ส่องไฮไลต์งานบ้านและสวนแฟร์ 2021 … กลับมาให้หายคิดถึง

งานบ้านและสวนแฟร์ 2021 กลับมาให้หายคิดถึงแล้ว ไม่ว่าจะช้อปปิ้งของแต่งบ้าน ซื้อต้นไม้ หาของขวัญ เดินเล่น ฟังเพลง ก็จะได้ประสบการณ์ดีๆในคอนเซ็ปต์  “House of Green” ที่ย้ำเตือนถึงความสัมพันธ์ของคน บ้าน และธรรมชาติ เพราะด้วยวิถีชีวิตที่ผ่านมา “บ้าน” ได้เป็นทั้งที่พักพิงและเยียวยาจิตใจ และพบว่าบ้านเป็นได้ทุกสิ่ง ทั้งที่เรียน ที่ทำงาน ที่เที่ยวทิพย์ ที่พักผ่อน จึงเป็นเทรนด์การตกแต่งและสร้างบรรยากาศในบ้านให้มีชีวิตชีวาด้วยธรรมชาติ และด้วยแนวคิดนี้จึงนำมาสู่ไฮไลต์ในงาน ตามมาดูแล้วกุมมือคนข้างๆมาถ่ายรูป เดินเล่น พร้อมคอนเทนต์แน่นๆนำไปแต่งบ้านจัดสวนกันต่อรับบรรยากาศปีใหม่กัน บ้านและสวน 2021  17-26 ธันวาคมนี้ ที่ไบเทค บางนา งานเปิด 9.30 – 21.00 น. ลงทะเบียนเพื่อความสะดวกรวดเร็วก่อนมางาน Archway ต้อนรับเข้าสู่งาน งานบ้านและสวนแฟร์ 2021 ด้วยซุ้มประตูในรูปแบบวินโดว์ดิสเพลย์ในธีม “Green Home Village” ที่อบอุ่นเป็นกันเอง สื่อถึงรูปทรงและองค์ประกอบของบ้านที่เต็มไปด้วยความสัมพันธ์ของบ้าน  ต้นไม้ และ “ที่ว่าง” เป็นมุมนั่งเล่นที่รอผู้คนเข้ามาเติมเต็ม Green […]

อัปเดต 9 อโลคาเซียตัวใหม่ๆ สายพันธุ์ที่มาแรง น่าสะสม

อโลคาเซีย (Alocasia) หรือที่หลายคนคุ้นเคยในชื่อ “แก้วหน้าม้า” หรือ “นางกวัก” เป็นไม้ใบสวยอีกสกุลหนึ่งในวงศ์ Araceae ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะขณะนี้กำลังกลับมาเป็นที่นิยมของเหล่านักสะสมอีกครั้ง ฉบับนี้จึงรวบรวมต้นอโลคาเซียตัวใหม่ๆฮอตฮิตมาให้ชมกัน อโลคาเซียเป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี มีหัวสะสมอาหารอยู่ใต้ดิน ลำต้นเหนือดินเกิดจากกาบใบซ้อนกัน ใบเดี่ยวรูปหัวใจหรือลูกศร หลายชนิดได้รับการปรับปรุงพันธุ์ให้มีใบโดดเด่น สวยงามแปลกตา ปลูกเลี้ยงในกระถางใช้เป็นไม้ประดับตามระเบียง ริมหน้าต่าง หรือแม้แต่ในตัวบ้านได้ดี อโลคาเซียเป็นไม้ใบที่ปลูกเลี้ยงง่าย นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีแยกหน่อ ชอบแสงรำไร ไม่ควรโดนแสงแดดจัดโดยตรงเพราะจะทำให้ใบไหม้ ชอบชื้นแต่ไม่แฉะ ดังนั้นสิ่งสำคัญก็คือวัสดุปลูกต้องเก็บความชื้น มีอินทรียวัตถุและระบายน้ำได้ดี หลีกเลี่ยงไม่ให้มีน้ำขังในจานรองกระถางเพื่อป้องกันรากเน่า หมั่นสำรวจและกำจัดหนอนผีเสื้อที่มักมากัดกินก้าน ใบ และอาจลามไปกินถึงเหง้า อย่างไรก็ตาม อโลคาเซียเกือบทุกชนิดมีสารแคลเซียมออกซาเลตที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อบริเวณที่สัมผัส เช่น ทำให้ผิวหนังเป็นผื่นแดงและคัน ดังนั้นจึงควรปลูกให้ห่างบริเวณที่มีเด็ก สัตว์เลี้ยง หรือคนเดินผ่านไปมา เรื่อง: อังกาบดอย ภาพ: Botanic at Home ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับไม้ใบหลากหลายชนิดได้เพิ่มเติมใน หนังสือ ไม้ใบ : Foliage Plants โดยสำนักพิมพ์บ้านและสวน

The Creeper House คาเฟ่ของคนรักต้นไม้

จากจุดเริ่มต้นที่หันมาสนใจปลูกต้นไม้เมื่อประมาณ 4 ปีก่อนเพราะเริ่มทำร้าน The Creeper House ใน อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง คาเฟ่บรรยากาศดีท่ามกลางสวนผลไม้ของ คุณแบงค์-ประดิทรรศณ์ เนียมผาสุข กับเพื่อนสนิทอีก 2 คน  คุณสิต-พัชรากร จุลม่อม และ คุณเอ-ณัฏถพงศ์ เจริญศักดิ์ ทำให้คุณแบงค์เริ่มลงมือปลูกต้นไม้และจัดสวนด้วยตัวเอง เพราะในระยะแรกที่ทำร้านต้องการประหยัดงบให้มากที่สุด จากสวนผลไม้ดั้งเดิมจึงค่อย ๆกลายมุมที่นั่งเก๋ๆ แทรกตัวอยู่ในสวน ส่วนที่อยู่ใกล้ร้านเน้นกลิ่นอายแบบอิงลิชคอทเทจ ขณะที่บางส่วนก็ยังคงบรรยากาศร่มรื่นของสวนผลไม้เดิมได้อย่างลงตัว เจ้าของ-จัดสวน :  คุณประดิทรรศณ์ เนียมผาสุข ที่อยู่ 34/8 ม.8 ถนนสาย 11 ซอย1 ตำบล มาบข่า อ.พัฒนานิคม จ.ระยอง โทรศัพท์ 096 945 4941 เนื่องจากคาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่ในสวนผลไม้ จึงมีไม้ยืนต้นมากมายทั้งไม้ผลและต้นไม้ทั่ว ๆ ไป โดยสร้างอาคารให้แทรกไปกับต้นไม้เหล่านี้อย่างกลมกลืนและค่อย ๆ จัดสวนไปทีละมุม เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้งบประมาณจัดสวนในครั้งเดียว จากส่วนจอดรถเมื่อเดินเข้ามาด้านในจะสัมผัสได้กับบรรยากาศร่มรื่นของสวนผลไม้เพราะจงใจทำทางเดินให้คล้ายกับอุโมงค์ต้นไม้ก่อนจะมาถึงส่วนคาเฟ่ที่เปิดเป็นลานโล่งก่อนเข้าสู่อาคาร “คาเฟ่ของเราเริ่มจากร้านเล็ก […]

แนบอุรา ต้นไม้เลื้อยแห่งหัวใจที่คล้ายกัน จาก 2 สกุล Scindapsus และ Rhaphidophora

เมื่อพูดถึงไม้ใบที่เรียกกันว่า “แนบอุรา” หรือ “หัวใจแนบ”ภาพในความคิดของหลายคนคงหนีไม่พ้นไม้ใบรูปหัวใจที่มักจำหน่ายเป็นไม้กระถางต้นเจริญเกาะเลื้อยแนบชิดกับแผ่นไม้เรียบหลากหลายขนาดแผ่นใบมีลวดลายหลากหลายแต่ก็ล้วนสะดุดตาแค่เพียงนำไปวางตกแต่งในบ้านหรือประดับสวนก็ช่วยเพิ่มเสน่ห์ชวนมองได้ไม่แพ้ไม้ใบชนิดอื่นลงสวนฉบับนี้จึงพาไปรู้จักไม้ใบลายสวยสุดเก๋เหล่านี้กัน แนบอุรา หัวใจแนบ Scindapsus pictus Hassk. ‘Argyraeus’ ไม้เลื้อยขนาดเล็ก เลื้อยได้ไกล 1-3 เมตร มีรากออกจากลำต้นเพื่อพยุงต้นให้เติบโต ใบรูปหัวใจออกเรียงสลับซ้ายขวาในระนาบเดียวกัน ลักษณะเด่นของชนิดนี้คือ แผ่นใบหนาสีเขียวอมเทาเป็นกำมะหยี่ มีแต้มด่างสีบรอนซ์เงินหลากหลายรูปแบบ อาจเป็นแต้มเล็ก ๆ หรือเป็นปื้นทั่วใบ จึงมีชื่อสามัญว่า Satin Pothos, Silk Pothos, Silver Hilodendron เป็นไม้ประดับที่นิยมปลูกเลี้ยงในเมืองไทยมานานแล้ว นอกจากแนบอุราสกุลซินแด็ปซัส (Scindapsus) ยังมีไม้ใบในสกุลราฟิโดฟอรา (Rhaphidophora) บางชนิดที่เรียกแนบอุราเช่นกัน ลักษณะเป็นไม้เลื้อย มีรากออกตามข้อ เมื่อยังเล็กใบรูปหัวใจหรือใบรี แต่เมื่อโตขึ้นจะเปลี่ยนเป็นอีกรูปทรงหนึ่งซึ่งแตกต่างจากเดิมอย่างเห็นได้ชัดเจน นิยมนำมาเลี้ยงให้เลื้อยขึ้นบนแผ่นไม้ ผนัง หรือใส่ในตู้เทอร์ราเรียม ตัวอย่างเช่น     แนบอุราชอบวัสดุปลูกโปร่งระบายน้ำได้ดีต้องการน้ำปานกลางความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศสูงแสงรำไรสามารถทนร่มได้ดีจึงปลูกเลี้ยงในบ้านได้แทบทุกชนิดเติบโตค่อนข้างช้านิยมปลูกเป็นไม้กระถางแขวนหรือเกาะกับหลักนำมาเลี้ยงให้เลื้อยขึ้นบนแผ่นไม้ผนังหรือลำต้นไม้ใหญ่ที่ชุ่มชื้นและเย็นหากได้รับแสงและความชื้นไม่เพียงพอรากและลำต้นจะไม่เกาะแนบกับพื้นผิววัสดุขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง เรื่อง: อังกาบดอย ภาพ: อภิรักษ์ สุขสัย, ธนกิตติ์ คำอ่อน ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับไม้ใบหลากหลายชนิดได้เพิ่มเติมใน หนังสือ […]

หารายได้จากไม้ใบ แบบนักสะสมและจําหน่ายไม้ใบรุ่นใหม่ Art Leaf Garden

คุณตั้ว – ยุทธวีร์ รอดแสงสินธุ์ และคุณโบว์-อิศราภา ซื่อตรง สองนักสะสมไม้ใบและไม้ด่างที่ปัจจุบันหันมาเป็นผู้จําหน่ายด้วยในฐานะเจ้าของเพจ Art Leaf Garden ซึ่งนักสะสมต้นไม้หน้าใหม่ให้ความไว้วางใจและมักมาขอคําแนะนําอยู่เสมอ ถือเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ก้าวจากนักสะสมต้นไม้และเปลี่ยนให้กลายเป็นช่องทางหารายได้ในที่สุด เปลี่ยนความรักเป็นอาชีพ “เราปลูกเพราะชอบ พอโตก็ขยายพันธุ์ พอขยายพันธุ์แล้วเหลือ เรามีซ้าํ จึงนํา ไปขาย” นั่นคือกฎในการทําธุรกิจจําหน่ายไม้ใบของทั้งคู่ ต้นไม้ทุกต้นที่มีในบ้านจะมีแค่อย่างละต้นด้วยบริเวณบ้านมีที่จํากัด แต่ทั้งคู่อยากมีต้นไม้หลายชนิดเพราะแต่ละชนิดก็มีเสน่ห์แตกต่างกันไป นั่นจึงนําไปสู่การเข้าวงการไม้ด่าง ซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นกระแสหลักของวงการต้นไม้ไปแล้ว “หากเราเลี้ยงดูต้นไม้เป็น ดูแลเป็น มันคือเงินที่งอกขึ้นมา ตอนนี้เราสามารถแจกและขายได้ เพราะต้นไม้ได้คืนทุนและกํา ไรให้เรามาหมดแล้วค่ะ” ต้นไม้ที่จําหน่ายจากสวนแห่งนี้จะใช้วิธีขยายพันธุ์โดยการปักชํายอด ซึ่งกิ่งยอดที่ตัดจะล่อรากไว้ก่อน โดยไม่เสี่ยงตัดยอดหรือกิ่งพันธุ์หากยังไม่มีรากออก เพื่อให้แน่ใจว่าต้นไม้ที่ขยายพันธุ์จะมีรากออกและแข็งแรงพร้อมเจริญเติบโตเป็นต้นใหม่ “เราไม่รีบ ดังนั้นเราจะรอให้รากแข็งแรงก่อนจึงตัด บางต้นตัดยากเพราะข้อชิดกัน เราก็ต้องสังเกตรากให้ดี พอตัดไปก็ทาปูนแดงเพื่อรักษาแผล ต้นไม้จะแทงยอดใหม่ จะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับต้นนั้นๆ ต้นที่ปลูกใหม่ส่วนมากจะใช้เครื่องปลูกอย่างสแฟกนัมมอสส์ ซึ่งเหมาะกับการขยายพันธุ์มาก แต่ถ้าช่วงนี้ขาดตลาดก็ใช้กาบมะพร้าวสับได้ บางต้นเราขายไปก็ต้องแบกรับความเสี่ยง เพราะคนซื้ออาจได้ยอดไปซึ่งสามารถโตต่อได้เลย ขณะที่เราต้องมารอลุ้นว่าตอเก่าจะแทงยอดใหม่เมื่อไร แล้วยอดใหม่จะด่างไหม เพราะมีโอกาสสูงที่จะกลับมาเขียวเหมือนต้นไม้ทั่วไปที่ไม่ด่าง สํา หรับต้นที่เราซื้อมาแพงเราจะไม่ขายก็ไม่ได้ เพราะไม่อย่างนั้นทุนจะจม” คุณโบว์เล่า กระแสไม้ใบในปัจจุบัน “เราถือว่าเป็นนักสะสมต้นไม้หน้าใหม่ […]

รีวิวไม้ใบยอดฮิตทั้ง 14 สกุล ในวงศ์อราซีอี(Araceae) จากประสบการณ์จริง

หากคุณพึ่งเข้าสู่วงการต้นไม้ใบหรือต้องการปลูกต้นไม้ในบ้าน คุณต้องเริ่มต้นกับต้นไม้พวก     อโกลนีมา บอนสี หน้าวัวใบ มอนสเตอรา หรือฟิโลเดนดรอน เหล่านี้คือต้นไม้พี่น้องกันในวงศ์อราซีอี(Araceae) ที่มีหลากหลายรูปทรงและสีสันของใบ ที่สำคัญปลูกไม่ยากและหลายชนิดเหมาะกับปลูกในบ้านได้สบายๆ แต่ต้นไม้แต่ละสกุลก็จะมีนิสัยเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป นำไปสู่การดูแลที่ต่างกันด้วยไปเล็กน้อย ผมไปร์ท-ปัญชัช ชั่งจันทร์ บรรณาธิการแผนกสวนจึงขอมารีวิวความต่าง นิสัย รวมไปถึงเคล็ดลับการดูแลจากประสบการณ์การปลูกจริงๆ ที่ผ่านมาครับ รู้จักกับวงศ์อราซีอี(Araceae) กันสักนิด วงศ์อราซีอี(Araceae) มีชื่อเรียกง่ายๆกันว่าวงศ์บอน ดังนั้นจึงจัดเป็นต้นไม้ล้มลุกอายุหลายปี ใบเลี้ยงเดียว มีลำต้นอยู่ใต้ดินในแบบเหง้าหรือหัวที่ช่วยสะสมอาหาร ส่วนที่อยู่บนดินจะมีลักษณะต่างกันตามสกุลต่างๆ เป็นต้นไม้อวบน้ำ ส่วนใหญ่จึงชอบความชุ่มชื้น ที่แฉะ และส่วนใหญ่สามารถเติบโตในน้ำได้ ช่อดอกออกตามซอกใบใกล้กับปลายยอด มีปลีดอกและกาบรองดอกเด่นชัด ส่วนใหญ่ไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่เพราะไม่ค่อยมีสีสันสวยงามเท่าไหร่ ยกเว้นดอกหน้าวัวในสกุลแอนทูเรียม ส่วนใหญ่ ผลมีเนื้อนุ่ม เมื่อสุกจะมีสีส้มหรือแดง ภายในมีเมล็ดแข็งที่สามารถเพาะได้ ทุกส่วนมียางใยที่มีพิษจากผลึกแคลเซียมออกซาเลต ส่วนผลให้ผิวหนังของทั้งคนและสัตว์เกิดอาการคันหรือบวมได้ สกุลอโลคาเซีย (Alocasia) ระดับความยาก : ยาก ที่ปลูก : หากปลูกในสวนควรเป็นบริเวณริมน้ำที่มีความชื้นสูง หากปลูกในบ้านควรอยู่บริเวณที่ได้รับแสงแดดช่วงเช้าอย่างริมหน้าต่างหรือระเบียง ต้นไม้ชนิดอื่น : แก้วหน้าม้า นางกวัก ม้าลาย […]

เปลี่ยนพื้นที่ข้างบ้านเป็นสวนจัดเองของคนรักไม้ใบ และ ไม้ด่าง

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้มีเหตุผลเสมอ แน่นอนว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงในหลายด้าน แต่ก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนเส้นทางการดําเนินชีวิตของใครหลายคน หนึ่งในนั้นคือ คุณตั้ว – ยุทธวีร์ รอดแสงสินธ์ุและคุณโบว์-อิศราภา ซื่อตรง สองสามีภรรยาที่เคยเป็นมนุษย์เงินเดือน แต่ปัจจุบันผันตัวเองมาเป็นคนขยายพันธุ์ไม้ใบและไม้ด่างเพื่อการจําหน่าย รวมถึงจัดสวนแห่งนี้ขึ้น เจ้าของ- จัดสวน : คุณยุทธวีร์ รอดแสงสินธุ์ และคุณอิศราภา ซื่อตรง ทั้งคู่ตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านจัดสรรย่านชานเมืองเมื่อประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา ในช่วงที่ทุกคนต้องล็อกดาวน์อยู่กับบ้าน สองสามีภรรยาได้ เปลี่ยนพื้นที่รอบบ้านให้ด้านหนึ่งเป็นโรงเรือนเก็บสะสมไม้ใบ งานอดิเรกใหม่ที่เริ่มขึ้นด้วยใจรักและต่อยอดเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ ส่วนอีกฝั่งของบ้านจัดเป็นสวนขนาดเล็กที่นํา ไม้ใบและไม้สะสมที่ไม่ต้องดูแลมากมาปลูกรวมไว้ หรือบางชนิดก็เป็นต้นไม้ราคาสูง “เสน่ห์ของไม้ด่างคือเราจะสนุกตอนลุ้นต้นที่กําลังจะแตกใบใหม่ว่าจะได้ใบด่างไหม และได้ใบด่างที่มีสีสันหรือลวดลายแบบไหน ไม้ใบบางต้น มีการกลายร่างเป็นร่างหนึ่ง ร่างสอง ร่างสาม เราก็อยากชมวิวัฒนาการของต้นไปเรื่อย เหมือนได้เรียนรู้และเติบโตไปกับต้นไม้ ซึ่งถ้าเราไม่ได้ ปลูกมานานพอหรือรู้จักกับร้านที่ปลูกมานาน บางต้นจะไม่รู้เลยว่าตอนโตหน้าตาจะเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นทุกวันที่เราลงมาที่สวนมันคือการ ค้นพบใหม่ๆ ที่คาดเดาไม่ได้เสมอ” คุณโบว์เล่า จากสนามหญ้าเดิมที่โครงการหมู่บ้านให้มาทั้งคู่ค่อยๆ นํา ไม้ใบซึ่งเป็นไม้ยืนต้นมาลงปลูกก่อนอย่างไทรใบสัก ยางอินเดีย และกะตังใบ จากนั้นก็ใช้เวลาหนึ่งปีเพื่อสังเกตทิศทางแดดให้แน่ใจ โดยระหว่างนั้นก็ปลูกผักสวนครัวไปพลางในช่วงที่ต้องล็อกดาวน์รอบแรก ก่อนตัดสินใจ ทํา โรงเรือนสํา หรับปลูกไม้ใบและไม้สะสมทางด้านทิศตะวันตกของบ้าน ส่วนอีกฝั่งที่ได้รับแสงแดดในช่วงเช้าและสายก็จัดเป็นสวนสวยงามที่เน้นความรู้สึกโปร่งสบาย […]

รวมซิงโกเนียมยอดฮิตน่าสะสม ที่สุดของไม้ใบสำหรับคนรักสีสัน

ยังคงอยู่กับไม้ใบในสกุลซิงโกเนียม (Syngonium) หรือ “เงินไหลมา ทองไหลมา” ไม้เลื้อยปลูกเลี้ยงง่าย ใบมีสีหลากหลาย ปลูกเป็นไม้กระถางหรือปล่อยให้เลื้อยขึ้น ต้นไม้ก็ ได้จึงไดร้ับความนิยมปลูกเลี้ยงและสะสมกันในบ้านเราอย่างมากในขณะนี้ โดยเฉพาะซิงโกเนียม โพโดฟิลลัม (Syngonium podophyllum) นานาพันธุ์ ลูกซึ่งมีสีใบหลายเฉด ดังตัวอย่างที่นํามาให้ชมนี้ด้วยความสวยน่ารักอย่างไม่มีข้อกังขาจึงไม่น่าแปลกใจท่ีใคร ๆ ต่างก็ตกหลุมรักซิงโกเนียม แล้วเสาะหามาปลูกประดับสวนกัน ซิงโกเนียมแทบทุกชนิดชอบวัสดุปลูกโปร่ง ชื้น ระบายน้ำได้ดีและมีธาตุอาหารเพียงพอ หากปลูกเป็นไม้กระถางควรหมั่นเปลี่ยนดินและเปลี่ยนกระถางให้ใหญ่ขึ้นตามความเหมาะสมของขนาดต้นอย่างน้อยปีละหน่ึงครั้ง เพื่อให้ต้นไม้ของเราได้รับธาตุอาหารเพียงพอ และเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ติดตามข้อมูลพรรณไม้ที่ปลูกเลี้ยงในประเทศไทย ซึ่งรวบรวมไว้มากกว่า 1,500 ชนิดได้ที่ www.baanlaesuan.com/plants เรื่อง: อังกาบดอย ภาพ: Botanic at Home

เยี่ยมแหล่งสะสมไม้ใบของคุณเสวกและคุณศิริวิทย์ ริ้วบํารุง และเคล็ดลับการดูแล

แฟนประจํา “บ้านและสวน” หลายท่านคงคุ้นเคยกับชื่อของ คุณวิทย์ – ศิริวิทย์ ริ้วบํารุง นักจัดสวนมากฝีมือผู้มีผลงานลงในนิตยสารหลายฉบับ รวมถึงเป็นเจ้าของร้าน Little Tree และ Whispering Cafe กันดี การเติบโตมาพร้อมกับสวนกล้วยไม้ของคุณพ่อ รวมถึงการส่งประกวดต้นไม้ตั้งแต่เด็ก เป็นจุดเริ่มต้นที่ทําให้คุณวิทย์ชื่นชอบและหลงใหลต้นไม้ สะสมไม้ใบดูร่มรื่น เต็มไปด้วยไม้ใบและเฟินหลากหลายชนิด “ผมโตและผูกพันกับต้นไม้มาตั้งแต่เด็ก ในสวนกล้วยไม้ของคุณพ่อ (คุณเสวก ริ้วบํารุง)มีโอกาสได้เห็นต้นไม้แปลกๆ จากการประกวดต้นไม้เลยทําให้รู้สึกชอบ ต้นไหนที่เราไม่มีก็รู้สึกอยากมีบ้าง ผมชอบทั้งไม้ดอกและไม้ใบ แต่ที่บ้านส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ร่ม มีข้อจํากัดเรื่องแสง ไม้ใบจึงเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ของที่นี่มากกว่า “ต้นที่ผมสะสมมีเฟิน ฟิโลเดนดรอน อโลคาเซีย และหน้าวัวใบ ที่นี่มีไม้ลูกผสมหลากหลาย ทําให้เราได้ต้นแปลกใหม่ไม่เหมือนที่อื่น หลายครั้งเราได้ต้นแปลกๆ จากการขยายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นการผสมเกสร เพาะเมล็ดพันธุ์ หรือเกิดจากสปอร์โดยไม่ได้ตั้งใจ นี่แหละคือสีสันของการเล่นต้นไม้ แต่หลังๆ มานี้ผมหันมาสะสมเฟินเป็นพิเศษ เนื่องจากวันหนึ่งมีเซียนต้นไม้ท่านหนึ่งเข้ามาถามผมว่านี่เป็นเฟินอะไร ทําไมเขาไม่มี ก็กลายเป็นจุดสนใจให้มีบรรดาเซียนต้นไม้แวะมาที่นี่บ่อยๆ “ถึงตอนนี้ก็ประมาณ 20 ปีแล้วที่ผมสะสมเฟินและไม้ใบ ความรู้ส่วนใหญ่ได้จากการลองผิดลองถูก คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าเฟินต้องเลี้ยงในที่ที่มีอากาศชื้นอย่างภาคเหนือ แต่ความจริงแล้วในกรุงเทพฯ ก็สามารถเลี้ยงได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยเรื่องแสงและการให้น้ําที่เหมาะสม […]

สวนสไตล์ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ช่วยเชื่อมพื้นที่และความสัมพันธ์ระหว่างบ้านสองหลัง

ว่ากันว่าธรรมชาติช่วยเยียวยาเราได้เสมอ ตั้งแต่ให้อากาศบริสุทธิ์ในการหายใจ สร้างความสดชื่นทุกครั้งที่ได้มองเห็น และในบางครั้งก็ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีภายในครอบครัวอีกด้วย เหมือนเช่นสวนสไตล์ผสมผสานกันในบ้านจัดสรรสองหลังนี้ เจ้าของ: นายแพทย์เชาวณิชย์ โพธาธนายง และแพทย์หญิงพิณประภัสร์ พาปาน ออกแบบ : บริษัทสวนลีลา จำกัด โทรศัพท์ 08-7051-8000 คุณหมอเชาว์- นายแพทย์เชาวณิชย์ โพธาธนายง และคุณหมอแนน-แพทย์หญิงพิณประภัสร์ พาปาน สองสามีภรรยาตัดสินใจเลือกบ้านแปลงริมสุดสองหลังที่หันหลังชนกัน ซึ่งตำแหน่งของบ้านถูกจัดวางไว้อย่างเป็นสัดส่วน โดยไม่สร้างกำแพงกั้นระหว่างบ้าน เพื่อให้ทั้งสองหลังหันหน้าเข้าหากันโดยมีสวนเป็นตัวเชื่อม “ผมเชื่อว่าบ้านจะสวยได้ก็ต้องมีสวนที่สวยด้วย ถึงจะเป็นบ้านที่สมบูรณ์ เราจึงมองหานักจัดสวนเก่งๆว่ามีใครบ้าง ก็ได้ข้อมูลจากหนังสือและคลิปวิดีโอของบ้านและสวน จนได้ติดต่อกับ คุณศักดิ์และคุณเอ๋ – ลีลาวดี เรืองพร้อม แห่ง สวนลีลา ก็ดีใจที่ได้ทั้งสองมาจัดสวนให้ ผมและครอบครัวมีบ้านเกิดที่จังหวัดราชบุรี บวกกับเป็นคนชอบต้นไม้อยู่แล้ว ก็เลยอยากให้สวนของเรามีบรรยากาศชุ่มฉ่ำอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็อยากให้มีกลิ่นอายของสวนยุโรปปะปนอยู่ด้วย” คุณหมอเชาว์เล่า เริ่มจากบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน ซึ่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดในบ้าน คุณศักดิ์ตั้งใจออกแบบให้กลายเป็นมุมเด่น โดยด้านหนึ่งจัดเป็นสวนน้ำพุที่ลดทอนแบบมาจากประติมากรรมในสวนสไตล์อิตาลี สำหรับให้เจ้าของบ้านมานั่งเล่นชมสวนเพลินๆตา พร้อมฟังเสียงน้ำตกกระทบบ่อเป็นจังหวะตลอดทั้งวัน ด้านข้างมีซุ้มศาลาสีขาวขนาดใหญ่สำหรับนั่งเล่นกลางแจ้งได้หลายคน นอกจากนี้ยังมีบริเวณที่กั้นรั้วเป็นสัดส่วนอยู่ไม่ไกลจัดเป็นที่อยู่ของสัตว์เลี้ยงอย่างหนูตะเภาและไก่แจ้อีกด้วย ทุกคนในบ้านจึงสามารถออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ชื่นชอบร่วมกันได้อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา “ผมออกแบบซุ้มศาลาหลังนี้โดยไร้หลังคา เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้รู้สึกถึงการอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ ซึ่งไม่นานก็จะแผ่กิ่งก้าน ผมไม่ปลูกไม้เลื้อยเพราะจะดูรกเกินไป แต่ก็เลือกปลูกฟิโลเดนดรอนให้เกาะกำแพงเป็นฉากหลังแบบสวนแนวตั้ง กรอบซุ้มที่ประดับเป็นฉากหลังเป็นรูปวงกลม อาจไม่ได้ดูแปลกตานักสำหรับสวนแบบยุโรปและเอเชีย แต่เราก็ทำให้เกิดงานออกแบบที่แปลกใหม่ได้ เมื่อนำไปใช้ร่วมกับฉากหลังที่เป็นอิฐทาสีขาว […]

มอนสเตอร่า ที่สุดแห่งไม้ใบที่ปลูกง่ายและเลี้ยงได้ในบ้าน

มอนสเตอร่า ต้นไม้ใบที่ไม่เคยได้พักและกระแสไม่เคยตกไปจากแนวหน้าของต้นไม้มาแรงตลอดระยะเวลา 3-4 ปีให้หลังมานี้

รวมฟิโลเดนดรอนยอดฮิต ที่สุดของไม้ใบที่ใครๆก็รัก และมีติดบ้าน

ฟิโลเดนดรอน ด้วยรูปทรงใบที่สวยงามโดดเด่น ดูแลง่าย อดทน และโตเร็ว เหมาะกับการปลูกไว้ในบ้าน ใครที่อยากเป็นเจ้าของลองดูกันว่ามีตัวไหนน่าสนใจ

รวมเงินไหลมาและซิงโกเนียมชนิดต่างๆ เหล่าไม้ใบที่ปลูกง่ายที่สุด

สำหรับมือใหม่หัดปลูกต้นไม้ใบ คงไม่พลาดที่จะต้องหา ซิงโกเนียม (Syngonium) หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ เงินไหลมา ทองไหลมา หรือออมเพชร ซึ่งนับได้ว่าเป็นหนึ่งในชนิดของไม้ใบที่ปลูกง่ายที่สุด และเหมาะกับปลูกในห้องต่างๆภายในบ้าน อีกทั้งยังสามารถนำไปขยายพันธุ์ต่อได้ไม่ยาก ปัจจุบันเองก็มี ซิงโกเนียม ที่กำลังเป็นที่นิยมอีกมากมายที่น่ารู้จัก และลองมาเจาะลึกวิธีปลูกซิงโกเนียมชนิดต่างๆ ดังนี้ ซิงโกเนียม (Syngonium) เป็นชื่อสกุลหนึ่งในวงศ์ Araceae หรือบอน ได้ชื่อมาจากภาษากรีกที่หมายถึงลักษณะของรังไข่ในดอกที่เชื่อมติดกัน มีอยู่มากกว่า 35 ชนิด จัดเป็นไม้เลื้อย อายุหลายปี ต้นอวบน้ำ เลื้อยพันด้วยรากพิเศษที่ออกตามข้อใบ ลำต้นสีเขียวอมเทา ขนาดที่ยังเป็นต้นเล็กจะมีใบลักษณะรูปหัวใจ และเมื่อโตขึ้นมาขนาด รูปร่าง และลวดลายของใบจะเปลี่ยนไป มีทั้งที่เป็นใบเดี่ยวรูปหัวลูกศรและใบรูปมือ ก้านใบยาว ช่อดอกมีกาบหุ้มปลีดอกสีขาวครีมคล้ายดอกหน้าวัวออกตามซอกใบ มักจะมีดอกเมื่อต้นไต่ขึ้นต้นไม้ใหญ่หรือผนังและเติบโตได้เต็มที่ มักไม่ติดผล ซิงโกเนียมมีถิ่นกำเนิดบริเวณทวีปอเมริกาใต้จากเม็กซิโกถึงบราซิลและโบลิเวีย ส่วนใหญ่มักมีชื่อในภาษาไทยที่เป็นมงคล เชื่อว่าเมื่อปลูกแล้วจะนำพาโชคและทรัพย์สินมาให้กับผู้เป็นเจ้าของเหมือนลักษณะการเลื้อยทอดยาวของลำต้นและแตกออกเป็นต้นใหม่ จึงนิยมนำมาปลูกใส่กระถางหรือแช่น้ำในแจกันในบริเวณต่างๆของร้านค้าและบ้านเรือน อีกทั้งยังพบว่ามีประสิทธิภาพสูงในการช่วยลดมลพิษในอากาศ วิธีปลูกซิงโกเนียม ซิงโกเนียมปลูกง่ายมาก จะเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วน ระบายน้ำได้ดี เช่นดินผสมใบก้ามปูหรือกาบมะพร้าว ชอบแสงแดดรำไร หากได้รับแดดจัดเกินไปใบจะไหม้ได้ง่าย ยกเว้นเมื่อต้นโตเต็มที่แล้วจนมีขนาดใหญ่แข็งแรง แผ่นใบจะหนาขึ้นจนทนสภาพแสงแดดจัดได้ นอกจากนั้นยังสามารถปลูกในน้ำได้อีกด้วย นิยมขยายพันธุ์โดยการปักชำ […]

ปลูกบอนที่ไม่ใช่บอนสี อโลคาเซีย(Alocasia)และโคโลคาเซีย(Colocasia) ที่น่าสะสม

เพราะกระแสต้นไม้ใบยังคงฮอตฮิตและไม่จางหายไปจากความสนใจของใครหลายๆคนง่ายๆ บางชนิดราคาถูกลง เปิดโอกาสให้เหล่านักสะสมหน้าใหม่สามารถเริ่มหามาปลูกได้สบายกระเป๋า และหลายชนิดกำลังกลับมาเป็นที่นิยมและสนใจของเหล่านักสะสมไม้ใบในขณะนี้ รวมอโลคาเซีย (Alocasia) หรือที่คนไทยส่วนใหญ่คุ้นเคยในชื่อบอนกระดาด แก้วหน้าม้า หรือ นางกวัก และโคโลคาเซีย (Colocasia) ได้แก่ เผือก หรือบอนแกง ซึ่งสำหรับใครที่พึ่งเคยได้ยินหรือไม่รู้จัก ลองมารู้จักต้นไม้กลุ่มบอนเหล่านี้ที่น่าสนใจกัน รู้จักอโลคาเซีย และ โคโลคาเซีย อโลคาเซียและโคโลคาเซียเป็นสกุลหนึ่งในวงศ์ ARACEAE จึงมีลักษณะที่คล้ายกับญาติในวงศ์ตัวอื่นๆอย่างบอนสี อโกลนีมา ฟิโลเดนดรอน หน้าวัวใบ ฯลฯ โดยเฉพาะรูปทรงของดอกและรูปร่างของใบ อโลคาเซียที่เรามักนำใช้ประโยชน์และพบเห็นได้ทั่วไป คือบอนกระดาดที่เรานิยมนำมาปลูกประดับในสวนสไตล์ทรอปิคัล นอกจากนั้นยังมีไม้กอขนาดย่อมๆที่เรานิยมนำมาปลูกในกระถางตั้งไว้เพื่อความเป็นสิริมงคลอย่างนางกวัก แก้วหน้าม้า หรือแก้วสารพัดนึก ส่วนโคโลคาเซียจะนิยมปลูกไว้บริโภค มีว่านมเหศวรและว่านลิงค์ดำที่เป็นต้นไม้มงคลเช่นกัน อโลคาเซียและโคโลคาเซียเป็นต้นไม้ล้มลุกอายุหลายปี พบได้ในธรรมชาติแถบเอเชียและออสเตรเลีย มักขึ้นในป่าดิบชื้นหรือตามริมแหล่งน้ำ หลายชนิดจะเหลือเพียงเหง้าหรือกอเล็กๆในช่วงฤดูหนาว หลายคนเข้าใจผิดหรือแยกไม่ออกระหว่างต้นไม้ในสกุลอโลคาเซีย กับ โคโลคาเซีย (Colocasia) ได้แก่ เผือก บอนแกง บอนห้วย ฯลฯ ซึ่งกลายเป็นที่มาของชื่อ Alocasia ที่แปลว่า “ไม่ใช่โคโลคาเซีย” จุดสังเกตที่ชัดที่สุดของต้นไม้สองสกุลนี้คือลักษณะของหัว อโลคาเซียจะมีลำต้นอยู่ใต้ดินในลักษณะของเหง้ายาว มีลำต้นเหนือดินที่เกิดจากการซ้อนกันของกาบใบ […]

บุกเนิร์สเซอรี่ไม้ใบหายากที่มาจากทั่วโลก จากนักสะสม สู่นักจัดสวนและจำหน่ายต้นไม้ราคาหลักล้าน

เพราะทุกความงามต่างมีเบื้องหลังและที่มาที่ไป เช่นเดียวกับสวนสวยหลายแห่งซึ่งเป็นผลงานของ Bensley Design Studios ที่เราเคยได้ชม ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมระดับโลกอย่าง Four Seasons Tented Camp , Four Seasons Koh Samui , Kempinski Udaipur , The Siam หรือ Indigo Pearl นอกเหนือจากการออกแบบอย่างพิถีพิถันของคุณบิล เบนสเลย์ และคุณหนึ่ง–จิระชัย เร่งทองกับทีมงานแล้ว พระเอกที่ช่วยให้สวนของ Bensley Design Studios ยังคงเอกลักษณ์และความงามแบบนี้ได้ก็คือไม้ใบสีสันฉูดฉาดสไตล์สวนป่าเขตร้อนชื้น ซึ่งส่วนใหญ่นํามาจากเนิร์สเซอรี่ไม้ใบ “สวนโบทานิก้า” ของคุณหนึ่งที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ เนิร์สเซอรี่แห่งนี้คือสถานที่เก็บรวบรวมพรรณไม้หลายร้อยสายพันธุ์สําหรับใช้ในการจัดสวนของ Bensley Design Studios ซึ่งบางส่วนก็นําไปจําหน่ายให้ผู้รักต้นไม้และบุคคลทั่วไปที่ตลาดคําเที่ยงในตัวเมืองเชียงใหม่อีกด้วยตลอดระยะเวลาหลายสิบปีนับจากที่คุณหนึ่งได้เริ่มสร้างที่นี่ด้วยจุดประสงค์เพื่อสะสมพรรณไม้ใบและไม้เขตร้อนชื้นจากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะตระกูลสับปะรดสี หมากผู้หมากเมีย ฟิโลเดนดรอน อโกลนีมา หน้าวัว คล้า และอากาเว่ โดยทําโรงเรือนในลักษณะเปิดโล่ง คลุมหลังคาด้วยซาแรนหรือตาข่ายพรางแสงสีดําเพื่อให้พรรณไม้เบื้องล่างได้รับแสงรําไร โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดทั้งวัน “ พอเราซื้อต้นไม้ทั้งหมดมาก็ต้องนํามาทดลองปลูกว่าเหมาะสมที่จะปลูกเลี้ยงที่นี่ได้ไหม จากนั้นจึงนําไปขยายพันธุ์ต่อ […]

PLANT ME ON THE MOON คาเฟ่ที่หวังจะปลูกต้นไม้ให้ถึงดวงจันทร์

คาเฟ่ลาดพร้าว ” PLANT ME ON THE MOON ” ที่โดดเด่นด่วยนั่งร้านเหล็กที่อัดแน่นและล้อมรอบไปด้วยกำแพงไม้ใบ เสมือนเป็นโอเอซิสกลางกรุง

แจกฟรี ปฏิทินปี2564 !!! ปฏิทินไม้ใบสวยๆ รีบมาโหลดไปใช้กัน

ปฏิทิน2564 ที่บ้านและสวนได้เตรียมไว้ให้เป็นของขวัญแก่คุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ซึ่งในปี 2564 นี้เรามาในคอนเซ็ปต์ของไม้ใบ เพราะตลอดทั้งปีที่ผ่านมานี้…

รู้จักการปลูกบอนสี ต้นไม้ที่กำลังมาแรงและสามารถปลูกในบ้านได้

การปลูกไม้ใบในบ้านรวมถึงปลูกในกระถางประดับตามมุมต่างๆของสวนกลายเป็นเรื่องฮิตจนหลายคนหันมาปลูกเลี้ยงไม้ประดับกันมากขึ้น มีการตามหาไม้ใบสวยหลากหลายรูปแบบเพื่อให้ได้มาครอบครอง หนึ่งในนั้นคือ “ บอนสี ” ซึ่งคนไทยรู้จักและปลูกเลี้ยงกันมานาน มีการพัฒนาสายพันธุ์จนเกิดลูกผสมใหม่ๆ และได้รับยกย่องว่าเป็น “ ราชินีแห่งไม้ใบ ” บอนสี ที่นิยมปลูกกันทั่วไปอยู่ในสกุลคาลาเดียม(Caladium) วงศ์Araceae เป็นพืชที่มีหัวสะสมอาหารใต้ดินคล้ายหัวมันฝรั่งทุกส่วนอวบน้ํา ใบมีหลายขนาดและหลายรูปทรง ทั้งรูปหัวใจ รูปหอก รูปกลมหรือรีและรูปแถบ มีสีสันลวดลายสวยงามแตกต่างกันทั้งสีแดง ชมพู เหลือง เขียว ขาว ก้านใบกลมมีทั้งสั้นและยาว ช่อดอกเป็นช่อเชิงลดมีกาบ ปลีดอกมีดอกเพศผู้และดอกเพศเมียที่สมบูรณ์ บานช่วงเย็นและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ โดยธรรมชาติแล้วบอนสีเป็นไม้ใบที่ต้องการความชื้นสูง มีแสงแดดรําไร ไม่ร้อนจัด และมักพักตัวในช่วงฤดูหนาวโดยทิ้งใบเหลือแต่หัวอยู่ใต้ดิน จนเข้าสู่ฤดูฝนจึงผลิใบใหม่เติบโตอีกครั้ง จึงมีการพัฒนาการปลูกเลี้ยงในตู้ หรือกระโจมเพื่อรักษาความชื้นและอุณหภูมิให้คงที่ป้องกันลมโกรก ทําให้ชะลอการพักตัวได้ ต้นก็จะสวยตลอดปี ซึ่งปัจจุบันมีหลายชนิดและพันธุ์ที่นิยมปลูกเลี้ยงกัน สำหรับผู้ที่ต้องการปลูกเลี้ยงบอนสีในบ้าน ควรเลือกสายพันธุ์ที่ทนทาน วางกระถางไว้ในตําแหน่งที่มีแสงค่อนข้างมาก ไม่ควรอยู่ในห้องปรับอากาศที่เย็นเกินไป เพราะต้นจะพักตัวทิ้งใบหมด หมั่นหมุนกระถางอยู่เสมอเพื่อไม่ให้ต้นเอนหาแสง และนําออกไปรับแสงและอากาศนอกบ้านทุกสัปดาห์ต้นก็จะเติบโตได้ปกติ หากบอนสีพักตัวทิ้งใบควรงดให้น้ํา นํากระถางไปวางนอกบ้านที่มีอุณหภูมิสูงกว่าในบ้านและมีแสงส่องมากขึ้น รอจนผลิใบใหม่และแข็งแรงจึงนําไปประดับมุมบ้านอีกครั้ง เรื่อง : อังกาบดอย ภาพ : อภิรักษ์ […]