เครื่องสูบน้ำ ปั๊มน้ำ มีกี่ประเภท

เครื่องสูบน้ำและปั๊มน้ำ สำหรับใช้งานในบ้านพักอาศัยมีหลายประเภท ซึ่งเหมาะกับการใช้งานแตกต่างกัน โดยแบ่งตามการใช้งานได้ดังนี้ 1.ปั๊มน้ำอัตโนมัติ นิยมใช้ในบ้านพักอาศัยมากที่สุด ทำงานตามการเปิดปิดอุปกรณ์ที่ใช้น้ำ จึงมีความสะดวกสบาย มี 3 ประเภทให้เลือกใช้ เครื่องสูบน้ำและปั๊มน้ำ ปั๊มอัตโนมัติชนิดมีถังแรงดัน ปั๊มชนิดนี้ให้แรงดันดีมาก มีราคาถูก อะไหล่หาง่าย ปัญหาที่พบบ่อยคือ ถังแรงดันผุกร่อนในระยะเวลา 10 ปี และ กินไฟมาก ปั๊มอัตโนมัติชนิดแรงดันคงที่ มีข้อดีในการรักษาแรงดันน้ำให้แรงเท่าๆกันทุกก๊อก แม้ว่าจะเปิดใช้งานหลายก๊อกพร้อมกัน เสียงในขณะทำงานจะเบากว่าชนิดแรก แต่แรงดันน้ำจะไม่แรงเท่า ปั๊มอัตโนมัติชนิดแรงดันคงที่อินเวอร์เตอร์ หน้าตาจะดูเหมือนกับปั๊มชนิดที่ 2 แต่ได้เพิ่มเติมระบบอินเวอร์เตอร์ เพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้า ทำให้ขณะใช้งานน้ำน้อยก็จะกินไฟน้อยตามสัดส่วน 2.ปั๊มน้ำกึ่งอัตโนมัติ  คล้ายกับปั๊มน้ำอัตโนมัติ แต่จะต้องเปิดปิดเครื่องเองตามการใช้งาน 3. ปั๊มหอยโข่ง เหมาะสำหรับการดึงน้ำหรือสูบน้ำมาเก็บใส่ถังเก็บน้ำบนอาคาร ถังเก็บน้ำสำหรับการเกษตร มีกำลังส่งสูง จึงสามารถสูบน้ำได้ปริมาณมาก และไปได้ไกล เปิดใช้ต่อเนื่องได้นาน และไม่เป็นระบบอัตโนมัติ เครื่องสูบน้ำและปั๊มน้ำ 4.ปั๊มน้ำแบบจุ่ม มักเรียกกันว่า ปั๊มจุ่ม ปั๊มแช่ หรือ ไดโว่ ใช้สำหรับสูบน้ำระบายทิ้ง ระบายน้ำท่วม เช่น บ่อรับน้ำ […]

ระบบระบายน้ำในสวน แนวทางการรับมือและป้องกันปัญหาน้ำท่วมขัง

โดยปกติบ้านพักอาศัยทั่วไปต้องมีเรื่องระบบการระบายน้ำทิ้งอยู่แล้ว คือ น้ำทิ้งจากครัว น้ำทิ้งจากห้องน้ำ และน้ำทิ้งจากรางน้ำฝน ซึ่งระบบทั้งหมดที่กล่าวมาจะเชื่อมต่อกับบ่อพัก แล้วค่อยระบายสู่ท่อน้ำสาธารณะต่อไป แต่ถ้าเป็นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสวน คงจะเป็นเรื่องการระบายน้ำฝนและการระบายน้ำจากผิวดินในสวนมากกว่า เพราะฉะนั้นการวางระบบระบายน้ำที่ดีภายในสวนจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมขัง ทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตสวยงาม สวนบางแห่งมีสภาพพื้นที่เป็นดินเหนียว ระดับน้ำใต้ดินสูง เพราะ ดินที่นำมาถมบ้านมักมีดินเหนียวปะปนมาด้วย ทำให้เกิดน้ำขังเป็นแอ่ง ดังนั้นการ ระบบระบายน้ำในสวน จะช่วยแก้ปัญหาได้ ซึ่งมีทั้งหมด 3 วิธี 10 พรรณไม้ทนน้ำ ปลูกประดับสวนบนบกได้ แต่ถ้ามีน้ำท่วมก็ไม่ตาย ฟื้นฟูสวนและดูแลต้นไม้หลังน้ำท่วม 1.ระบบระบายน้ำบนผิวดิน ปัจจุบันโครงการที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่มีการถมที่ดินสูงขึ้นจากเดิมมากอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราแค่ปรับระดับความชันของดินให้มีความลาดเอียงของพื้นที่ประมาณ 1–10 เปอร์เซ็นต์ เช่น ระยะห่างแนวราบ 100 หน่วย ควรมีความสูงระหว่างพื้นที่ในจุดที่สูงที่สุดไปถึงจุดที่ต่ำที่สุด 8 หน่วย เรียกว่ามีความชัน 8 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้น้ำไหลไปยังบ่อพักภายในบริเวณบ้าน นอกจากนี้ บริเวณที่เป็นพื้นไม้ระแนง พื้นซีเมนต์ หรือพื้นวัสดุอื่น ๆ เป็นตำแหน่งที่ต้องตรวจดูระดับความลาดชันให้ดี เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง หากจำเป็นอาจต้องติดตั้งช่องระบายน้ำที่พื้นเพิ่มแล้วฝังท่อเชื่อมออกสู่ทางระบายน้ำรวมต่อไป• ถนน 0.5-8 เปอร์เซ็นต์• ลานจอดรถหรือลานกิจกรรม 0.5-5 […]