได้หมด เท่านั้นแหละ ผมชอบเลย”

หลังจากที่ดูโครงสร้างบ้านซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวสีขาวแม้จะไม่ได้อยู่ติดทะเล แต่มีฉากหลังเป็นภูเขาและอยู่ในความรู้สึกของบ้านชายทะเล คุณบาสกับแฟนสาว คุณขิม-จุฬารัตน์ หาญรุ่งโรจน์ จึงเห็นพ้องต้องกันว่าน่าจะแต่งบ้านแบบปาล์มสปริงที่มีมู้ดของสไตล์ Mid-century Modern ซึ่งเน้นรูปฟอร์มเรขาคณิตอันเรียบง่ายผสมไปกับความอบอุ่นของงานไม้แบบเอิร์ธโทน

เราหาข้อมูลกันเลยว่าหัวใจการออกแบบบ้านสไตล์ Mid-century Modern คืออะไร ซึ่งการแต่งบ้านแบบคนทำหนังก็คือมองเป็นอาร์ตไดเร็กชั่นแบบเฟรมภาพ และนึกถึงโจทย์แรกก็คืออยากทำบ้านให้พ่อแม่อยู่ มีอะไรบ้างที่เขาชอบก็เอามาผสมผสานกับสิ่งที่เราชอบ อย่างตอนแรกว่าจะเล่นสเต็ปในบ้านและทำโซฟาหลุมแต่พอมาคิดๆ ดูก็ตัดออก เพราะห่วงแม่ที่เข่าไม่ดีคงจะลำบากเลยมาจบที่โซฟาหนังสีน้ำตาลตัวใหญ่นั่งได้หลายคน แล้วยังมีผนังหินกาบที่พ่อชอบพูดถึงเวลาดูในหนังฝรั่ง ส่วนโต๊ะกินข้าวที่เป็นไม้สักทองขนาดยาวนี่เป็นความชอบของผมเอง รวมไปถึงการเปิดฝ้าเพดานเปลือยเพราะมาเห็นช่างกำลังกรุฝ้าอยู่ครึ่งหนึ่ง แล้วเห็นว่าฝ้าเปลือยแบบลอฟต์มันเท่ดีเลยขอให้เขารื้อฝ้าออกทั้งหมด คือถึงแม้ในระดับสายตาจะเป็น Mid-century Modernแต่พอเงยหน้าไปแล้วมันคือลอฟต์ที่เป็นตัวตนของผมเลย”

บ้านสีขาว สไตล์ Mid-century Modern

คุณขิมช่วยเล่าต่ออีกว่า “เราใช้วิธีเลือกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ก่อนแล้วค่อยๆ เติมชิ้นเล็กเข้าไปค่ะ พอมาถึงโต๊ะกินข้าวนี่ พี่บาสชอบไม้แผ่นนี้มาก ไม่ปรับแต่งอะไรเลย ปล่อยให้มีร่องรอยตามเดิมแล้วหาตอไม้มาประกอบส่วนขาเพิ่มเข้าไป ส่วนใหญ่เราชอบซื้อของมือสองซึ่งมันจะคิดนานไม่ได้ พอเจอแล้วชอบก็ต้องซื้อไว้เลย แต่ถ้าเอามาลองจัดวางแล้วไม่ได้จริงๆ ก็จะปล่อยขายต่อไป ซึ่งก็มีเยอะอยู่ค่ะ (หัวเราะ) ตอนนี้มุมโต๊ะกินข้าวกลายเป็นมุมที่ขิมชอบนั่งมากที่สุด ชอบความรู้สึกของการอยู่รวมๆ กันในครอบครัวที่มุมนี้ ซึ่งเป็นทั้งโต๊ะกินข้าว ทำงาน นั่งคุย นั่งเล่น มองเห็นความเคลื่อนไหวรอบตัวและมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้ตลอด”

บ้านสีขาว สไตล์ Mid-century Modern

โต๊ะรับประทานอาหารทำจากไม้สักทองแผ่นยาวใหญ่ในรูปทรงธรรมชาติประกอบเข้ากับตอไม้ให้เป็นขาโต๊ะ ด้านหลังเป็นแพนทรี่ที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องสีดำ ส่วนฝ้าเพดานเปิดเปลือยให้เท่แบบลอฟต์

เพื่อผสมความเป็นลอฟต์ที่ชอบ ยังมีการเปลี่ยนวัสดุกรอบประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมเดิมให้เป็นกรอบเหล็กและขยายให้กว้างจนสุดขอบผนังเพื่อรับแสงธรรมชาติและเชื่อมต่อมุมมองภายในออกไปสู่เฉลียงซึ่งมีสระว่ายน้ำส่วนตัวได้กว้างเต็มตา

ขณะที่ส่วนของแพนทรี่นั้นเบรกความขาวของพื้นที่ในบ้านไว้ด้วยโทนสีดำทั้งผนังกรุกระเบื้องเล่นลวดลายทรงกลมกับเคาน์เตอร์ไอส์แลนด์สีดำท็อปด้วยหินเทียมสีดำอย่างกลมกลืน “เราไม่ค่อยเน้นทำอาหารหนัก ก็เลยแต่งครัวให้มินิมัลในโทนสีดำและโชว์ฟอร์มกระเบื้องไปเลย”

บ้านสีขาว สไตล์ Mid-century Modern

บ้านมีรูปทรงเหมือนตัวแอล (L)ที่มีส่วนด้านยาวเป็นทางเดินไปสู่ห้องนอนต่างๆ และมีผนังที่คุณบาสนำโปสเตอร์หนังสะสมมาตกแต่งไว้เหมือนแกลเลอรี่ส่วนตัว

ของแต่งบ้านที่ขาดไม่ได้เลยก็คือโปสเตอร์หนังที่คุณบาสชอบและเริ่มสะสมมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม แม้ส่วนนั้นจะเสียหายไปตอนน้ำท่วมบ้านหมดแล้ว แต่กลับมาเริ่มเก็บสะสมใหม่หลังจากได้ไปเจอโปสเตอร์หนังแนววินเทจสวยๆ ที่ฝรั่งเศส แล้วซื้อกลับมาใส่กรอบแต่งผนังที่บ้าน ซึ่งตอนนั้นไม่ค่อยมีที่ให้แขวนสักเท่าไร ขณะที่บ้านนี้มีผนังว่างกว้างๆ ส่วนทางเดินให้แขวนโปสเตอร์เป็นเหมือนแกลเลอรี่หลัก และยังกระจายไปตามผนังส่วนอื่นๆ ของห้องนอน

บ้านสีขาว สไตล์ Mid-century Modern

ห้องนอนของน้องสาวทั้งสองคนตกแต่งด้วยโทนสีขาวเรียบโล่งตามสไตล์นอร์ดิกมินิมัล
บ้านสีขาว ริมทะเล

ห้องนอนคุณพ่อคุณแม่ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นทรอปิคัล ซึ่งมีการทุบผนังหัวเตียงออกเพื่อเปลี่ยนเป็นกระจกใส แล้วปลูกเบิร์ดออฟพาราไดซ์ ช่วยสร้างบรรยากาศธรรมชาติ เสริมด้วยภาพต้นไม้ในกรอบสำหรับตกแต่งผนังและต้นไม้ปลอมด้านในที่ให้โทนสีเขียวสบายตา
บ้านสีขาว สไตล์ Mid-century Modern

บริเวณปลายเตียงยังจัดวางโซฟาไม้ดีไซน์โปร่งในอารมณ์ของบ้านพักผ่อน

เดิมทีบ้านนี้วางผังไว้ให้เป็น 4 ห้องนอน ตอนแรกเราคิดว่ามันเยอะไป คือมีห้องพ่อแม่ที่แต่งสไตล์โมเดิร์นทรอปิคัลเปิดผนังเป็นกระจกโปร่งเพื่อให้มองเห็นวิวสวนเขียวๆ ข้างนอกได้ตามแบบที่เขาชอบ ห้องสีขาวสไตล์มินิมัลนอร์ดิกสำหรับน้องสาวสองคน และห้องนอนหลักของผมกับขิมที่มีความเป็นลอฟต์ๆ หน่อย แล้วปรับอีกห้องให้เป็นห้องทำงานซึ่งตอนแรกมีความเป็น Mid-century Modernชัดมากทั้งโซฟา โต๊ะทำงาน ชั้นหนังสือ และของตกแต่ง แต่พอมีญาติมานอนด้วยเยอะๆ ทำให้เราต้องขายโซฟาทิ้งแล้วเติมเตียงนอนเข้าไปในห้องนี้แทน”

บ้านสีขาว สไตล์ Mid-century Modern

บริเวณผนังหัวเตียงประดับด้วยโปสเตอร์หนังที่คุณบาสบอกว่าสื่อถึงความเป็นคู่ของเขากับคุณขิมทั้งเชิงสัญลักษณ์และโทนสีที่ไปกันได้ดีกับอารมณ์แบบทะเล โดยห้องนี้ยังมีประตูด้านข้างที่สามารถเปิดเข้าห้องทำงานได้เลย
บ้านสีขาว สไตล์ Mid-century Modern

ห้องทำงานตกแต่งด้วยสไตล์Mid-century Modernเปิดวิวผ่านผนังกระจกออกสู่สระว่ายน้ำ โดยมีการเพิ่มเตียงนอนเข้ามาภายหลังเพื่อรองรับการมาพักผ่อนของญาติได้มากขึ้น

ด้วยเหตุผลที่ทั้งคู่ย้ำมาตลอดว่าทำบ้านเพื่อครอบครัว การปรับฟังก์ชันให้เหมาะกับการใช้งานแบบนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ และนำมาสู่ช่วงเวลาที่คุณขิมเล่าให้ฟังว่า “พี่บาสเคยขนทีมงานมาตัดต่อหนังกันในห้องนี้ค่ะ ขณะที่ขิมกับหลานกำลังเล่นน้ำกันสนุกอยู่ข้างนอก มองเห็นทีมงานทำงานเครียดๆ กันอยู่ข้างใน ก็ได้ความรู้สึกที่แปลกดี ต่างกิจกรรมต่างอารมณ์ แต่เรามองเห็นกันและอยู่ในบ้านเดียวกัน”

บ้านสีขาว สไตล์ Mid-century Modern

ห้องน้ำทุกห้องในบ้านเน้นความดิบเปลือยเท่ๆ ในแบบลอฟต์

หากบ้านหลังนี้จะกลายเป็นหนังเรื่องที่ 4 ที่คุณบาสกำกับและเขียนบทขึ้นมาเอง เขาบอกได้ทันทีเลยว่านี่คือหนังครอบครัวที่อาจมีตีกันบ้างทะเลาะกันบ้าง แต่ที่มากกว่าคือรอยยิ้มและความสุข

ภาพที่ผมเห็นคือบ้านที่สามารถรวมทุกคนในครอบครัวให้กลับมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้อีกครั้งในช่วงเวลาหนึ่ง หลังจากที่เราเคยอยู่ด้วยกันในทาวน์เฮ้าส์หลังเล็กและแยกย้ายออกไปมีครอบครัวของตัวเอง จนคิดว่าจะไม่ได้เห็นภาพแบบนี้อีกแล้ว ตอนทำบ้านหลังนี้เราก็เก็บเป็นความลับไม่ได้บอกพ่อแม่เลย รอจนทุกอย่างเรียบร้อยและพาเขามาเซอร์ไพร้ส แต่หลอกว่าจะจองที่พักไว้ พอเขามารู้ว่าเป็นบ้านของเรานี่ประทับใจมาก ซึ่งสิ่งนั้นก็เติมเต็มความรู้สึกในใจเราได้ดีมากๆ ด้วยเช่นกัน”


คุณบาสตั้งใจเลือกใช้หินกาบมาตกแต่งผนังในส่วนของห้องนั่งเล่นและห้องทำงานก็เพื่อตอบรับความชอบของคุณพ่อที่มักเอ่ยชมสไตล์ผนังหินกาบแบบนี้จากหนังฝรั่งเสมอๆ

นอกจากชอบซื้อของมือสองแล้ว คุณบาสยังชอบวัสดุไม้เก่าเป็นพิเศษด้วย เขาจึงมักซื้อแผ่นไม้เก่ามาเก็บไว้หลายชิ้น และนำมาตกแต่งส่วนต่างๆ เช่น หัวเตียงและทำเป็นชั้นติดผนังในบ้าน

เพราะคุณบาสและคุณขิมชอบสไตล์ลอฟต์เป็นพิเศษ จากแบบบ้านเดิมที่ต้องตีฝ้าปิดไว้จึงขอให้รื้อฝ้าออก ทำให้โถงส่วนกลางสูงโปร่งขึ้นและตั้งใจโชว์คานคอนกรีตที่หุ้มด้วยเหล็กซึ่งทาสีสว่างเพื่อให้กลมกลืนไปกับพื้นผนังสีขาวโดยรอบ

ความชัดเจนของสไตล์Mid-century Modern ที่โดดเด่นอย่างหนึ่งคือเรื่องของรูปทรงเรขาคณิตที่เรียบง่าย ซึ่งคุณบาสก็เลือกใช้ลวดลายกระเบื้องทรงกลมสีดำแบบนี้ในส่วนของห้องครัวล้อรับไปกับอิฐช่องลมที่รั้วหลังบ้านซึ่งเป็นสีขาว

เจ้าของ-ออกแบบบ : คุณนัฐวุฒิ พูนพิริยะ และคุณจุฬารัตน์ หาญรุ่งโรจน์

เรื่อง : ภัทรสิริ โชติพงศ์สันติ์

ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข

สไตล์ : วรวัฒน์ ตุลยทิพย์

บ้านสีขาวริมทะเล นุ่มนวลแบบสแกน

บ้านตากอากาศสไตล์ร่วมสมัย