WALDEN THONGLOR 8 & 13 เมื่อการออกแบบช่วยเติมเต็มทุกพื้นที่ในชีวิตให้คุ้มค่า

WALDEN THONGLOR 8 & 13 โครงการอสังหาฯในกรุงเทพฯ จาก Habitat Group ที่ความหรูหราเกิดจากการจัดระเบียบพื้นที่ภูมิทัศน์เป็นส่วนหนึ่งในงานสถาปัตยกรรม

DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ: PAON Architects

WALDEN THONGLOR 8 & 13 เพราะเชื่อว่าคุณภาพชีวิตที่ดีคือการควบรวมระบบสาธารณูปโภคที่เอื้ออำนวยซึ่งกระจายตัวอยู่ทุกหย่อมทุกย่าน ไม่เพียงแค่ย่านดาวน์ทาวน์เท่านั้น และการเพิ่มพื้นที่สีเขียวสำหรับส่วนกลางในแทบทุกตารางเมตร ไม้เว้นกระทั่งบนระเบียงหรือหลังคาของตึกอย่างโครงการ Oasis Terraces ในเขตปังกอลล์ ทางแถบตะวันออกเฉียงเหนือของสิงคโปร์ อาคารที่มีหลังคาเป็นสวนเขียวและทางลาด มุ่งเน้นอารยสถาปัตย์ ออกแบบตามหลัก Universal Design เพื่อให้คนทุกชนชั้นสามารถเข้าถึงและใช้งานได้ รวมถึงโครงการมิกซ์ยูสอย่าง Marina One เมกะโปรเจ็กต์ใจกลางย่านธุรกิจ Marina Bay ที่ตอกย้ำว่าความหรูหราของอนาคตคือพื้นที่สีเขียว มีคอร์ตยาร์ดเขียวชอุ่ม และสวนลอยฟ้าในชั้นต่างๆ ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพรรณเมืองร้อนกว่า 350 ชนิด พร้อมการจำลองระบบนิเวศในพื้นที่สีเขียวที่ใหญ่ที่สุดของย่าน

OASIS TERRACES อาคารที่มีหลังคาเป็นสวนเขียวและทางลาด มุ่งเน้นอารยสถาปัตย์เพื่อให้ทุกคนเท่าเทียม อ่านต่อที่นี่
MARINA ONE เมกะโปรเจ็กต์ที่ตอกย้ำว่าความหรูหราของอนาคตคือ “พื้นที่สีเขียว” อ่านต่อที่นี่

กล่าวโดยสรุปก็คือคุณค่าของงานสถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์ กลายเป็นเรื่องเดียวกันสำหรับผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ และสถาปนิกผู้ออกแบบโครงการในสิงคโปร์ ที่ต้องทำงานร่วมกันภายใต้ข้อคำนึงที่ว่าด้วยข้อกำหนดเรื่องจำนวนพื้นที่สีเขียวขั้นต่ำในแต่ละโครงการ จนนำมาสู่แนวทางการออกแบบ สองโครงการอสังหาฯในกรุงเทพฯ จาก Habitat Group ที่ความหรูหราเกิดจากการจัดระเบียบพื้นที่ภูมิทัศน์เป็นส่วนหนึ่งในงานสถาปัตยกรรม

Habitat Group บุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพ เริ่มต้นด้วยโครงการซีรีส์ Walden Asoke ที่ตั้งอยู่บนที่ดินย่านทำเลทองใจกลางกรุงเทพหลายแห่ง จนมาถึงในปีนี้ก็พร้อมเดินหน้าต่อด้วย Walden Thonglor 8 และ Walden Thonglor 13 ในย่านทองหล่อ สองโครงการคอนโดแบบ Low-Rise ที่ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในเรื่องการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อไลฟ์สไตล์ระดับลักชัวรี่ โดยโครงการในซีรีส์วาลเด้น นั้นเป็นโครงการที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่สถาปัตยกรรม ภูมิสถาปัตยกรรม และการตกแต่งภายในที่เชื่อมโยงกัน กวาดรางวัลด้านการออกแบบมาแล้วทั้งในหมวด Best Low-Rise Condo Architectural Design (Resort), Best Condo Interior Design,  Best Condo Landscape Architectural Design และอื่นๆ อีกมายมาย

  • ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองด้วยการออกแบบและตกแต่งที่เลือกได้

Walden Thonglor 8
สถาปัตยกรรมแบบ
Interlocking Design

เริ่มต้นจาก Walden Thonglor 8 กับการออกแบบสถาปัตยกรรมแบบ Interlocking Design คอนโด Low-Rise ความสูง 8 ชั้นจำนวน 117 ยูนิต ผลงานการร่วมมือกันระหว่างทีมสถาปนิกและมัณฑนากรจาก PAON Architects กับทีมภูมิสถาปนิกแห่ง Landscape Collaboration ซึ่งคอนเซ็ปต์หลักที่ PAON Architects ใช้ในการออกแบบตัวอาคารทั้งภายในและภายนอกก็คือ Luxury in Refined Order เน้นใช้วัสดุและเส้นสายเรียบง่าย แข็งแรง เป็นระเบียบ ทว่าหรูหราและมีพลัง จุดเด่นของ Walden Thonglor 8 คือการจัดการพื้นที่ให้ได้สัดส่วนที่กว้างขวางและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดเป็นหลัก โดยการออกแบบแปลนห้องแบบ Interlocking Design ที่จัดให้ตำแหน่งของห้องนั่งเล่นและห้องนอนของแต่ละชั้นนั้นอยู่สลับกัน พร้อมขยายพื้นที่ฝ้าเพดานห้องนั่งเล่นให้มีระดับความสูงถึง 3.45 เมตร เรียกได้ว่าเป็น Unique High Ceiling นั่นเอง

ด้านการออกแบบและตกแต่งภายใน มุ่งเน้นการใช้วัสดุธรรมชาติอย่างหินอ่อน ไม้ โลหะ และโทนสีที่สุขุมอย่างทอง น้ำตาล ดำ และเทา ให้บรรยากาศที่หรูหรา ขรึมเท่แบบฉบับคนเมือง

ส่วนการตกแต่งงานภูมิทัศน์ ทาง Landscape Collaboration ได้นำบรรยากาศของย่านทองหล่อมาผสานเข้ากับดีไซน์แบบญี่ปุ่น และแนวคิดเรื่อง Well-Being เกิดเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ตกแต่งด้วยพื้นที่สีเขียว เน้นรูปฟอร์มน้ำตกเพื่อให้ผู้อาศัยได้ผ่อนคลายแม้อาศัยอยู่ใจกลางเมือง นอกจากนี้ยังมีการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางในจุดอื่น ๆ ให้สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การออกแบบฟิตเนสโดยใช้ผนังกระจกเป็นวัสดุหลักเพื่อดึงเอาแสงธรรมชาติจากภายนอกเข้าสู่ภายใน ช่วยให้พื้นที่ดูโปร่งและสว่าง เอื้อต่อการใช้งานได้จริง

Walden Thonglor 13
สถาปัตยกรรมเปลือกไม้และสวนป่าใจกลางเมือง

ส่วนโครงการ Walden Thonglor 13 อีกหนึ่งคอนโด Low-Rise ความสูง 8 ชั้นจำนวน 122 ยูนิตในซอยทองหล่อ 23 ที่ห่างออกไปไม่ไกลนักจาก Walden Thonglor 8 ออกแบบสถาปัตยกรรมโดย TADAH Collaboration ซึ่งนำแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติและเปลือกไม้ ตัวอาคารโดดเด่นด้วยฟาซาดที่เกิดจากการนำนำองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมของเรือนไทยและบ้านแบบโบราณของญี่ปุ่นมาผสานเข้ากับรูปแบบที่เรียบง่ายและเป็นระเบียบของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่

ด้านการออกแบบงานภูมิสถาปัตยกรรมของ Walden Thonglor 13 Landscape Collaboration เน้นย้ำความเป็นสวนป่ากลางเมือง และกระจายพื้นที่สีเขียวไปทั่วทุกตารางเมตรของโครงการ เช่นห้องฟิตเนสผนังกระจกใสที่มองเห็นธรรมชาติอย่างใกล้ชิดในขณะออกกำลังกาย สระเล่นระดับสะท้อนรูปฟอร์มน้ำตก โดยที่เส้นโค้งที่เห็นนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากเส้นสายของชั้นหินธรรมชาติหรือ Water Cascade บนชั้นน้ำตก เสมือนจำลองบรรยากาศธรรมชาติมาไว้บนดาดฟ้า มอบความผ่อนคลายและการใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพเช่นเดียวกับ Walden Thonglor 8

ด้านการตกแต่งภายในได้ทีม PAON Architects มารับหน้าที่เช่นเดียวกัน เน้นวัสดุโทนอุ่นอย่างหินอ่อน ไม้ และโลหะ ผสานโทนสีทองแดง น้ำตาล เทา แกมเขียว และน้ำเงิน เพื่อเอื้อต่อการพักผ่อนในทุกอณู ทั้งในพื้นที่ส่วนรวมอย่างล็อบบี้ โคเวิร์กกิ้งสเปซ ฟิตเนส รวมถึงห้องพักทั้งหมด เส้นสายของลายกราฟิกจากการปูพื้นไม้ engineering wood ลายก้างปลายังดูกลมกลืนกันอย่างดีกับคอนเซ็ปต์ของภูมิทัศน์โดยรอบของ Landscape Collaboration ที่เน้นเส้นสายโค้งเว้า โดยคำนึงถึงเรื่อง Well-Being ของลูกบ้าน ซึ่งเห็นได้ชัดเจนผ่านทางทัศนียภาพและพื้นที่ที่ช่วยให้เกิดความผ่อนคลาย การเชื่อมต่อ กิจกรรม การเรียนรู้ และการให้ระหว่างผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก

นอกจากนี้ความพิเศษของทั้งสองโครงการยังเปิดการขายแบบ Fully Furnished และยังให้ลูกบ้านเลือกโทนสีและวัสดุซึ่งแบ่งเป็นโทนสว่างและโทนเข้มในการตกแต่งห้องของคุณเองได้อีกด้วย สำหรับใครที่สนใจโครงการสามารถเข้าชม Sale Gallery ณ ทองหล่อ ซอย 5

ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูล และสิทธิพิเศษส่วนลดกว่า 400,000 บาท*
ที่ > http://bit.ly/2OhWiki