ความลงตัวของบ้านพื้นถิ่นกับสไตล์อินดัสเทรียลกลางธรรมชาติในบาหลี

ความลงตัวของบ้านพื้นถิ่นกับสไตล์อินดัสเทรียล กลางธรรมชาติในบาหลี

ความลงตัวของบ้านพื้นถิ่นกับสไตล์อินดัสเทรียลกลางธรรมชาติในบาหลี
ความลงตัวของบ้านพื้นถิ่นกับสไตล์อินดัสเทรียลกลางธรรมชาติในบาหลี

บ้านพักในบาหลี สถาปนิก : Mr. Alexis Dornier

   ไม่เพียงวัดสวยๆ และเกลียวคลื่นลูกยักษ์จะเป็นสิ่งที่หลายคนนึกถึงเมื่อต้องการมาพักผ่อนที่บาหลี ความอุดมสมบูรณ์ของป่าเขียวๆ ก็ยังเป็นบรรยากาศที่ดึงดูดใจผู้ต้องการมีบ้านพักหลังที่สองด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในทำเลสงบที่แทบจะมีผืนป่าเป็นผนังธรรมชาติของบ้านเหมือนกับ บ้านพักในบาหลี ที่หมู่บ้าน Mas ของนักธุรกิจชาวเยอรมันหลังนี้

นอกจากตั้งใจจะสร้าง บ้านพักในบาหลี เพื่อพักผ่อนในช่วงวันหยุดแล้ว เฟอร์นิเจอร์และงานศิลปะที่สะสมไว้หลายชิ้นจากแอฟริกา ยุโรป และเอเชียยังกลายเป็นโจทย์สำคัญให้ Mr. Alexis Dornier สถาปนิกชาวเยอรมันที่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่บาหลีเกือบ 10 ปีได้นำไปขบคิด โดยเฉพาะโครงสร้างไม้โบราณของบาหลีที่เรียกว่า “Joglo” ซึ่งมีลักษณะเป็นเสาสูงสี่ต้นนำไปสู่การกำหนดรูปทรงหลังคาที่บ่งบอกถึงฐานะทางสังคมของชาวชวาในสมัยอดีต โดยเจ้าของบ้านมี Joglo นี้สะสมไว้และต้องการให้นำมาใช้ตกแต่งเป็นส่วนหนึ่งของบ้านด้วย

ห้องนั่งเล่น
เมื่อบ้านอยู่ใกล้ชิดกับผืนป่าสีเขียว ผนังรอบห้องนั่งเล่นจึงเป็นกระจกใสทั้งหมดเพื่อดึงธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการพักผ่อนภายใน ทั้งยังได้แสงสว่างจากผนังและส่วนสกายไล9N โดยมี Joglo งานศิลปะไม้โบราณตั้งวางอย่างโดดเด่นและสะกดทุกสายตาให้มอง
คุณอเล็กซิส สถาปนิกผู้ออกแบบบ้าน
ห้องนั่งเล่น
มุมมองที่แปลกตาจากทางเดินกระจกบริเวณชั้นลอย ซึ่งสถาปนิกตั้งใจออกแบบให้เป็นทางเดินเข้าไปชมรายละเอียดของ Joglo ได้อย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันก็ยังเห็นพื้นที่เปิดโล่งรอบๆ บ้าน

“บ้านหลังนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับโครงสร้าง Joglo ซึ่งถือเป็นงานศิลปะไม้โบราณ ทำให้เกิดแนวคิดการออกแบบฟังก์ชันส่วนอื่นๆ ของบ้านต่อมา” คุณอเล็กซิสเล่าถึงสิ่งที่เขาออกแบบให้ฟัง “ผมใช้โครงสร้างเหล็กสมัยใหม่มาช่วยรองรับตัว Joglo ที่วางไว้ตรงกลางบ้านทำให้เกิดเป็นโครงของฐาน ที่ร่วมสมัยขึ้นและกลายเป็นตัวกำหนดโทนให้งานสถาปัตย์จากการสร้างองค์ประกอบใหม่ที่น่าสนใจ แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือแตะส่วนอื่นๆ ของ Joglo เลย เพื่อให้คงความเป็นงานศิลปะเชิงสถาปัตย์ไว้ชัดเจน”

เมื่อวาง Joglo ไว้ที่สองตำแหน่งหลักของบ้านยังเกิดฟังก์ชันกำหนดเป็นมุมใช้สอยภายในขึ้นมา ส่วนแรกเป็นห้องอเนกประสงค์ที่ต่อเนื่องมาจากห้องนั่งเล่น โดยปล่อยให้ห้องนั่งเล่นเปิดโล่งอยู่ภายใต้เพดานสูงเพื่อเน้น Joglo ที่วางอยู่ข้างๆ เป็นงานศิลปะที่โดดเด่นและกลายเป็นมุมวางแกรนด์เปียโนได้ดี ซึ่งทั้งสองมุมนี้มีผนังกระจกใสโอบไว้เป็นขอบเขตของบ้าน และเป็นสองมุมที่มองเห็นวิวต้นไม้เขียวในป่าได้ชัดเจนและใกล้ชิดที่สุด

ห้องนั่งเล่น
ภายใต้โครงสร้าง Joglo ช่วยกำหนดพื้นที่ไว้เหมือนเป็นโถงใหญ่ๆ ที่วางแกรนด์เปียโนได้อย่างพอดี
ห้องงครัว
Joglo อีกมุมหนึ่งที่กำหนดให้เป็นห้องครัวและแพนทรี่ โดยมีเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่วางไว้กลางห้อง บริเวณพื้นเปลี่ยนจากไม้สักในห้องนั่งเล่นมาใช้กระเบื้องสีเข้ม ส่วนด้านบนเป็นโครงเหล็กที่ต่อเติมขึ้นมาเป็นชั้นลอยปูด้วยกระจกใสสำหรับจัดวางเป็นมุมนั่งเล่น
โต๊ะทานข้าว
การแบ่งฟังก์ชันในบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวทำให้ทุกพื้นที่มีมุมมองที่เชื่อมต่อเห็นกันได้หมด รวมถึงการมองออกสู่ธรรมชาติด้านนอกได้โดยไม่มีอะไรมาปิดบัง

อีกส่วนหนึ่ง Joglo กลายเป็นโครงกำหนดมุมของห้องครัว โดยที่ปล่อยให้ห้องอาหารเปิดโล่งภายใต้เพดานยกสูงเช่นกัน พร้อมกับทำทางเดินชั้นลอยด้วยกระจกใส รับกับช่องสกายไลต์ที่เพดานเป็นช่องทางให้แสงธรรมชาติส่องผ่านสู่พื้นที่ภายในได้เพิ่มขึ้น และยังสร้างประสบการณ์ใหม่ของทางเดินในบ้านให้น่าตื่นเต้น ทั้งใช้เป็นเส้นทางที่สามารถเดินชมรายละเอียดของงานศิลปะไม้แกะสลักบนตัว Joglo ได้อย่างใกล้ชิดและสนุกราวกับนักโบราณคดีได้ค้นพบผลงานอันล้ำค่าในอดีต

บันได
“ผมออกแบบบันไดวนที่ดูเหมือนลอยอยู่กลางอากาศเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างชั้นใต้ดินไปจนถึงชั้นลอย โดยไม่บดบังทัศนียภาพรอบๆ”
ห้องนอน
ห้องนอนหลักซ่อนตัวอยู่บริเวณชั้นใต้ดินซึ่งตัดการเชื่อมต่อจากพื้นที่ส่วนกลางอย่างชัดเจน เพื่อให้ได้ความสงบเงียบและเป็นส่วนตัวสูงสุด และหันหน้าออกสู่ผืนป่าสีเขียวเพื่อรับพลังจากธรรมชาติอย่างเต็มที่
ห้องน้ำ
ผนังในห้องน้ำเป็นกระจกในโครงเหล็กเพื่อเปิดให้แสงธรรมชาติส่องถึง แต่ยังมีผนังชั้นนอกที่เป็นอิฐโชว์แนวอีกชั้นเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว
ชานบ้าน
ระเบียงไม้ที่ต่อเนื่องออกมาจากห้องนอนเป็นพื้นที่ออกมารับลมและสูดความสดชื่นจากผืนป่าได้อย่างใกล้ชิด

“ที่ซ่อนอยู่ใต้ห้องนั่งเล่นโปร่งๆ นี้ก็คือห้องนอนอีก 2 ห้องใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัว ซึ่งผมทำบันไดวนเชื่อมต่อไว้ตั้งแต่ชั้นลอย ห้องนั่งเล่น ลงไปถึงห้องนอนชั้นใต้ดินนี้ เป็นทางเดินแบบสามมิติที่มองเห็นได้รอบ เพื่อสามารถชื่นชมงานศิลปะที่ประดับไว้ตามมุมต่างๆ และยังเห็นมุมมองในบ้านได้แปลกแตกต่างออกไปรวมถึงมุมที่มองไกลออกไปสู่ธรรมชาติด้านนอกด้วย”

ดูต่อหน้า 2