เสียงไล่งู ภูมิปัญญาไทยแบบดั้งเดิม

รู้หรือไหม เสียงไล่งู มีจริง วิถีชีวิตดั้งเดิมของไทยมีภูมิปัญญาที่ซ่อนไว้ ช่วยให้งูไม่ค่อยกล้าที่จะมารบกวนพื้นที่อยู่อาศัยของมนุษย์

รวม 20 ปัญหาในสวนยอดฮิต ตอบโดยกูรูมืออาชีพ

เพราะทุกปัญหาต้องมีคำตอบ เราจึงรวบรวมปัญหาในสวนยอดฮิตที่หลายคนเอามาถามกับทีมงานบ้านและสวนอยู่บ่อยครั้ง พร้อมคำตอบจาก 2 นักจัดสวนและภูมิสถาปนิกชื่อดัง คุณปณัฐ สุมาลย์โรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอโกล่าร์ จํากัด และคุณดนัยวิทย์ อยู่คง ภูมิสถาปนิก บริษัท โลโก้เท่ากับ จํากัด แต่จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย 1.ถ้ามีต้นไม้ใหญ่แล้วต้องการขุดย้ายไปปลูกที่อื่นต้องทําอย่างไร เราต้องรู้ก่อนว่าชนิดพันธุ์ต้นไม้ที่เราจะขุดไปปลูกนั้นมีระบบรากเป็นอย่างไรและมีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมแค่ไหน โดยไม่ควรเป็นต้นไม้ที่อยู่ในช่วงแตกยอดอ่อน เพราะใบยังต้องการน้ําเลี้ยงขึ้นไปบํารุงมาก สําหรับการขุดสด ส่วนมากจะใช้กับต้นไม้ทนแล้งและมีอัตราการเจริญ-เติบโตเร็วหรือมีเส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่า 4 นิ้ว อย่างพวกแคนา ตีนเป็ดน้ํา ลั่นทม ทองหลางน้ํา เป็นต้น เราแค่ลิดใบ ตัดแต่งกิ่งและทรงพุ่มใบให้บางเพราะเมื่อเราตัดรากต้นไม้ให้เล็กลง จํานวนใบก็ควรน้อยลงตามไปด้วยเพื่อลดการสังเคราะห์แสงของต้นไม้ จากนั้นก็ล้อมโดยเซาะร่องดินห่างจากโคนต้นประมาณ 30-50 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับขนาดของรากแก้ว ยิ่งขนาดตุ้มใหญ่โอกาสรอดก็มาก จากนั้นตัดรากแขนงออก มัดดินที่โคนติดกับรากด้วยเชือกฝางแล้วใช้กระสอบป่านคลุมตุ้มดินอีกทีเพื่อป้องกันตุ้มดินแตก ส่วนการล้อมเตือนหรือล้อมคาหลุมใช้กับต้นไม้ที่มีความเปราะบาง โดยจะขุดดินรอบลําต้นไปจนถึงรากแก้วแล้วตัดรากแขนงออกให้เหลือประมาณรากถึงสองราก หมักตุ้มกับหลุมไว้เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือนครึ่งจนเริ่มมีรากแขนงแตกออกมา จากนั้นจึงตัดรากแก้วและรากที่เหลือออกทั้งหมดแล้วยกขึ้นมามัดโคนตุ้มดินเหมือนกับวิธีการล้อมสด 2.อันตรายไหม เมื่อผ่านไปสักพักต้นไม้ที่ล้อมมาปลูกเริ่มมีอาการใบร่วงเกือบทั้งต้น เป็นการปรับสภาพของต้นไม้ตามปกติอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะล้อมต้นไม้ดังกล่าวเอาไว้เป็นระยะเวลานานจนแตกใบและแตกพุ่มแล้วก็ตาม แต่เมื่อย้ายไปลงดินในที่ใหม่ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงของอาการต้นไม้ตามไปด้วย แค่พรวนดินรอบๆโคนต้นโดยไม่ให้กระทบกระเทือนระบบราก และก่อนปลูกควรรองพื้นหลุมด้วยกาบมะพร้าวสับ  แล้วใส่น้ํายาเร่งรากและปุ๋ยอินทรีย์น้ําในอัตราส่วนเจือจางลงไปด้วยเพื่อเร่งการเจริญเติบโตของราก แต่หากมีอาการใบเหี่ยวแห้งติดกับต้น […]

7 วิธีกำจัดหอยทาก สูตรไม่ใช้สารเคมีเป็นมิตรต่อต้นไม้

อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ในสวนที่มักเจอในช่วงฤดูฝนเช่นนี้ คือ หอยทาก ที่กระจายตัวขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว และชอบกัดกินต้นไม้ในสวนของเราเสมอจึงต้องหา วิธีกำจัดหอยทาก หอยทาก กลายเป็นศัตรูพืชตัวร้ายที่ต้องกำจัดให้สิ้น ธรรมชาติหอยทากจะวางไข่ตามซากใบไม้ ขอนไม้ผุพัง รวมถึงบริเวณใต้ดินร่วนซุยที่มีความชื้นสูง วิธีกำจัดหอยทาก เมื่อถึงฤดูฝนจึงเป็นช่วงเวลาของการเจริญเติบโตที่เหมาะสมของหอยทาก แต่เจ้าของสวนที่รักต้นไม้เป็นชีวิตจิตใจคงไม่ชอบใจนัก เพราะหอยทากกินพืชเป็นอาหารและต้นไม้ในสวนคืออาหารอันโอชะของมันเลยทีเดียว วันนี้เว็บไซต์บ้านและสวนมี วิธีกำจัดหอยทาก ให้หมดไปด้วยวิธีออร์แกนิก ปลอดสารพิษ และปลอดภัยต่อเจ้าของสวนด้วย โดยมีวิธีง่ายๆ ดังนี้ 1 เก็บไปโยนทิ้ง เป็นวิธีเบสิกที่ทำได้ง่ายแต่ต้องอาศัยแรงขยันคือการเก็บหอยทากทิ้งให้ไกลจากสวน โดยเลือกเก็บช่วงเวลากลางคืน ซึ่งเป็นจะเป็นเวลาที่หอยทากจะออกหากินและปรากฏตัวให้เห็นได้ชัด หลังจากเก็บทิ้งแล้วควรจัดเก็บซากใบไม้ให้สิ้นซาก เพื่อป้องกันการวางไข่ซ้ำ ซึ่งหอยทากสามารถวางไข่เป็นกลุ่ม กลุ่มละ 200-300 ฟองเลยทีเดียว 2 ใช้เปลือกไข่ อีกหนึ่งวิธีเบสิกคือการใช้เปลือกไข่ไก่หรือไข่เป็ดที่ใช้ประกอบอาหารมื้อประจำวันนี่แหละ เปลือกไข่อย่าทิ้งให้นำไปตากแห้ง แล้วบดให้เป็นชิ้นละเอียดโรยรอบๆ แปลงปลูกต้นไม้ ผิวของเปลือกไข่จะทำให้หอยทากรู้สึกระคายเคืองเนื่องจากผิวของหอยทากมีความบางมาก พวกมันจึงจะไม่มาเข้าใกล้สวนสวยอีก 3 เกลือ นอกจากผิวหอยทากจะบางแล้ว ยังไม่ชอบความความเค็มอีกด้วย เกลือจึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือกำจัดหอยทากสูตรออร์แกนิกที่ได้ผลเสมอ วิธีการใช้เกลือทำได้ 2 สูตรคือ โรยผงเกลือที่รอบๆ ต้นไม้ (ระวังอย่าให้โดนรากไม่เช่นนั้นต้นไม้อาจจะตายได้) หรือละลายน้ำแล้วฉีดพ่นใส่ตัวหอยทากโดยตรง ความเค็มของเกลือจะทำให้หอยทากแสบผิวจนไม่อยากเข้าใกล้ต้นไม้ 4 […]

รวมปัญหางานฮาร์ดสเคปในสวนช่วงหน้าฝน พร้อมวิธีแก้ไข

หากคุณเคยเจอ ปัญหาแผ่นทางเดินโยกเยก กรวดจมดินแถมมีหญ้าขึ้นแซม คราบสกปรกบนพื้นหินหรือ พื้นไม้สีซีดดูแล้วไม่เจริญตา เรามีวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้มาฝากคุณค่ะ…