วิธีเลือกสมาร์ททีวี

วิธีเลือกสมาร์ททีวีดูหนัง เล่นเกม ต้องจอใหญ่ คมชัดแค่ไหนถึงจะดี

วิธีเลือกสมาร์ททีวี
วิธีเลือกสมาร์ททีวี

สำหรับคนที่อยากมีโฮมเธียเตอร์เป็นของตัวเอง หรือเป็นเกมเมอร์ที่ชอบเล่นเกมคอนโซล สิ่งที่มองหาก็คือสมาร์ททีวีดูหนังที่จอใหญ่ๆ ภาพคมชัด ถ่ายทอดรายละเอียดของภาพได้อย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนคนที่เล่นเกมก็อยากได้ภาพที่ลื่นไหล ไม่สะดุด ไม่กระตุก ยิ่งเครื่องเล่นเกมรุ่นใหม่ๆ ก็ยิ่งต้องการทีวีประสิทธิภาพสูงขึ้น

ถ้าอยากได้ทีวีที่มีคุณสมบัติทั้งหมดที่ว่ามาต้องพิจารณาอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

1.การประมวลผลภาพระดับ 4K

ถ้าจะดูหนังหรือเล่นเกมอย่างเต็มอิ่ม มาตรฐานแรกที่เราต้องการเลยก็คือ ความละเอียดหน้าจอแบบ 4K ซึ่งจะทำให้ได้ภาพที่คมชัด สมจริง ที่สำคัญสำหรับคอเกมคือได้เห็นภาพกราฟิกที่ตระการยิ่งกว่าจอแบบ Full HD ทั่วไปอย่างแน่นอน

ชิป Quantum Processor 4K ในสมาร์ททีวีดูหนัง และเล่นเกมจะมอบประสบการณ์การรับชมที่น่าทึ่งมากขึ้นทั้งภาพและเสียง

2.มีเทคโนโลยี HDR

หลังจากผ่านมาตรฐานแรกคือ 4K ไปแล้ว อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่จะสร้างความแตกต่างในการแสดงภาพระหว่างที่ดูหนังหรือเล่นเกมได้อย่างมาก นั่นก็คือเทคโนโลยี HDR (High Dynamic Range) ที่จะช่วยทำให้ช่วยช่วงคอนทราสต์กว้างกว่าเดิมเหมือนดูในโรงภาพยนตร์ ยิ่งทีวีรุ่นไหนมี Dynamic Tone Mapping ของ HDR10+ ที่ให้สีดำที่มืดสนิทยิ่งขึ้น ภาพที่ดูมีชีวิตชีวากว่าเดิม และรายละเอียดโดดเด่นมากขึ้นไปอีก สำหรับคอเกมแล้วต้องมี HDR เลยล่ะ เพราะเทคโนโลยีนี้ทำให้เล่นเกมโดยภาพไม่ฉีกขาด ไม่กระตุก ไม่หน่วงได้นั่นเอง

Quantum HDR ทำให้ช่วงคอนทราสต์กว้างกว่าเดิมระดับโรงภาพยนตร์

3.ขนาดหน้าจอ

คนมักพูดกันว่ายิ่งทีวีจอใหญ่เท่าไรยิ่งดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเล่นเกมแข่งกับเพื่อนหลายๆ คน ยิ่งจอใหญ่ก็ยิ่งทำให้เกมดูน่าสนุกและน่าตื่นเต้นขึ้นมาก สำหรับคนที่เล่นเกมคอนโซลที่รองรับ 4K ควรเลือกทีวีขนาด 40 นิ้วขึ้นไป ถ้าให้ดีขึ้นไปอีกควรต้องมี Wide Viewing Angle ที่ทำให้ไม่ว่าจะนั่งอยู่ตรงไหนของห้องก็เห็นภาพชัดเจน

4.อินพุตแล็กที่ต่ำ

อาการแล็กเพียงหนึ่งวินาทีในการเล่นเกมกีฬา แอ็กชัน หรือ FPS (เกมเดินหน้ายิงบุคคลที่หนึ่ง) นั้นอาจมีผลว่าจะชนะหรือแพ้ได้เลย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเวลาตอบสนองของทีวีจึงเป็นสิ่งสำคัญและทำไมทีวีที่มีอินพุตแล็กต่ำจึงเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเล่นเกม อินพุตแล็กนั้นคือการวัดความเร็วของความล่าช้าที่เกิดขึ้นระหว่างการกดปุ่มบนคอนโทรลเลอร์และการตอบสนองของเกมที่ปรากฏให้เห็นโดยมีหน่วยเป็น ms (มิลลิวินาที) ยิ่งอินพุตแล็กต่ำเท่าไร อัตราการตอบสนองบนหน้าจอก็จะเร็วยิ่งขึ้นเท่านั้น ดังนั้น ทีวีที่มีการประมวลผลภาพในหน้าจอให้ลื่นไหลโดยไม่ทำให้ภาพฉีกขาด (FreeSync) พร้อมกับมีอินพุตแล็กที่ต่ำด้วยนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าอย่างแน่นอน

อีกปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามเลย คือ Frame Rate per Second หรือการแสดงภาพต่อวินาที เริ่มตั้งแต่ 60Hz, 144Hz และ 240Hz ยิ่งตัวเลขสูงมากเท่าไรภาพการเคลื่อนไหวในเกมก็ยิ่งลื่นไหลมากเท่านั้น

5.มีโหมดเกม

หากสมาร์ททีวีมีโหมดเกมจะทำให้เราเริ่มเกมได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่าง SAMSUNG มี Super Ultrawide GameView & Game Bar ซึ่งจะตั้งค่าที่จำเป็นต่งๆ เช่น ภาพและเสียง ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ รวมถึงปรับค่าอินพุตแล็กให้อยู่ในระดับต่ำ โปรดจำไว้ว่าถ้าต้องการคุณภาพของภาพที่ดีขึ้นไม่ควรไปเพิ่มอินพุตแล็ก เพราะโหมดเกมจะสามารถยกระดับคุณภาพของภาพได้โดยไม่ส่งผลต่ออินพุตแล็กได้นั่นเอง

6.การเชื่อมต่อที่สะดวกสบาย

เมื่อคิดจะเล่นเกมคอนโซลอย่าง Xbox One, PS4 และ Nintendo Switch นั้น สิ่งแรกที่ต้องนึกถึงเลยก็คือการติดตั้งนั้นง่ายแค่ไหน ปัจจุบันนี้เราต้องมองหาพอร์ต HDMI เป็นช่องเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพในการแสดงผลจากเครื่องเกมไปยัง TV ได้ดีที่สุด โดยสามารถส่งต่อสัญญาณภาพความละเอียดได้สูงสุดถึง 8K

เมื่อรู้แล้วว่าต้องเลือกสมาร์ททีวีสำหรับคอหนัง คอเกมอย่างไร หลังจากนี้ก็ไปช็อปกันได้แล้วล่ะ

  • ช็อปสมาร์ททีวีสำหรับเหล่าเกมเมอร์ คลิก https://bit.ly/3xaq7t8
  • เลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าออนไลน์ S.Electric คลิก https://bit.ly/3cB6e5d

กระซิบว่าซื้อช่วงนี้ได้โปรโมชันเดียวกับซื้อที่งานบ้านและสวนแฟร์ 2021